เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 00:04:07
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  มหาวิบัติ ๖ ประการ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน มหาวิบัติ ๖ ประการ  (อ่าน 5490 ครั้ง)
james_cr2001
midafXD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 275


« เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2012, 13:02:10 »

ในทางพุทธศาสนาแล้วมีวิบัติอยู่ประเภทหนึ่ง
ที่จัดได้ว่าเป็นความวิบัติอันใหญ่หลวงของสามัญสัตว์
ซึ่งจัดว่าเป็นยอดแห่งการวิบัติ มีอยู่ ๖ ประการคือ

๑.วิบัติกาล
  วิบัติกาลนี้ ได้แก่วิบัติเพราะว่ากาลว่างจากพระพุทธศาสนา
  หมายความว่าในโลกมนุษย์ที่เราเกิดนี้
  ใช่ว่าจะปรากฏมีพระพุทธศาสนาอยู่เป็นประจำนั้นก็หามิได้
  โดยแท้จริงแล้วบางกาลก็มีพระพุทธศาสนา แต่บางเวลาไม่มี
  เพราะไม่ใช่คราวที่สมเด็จพระจอมมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติในโลก
  ก็ในระหว่างกาลที่มีพระพุทธศาสนากับไม่มีนี้
  ปรากฏว่ากาลที่ไม่มีพระพุทธศาสนานั่นแหละ
  มีปริมาณมากกว่ากาลที่มีพระพุทธศาสนามากมายนัก
  ซึ่งก็หมายความว่า ในโลกนี้ นานๆจึงจะมีพุทธกาลเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่ง
  คราวนี้แหละครับ ถ้าบังเอิญเราเกิดมาในตอนที่มิใช่พุทธกาล
  หรือกาลที่ว่างเว้นจากพุทธศาสนา
  เราก็หมดโอกาสรู้จักพระพุทธศาสนา มิได้รับรสพระสัทธรรมเทศนา
  การเกิดของเราก็เท่ากับว่าเกิดมาเปล่าประโยชน์ หาสาระแก่นสารในชีวิตอันแท้จริงมิได้
  เกิดมาเปล่าแล้วก็ตายไปเปล่าตามธรรมดาของการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเท่านั้นเอง
  สภาพเช่นนี้เราเรียกว่าวิบัติกาล เพราะเกิดผิดกาลเวลา
  นับว่าเป็นมหาวิบัติประการหนึ่ง

๒.วิบัติคติ
  ได้แก่วิบัติเพราะไม่ได้คติที่ดี
  หมายความว่าแม้กาลเวลาจะถึงพร้อมแล้ว
  คือมีสมเด็จพระมิ่งมงกุฏสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติตรัสในโลก
  ทรงประกาศพระสัทธรรมเทศนา ยังประชาสัตว์ให้ได้ดื่มอมตรส
  ทรงโปรดสัตว์รี้อสัตว์ขนสัตว์ให้พ้นทุกข์จากวัฏสงสาร ให้ลุล่วงถึงพระนิพพาน
  ทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้ปรากฎอยู่ในโลกเช่นในปัจจุบันทุกวันนี้
  แต่ที่นี้สมมุติว่า ตัวเราเป็นคนอาภัพอับโชค มีบุญน้อยด้อยวาสนา
  ไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อย่างทุกวันนี้ เพราะค่าที่เป็นผู้มีคติวิบัติพลัดไปเกิดในภูมิอื่น
  โลกอื่นเสียอย่างเพลิดเพลิน (แต่บางอย่างมันคงจะไม่ค่อยเพลินหละมั้ง)
  เช่น กำลังไปเกิดอยู่ในนิรยภูมิถือกำเนิดเป็นสัตว์นรกเสียก็ตาม
  กำลังเป็นเกิดอยู่ในอสุรกายภูมิ ถือกำเนิดเป็นอสุรกายมีความหิวกระหายอย่างแสนสาหัส
  ก็ตาม หรือกำลังไปเกิดอยู่ในติรัจฉานภูมิ ถือกำเนิดเป็นสัตว์เดียรัจฉานอยู่เสีย
  เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็หมดโอกาสที่จะได้มาพบพระพุทธศาสนา
  เพราะสัตว์ในอบายภูมิทั้งหลายนั้น ทุกวันเวลามีแต่จะต้องเสวยทุกข์โทษ
  มีชีวิตอย่างหดหู่น่าสมเพศเวทนา
  ก้มหน้าก้มตารับผลกรรมชั่วของตน ไม่มีเวลาหยุดว่างเว้น
  สภาพการณ์เช่นที่ว่ามานี้ เรียกว่าวิบัติคติ
  ประสบความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในชีวิต เพราะไปเกิดผิดภูมิผิดโลก
  นับว่าเป็นมหาวิบัติประการที่สอง

๓.วิบัติประเทศ
   วิบัติประเทศนี้ ได้แก่วิบัติเพราะเป็นประเทศที่ไม่มีพระพุทธศาสนา
   หมายความว่า ถึงแม้จะพ้นจากวิบัติที่กล่าวมาแล้ว คือมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติในโลกแล้ว
   และตัวเราก็พ้นจากคติวิบัติ มาอุบัติเป็นมนุษย์ในโลกนี้แล้ว
   แต่เพราะว่าโลกนี้กว้างใหญ่นักหนา เป็นที่สถิตแห่งนานาประเทศ
   พระพุทธศาสนาไม่อาจแผ่ไปถึงทั่วประเทศทั้งปวงได้
   ประเทศใดพระพุทธศาสนาแผ่ไปไม่ถึง ประเทศนั้นก็ไม่รู้จักคุณค่าของบวรพุทธศาสนา
   ไม่ทราบเลยว่าคำสอนแห่งองค์พระพุทธเจ้า เป็นนิยยานิกธรรม
   สามารถนำสัตว์โลกออกจากกองทุกข์ได้อย่างแท้จริงโดยไม่ต้องสงสัย
   ที่นี้ถ้าเราไปเกิดในประเทศนั้น ก็ไม่มีวันที่จะได้รู้จักพระพุทธศาสนาเลย
   เมื่อไม่รู้จักก็ไม่รู้คุณค่าอันมีอยู่โดยวิเศษเป็นธรรมดา
   เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วย่อมจะมีชีวิตอยู่ในชาติหนึ่งอย่างไร้สาระแก่นสารน่าเศร้า
   เข้าทำนองเกิดมาแล้วก็ตายเปล่าเท่านั้นเอง สภาพเช่นนี้เรียกว่าวิบัติประเทศ
   เพราะไปเกิดผิดประเทศ จึงต้องโชคร้ายนักหนา
   จัดว่าเป็นมหาวิบัติประการที่สาม

๔.วิบัติตระกูล
   วิบัติตระกูลนี้ ได้แก่วิบัติเพราะตระกูลไม่เป็นสัมมาทิฐิ
   หมายความว่า ถึงแม้จะได้มีสมเด็จพระพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติตรัสในโลกนี้แล้ว
   และเราก็ได้มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์
   เป็นคนในประเทศที่นับถือพระบวรพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติแล้ว
   ก็แต่ว่าในประเทศนั้นย่อมมีวงศ์ตระกูลที่เป็นมิจฉาทิฐิเสีย
   ไม่มีความเลื่อมใส ไม่เคารพนับถือในพระพุทธศาสนาก็มี
   ที่นี้บังเอิญเราไปเกิดในตระกูลดังกล่าว
   ซึ่งบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งเป็นบรรพชนของเรา ท่านไม่รู้จักพระบวรพุทธศาสนา
   ไม่เห็นคุณค่า ไม่มีศรัทธาเคารพเลื่อมใสในพระธรรมคำสั่งสอน
   เราก็จะเห็นหรือมีทิฐิไปตามวงศ์ คือจักไม่ปลงใจเชื่อ ไม่เห็นคุณค่า
   อาจมองพระพุทธศาสนาในแง่ที่ไม่ถูกต้องก็ได้
   เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ถึงแม้ชีวิตของเราจะได้รับความสมบูรณ์พูนสุขอย่างไร
   ก็นับเข้าในจำพวกอับโชค เกิดมาในโลกกับเขาครั้งหนึ่ง แต่หาแก่นสารไม่ได้
   เกิดมาตายเปล่าอีกเหมือนกัน สภาพการณ์เช่นนี้เรียกว่าวิบัติตระกูล
   เพราะไปเกิดผิดตระกูล จึงต้องโชคร้ายนักหนา
   จัดว่าเป็นมหาวิบัติประการที่สี่

๕.วิบัติอุปธิ
   วิบัติอุปธินี้หมายถึง การวิบัติในทางกาย
   หมายความว่า ถึงแม้เราจะได้มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ และทรงประกาศพระศาสนา
   ให้ตั้งมั่นอยู่ดังในปัจจุบันนี่แล้ว และเราก็ได้มีโอกาสเกิดมาในตระกูลที่เป็นสัมมาทิฐิ
   เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอยู่แล้วก็ตาม
   แต่ตัวเราเองกลับเป็นคนอาภัพวาสนาเป็นคนอุปธิวิบัติ
   คือร่างกายไม่สมประกอบเหมือนคนธรรมดาสามัญทั้งหลาย
   กลายเป็นบ้า เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก เสียจริตไปเสียเช่นนี้
   ก็ไม่สามารถที่จะมีปัญญามองเห็นคุณค่าของพระศาสนาได้
   ไม่มีโอกาสที่จะรู้ว่าศาสนาธรรมคำสอนของพระองค์ทรงไว้
   ซึ่งความประเสริฐล้ำเลิศอย่างไร
   สภาพการณ์เช่นนี้เรียกว่าอุปธิวิบัติ
   เพราะความวิปริตแห่งกายตน
   จัดว่าเป็นมหาวิบัติประการที่ห้า

๖.วิบัติทิฐิ
   วิบัติทิฐิ ได้แก่วิบัติแห่งทิฐิแห่งตน
   หมายความว่าถึงแม้จะได้มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นบนโลก
   และตัวเราก็พ้นจากวิบัตินานา ได้มีโอกาสเกิดในตระกูลสัมมาทิฐิ มีอุปธิร่างกายเป็นปรกติ
   มิใช่เป็นคนหูหนวก ตาบอด เป็นใบ้แต่อย่างใดเลย
   แต่ตัวเราเองกลับกลายเป็นคนมีทิฐิวิบัติ
   คือมีความเห็นผิด มักบูชาความคิดความเห็นของตนอันไม่ถูกต้อง
   จะเป็นเพราะว่าไปซ่องเสพสมคมกับมิจฉาทิฐิเข้า หรือว่าจะเป็นเพราะเหตุอื่นใดก็ตาม
   แล้วก็มีอันเป็นเกิดความคิดเห็นวิปริตไปโดยนัยว่า
   "สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มี!
   พระธรรมที่พร่ำสอนกันก็ไม่เป็นนิยยานิกธรรม นำสัตว์ให้พ้นทุกข์ไม่ได้
   แม้อริยสงฆ์นั้นไซร้ ก็หาได้มีคุณวิเศษยิ่งไปกว่าตัวเราไม่
   มรรคผล นิพพาน บุญบาป เป็นสภาพที่เพ้อฝันว่ากันไปอย่างนั้นเอง ความจริงหามีไม่
   คำสอนในศาสนาไม่มีคุณค่าควรแก่การปฎิบัติตาม!"
   เกิดความเห็นไม่เข้าท่าทำนองนี้ ก็เลยไม่ศรัทธาจิตคิดเลื่อมใส
   ไม่มีโอกาสได้ปฎิบัติตามกระแสพระพุทธฎีกาอันหาได้ยากในโลก
   เมื่อไม่ปฎิบัติตาม ก็ย่อมไม่ได้พบความวิเศษของพระศาสนา เพราะมีทิฐิดื้อรั้นยิ่งนัก
   สภาพการณ์เช่นที่ว่านี้เรียกว่าวิบัติทิฐิ เพราะความเห็นผิดแห่งตน
   จัดเป็นมหาวิบัติอย่างสุดท้าย


**----------------------  วิบัติตัวที่ ๖ น่ากลัวที่สุด ------------------------------**
สำหรับพวกเราที่เรียกว่าชาวพุทธ วิบัติตัวที่ ๖ น่ากลัวที่สุดครับ
ยกตัวอย่างเช่น ทำบุญทำไปทำไม  ใส่บาตรใส่ทำไม เล่นของ
บูชาเดรัจฉานวิชา เข้าองค์ ทรงจ้าว เชื่อดวง คำทำนาย คุณไสย
ลงอักขระ ฟันธง ฟันเขียง ไพ่ เ่ต่า แสกนกรรม delete กรรม แก้กรรม
เชื่อว่าเมื่อทำสิ่งเหล่านี้แล้ว ทำให้อยู่ยงคงกระพัน ชีวิตดีขึ้น
หรือ โชคดี ร่ำรวย  สุดท้ายก็ตายชัวร์ น่าเสียดายอุตส่าห์รอดวิบัติมาได้ตั้ง 5 ข้อ
มาพลาดตรงข้อที่ 6
**-----------------------------------------------------------------------------------**

"ศานาพุทธ ไม่ได้ตอบคำถามเรื่อง ชาตินี้ ชาติหน้า ผีสาง เทวดา เพียงแต่ว่า
ผู้ใดเข้าใจในศาสนาพุทธแล้ว ก็จะเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ไปด้วย เป็นผลพลอยได้"

**---------------------------------------------------------------------------------**



IP : บันทึกการเข้า

surasit64
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2012, 19:42:34 »

ขอบคุณครับ  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
toitoi
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 441


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 10:10:14 »

อนุโมทนากับวิทยาทานของท่านครับ
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 27 กันยายน 2012, 20:34:11 »

สาธุ ๆ ๆ  อนุโมทามิ
ใน ธรรมทาน  ที่ ท่าน นำเสนอ

หนานธง
ais  081  87  54  209         dtac  081 6  50  70  63        true 085 5  12 13 19
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!