เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เริ่มวันนี้ โครงการยาเก่าแลกไข่ 5 ฟอง ที่โรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 1 หมื่นแห่ง เผยอาจเป็นไข่ไก่ ไข่เค็ม หรือหากไม่พออาจเป็นมะนาว
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (1 กรกฎาคม) ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดสรรงบประมาณจังหวัดละ 100,000 บาท เพื่อให้ประชาชนสามารถนำยาเก่ามาแลกไข่ได้ฟรี เริ่ม 2 – 5 กรกฎาคม 2555 ในโครงการไข่แลกยาเก่า โดยประชาชนสามารถมาแลกไข่พร้อมกันได้ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศ รวมกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ นายวิทยา กล่าวว่า ยาเก่าที่จะแลกไข่ได้ในครั้งนี้ ประชาชนสามารถนำยาแผนปัจจุบันทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาซื้อเอง หรือยาที่ได้รับจากสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐ และเอกชน แต่ไม่รวมยาสมุนไพร ซึ่งทาง สธ. จะแจกไข่ให้บ้านที่เอายาเก่าไปแลกอย่างน้อยครอบครัวละ 5 ฟอง แต่ทั้งนี้ ไข่ที่แลกบางแห่งอาจจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่เค็ม หรือบางแห่งไข่ไม่พอ ก็อาจจะเป็นการแจกมะนาวแทนก็ได้
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนวัตถุประสงค์หลักของโครงการดังกล่าว ทาง สธ. ต้องการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้ยา และใช้ยากให้เกิดประสิทธิภาพต่อการรักษาอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังจะทำให้ทราบว่า ยาที่ตกค้างตามบ้านเรือนประชาชนนั้น มีจำนวนเท่าใด และมีวิธีเก็บรักษาอย่างไรบ้าง เนื่องจากข้อมูลล่าสุดคนไทยใช้ยาเฉลี่ยปีละ 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตนจะมอบหมายให้ แพทย์นิทัศน์ รายยวา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบบริหารจัดการและประเมินผลกลางเดือนกรกฏาคมนี้
ขณะที่ นายแพทย์นิทัศน์ กล่าวต่อว่า ยาเก่าที่รับคืนทั้งหมด ตนจะให้เภสัชกรของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นผู้วิเคราะห์ คัดแยก โดยยาที่หมดอายุแล้ว จะรวบรวมส่งไปที่ สธ. เพื่อทำลาย และขั้นต่อไปในปีหน้า ทาง สธ. ก็จะปรับระบบบริหารจัดการยาให้มีประสิทธิภาพมาขึ้น โดยการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ยาดี และมีคุณภาพตามนโยบายรัฐบาล และจะมอบหมายให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้ความรู้เรื่องยา และปรับแก้พฤติกรรมการกินยาของประชาชน พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดูแลคนละ 300 ครัวเรือน และติดตามดูแลเรื่องการใช้ยาเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้ยามากขึ้น
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ยาเก่าเหลือตกค้างตามบ้านเรือน มาจากหลายสาเหตุ ได้แก่..
1. การซื้อยากินเอง กินแล้วอาการไม่หาย
2. นำยาของคนอื่นที่ที่มีอาการป่วยคล้ายกันมาใช้แทน
3. เก็บยาไม่ถูกต้อง ทำให้ยาเสื่อมสภาพ
4. ประชาชนไม่ดูวันหมดอายุยา
5. ลืมกินยา
6. รักษาหลายโรงพยาบาลทำให้รับยาหลายขนานซ้ำซ้อน
7. ประชาชนพึ่งยามากกว่าพึ่งตนเอง เพราะเชื่อว่าหากป่วยแล้วมียารักษา
http://hilight.kapook.com/view/73198===================================================
เห็นคอมเมนท์ในข่าวเขาว่าขนาดเจ้าหน้าที่โรงบาลยังไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ
แล้วในเชียงรายเราจะได้แลกกะเขาไหม
ว่าแต่ ให้มาแค่จังหวัดละแสนเดียว มันจะพอไหมเนี่ย
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
