เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่รพ.ระยอง นางศุภมาศ บำรุงรัตน์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ แผนกจิตเวช เผยว่า จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในปี 2554 เก็บสถิติการฆ่าตัวตายของคนไทยพบว่ามีอัตราการฆ่าตัวตายทั้งประเทศอยู่ที่ 3,873 คน หรือคิดเป็น 6.03 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งพบว่าเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2553 ที่ 5.90 ต่อประชากรแสนคน จังหวัดที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด 5 จังหวัดแรก คือ ลำพูน ระยอง เชียงใหม่ น่าน
และเชียงราย อยู่ที่ 15.58 , 13.45 ,12.90 ,12.10 ,11.43 ต่อประชากรแสนคนตามลำดับ เมื่อพิจารณาในประเด็นอายุและความต่างทางเพศพบว่าเพศชายยังคงมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าเพศหญิงที่ 2,985 คน ต่อ 888 คน หรือร้อยละ 77 ต่อ 23 โดยเพศชายมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในช่วงอายุ 30 – 34 ปี ส่วนเพศหญิงนั้นมีช่วงอายุในช่วงอายุ 75-79 ปี
นางศุภมาศ กล่าวอีกว่าในส่วนของจ.ระยอง อัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 13.45 ต่อประชากรแสนคน เป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยเพศชายมีอัตราการฆ่าตัวตายมากกว่าเพศหญิง และกลุ่มอายุที่มีการฆ่าตัวตายอยู่ในช่วงอายุ 30-45 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน และสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผิดหวังในความรัก โดยเฉพาะในคู่ที่แต่งงานแล้ว เช่น สามีภรรยาแอบมีกิ๊ก ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทและน้อยใจ รองลงมาคือโรคเรื้อรัง ขณะที่การกินยากำจัดวัชพืช เป็นวิธีการอันดับแรกที่คนเลือกใช้เป็นวิธีปลิดชีวิตตัวเอง รองลงมา คือ กินสารกำจัดแมลง กระสุนปืน และผูกคอตัวเองตาย ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า จากสถิติ 9 เดือนของจ.ระยอง ตั้งแต่เดือน ต.ค.2554 ถึง มิ.ย. 2555 เป็นต้นมาพบว่า อ.เมืองระยอง มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดจำนวน 8 ราย.
http://www.dailynews.co.th/thailand/148428