เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 19:02:51
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  พุทธศาสนา ประจำชาติอิตาลีแล้ว
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน พุทธศาสนา ประจำชาติอิตาลีแล้ว  (อ่าน 3556 ครั้ง)
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2010, 07:37:07 »

ที่มา : ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
http://www.siamrath....?ReviewID=89725
http://www.212cafe.c...ststudies&id=61



ราวสิบกว่าปีมาแล้ว สื่อมวลชนในยุโรปได้แถลงกันยกใหญ่ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่จะเติบโตเร็วที่สุดในสมัยศตวรรษที่ 21 เพราะเห็นว่ากระแสผู้นับถือเติบโตเร็วมากทั้งในทวีปยุโรป, ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ไม่ว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, อังกฤษ, สเปน, ออสเตรเลีย ฯลฯ วัดวาอารามผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการนำพระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศฝรั่งเหล่านี้แต่ไหน แต่ไรมาส่วนมากแล้วนับถือศาสนาคริสต์มาก่อน และกระแสชาวคริสต์หันมานับถือพระพุทธศาสนานี้ก็ก่อตัวอย่างต่อเนื่องมา ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19

ประเทศยุโรปบางแห่ง เช่น อิตาลีได้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ยกพระพุทธศาสนาให้เป็นหนึ่งในศาสนาสำคัญของชาติ ไม่ต่างอะไรกับศาสนาคริสต์

สมเด็จพระสันตปาปา จอห์น ปอล ที่สองซึ่งเป็นประมุขของคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ทรงมองเห็นกระแสดังกล่าว ครั้งได้ประทานสัมภาษณ์แก่วิตโดริโอ เมสซุรี่ นักเขียนและนักสื่อมวลชนที่มีชื่อของอิตาลี เมื่อ ค.ศ. 2536 อันเป็นช่วงที่มีการเฉลิมฉลองครบ 15 นับแต่ที่พระองค์ได้ ทรงรับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตปาปา จึงทรงตั้งพระทัยวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาพระพุทธศาสนาอย่างตรงๆ ต่อมาบทประทานสัมภาษณ์ซึ่งมีหลายตอนนี้มาพิมพ์รวมเล่มในรูปหนังสือชื่อ Crossing the Threshhold of Hope (London, Jonathan Cape, 1994) มีทั้งหมด 244 หน้า (รวมดรรชนีคำศัพท์)

ตอนที่ทรงวิพากษ์วิจารณ์คำสอนพระพุทธเจ้า (ซึ่งทรงเข้าพระทัยผิดๆ อยู่มาก) อยู่ในบทที่ 12 มีทั้งหมด 7 หน้า (ตั้งแต่หน้า 84-90)

สาเหตุที่ทรงวิจารณ์พระพุทธศาสนา มีกล่าวชัดในบทประทานสัมภาษณ์ กล่าวคือทรงต้อง การเตือนสติชาวคริสต์ทำนองว่าไม่ควรด่วนเข้าไปนับถือคำสอนพระพุทธศาสนา แต่ควรใช้วิจารณญาณ (For this reason, it is not inappropriate to caution those Christians who enthusiastically welcome certain ideas originating in the religious traditions of the Far East, pp.89-90) ที่เป็นดังนี้ เพราะกระแสคนหันมานับถือพระพุทธศาสนา และช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างแข็งขันในยุโรป ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมักเป็นชาวคริสต์มาก่อน หลายคนเคยเป็นบาทหลวงระดับสูง ต่อมาก็มีฝรั่งนักวิชาการชาวพุทธหลายคนทั้งพระ ทั้งฆราวาส ซึ่งเคยเป็นชาวคริสต์มาก่อน ได้เขียนตอบโต้พระองค์ลงวารสารต่างๆ มากมาย ที่โดดเด่นก็ คือ กลุ่มพระสงฆ์ชาวอิตาเลี่ยนในอิตาลี นำโดย พระฐานวโร ได้เข้าเฝ้าเพื่อทูลชี้แจงให้สมเด็จพระสันตปาปาทรงทราบด้วยซ้ำว่าทรงอธิบาย พระพุทธศาสนาผิดๆ

ยุโรปตอนนี้จึงเหมือนอินเดียครั้งพุทธกาล ศาสนาเดิมที่ผู้คนนับถือคือศาสนาพราหมณ์ แต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนาก็มีผู้เคยนับถือศาสนาพราหมณ์มานับถือ และขวนขวายเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นการใหญ่

ที่จริงแล้ว พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงเดือดเนื้อร้อนพระทัยว่าใครจะหันมานับถือศาสนาของ พระองค์หรือไม่ ทรงสอนให้ผู้ฟังเทศน์ของพระองค์รู้จักไตร่ตรองหาเหตุผลให้รอบคอบก่อนถึงจะ เชื่อ หลายคนที่หันมานับถือคำสอนของพระองค์เคยให้ความอุปถัมภ์ศาสนาอื่นมาก่อนก็มี พระองค์ก็ทรงแนะให้คนเหล่านี้กลับไปคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ มิหนำซ้ำพระองค์ยังคงแนะให้บรรดาผู้หันมานับถือพระพุทธศาสนาเหล่านี้ยังคง อุปถัมภ์บำรุงศาสนาอื่นๆ ที่ตนเคยนับถือตามปกติไปด้วย

แต่เดิม ศาสนาคริสต์ถูกลัทธิมาร์กซ์โจมตีอย่างรุนแรงมาร์กซ์ได้ประณามศาสนาว่า คือยาเสพติด เพราะสอนให้ประชาชนศรัทธาแบบหัวปักหัวปำโดยไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรอง หลายอย่างขัดแย้งหลักวิทยาศาสตร์ เช่น โลกแบน, โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ฯลฯ นักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบความจริงใหม่ ๆ หลายคนถูกศาสนจักรลงโทษจนตายในคุก

แต่เมื่อพระพุทธศาสนาเข้าสู่ยุโรป พระพุทธศาสนาได้สอนให้ปัญญาชนชาวยุโรปได้เข้าใจความหมายของ Religion เสียใหม่ว่า ศาสนาของพระพุทธเจ้าคือคำสอน ซึ่งทรงสอนให้ผู้ฟังใช้ปัญญาพิจารณาอย่างถ่องแท้ก่อนจะปลงใจเชื่อ ไม่ใช่เทวโองการ (Gospel)จากพระเจ้าซึ่งแย้งไม่ได้ พระสงฆ์หรือพุทธสาวกก็มิใช่มิชชันนารี ซึ่งมีภารกิจหลักคือจาริกไปชี้ชวนให้ใครต่อใครมานับถือพระศาสนา พระสงฆ์หรือพุทธสาวกมีหน้าที่เพียงอธิบายคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ คนที่สนใจฟังเท่านั้น ใครไม่สนใจฟัง ชาวพุทธก็ไม่เคยใช้กฎหมายหรือรัฐธรรมนูญบังคับให้นับถือ ไม่เคยตั้งกองทุนให้การศึกษาฟรี แล้วสร้างเงื่อนไขให้ผู้รับทุนเปลี่ยนมาเป็นชาวพุทธ ไม่เคยสร้างที่พักอาศัยให้หรือแจกทานให้อาหารฟรีๆ แล้ววางเงื่อนไขให้คนมาขออาศัยตนต้องหันมานับถือศาสนาในภาวะจำยอม

ขณะที่ศาสนาคริสต์ต้องใช้ความพยายาม อย่างหนักเพื่อดึงศรัทธาชาวยุโรปให้นับถือเหมือนเดิม ในเวลาเดียวกัน ก็พยายามแสวงหาผู้นับถือใหม่ๆ ในประเทศเอเชียให้มากยิ่งขึ้น

ความใจกว้างและมีหลักคำสอนที่เป็นสัจธรรม เชิญชวนให้มาพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติเองและเน้นให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนนับถือ ทำให้พระพุทธศาสนาได้รับการยอมรับจากวิญญูชนไปทั่วโลก นักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ดัง ๆ ระดับโลกจำนวนมาก เช่น โซเพน ฮาวเออร์, ไอน์สไตน์ ต่างหันมานับถือพระพุทธศาสนา

นับแต่พระพุทธศาสนาเข้ายุโรปสมัยศตวรรษที่ 19 ก็มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงสถิติว่าคนยุโรปและอเมริกาชาติต่าง ๆ หันมาเข้าวัดในพระพุทธศาสนามากขึ้นบ้าง ประกาศตนเป็นพุทธมามกะมากขึ้นบ้าง สถานปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนาซึ่งรวมทั้งวัดวาอารามเพิ่มขึ้นที่นั่นที่ นี่ประจำบ้าง

เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาก็มีข่าวออกมาอีกว่า ดาราฮอลลี้วูดอังกฤษ ชื่อ ออร์นันโด บลูม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้แสดงนำในหนังเรื่อง The Lord of the Rings ได้ทำพิธีประกาศตนเป็นพุทธมามกะต่อหน้าสาธารณชนอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อย แล้ว

ระหว่างทหารอเมริกันพยายามไล่บี้ทหารอิรักอย่างเมามันตามคำสั่งของ ประธานาธิบดีบุชไม่นานมานี้ ทหารอเมริกันคนหนึ่งนามว่า เจเรมี่ ฮินซ์แมน วัย 26 ปี ได้ตัดสินใจหนีทัพอเมริกาในอิรักไปปักหลักลี้ภัยในแคนาดา เขาให้เหตุผลว่าสงครามที่อเมริกาทำกับชาวอิรักเป็นสงครามผิดกฎหมาย ประเด็นที่น่าสนใจก็คือเขาเป็นชาวพุทธที่สนใจปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง เขาให้สัมภาษณ์ว่าคำสอนพระพุทธศาสนาสอนให้เขาไม่อยากทำสงคราม เขาตั้งปฏิญาณว่าจะรับใช้ชาติหรือพิทักษ์ชาติจากการรุกรานของข้าศึกศัตรู แต่มิใช่ไปทำสงครามแบบก้าวร้าวต่อชาติอื่นดังที่ทหารอเมริกันกำลังทำอยู่ใน อิรักเวลานี้

ผมได้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ Lanka Daily News ในลังกาตั้งแต่ 23 ต.ค. ที่แล้วว่าปัจจุบันพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เติบโตเร็วที่สุดในแคนาดา ประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในอเมริกาเหนือ พระพุทธศาสนาเข้าแคนาดาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และมาบูมขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2503-2513 (1960s) เป็นต้นมา ช่วงนั้นมีการสำรวจพบว่าวัดชาวพุทธมีแค่ 18 วัด มีชาวแคนาดาปฏิบัติธรรมราวๆ 10,000 คน แต่เมื่อสำรวจผู้นับถือพระพุทธศาสนาอีกครั้งในพ.ศ. 2528 ชาวพุทธมีเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คน หกปีหลังจากนั้นคือพ.ศ. 2534 รัฐบาลสำรวจคร่าวๆ อีกครั้งพบว่าผู้ประกาศตนเป็นพุทธมามกะมีเพิ่มเป็น
163,415 คน รัฐมาสำรวจครั้งล่าสุดอีกครั้ง เมื่อพ.ศ. 2544 พบว่าพุทธมามกะแท้ ๆ มีไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน แซงหน้าจำนวนผู้นับถือศาสนาฮินดูและศาสนาซิกข์ ซึ่งเคยตามหลัง จำนวนผู้นับถือยังเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ทุกปี

ผลสำรวจยังบอกว่าวัด, สถานที่ปฏิบัติธรรม หรือศูนย์กลางของชาวพุทธในแคนาดาตอนนี้มีเกือบๆ จะถึงหนึ่งพันแห่งทั่วประเทศ เมืองที่มีชาวพุทธมากที่สุดคือ ออนตาริโอ, บริติชโคลัมเบีย และควิเบก ข่าวยังลงด้วยว่าแม้จำนวนคนนับถือจะยังอยู่เรือนแสน แต่จำนวนผู้แสดงความสนใจและเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาบ้างแล้วมีหลายล้านคนทั่ว ประเทศ

เมื่อ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา โฆษกประจำรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กระพือข่าวว่า องค์ทะไลลามะจะได้รับอนุญาตให้เข้ารัสเซีย หลังจากถูกแบนเพราะเกรงจะกระทบความสัมพันธ์กับจีน หลังจากรัสเซียเซ็นสัญญามิตรภาพกับจีน เมื่อ พ.ศ. 2544 แต่ชาวรัสเซียก็แสดงจุดยืนชัดเจน ว่าองค์ทะไลลามะจะมาเยือนด้วยภารกิจศาสนา เมื่อกระแสประชาชนเรียกร้องหนักขึ้น รัสเซียก็ยอมอนุญาตให้ท่านเข้ารัสเซียแต่โดยดี ปลาย พ.ย.ที่ผ่านมา ท่านทะไลลามะจึงมีโอกาสแสดงธรรมโปรดพุทธบริษัทและประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ที่เมืองกัลมิเกีย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกประมาณหนึ่งพันไมล์

ชาวรัสเซียหลายคนในเมืองนี้มีบรรพบุรุษเป็นชาวมองโกลซึ่งอพยพจากทางตะวันตก ของจีนเข้าสู่รัสเซียเมื่อราว 4 ร้อยกว่าปีมาแล้ว พระพุทธศาสนาที่นำเข้ามาจึงเป็น พระพุทธศาสนาแบบทิเบต ผลปรากฏว่า มีชาวพุทธและผู้สนใจทั่วๆ ไปชาวรัสเซียแห่กันมาฟังธรรมล้นหลามเป็นจำนวนหลายพันคน

ผู้สื่อข่าวรายงานลงใน Ireland Online ว่าจากจำนวนประชากรของเมืองนี้ ทั้งหมดราว 3 แสนคน ประมาณครึ่งหนึ่งนับถือพระพุทธศาสนา รัสเซียมีประชากรราว 144 ล้านคน ในจำนวนนี้มีราว 1 ล้านคน ที่ประกาศตนเป็นพุทธมามกะ

ผมดูภาพรวมพระพุทธศาสนาจากข่าวสารต่างๆ แล้วก็รู้สึกได้ว่าวัฒนธรรมแบบพุทธกำลังเติบโตและเบ่งบานในหลาย ๆ ประเทศของทวีปยุโรป, ออสเตรเลีย และอเมริกาบางแห่ง เช่น รัสเซียแม้จะเติบโตช้า แต่ปีที่กำลังจะผ่านไปนี้ก็เริ่มมีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ผมคิดว่าปัญญาชนในประเทศทุนนิยมทั่วโลกเวลานี้คงเอือมระอากับ “ทุนนิยมเสรี” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า กระแสโลกาภิวัตน์กันไม่น้อยและก็คงเห็นชัดเจนแล้วว่ามีแต่ศาสนาเท่านั้นที่ จะช่วยเปลี่ยนให้มนุษย์มีความเป็นผู้เป็นคน(ใจสูง) มากขึ้น ท่ามกลางกระแสสังคมที่มีแต่นายทุนจอมตะกละตะกรามแสวงหากำไรสูงสุดอยู่ทุก แห่ง ดังนั้น จึงเริ่มผ่อนปรนให้ผู้นำศาสนาทำงานได้สะดวกขึ้น

ที่มาhttp://larndham.org
IP : บันทึกการเข้า

..............
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2010, 07:47:31 »

เยี่ยมเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า

Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2010, 14:31:53 »

  ตกใจ น่าจะส่งคณะสงฆ์จาก
วัดสามแยก เพชรบูรณ์
ไปเผยแพร่ลัทธิที่นั่น
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2010, 15:08:11 »

  ตกใจ น่าจะส่งคณะสงฆ์จาก
วัดสามแยก เพชรบูรณ์
ไปเผยแพร่ลัทธิที่นั่น
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
หุหุ
IP : บันทึกการเข้า

ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2010, 22:05:07 »

  ตกใจ น่าจะส่งคณะสงฆ์จาก
วัดสามแยก เพชรบูรณ์
ไปเผยแพร่ลัทธิที่นั่น
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
หุหุ
ชาวพุทธเมืองไทยได้แต่จ้องจับผิดกันเอง
มีคำกล่าวเอาไว้ว่า ราชสีห์ถ้ายังไม่ตายไม่มีใครกัดมันได้ นอกจากหนอนในตัวของมันเอง
พระพุทธศาสนาไม่ได้เสื่อมเพราะคนศาสนาอื่นมาทำลายหรอก
แต่เกิดจากหนอนในตัวนี่แหละ...คอยกัดอยู่ทุกวี่ทุกวัน
IP : บันทึกการเข้า

..............
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2010, 18:38:11 »

พระพุทธศาสนาจะเหมาะมากสำหรับปัญญาชนชาวตะวันตก (รวมทั้งปัญญาชนทั้งโลก)  ผู้ที่มีจริตนิสัยโน้มเอียงหนักไปในทางเหตุผล เป็นนักคิดนักค้นคว้านักสำรวจฯ ไม่ยอมปลงใจเชื่ออะไรง่ายๆ ต้องพิสูจน์เห็นผลก่อนจึงจะเชื่อ   ซึ่งพระพุทธศาสนาเองก็ท้าทาย (เชิญชวน)  ให้มาพิสูจน์ความจริง (สัจธรรม) ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงคนพบและได้นำมาเผยแผ่ให้ชาวโลกผู้พอจะมีดวงตา (ธรรม) ได้รู้เห็นตาม เอวัง. ด้วยความเคารพในพระศาสดาอย่างสูงสุดครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กันยายน 2010, 18:48:53 โดย watinta » IP : บันทึกการเข้า
▄▀▄ l ท W บุ ต S ▄▀▄
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,239


トヨタ クラウン ロイヤル


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 13:42:27 »

ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนทำความดี
แต่ศาสนาพุทธ ถ้าปฎิบัติธรรม ทาน ศีล ภาวนา สามารถทำให้หลุดพ้นจากวตสงสาร เวียน ไหว้ ตาม เกิด ได้ _/l\_
IP : บันทึกการเข้า
mickyplayboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 13:47:50 »

เป็นสิ่งที่น่าดีใจครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
เมือง_ คนเจียงฮาย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2010, 11:21:09 »

แสดงว่า เขาเจอแก่นของ ศาสนาแห่งธรรมชาติ แห่งสันติ แห่งปัญญาที่มนุษย์ควรรู้แล้วครับ  สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

จงฝืนกระแสแห่งใจที่ไหลลงต่ำในทุกเวลาเถิด ฮักห้วยน้ำฮาก
watsound
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 758

เสียงดี มีคุณภาพ


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 04 ตุลาคม 2010, 22:17:40 »

จะอี้ก่า
IP : บันทึกการเข้า

บริการเครื่องเสียง ไฟพาร์ LED คาราโอเกะ งาน event งานพิธีการต่างๆ งานเลี้ยงสังสรรค์  งานเปิดป้าย โฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วยเครื่องเสียงคุณภาพ รับทำตู้ลำโพงกลางแจ้ง subbass,ps15 watsound 0861807445
Unlimited แหล...
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,919



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 10 ตุลาคม 2010, 21:02:36 »

แก่นแท้ของพุทธศาสนา สอนเกี่ยวกับตัวตนของคนเรานั่นแหละครับ เพราะพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เกิดจากคน เพื่อคน นั่นเอง...
IP : บันทึกการเข้า

** We Are The Result Of What We Were And We Will Be The Result Of What We Are. ** (Lord Buddha)
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,257

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2010, 20:13:17 »

สาธุ...ดีจังอ่านแล้วปลื้มใจ ^^
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
ลุงหนาน
ผู้ดูแลบอร์ด
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2010, 14:48:40 »

ขนาดเขาอยู่แถบประเทศยุโรป เขาก็ยังทำให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติได้.. แต่เมืองไทยเรา มีคนนับถือพุทธ 93 เปอร์เซ็น แต่กลับทำให้ไม่ได้.. ลาว พม่า กัมพูชา. อื่นๆ เขายังบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงให้พระพุทธศาสนาอยู่คู่สังคมไทยเรา  หากวันหนึ่งมีศาสนาใดๆ ก็ตาม มีอำนาจในการบริหารประเทศ. บ้านเมืองพุทธจะอยู่ได้ฤา.. ทุกวันนี้ประเทศเรา ถึงแม้จะเป็นเมืองพระพุทธศาสนา.แต่ถามว่า รัฐบาลไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน. เคยใส่ใจดูแลวัดวาอาราม..อย่างที่สุดหรือไม่..  แต่ละวัดต้องก่อสร้างถาวรวัตถุเอง.. หากเจ้าภาพเอง. พระเณรต้องเรียนหนังสือ.. ต้องหาเงินเอง.. การเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระต้องทำเอง.. ถามว่าทุกวันนี้ หรืออดีต รัฐบาลเคยใส่ใจไหม.. ปีหนึ่งเงินบำรุงวัดมีไหม.. ทุนการศึกษาพระเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีมีไหม..  เราอยากได้พระดีพระเก่ง.. แต่ไม่เห็นจะช่วยกันสร้าง.. พระสงฆ์ไทยยังขาดโอกาสอะไรอีกตั้งเยอะแยะ..ที่ต้องการเหลียวแลจากรัฐบาล..  จะมาว่าพระไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้.. ว่าไม่ได้ก็เพราะพระท่านหลายรูป ไม่มีปัญญาจะเรียนหนังสือ ไม่ว่าระดับปริญญาตรี หรือโท..ก็ตาม. เงินนิตยภัติ หรือเงินค่าตอบแทนเจ้าอาวาสได้ 1500    แล้วถามว่า มันเพียงพอกับความเป็นอยู่. แล้วก็การศึกษาเล่าเรียนหรือไม่.. พูดถึงวัดบ้านนอกคอกนา.. วัดในเมืองท่านพออยู่ได้...    ดังนั้นเราอยากสร้างทรัพยากรบุคคลทางศาสนาให้มีคุณภาพ..รัฐบาลต้องใส่ใจมากกว่านี้หน่อย  และการบรรจุพระพุทธศาสนาประจำชาติไทย.. ประชากรที่นับถือมีเท่าไหร่  เรื่องการบรรจุจะทำก็ทำไป..เราก็ไม่ได้ไปเบียดเบียนศาสนาใดๆ  แต่เราทำเพื่อความมั่นคง เพราะทุกวันนี้อะไรๆ ก็ต้องอาศัยหลักฐาน.. หากไม่มีวันข้างหน้าก็คงจะลำบาก..
IP : บันทึกการเข้า

อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดๆ เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน
QingGE
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 751



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2010, 21:02:52 »

ยิ้ม ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2010, 06:24:16 »

รัสเซียกับออสเตรีย ก่อยอมฮับมาหลายปี๋ละเลาะ....
IP : บันทึกการเข้า
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,993



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2010, 23:15:01 »

ธรรมดามีเจริญ ย่อมมีเสื่อมเป็นของคู่กัน พระศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความเจริญมาถึง สองพันห้าร้อยกว่าปี ย่อมอาจมีวันเสื่อม แต่จะเสื่อมหรือไม่  ใช่อยู่ที่จำนวนตัวเลขของผู้นับถือศาสนาแต่เพียงอย่างเดียว เสื่อมไม่เสื่อมควรอยู่ที่จำนวนของผู้เข้าใจธรรมและหลักคำสอนด้วย วันนี้มีคนนับถือพระพุทธศาสนาจะมีจำนวนเท่าไร จึงหาเป็นสิ่งสำคัญเพียงประการเดียวไม่ คนที่เข้าใจพระพุทธศาสนา ศรัทธาพระศาสนาด้วยปัญญา ก็ควรสำคัญไม่แพ้กัน
IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!