เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 02:48:50
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ไหว้สาครับ ผมไค่หู้เกี่ยวกับก๋านฮ้องขวัญ เรียกขวัญ ครับ ผู้หู้จ่วย ชี้แนะกำเน้อครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ไหว้สาครับ ผมไค่หู้เกี่ยวกับก๋านฮ้องขวัญ เรียกขวัญ ครับ ผู้หู้จ่วย ชี้แนะกำเน้อครับ  (อ่าน 5642 ครั้ง)
แก้วซอมพอ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,066



« เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2010, 09:58:37 »

ไหว้สาครับ ผมไค่หู้เกี่ยวกับก๋านฮ้องขวัญ เรียกขวัญ ขั้นต๋อนการฮ้อง  เครื่องดา แล้วก่อประเภทของก๋านฮ้องขวัญ ครับ  ผู้หู้จ่วย ชี้แนะกำเน้อครับ  ไหว้สาครับ    ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

...มากคนมากเรื่องรู้.......................ตอแหล
จริงบ่จริงตอแย.............................เร่งเร้า
          มากมายเรื่องวอแว........................จักขุ่น...ใจเฮย
           เพียงคิด หยิกหยอกเย้า ................อย่าได้  หาความ
songpol701
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,048


โทร


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2010, 10:04:32 »

เรื่องของขวัญ

     ขวัญ เป็นความเชื่อของชาวล้านนาว่าสรรพสิ่งทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นคนพืช สัตว์หรือสิ่งของต่างมีขวัญทั้งสิ้น
ขวัญเป็นพลังของชีวิตเปรียบเสมือนเป็นแก่นหรือแกนกลางของชีวิตถ้าหากขวัญหายหรือเสียขวัญไปจะทำให้เสีย
สมดุลต่างๆ ในชีวิตดังนั้นจึงมีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับขวัญหรือทำพิธีเรียกขวัญ ไม่ว่าจะเรียกขวัญของคน ข้าว หรือ
สัตว์เลี้ยงขวัญบ้านขวัญเมืองเชื่อว่าชีวิตจะมีความผาสุกและเจริญรุ่งเรืองเมื่อขวัญได้รับการดูแลใส่ใจ

     ประเพณีเรียกขวัญ หรือฮ้องขวัญ เป็นประเพณีที่ชาวล้านนาถือปฏิบัติสืบต่อกันมาสำหรับเรียกขวัญคนที่หายป่วย
ใหม่ๆ หรือผู้ที่กำลังป่วยไข้ให้มีกำลังใจ เชื่อว่าคนที่ป่วยถูกผีสางนางไม้ทักทาย ทำให้หวาดสะดุ้งขวัญหนีไป บางคน
เมื่อทำพิธีฮ้องขวัญแล้วทำให้หายป่วยเป็นปกติ

     สิ่งของที่ต้องเตรียมในพิธีฮ้องขวัญ ได้แก่หมากธูปเทียนผ้าแดงข้าวสาร 1 ถ้วย เงินเหรียญบาท 1 เหรียญ
จัดใส่พานไว้ อีกพานหนึ่งทำเป็นบายศรีใส่เครื่องบูชาเพื่อให้ขวัญกลับมารับ เช่นขนม เมี่ยงบุหรี่หมากไก่ต้ม ไข่ต้ม 
และนำเสื้อผ้าผู้ป่วยหนึ่งชุดใส่ในพานวางไว้ใกล้ๆ ข้าวเปลือกนำใส่ถ้วยวางไว้สำหรับปู่อาจารย์ใช้เสี่ยงทายว่า
ขวัญของผู้ป่วยกลับมาหรือยัง

    เมื่อเตรียมของทุกอย่างครบแล้วปู่อาจารย์ก็จะเริ่มทำพิธีโดยให้ผู้ป่วยหรือผู้ถูกเรียกขวัญนั่งพนมมืออยู่ด้านหน้า
ผู้เรียกขวัญจะกล่าวคำเรียกขวัญเป็นคาถาด้วยทำนองไพเราะน่าฟังทั้งปลอบทั้งเชิญให้ขวัญกลับมารับเครื่องบูชาที่จัดไว้

     หลังจากเรียกขวัญจบลงครั้งหนึ่งแล้วปู่อาจารย์จะเสี่ยงทายว่าขวัญกลับมาครบหรือยังโดยหยิบข้าวเปลือกมา
หยิบหนึ่งแล้วนับดู ถ้านับได้ 32 เม็ดแสดงว่าขวัญกลับมาครบแล้วปู่อาจารย์ก็จะนำด้ายแล้วกล่าวคาถาผูกข้อมือ
ใช้ผูกข้อมือผู้ป่วย จากนั้นก็ให้พรถือว่าเสร็จพิธีฮ้องขวัญ

     สำหรับผู้ป่วยเชื่อว่าบางครั้งเพราะผู้ป่วยได้รับความตกใจหรือขวัญเสียในสถานที่บางแห่งเพื่อต้องการให้หาย
จากอาการป่วยไข้ จะมีพิธีช้อนขวัญที่ตกหายไปคืนแก่เจ้าของอีกด้วย โดยมีอุปกรณ์ในการช้อนขวัญ ดังนี้

     ด้ายสายสิญจน์ 1 เส้นให้มีความยาวพอประมาณ ข้าวเหนียวปั้นให้พอดีคำ 1 คำกล้วยน้ำว้าสุก 1 ลูก กระทง
ใบตองกล้วย 2 กระทง แซะหรือสวิง 1 อัน

     จากนั้นผู้ทำพิธีช้อนขวัญ อาจเป็นหญิงผู้เฒ่าที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้านนำกล้วยกับข้าวสุกวางไว้ที่จุด
ที่ผู้ป่วยตกใจหรือเสียขวัญใช้ด้ายสายสิญจน์แกว่งไปมาในบริเวณนั้นแล้วเอาแซะหรือสวิงช้อนขวัญที่คิดว่าหล่น
หรือตกหายแล้วพูดว่า
      “ขวัญได้มาตกหกตกหาย ขอฮื้อเมียอยู่กับเจ้าจิ่มเน้อ”(ขวัญที่หล่นอยู่ที่นี่ขอให้กลับบ้านไปอยู่กับเจ้าของด้วย)

     เมื่อเสร็จพิธีก็จะใช้กล้วยมาถูกับตัวผู้ป่วย หรืออาจให้ผู้ป่วยกินกล้วย จากนั้นใช้ด้ายสายสิญจน์ที่ทำพิธีผูกข้อมือผู้ป่วย

     ชาวล้านนามีความเชื่อว่าเด็กทารกที่เกิดมาใหม่ขวัญจะอ่อนบางครั้งในตอนกลางคืนจะร้องไห้ไม่ยอมหยุด เพราะ
มีพ่อเกิดแม่ก๋าย (พ่อแม่ในอดีตชาติ)มาแวะดูลูกหลานที่ท่านส่งมาเกิดว่าเป็นอย่างไรบ้า งมาอยู่กับพ่อแม่ นี้สบายดี
หรือไม่จึงมาหยอกล้อเด็กหรือบางครั้งอาจเป็นผีตายโหงไม่มีที่สิงสถิตมารบกวนเด็กให้ตกใจร้องไห้ไม่ยอมหยุด

     ผู้ใหญ่ในบ้านจะเอาข้าวเหนียวมาปั้นแล้วจิ้มไปที่ตัวเด็กแล้วโยนทิ้งไปทำ 3 ครั้งติดต่อกันพร้อมกับพูดว่า“ผีตายห่า
ตายโหงจะไปมาคุยเด็ก” (คุย ภาษาเหนือหมายถึงรบกวน)

     ผู้ใหญ่จะเอามือป้ายไปที่ส้นเท้าตนเองแล้วเอาไปป้ายที่หน้าผากของเด็กจากนั้นจะผูกข้อมือเด็กด้วยด้ายสายสิญจน์
ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงจะผูก 5 เส้นแต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชายจะผูก 7 เส้นเอาห่อพริกห่อเกลือดอกไม้และธูป 2 ดอกนำมาบนบาน
ศาลกล่าวใกล้ ๆ กับเด็กขอให้เด็กหยุดร้องไห้ ถ้าเด็กหยุดร้องอีก 3 วันตนจะเลี้ยงผี

     จากความเชื่อที่ว่าก่อนเด็กจะเกิดมามีผีหรือผู้เป็นพ่อแม่ในอดีตเป็นผู้ดูแลก่อนผู้หญิงจะเกิดลูกผีจะเป็นผู้ปั้นรูปร่าง
ลักษณะของเด็กแล้วผีจะคอยดักจับวิญญาณใส่รูปที่ปั้นเพื่อให้มีชีวิตแล้วผีจึงส่งเด็กเข้าสู่ครรภ์มารดา ดังนั้นเมื่อเกิดลูก
ออกมาพ่อแม่จึงกลัวว่าผีจะมาเอาลูกคืนไปจึงมีพิธีกรรมที่เรียกว่าทำขวัญ 3 วันขึ้นมา

     ผู้เฒ่าผู้แก่จะจัดทำบายศรีมีเทียนไข 1 เล่ม มีโถใส่กระแจะแป้งเจิมหน้ามีน้ำในขันเป็นน้ำอุ่นกับช้อนเล็กๆ
สำหรับตักน้ำให้เด็กกินเมื่อถึงเวลาผู้ทำพิธีอาจเป็นปู่ย่าตายายหรือญาติผู้ใหญ่จะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
สวดคาถาชุมนุมเทวดาแล้วยกบายศรีตั้งตรงศีรษะที่เด็กนอนซึ่งจะมีผู้อุ้มอยู่นั่งข้างหน้าผู้ทำพิธี

     โดยจะนำเด็กที่ใส่กระด้งแกว่งไปมาพร้อมกับพูดว่า

     “3 วันลูกผี 4 วันลูกคนลูกของใครมาเอาไปเน้อ” แล้วจะมีผู้เฒ่าผู้แก่คนหนึ่งนำเงินโบราณ หรือเบี้ย มาซื้อ
เด็กไปพร้อมกับพูดว่า  “ฉันรับซื้อเป็นลูกฉันเอง” จะเรียกหญิงผู้เฒ่าที่รับซื้อเด็กนี้ว่าแม่ซื้อ

     จากนั้นผู้ทำพิธีจะหยิบด้ายสายสิญจน์ขึ้นมาลูบลงบนแขนขาของเด็กเบาๆ ข้างละเส้นและลูบข้างตัวเด็ก
ข้างละเส้นเรียกว่าฟาดเคราะห์ เพื่อแยกสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ให้ออกจากตัวเด็กจากนั้นนำด้ายทั้ง 4 เส้นไปเผาไฟ
จากเทียนไขที่จุดไว้ แล้วหยิบด้ายเส้นใหม่ขึ้นมาให้พรแก่เด็กแล้วกล่าวว่า

     “ขวัญเอ๋ยขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัว”

     พร้อมขมวดปมไว้ตรงกลางด้าย แล้วนำด้ายนั้นไปผูกข้อมือข้อเท้าทั้งสองข้างของเด็กเจิมแป้งกระแจะ
ที่หน้าผากตักน้ำอุ่นในขันให้เด็กกิน 3 ครั้งเป็นอันเสร็จพิธี

     บางครั้งเวลาเด็กเล็กหกล้ม ผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะปลอบโดยใช้มือลูบหลังแล้วพูดว่า

     “ขวัญเอ๋ย ขวัญมาขวัญอยู่กับเนื้อกับตัว” เด็กๆ จะหยุดร้องไห้ ถือว่าเป็นการเรียกขวัญอย่างหนึ่งเหมือนกัน

     นอกจากการฮ้องขวัญเพื่อเรียกกำลังใจแก่ผู้ป่วยให้หายแล้วการฮ้องขวัญยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพเช่น
การฮ้องขวัญสำหรับบุคคลสำคัญผู้มาเยือนในถิ่นตนเป็นการให้เกียรติ

     ฮ้องขวัญ ผู้อาวุโส เป็นการฉลองครบครบวันเกิดเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลมีอายุยืนนานเพื่อเป็นร่มโพธิ์
ร่มไทรของลูกหลานต่อไป

     ฮ้องขวัญในพิธีสำคัญ เช่น ฮ้องขวัญลูกแก้ว หรือนาคที่จะบวชในพุทธศาสนา เพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ก่อนบวช

     ฮ้องขวัญคู่บ่าวสาวที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เพื่อเป็นการเตือนสติ เสริมกำลังใจในการฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิตคู่

     ฮ้องขวัญในงานศพ เพื่อเรียกขวัญญาติให้อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ให้ไปกับผู้ตาย และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและ
ครอบครัว

     นอกจากนี้ ชาวล้านนายังนึกถึงสัตว์เลี้ยงที่ให้คุณช่วยเหลือการงานด้วยความกตัญญูรู้คุณ รักและผูกพันกับสัตว์และเชื่อว่าถ้าสัตว์ที่เลี้ยงมีขวัญและกำลังใจดีจะช่วยให้กิจการงานดีขึ้นและสัตว์จะมีกำลังกายเต็มใจที่จะช่วยเหลืองาน
และเป็นสิริมงคลกับผู้เป็นเจ้าของจึงจัดพิธีฮ้องขวัญสัตว์เลี้ยงได้แก่ฮ้องขวัญวัวควาย ช้างและม้าเป็นต้น

     ขวัญยังมีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงสังคมให้เกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะ มีการฮ้องขวัญในพิธีสืบชะตาบ้านชะตาเมือง ตลอดจนป่าไม้และแหล่งน้ำที่ให้คุณแก่คนในสังคม

     ฮ้องขวัญ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนาช่วยสร้างเสริมกำลังใจพลังอันยิ่งใหญ่ในชีวิตให้มีสติอยู่คู่กาย
เป็นการรักษาดุลยภาพแห่งชีวิตคนเรา

    * ช่วงเวลา

ไม่มีระยะเวลาที่กำหนดตายตัว ขึ้นอยู่เมื่อมีผู้ใดผู้หนึ่งเจ็บป่วยญาติพี่น้องช่วยกันจัดทำให้

    * ความสำคัญ

พิธีกรรมนี้ประกอบและปฏิบัติสืบทอดต่อ ๆ กันมาเป็นระยะเวลาช้านาน และทำขึ้นมาเพื่อทำให้เกิดขวัญและกำลังใจแก่ผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยหายจากการเจ็บไข้ได้ป่วยเร็วขึ้น

    * พิธีกรรม

การทำพิธีฮ้องขวัญ ท่านให้ทำขันครู (ขั้นตั้ง) ให้พ่อหมอหรืออาจารย์ผู้ทำพิธีนั้น
ขั้นตั้งครูอาจารย์
๑. สวยหมาก ๔ สวย
๒. พลู ๔ สวย
๓. สวยดอก ๔ สวย
๔. เทียนน้อย ๔ คู่
๕. เทียนเล่มละ ๑ บาท ๒ คู่
๖. ข้าวเปลือก ๑ ลิตร
๗. ข้าวสาร ๑ ลิตร
๘. เบี้ยพันสาม
๙. หมากพันสาม
๑๐. ผ้าขาว - ผ้าแดง
๑๑. เงิน ๓ บาท
แต่งดาใส่ขันตั้งให้หมด (ดาหมายถึงเตรียม)

    * บายศรีฮ้องขวัญ

การฮ้องขวัญนั้นให้แต่งเครื่องข้าวขวัญ คือ ทำเครื่องขันบายศรีปักด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหลายสีหลายอย่างเป็นพุ่มพวง งาม มีด้าย ๙ เส้น รอบเวียนบายศรีข้างในขันให้ใส่ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ พร้อมทั้งเครื่องคาว - หวาน เมื่อแต่งดาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำพิธีฮ้องขวัญ
การฮ้องขวัญ
ก่อนฮ้องขวัญต้องทำพิธีกล่าวทำ ปัดเคราะห์ ปัดภัยเสียก่อน โดยพ่อหมอหรืออาจารย์จะกล่าวคำปัดเคราะห์ ปัดภัยเป็นภาษาพื้นเมือง เมื่อกล่าวคำปัดเคราะห์ ปัดภัยเสร็จหมดแล้วจะทำพิธีกล่าวคำฮ้องขวัญต่อไป พร้อมทั้งมีการมัดมือด้วยด้าย ๙ เส้น เริ่มจากข้อมือซ้ายก่อนแล้วมัดข้อมือขวา ในระหว่างที่มัดข้อมือพ่อหมอหรืออาจารย์ก็จะกล่าวคำให้พรตลอด จนกว่าจะเสร็จ

    * สาระ

ตั้งแต่โบราณมา คนพื้นเมืองเมื่อมีผู้ใดผู้หนึ่งเจ็บไข้ได้ป่วย ผอมเหลืองไม่มีสีสัน วรรณะ กินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเวลาหลายวัน หรือสะดุ้งตกใจกลัวเมื่อพบเห็นสิ่งที่หวาดเสียว น่ากลัว และประสบปัทวเหตุสยดสยอง อาจทำให้ขวัญหนีดีฝ่อเหล่านี้ ญาติพี่น้องจะช่วยกันจัดแต่งขันตั้งเครื่องบายศรีเพื่อฮ้องขวัญให้กับผู้ ประสบเหตุนั้น และเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจและเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย นั้น
IP : บันทึกการเข้า

โทร facebook : Songpol Kinawong
หลักการคือหลักการ   อนุมานว่าทำได้
กี่คนจะเข้าใจ   เมื่อไม่ทำด้วยตัวเอ
uddtar
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2010, 17:56:06 »

ขอกำตี้เปิ้ลฮ้องขวัญตวยคับ   เอาเป็นไฟล์เสียงกะได้คับ   ไข๋ได้เมินละ 
IP : บันทึกการเข้า
คำปันเกย
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 846



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2010, 20:19:49 »

คุณแก้วซอมพอ ไค่เป็นหมอฮ้องขวํยก๊ะเจ้า  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม



ข้าเจ้าไค่ได้ คำปั๋นพร เวลาลูกหลานมาดำหัว
เวอร์ชัน คำเมือง เน้อเจ้า ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ของล้ำค่าสำหรับคนหนึ่งก็อาจเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับอีกคน หรือสิ่งไร้ค่าสำหรับคนหนึ่ง ก็อาจเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับอีกคนหนึ่งเช่นกัน
wat
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 322


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 25 สิงหาคม 2010, 11:10:52 »

ไค๋ได้กำสูมาเมีย
IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 25 สิงหาคม 2010, 11:20:15 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 สิงหาคม 2010, 11:27:49 โดย [_ละอ่อนโบราณ_] » IP : บันทึกการเข้า

..............
saomai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2011, 21:32:56 »

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ บ้านพ่อครูสิงห์แก้ว วงค์มูล บ้านดอยสะเก็น ต.รอบเวียง อ.เมือง เชียงราย และบ้านพ่อหนานนิพนธ์ บ้านศรีทรายมูล อ.เมือง จ.เชียงราย ท่านจะได้แหมเป่อเลอะครับ
IP : บันทึกการเข้า
April Lady
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,462



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 14 มกราคม 2011, 22:52:19 »

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าไหว้สาคืออะไร เพราะที่มอ(ฟอลอ)มีกิจกรรมไหว้สาแม่ฟ้าหลวงปีละครั้งถ้าจำไม่ผิด ไม่รู้ว่าทำแบบนี้รึเปล่า : ) ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว ขอบคุณมากค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

[ MC/พิธีกร,พริตตี้(Thai-Eng) ]

ติดต่องาน :
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=366185
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 14:10:52 »

เอวังโหนตุ ดีแลอัจในวันนี้ก็เป็นวันดีศรีประเสริฐล้ำเลิศกว่าวันไหนไหน เหตุว่าปี๋เก่าก็ข้ามล่วงป้นไปแล้วปี๋ใหม่แก้วพญาวันก็มาฮอดมาเถิง บัดนี้สูเจ้าตังหลายก็บ่ได้ละเสียยังฮีตก็บ่ได้เสียยังฮอย ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ได้สืบสาน สั่งสอนเมินมา จุ่งได้จัดแจ๋งแต่งดาสรรพพะ สิ่งของตังมวลอันเป๋นมงคะละ มีน้ำขมิ้นส้มป่อยเป๋นเก้า พร้อมทั้งเข้าของตังหลายเป๋นบริวาร เพื่อมาขอสูมาคารวะยังต๋นผู้ข้า เพื่อเป๋นสิริมงคลแก่ต๋นตั๋วสูเจ้าตังหลาย
อันว่าต๋นตั๋วข้าก็บ่สิ่งของอันใดที่จะหื้อเจ้าไว้เป๋นสิริ นอกจากเหียว่า กำของพระเจ้าอันที่ปอจะหื้อไว้เพื่อจักได้เป๋นมงคะละแก่เจ้าตังหลายดังนี้
       สัพพีติโย ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
..........................................................อายุวรรโณสุขขังพลัง.
จะเติมจะต่อจะใดก็ว่าไปเต๊อะ อันนี้เป็น แนวทางแค่นั้นเอง

หนานบ่ผ่านวะสาแต่เอง
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2011, 14:15:08 »

ไค๋ได้กำสูมาเมีย
ใคร่อยากตอบเหมือนกั๋นแต่กลัวเสียคนครับ
แต่ละกำมันถองแก๋ถองแก๋นล้วน ๆ
เพราะออกแนว X เต๋ม ๆ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!