รายงานสภาพอากาศ/เตือนภัย/ทั่วทุกภาคของประเทศครับ

[piamsinn]

+1

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนมีฝนบางแห่ง กับมีอากาศหนาวเย็น ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป เว้นแต่ภาคเหนือที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นและอุณหภูมิจะลดลงได้อีกเล็กน้อย ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง    ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และหนาวเย็นลง และขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 14-18 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

[Addmobile]

วันที่19-22อากาศจะเย็นลงอีกครับดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 16-18 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีกระแสลมตะวันตกในระดับสูงพัดปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางยังมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุมทำให้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. บริเวณวามกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกระแสลมตะวันตกในระดับสูงจะยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง

โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางแห่งบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ สำหรับภาคใต้จะมีเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง   ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 20-22 ธ.ค. ไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 16-19 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส

ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

[Addmobile]

ในช่วงวันที่ 4-6 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณภูเขาสูงมีอากาศหนาวจัด สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
สำหรับพายุโซนร้อน “โซนามุ” (SONAMU) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียในช่วงวันที่ 7-8 ม.ค. นี้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 4-6 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงไว้ด้วย โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 4-6 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

[~KT 2 U~]

ปี2554  อุณหภูมิ ต่ำสุดที่วัดได้ 10 องศา (บ้านริมลาว ต.ป่าอ้อดอนชัย) ปลายปี 2555-ต้นปี 2556  อุณหภูมิต่ำสุดที่วัดได้ 15 องศา

นั่นหมายถึงปีนี้อุณหภูมิสูงขึ้น 5 องศา   แล้วฤดูร้อนจะเป็นไงเนี่ย

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในวันที่ 26 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย
ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรกและอากาศเย็นลงโดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ตลอดจนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากอากาศหนาวเย็น

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17
องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น กับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงในระยะแรกและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น

อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



    
กลุ่มเมฆที่ 1 :
  พบกลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากเรดาร์ตรวจอากาศตรวจพบกลุ่มฝนบางพื้นที่บริเวณจ.ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
กลุ่มเมฆที่ 2 :
  พบกลุ่มเมฆฝนปกคลุมบริเวณภาคตะวันออก จากภาพเรดาร์ตรวจอากาศตรวจพบกลุ่มฝนบริเวณ จ.ชลบุรี ระยองและบริเวณชายฝั่งมีแนวโน้วเคลื่อนที่ไปทางจ.เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
กลุ่มเมฆที่ 3 :
  ภาคใต้ตอนล่างมีเมฆบางส่วน จากภาพเรดาร์ตรวจไม่พบกลุ่ม

[Addmobile]

ยังมีฝนอยู่เน้อครับรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. คลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากในช่วงวันที่ 5-8 ก.พ. จะมีฝนลดลง และอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
สำหรับอ่าวไทย และภาคใต้ จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ. ทำให้ภาคตะวันออกมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ก.พ. ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบริเวณประเทศไทยตอนบน"
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 31 มกราคม 2556
     คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง โดยภาคเหนือจะมีฝนตกหนักและลูกเห็บตกได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวในระยะนี้
        อนึ่ง ลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

        ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 05.30 น.

       

        (ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

        (นายสมชาย ใบม่วง)

        รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

        อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

       

[ขี้เหล้าอาวุโส]

ขอบคุณครับ จะได้เตรียมตัวรับมือ

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 18-19 ก.พ. มีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆได้ในระยะนี้
ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 20-24 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ประกอบกับในช่วงวันที่ 22-24 ก.พ.จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 20-24 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย และในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนที่เพิ่มขึ้นและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ และขอให้ชาวเรือบริเวณภาคใต้ ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมที่แรงขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย โดยเฉพาะเรือเล็กบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรงดออกฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 18-20 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
และมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง

บางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


    
กลุ่มเมฆที่ 1 :
  ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน จากเรดาร์ตรวจอากาศพบกลุ่มฝนบางพื้นที่บริเวณ จ.เพชรบูรณ์
กลุ่มเมฆที่ 2 :
  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน ตรวจพบกลุ่มฝนบริเวณจ.ชัยภูมิ
กลุ่มเมฆที่ 3 :
  ภาคใต้ มีเมฆบางส่วน ตรวจพบกลุ่มฝนเล็กน้อยทางตอนล่างของภาค
ผู้วิเคราะห์ :
  นางสาวจันจุดา พรศรี

[~KT 2 U~]

วันนี้บดๆ มืดๆ  ฮ้อนมาก จะแห้งตายติดขอบถนนละ (แมงหยัง)

ถ้าจะฮ้อนขนาดนี้ขอหื้อฝนตกมาเลยดีกว่า

 

[Sherpiko]

ตอนนี้แถวเมืองพาน มีลม บดๆมืดๆ สีท่าจะมีฝน กั๋วบ่าเห็บตกครับ

[kangaroo_41]

มีเวปอะไรบ้างครับ ที่ดูได้แบบ เรียวทาม นะครับ

[Addmobile]

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ซึ่งสภาวะอากาศดังกล่าวจะมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงได้อีก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง
ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 3-7 มี.ค. ขอให้ชาวเรือในบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่งใน

อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
เตรียมรับมือกันก่อนนะครับกลัววว่าจะลงแรงเอาอย่างอื่นปนฝนลงมาด้วย

[~KT 2 U~]

เอาละ ฝนจะตกแหมละ 60% นี่ตกแน่ๆ

วันนี้ฮ้อนมากๆๆๆ

[Addmobile]

มีรายงานแผ่นดินไหวพม่า3.5ริกเตอร์ครับhttp://www.thairath.co.th/content/region/331471
การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 10-13 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้มีฝนบริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ
สำหรับในช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้

ข้อควรระวัง   ในวันที่ 14-16 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 10-13 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนในตอนกลางวันมีอากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    ในช่วงวันที่ 10-13 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. อากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[สบายแมน]

เช้านี้อากาศเย็นนะครับต้องห่มผ้าเลย

[ⒷⒼ*]

เห็นข่าว  18-19-20 จะมีฝนเข้าภาคเหนืออีกครั้งนะครับ

[Addmobile]

เห็นข่าว  18-19-20 จะมีฝนเข้าภาคเหนืออีกครั้งนะครับ

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 มี.ค. ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลาง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆในระยะนี้ ข้อควรระวัง   ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค. ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย
ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 18-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงบางแห่ง
อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

   
กลุ่มเมฆที่ 1 :
  ภาคเหนือท้องฟ้าโปร่งเป็นส่วนมาก และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
กลุ่มเมฆที่ 2 :
  กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกโดยมีฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดนครนายกและปราจีนบุรี
กลุ่มเมฆที่ 3 :
  กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์

[Army_Vanza]

แต่วันนี้เชียงราย ซิตี้ ร้อนมากๆ แสบแขนเรย YoY

[Rosemobile]

แต่วันนี้เชียงราย ซิตี้ ร้อนมากๆ แสบแขนเรย YoY

อากาศร้อนอบอ้าวจริงๆเลยวันนี้