รายงานสภาพอากาศ/เตือนภัย/ทั่วทุกภาคของประเทศครับ

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 9-15 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และอากาศจะเย็นลงโดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคใต้ ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น
อนึ่ง พายุโซนร้อน พระพิรุณ (PRAPIROON) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก จะไม่เคลื่อนตัวเข้าประเทศไทย

ข้อควรระวัง   -

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 9-15 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม

[Addmobile]

ในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยทำให้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้
ส่วนในวันที่ 15-19 ต.ค. จะมีบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้ผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคใต้ฝั่งจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะนี้

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

[Addmobile]

ในวันที่ 14 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยทำให้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้
ส่วนในวันที่ 15-20 ต.ค. จะมีบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้ผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคใต้ฝั่งจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะนี้

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม

ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง

[DEN SWK]

แลงนี้จะตกก่อครับ จะไป.....ปลาหลังบ้าน

[Addmobile]

แลงนี้จะตกก่อครับ จะไป.....ปลาหลังบ้าน

รอลุ้นด้วยคนแต่ตอนนี้ครึ้มๆมาละ

[สบายแมน]

กรมอุตุครับวันนี้ฝนจะตกทั่วฟ้าก่อครับ อิ อิ

[Addmobile]

  ;Dอากาศเริ่มเย็นละเน้อครับพี่น้องรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 18-19 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบน
มีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีฝนน้อย

ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกจะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ

หลังจากจากนั้นในช่วงวันที่ 23-24 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้น

สำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 18-20 และ 23-24 ต.ค.

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 18-20 และ 23-24 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 18-19 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

ทางจีนหนาวเข้ากระดูกขึ้นเรื่อยๆ ไม่กี่วันความกดอากาศสูงจากทางนั้นก็จะแผ่เข้าเหนือ


...ภาพหิมะแรกในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เมื่อวันที่ 17 ต.ค

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 23-24 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งภาคใต้ตอนล่าง จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยตอนกลางและภาคใต้ และจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือและทะเลจีนใต้ ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนพายุดีเปรสชันบริเวณทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์จะเคลื่อนทางตะวันตกลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะทางด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 23-25 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 23-27 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

[60RADIO]

ยังจะมีฝนอีกเหรอ

[ขี้เหล้าอาวุโส]

ดอกคำใต้อากาศเย็นสบายครับ

[Addmobile]

เพิ่มเติมเชียงรายเกิดแผ่นดินไหวติดต่อกัน3วันครับ
ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการเกิดแผนดินไหวในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยเมื่อเวลา 05.23 น. ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวขนาดการสั่นสะเทือนตามมาตราริกเตอร์ 2.9 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่จัน เบื้องต้นไม่มีการสั่นสะเทือนตามมาอีก หรืออาฟเตอร์ช็อค

อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงรายมีแผ่นดินไหวในพื้นที่ติดต่อกัน 3 วัน คือ
- วันที่ 22 ตุลาคม พื้นที่ อ.เชียงแสน การสั่นสะเทือน 3.1 ริกเตอร์
- วันที่ 23 ตุลาคม อ.แม่จัน การสั่นสะเทือน 2.7 ริกเตอร์
- วันที่ 24 ตุลาคม อ.แม่จัน สั่นสะเทือน 2.9 ริกเตอร์

[Addmobile]

การคาดหมาย พายุไต้ฝุ่น “เซินตินห์” (SON-TINH) บริเวณอ่าวตัวเกี๋ยจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งใกล้กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามตอนบนในคืนนี้ (28 ต.ค. 55)จากนั้นจะอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ในช่วงวันที่ 28-29 ต.ค. บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมแรง
ในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-3 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา โดยเริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง   ข้อควรระวัง - ในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “เซินตินห์”"
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2555
   
        เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (29 ต.ค. 55) พายุไต้ฝุ่น “เซินตินห์”(SON-TINH) บริเวณอ่าวตังเกี๋ยได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว และได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 21.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนตะวันออกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยโดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาคมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเป็นแห่งๆ กับมีลมแรงต่อไปอีกหนึ่งวัน

        สำหรับ ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม 2555 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอากาศจะเย็นลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงนี้

       

        ประกาศ ณ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 05.30 น.

       

       

[สบายแมน]

กรมอุตุครับ วันพุกจะเป๋นหยังไดพ้องครับ

[Addmobile]

  ;Dการคาดหมาย  ในช่วงวันที่ 3-4 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง
ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย

ส่วนในช่วงวันที่ 5–9 พ.ย. จะมีบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตก

หนักบางแห่ง

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 3-4 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
 
ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

เว้นแต่ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า
 

กลุ่มเมฆที่ 1 :    ประเทศไทยตอนบนท้องฟ้าโปร่งเป็นส่วนมากเนื่องจากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
กลุ่มเมฆที่ 2 :    ลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยตอนบนโดยมีฝนฟ้าคะนองบริเวณภาคใต้ และบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย
กลุ่มเมฆที่ 3 :    กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้ตอนล่างโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตก และชายฝั่งทะเลอันดามัน

[Addmobile]

  ;Dจะมีฝนมาแหมน้อยครับ
การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคอื่นๆมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย ในระยะนี้
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย. จะมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนในระยะแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบต่อไป สำหรับบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และในช่วงวันที่ 12-14 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 8-11 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

[Addmobile]

 

แผ่นดินไหวพม่า 6.6 ริกเตอร์รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2012 เวลา 08:46 น.   ประเทศ


สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานเหตุแผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ เมื่อ 08.12 น. ของวันนี้  11 พฤศจิกายน 2555 จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่  :  MYANMAR  ละติจูด  : 22° 56' 24'' เหนือ  ลองจิจูด  : 95° 57' 00'' ตะวันออก  ความลึกจากระดับผิวดิน : 2 กิโลเมตร

มีรายงานว่าเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว มีผลให้หลายพื้นที่ในกทม.ที่เป็นตึกสูงสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวได้  อย่างไรก็ตาม  เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย

ด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งว่า เมื่อ 08.12 น.เกิดแผ่นดินไหวบนบก 6.8 ริกเตอร์ ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณประเทศพม่า ห่างจากอำเภอปางมะผ้า จ. แม่ฮ่องสอน 456 กิโลเมตร  จากนั้นมีการปรับระดับแผ่นดินไหวที่ 6.6 ริกเตอร์

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ส่วนอ่าวไทยและภาคใต้จะมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมี

คลื่นกระแสลมตะวันออกจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้ามาปกคลุมได้อีกในช่วงนี้

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนบนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนให้ระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่

โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันตกของภาค

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

[Addmobile]

ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555 - 1 ธันวาคม 2555
การคาดหมาย    การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันออกที่ปกคลุมอ่าวไทยตอนกลางจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้อีก ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส

ข้อควรระวัง   ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือโดยเฉพาะอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว

อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[Addmobile]

คาดหมาย ในช่วงวันที่ 5-10 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงอีก อุณหภูมิจะลดลงอีก 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับบริเวณภาคใต้จะมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โบพา” (BOPHA) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้โดยจะอ่อนกำลังลงและสลายตัวบริเวณทะเลจีนใต้ สำหรับพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ข้อควรระวัง   วันที่ 5-10 ธ.ค. ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และขอให้ชาวเรือบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ช่วงวันที่ 5-10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-17 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.