|
|
|
|
|
|
Caps
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 169

|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2012, 09:22:53 » |
|
เชียงรายมหานคร...
ผมเป็นคนเชียงใหม่ ไม่มีความรู้สึกอะไรกับการเป็น "มหานคร" อะไรนี่เลย เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้มิดีกว่าหรือ ประโยชน์ที่แท้จริงไม่น่าจะตกกับชาวบ้านมากนัก นักการเมืองต่างหากที่จะได้รับ คอยดูสิครับ
|
ชีวิตนี้เพื่อชาติ และ ราชบัลลังก์
|
|
|
|
|
|
|
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้

ออฟไลน์
กระทู้: 9,536

HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2012, 16:48:39 » |
|
อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง เราชนชาวล้านนาสามารถอนุรักษ์วัฒนธรรมบริหารตัวเองได้ ดีกว่าแน่นอน คนต่างถิ่นจะรู้อะไรดีกว่าคนในพื้นที่ล่ะครับ ไปโรงเรียนเด็กในเชียงใหม่ ลำปาง แม้แต่โรงเรียนในเชียงราย เด็กไม่ค่อยพูดภาษาเหนือกันเลย นี้หรือ เมืองเหนือ หันตวยสุด บางคนโทรมาถาม... สำเนียงเมืองแต้ๆ ก็ยังจะอู้ไท ใส่เฮาอยู่..ถามไท...เฮาตอบเมือง +1 บ่าเดี่ยวนี้ละอ่อนบ่ค่อยอู้ภาษาเมือง อู้ตวยก็ตอบภาษากลาง เลยบ่อู้โตยเลย (สะลิดนัก)  แต้ว่า อิอิ
|
ขาดแคลนเงินตรา แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่ สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
|
|
|
wiichy
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 349
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2012, 17:27:16 » |
|
เชียงรายมหานคร...
ผมเป็นคนเชียงใหม่ ไม่มีความรู้สึกอะไรกับการเป็น "มหานคร" อะไรนี่เลย เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้มิดีกว่าหรือ ประโยชน์ที่แท้จริงไม่น่าจะตกกับชาวบ้านมากนัก นักการเมืองต่างหากที่จะได้รับ คอยดูสิครับ ช่ายยยย ไม่ได้กลัวการเปลี่ยนแปลงนะแต่จะเป็นมหานครยังไงการปกครองก็ต้องพึ่งส่วนกลางอยู่ดี ชาวบ้านเหรอยากที่จะได้เป็นส่วนร่วม ที่ไม่ไปทำงานกรุงเทพฯก็เพราะไม่ชอบชีวิตที่วุยวายแออัดนั่นแหละเลยเลือกที่จะอยู่เชียงใหม่ เป็นคนเชียงใหม่ เรียนเชียงใหม่ ทำงานเชียงใหม่ ความเป็นแปลงในเชียงใหม่ก็พอรู้อยู่เพราะเป็นคนเชียงใหม่....วันนี้เขาก็ทำบุญเมืองกัน หรือประโยชน์จะอยู่กับคนเชียงใหม่มากขึี้น เพราะมีงบประมาณไว้ใช้จ่ายเอง นักการเมืองก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มาจากการเลือกตั้งของเราเอง คนไหนทำดีไม่ดีรู้มั๊ย ก็รู้ๆกันอยู่เหมือนการเมืองท้องถิ่นทุกวันนี้ ที่ชาวบ้านชาวเมืองไม่ได้เลือกเพราะยึดติดแค่พรรค แต่ดูที่ผลงาน การดำเนินงานต่างๆก็รวดเร็ว เพราะสิ้นสุดที่ระดับจังหวัดไม่ต้องส่งเรื่องไปถึงยังกระทรวงแล้วรอตีเรื่องกลับ หากเกิดการทุจริต ประชาชนก็รู้สึกแน่นอนว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 มิถุนายน 2012, 17:45:52 โดย wiichy »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
cobannight
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 174

|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2012, 22:39:04 » |
|
โครงการนี้ เอาจริงๆ เกิดยากครับ การออกมาตั้ง เชียงใหม่มหานคร ก็เหมือนกับการมาตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่ เบื้องบนเขาไม่ยอมปล่อยให้มีการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง เหมือนการย้ายเมืองหลวง ออกจาก กทม. ยังมีการเตะขัดขาล้มระเนระนาด ทั้งๆที่เป็นการย้ายแค่ศูนย์ราชการ ซึ่งจะเป็นการกระจายความแออัดใน กทม ลง
หรืออย่างการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ดูเหมือนมีการกระจายอำนาจ แต่จริงๆแล้ว ศูนย์กลางอำนาจยังอยู่ที่เดิม ท้องถิ่นยังต้องแบมือขอตังค์รัฐ ยังต้องฟังคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมาจากการแต่งตั้งจากศูนย์กลาง
ผมจึงเชื่อว่าการตั้ง เชียงใหม่มหานครเป็นไปได้ยากจริงๆครับ
เชียงใหม่มหานคร เป็นแค่เพียงการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นแบบจริงๆจรังๆเท่านั้นเองครับ ไม่ใช่การย้ายเมืองหลวง เมืองราชการอะไร จะเป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษของไทยเรา โดยที่จะตัดการปกครองส่วนภูมิภาคในจังหวัดออกซะ ท้องถิ่นก็จะมีอำนาจ อิสระ งบประมาณในการบริหารตนเองมากขึ้น มีอิสระกว่า กทม.และเมืองพัทยา การปกครองแบบนี้ ดูพิเศษวำหรับไทย แต่ประเทศอื่นคือเรื่องปกติครับ เพราะประเทศส่วนใหญ่ในโลกตอนนี้ แทบไม่มีประเทศไหนมีการปกครองส่วนภูมภาคแบบเราแล้ว การที่เชียงใหม่ดิ้นทำแบบนี้เพราะชาวเชียงใหม่รู้สึกอึดอัดกับปัญหาของจังหวัดของตนเอง ที่ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขช้า เพราะต้องรอส่วนกลาง หากเดินเส้นทางเดิมเชียงใหม่ก็จะไม่ต่างอะไรจาก กทม. การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นแบบนี้จึงเป็นคำตอบ ส่วนคำว่ามหานครที่เติมท้ายมานั้นเป็นเพียงแค่ชื่อล้อๆ เป็นตุ๊กตาที่เอามาจากกรงุเทพมหานคร ในเมื่อ กทม.อายุสองร้อยกว่าปียังมีมหานครต่อท้าย แล้วเชียงใหม่อายุเจ็ดร้อยกว่าปีทำไมจะมีไม่ได้ ถ้าหากทำสำเร็จได้ การปกครองส่วนภูมิภาคในจังหวัดจะไม่มี เชียงใหม่จะดูแลตนเองเกือบทุกเรื่อง เช่นตำรวจ การสาธารณสุข การผังเมือง การจัดเก็บภาษี การเกษตร การศึกษา การจารจร ยกเว้นเรื่องที่ไม่แตะต้องคือ การศาล การเงิน การต่างประเทศ การทหารจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลาง แล้วเอางบประมาณมาจากไหนล่ะ??? เชียงใหม่มหานครกำนดรายได้ให้มาจากภาษีที่จัดเก็บได้ โดยส่งเข้าส่วนกลางแค่ 30% อีก70% จะใช้ภายในเชียงใหม่ ซึ่งต่างกับปัจจุบันที่ทุกจังหวัดเก็บภาษีได้เท่าไหร่ส่งส่วนกลางหมด แล้วค่อยแจกจ่ายไปตามหน่วยงานต่างๆตามปีงบประมาณ ซึ่งน้อยนิด สมมติว่าเชียงใหม่เก็บภาษีทุกประเทศไทยแสนกว่าล้าน 70% ที่เชียงใหม่ได้ใช้คือ 70000 ล้าน พอนึกภาพออกมั๊ยครับเงินเจ็ดหมื่นล้านใช้ในจังหวัดเดียวสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วเงินเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงว่านักการเมืองท้องถิ่นจะไม่กลับมาหาจังหวัด เพราะงบก็อยู่ที่นี้แล้ว ท้ายที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนไว้ว่า รัฐบาลต้องส่งเสริมสนับสนุนท้องถิ่นที่มีความสามารถในการจัดการตนเองได้ โดยที่โมเดลแบบเชียงใหม่มหานครนี้มีอีกราว 45 จังหวัดที่มีศักยภาพพอในการทำ ถูก...นึกว่าจะไม่มีใครอธิบายซะแล้ว
|
อิสรชน คนกลางคืน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ohio888
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 782

|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2012, 16:35:45 » |
|
โครงการนี้ เอาจริงๆ เกิดยากครับ การออกมาตั้ง เชียงใหม่มหานคร ก็เหมือนกับการมาตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่ เบื้องบนเขาไม่ยอมปล่อยให้มีการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง เหมือนการย้ายเมืองหลวง ออกจาก กทม. ยังมีการเตะขัดขาล้มระเนระนาด ทั้งๆที่เป็นการย้ายแค่ศูนย์ราชการ ซึ่งจะเป็นการกระจายความแออัดใน กทม ลง
หรืออย่างการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ดูเหมือนมีการกระจายอำนาจ แต่จริงๆแล้ว ศูนย์กลางอำนาจยังอยู่ที่เดิม ท้องถิ่นยังต้องแบมือขอตังค์รัฐ ยังต้องฟังคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมาจากการแต่งตั้งจากศูนย์กลาง
ผมจึงเชื่อว่าการตั้ง เชียงใหม่มหานครเป็นไปได้ยากจริงๆครับ
เชียงใหม่มหานคร เป็นแค่เพียงการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นแบบจริงๆจรังๆเท่านั้นเองครับ ไม่ใช่การย้ายเมืองหลวง เมืองราชการอะไร จะเป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษของไทยเรา โดยที่จะตัดการปกครองส่วนภูมิภาคในจังหวัดออกซะ ท้องถิ่นก็จะมีอำนาจ อิสระ งบประมาณในการบริหารตนเองมากขึ้น มีอิสระกว่า กทม.และเมืองพัทยา การปกครองแบบนี้ ดูพิเศษวำหรับไทย แต่ประเทศอื่นคือเรื่องปกติครับ เพราะประเทศส่วนใหญ่ในโลกตอนนี้ แทบไม่มีประเทศไหนมีการปกครองส่วนภูมภาคแบบเราแล้ว การที่เชียงใหม่ดิ้นทำแบบนี้เพราะชาวเชียงใหม่รู้สึกอึดอัดกับปัญหาของจังหวัดของตนเอง ที่ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขช้า เพราะต้องรอส่วนกลาง หากเดินเส้นทางเดิมเชียงใหม่ก็จะไม่ต่างอะไรจาก กทม. การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นแบบนี้จึงเป็นคำตอบ ส่วนคำว่ามหานครที่เติมท้ายมานั้นเป็นเพียงแค่ชื่อล้อๆ เป็นตุ๊กตาที่เอามาจากกรงุเทพมหานคร ในเมื่อ กทม.อายุสองร้อยกว่าปียังมีมหานครต่อท้าย แล้วเชียงใหม่อายุเจ็ดร้อยกว่าปีทำไมจะมีไม่ได้ ถ้าหากทำสำเร็จได้ การปกครองส่วนภูมิภาคในจังหวัดจะไม่มี เชียงใหม่จะดูแลตนเองเกือบทุกเรื่อง เช่นตำรวจ การสาธารณสุข การผังเมือง การจัดเก็บภาษี การเกษตร การศึกษา การจารจร ยกเว้นเรื่องที่ไม่แตะต้องคือ การศาล การเงิน การต่างประเทศ การทหารจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลาง แล้วเอางบประมาณมาจากไหนล่ะ??? เชียงใหม่มหานครกำนดรายได้ให้มาจากภาษีที่จัดเก็บได้ โดยส่งเข้าส่วนกลางแค่ 30% อีก70% จะใช้ภายในเชียงใหม่ ซึ่งต่างกับปัจจุบันที่ทุกจังหวัดเก็บภาษีได้เท่าไหร่ส่งส่วนกลางหมด แล้วค่อยแจกจ่ายไปตามหน่วยงานต่างๆตามปีงบประมาณ ซึ่งน้อยนิด สมมติว่าเชียงใหม่เก็บภาษีทุกประเทศไทยแสนกว่าล้าน 70% ที่เชียงใหม่ได้ใช้คือ 70000 ล้าน พอนึกภาพออกมั๊ยครับเงินเจ็ดหมื่นล้านใช้ในจังหวัดเดียวสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วเงินเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงว่านักการเมืองท้องถิ่นจะไม่กลับมาหาจังหวัด เพราะงบก็อยู่ที่นี้แล้ว ท้ายที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนไว้ว่า รัฐบาลต้องส่งเสริมสนับสนุนท้องถิ่นที่มีความสามารถในการจัดการตนเองได้ โดยที่โมเดลแบบเชียงใหม่มหานครนี้มีอีกราว 45 จังหวัดที่มีศักยภาพพอในการทำ ผมว่าฉลาดดี เพราะจะได้เก็บเงินเข้าจังหวัดได้เต็มที่ถึง 70% และส่วนกลาง 30% เชียงรายน่าจะคิดได้แล้วทำบ้าง ทุกวันนี้มีไครทราบว่า ส่งส่วนกลางกี่ % แต่เท่าที่รู้นั้นมันเหมือนการเอาไปพัฒนาเมืองหลวงแทบหมด แล้วที่สำคัญ ทำไมต่างจังหวัดถึงเลือกตั้งผู้ว่าเองเหมือน กทม. ไม่ได้ คิดๆๆๆ ติ๊กตอกๆๆๆ
|
อย่าคลั่งชาติจนมากไป ประเทศไทยยังมีขอทาน (อย่าโลกสวย)
|
|
|
|
|
|
|