เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 17:20:58
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  อยากทราบเรื่องอานิสงส์การนั่งสมาธิค่ะ
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน อยากทราบเรื่องอานิสงส์การนั่งสมาธิค่ะ  (อ่าน 17286 ครั้ง)
Alisa_An
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 14:36:40 »

เคยได้ยินมาว่าการนั่งสมาธินี่ได้อานิสงส์แรง แต่ไม่ทราบว่าแรงขนาดไหน มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้หรือเปล่าคะ
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 15:16:46 »

เคยได้ยินมาว่าการนั่งสมาธินี่ได้อานิสงส์แรง แต่ไม่ทราบว่าแรงขนาดไหน มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้หรือเปล่าคะ

อานิสงฆ์มากมายมหาศาลเลยละครับ  สามารถเปลี่ยนคนจากคนธรรมดาให้กลายเป็น

อริยบุคคลเลยละครับ  ปิดประตูอบายไม่ต้องตกนรก มีสุคติเป็นที่หวังแม้ในโลกนี้และโลก

หน้า ทั้งนี้สมาธิที่ผมกล่าวมาหมายถึง อัปปนาสมาธิ น่ะครับ ได้แล้วก็นำไปพิจารณาธรรม

กันต่อไป จนสำเร็จ โสดาบันเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องปลาย....


**************************************************

IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 15:29:44 »

ส่วนเรื่องจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตนั้น ถ้าอยากให้เห็นผลไว้แรงและเร็ว แนะนำให้ถือศีล
ครับ อย่างน้อยๆก็สัก 3 วัน ศีล 5 ศีล 8 ก็แล้วแต่ความสะดวกลองปฏิบัติดูครับ ผลที่เห็น
ชัดเจนก็ตัวเราละครับที่สัมผัสได้คนแรกและหากประพฤติปฏิบัติได้ตลอดชีวิตได้ยิ่งดีแล้วชะตาชีวิตคุณเปลี่ยนแน่นอนครับ เริ่มวันนี้ก็เปลี่ยนวันนี้ละครับ
เริ่มแรกก็อาจถือเอาวันหยุดงานเช่นเสาร์อาทิตย์ไปปฏิบัติรักษาศีลที่วัดสัปดาห์ละวันก็ยังดี
อย่าเพิ่งเชื่อผม พิสูจน์ด้วยตัวเองครับ ตั้งใจทำจริงก็ได้ของจริง ทำเล่นๆไม่จริงจังก็ตรงข้าม ก็อยู่ที่ตัวคุณละครับ..??
 
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 15:39:11 »

ระดับของสมาธิ

ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ (ของพระธรรมปิฎก ป.อ. ปยุตฺโต)ให้นิยามไว้

ว่า

ขณิกสมาธิ สมาธิชั่วขณะ, สมาธิขั้นต้นพอสำหรับใช้ในการเล่าเรียนทำการงานให้ได้ผลดี

ให้จิตใจสงบสบายได้พักชั่วคราว และใช้เริ่มปฏิบัติวิปัสสนาได้ (ขั้นต่อไป คือ อุปจาร

สมาธิ) (ข้อ ๑ ในสมาธิ ๓)

อุปจารสมาธิ สมาธิจวนจะแน่วแน่,สมาธิที่ยังไม่ดิ่งถึงที่สุด เป็นขั้นทำให้กิเลส มีนิวรณ์เป็น

ต้นระงับ ก่อนจะเป็นอัปปนา คือถึงฌาน

อัปปนาสมาธิ สมาธิแน่วแน่,จิตตั้งมั่นสนิท เป็นสมาธิในฌาน
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 16:08:43 »

‘ผู้ที่ปฏิบัติที่แท้จริงนั้น ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชาติหน้าชาติหลัง หรือนรกสวรรค์อะไรก็ได้

ขอให้ตั้งใจปฏิบัติให้ตรง ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างแน่วแน่ก็พอ ถ้าสวรรค์มีจริงถึง ๖ ชั้น ตาม

ตำรา ผู้ปฏิบัติดีแล้ว ก็ย่อมได้เลื่อนฐานะของตนเองตามลำดับ หรือถ้าสวรรค์นิพพานไม่มี

เลย ผู้ปฏิบัติดีในขณะนี้ย่อมไม่ไร้ประโยชน์ ย่อมอยู่เป็นสุขเป็นมนุษย์ชั้นเลิศ’
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 18:35:29 »

ได้ ละชั่ว
ทำดี

ทำจิตให้ดี

อานิสงส์ แปลง่ายๆ ที่สุด ว่า

ผลพลอยได้

ง่ายๆอีก
คือ ได้ของแถม
ฝึกสมาธิ คือ ฝึกจิตตั้งมั่น
มั่นน้อย ของ แถม น้อย
น้อยมากๆ เช่น ได้นั่งฟุ้ง
ได้ทนนั่ง ก็ ไปเป็น นั่งทน
ได้หลับใน สงบเกิน ขาดสติ
ได้ สติ
ได้ฌาน ได้อิทธิฤทธ์ ตาทิพย์   หูทิพย์ มโนมยิทธิ
ได้ญาณ ได้ ปัญญา

ฌาน ย่อมไม่มีในผู้ ไม่มี ญาณ
ญาณ ย่อมไม่มีในผู้ไม่มี ฌาน
ญาน คือ ปัญญา ในความสำเร็จ

ผมได้นั่งทน กับ ทนนั่ง ของแถมแค่นี้ ก็ ยัง ดี กว่า
พวก คิดผิด เห็นผิด ครับ
จิต จัดให้ เอง

ปัญญา เริ่ม จาก จิตได้ตั้งแต่ ปฐมฌาน
คือ ฌาน1

ฝึกมาก่อน มาหลัง ไม่สำคัญ เท่า ได้ก่อน

ได้ก่อน หลัง ไม่เท่า คุณภาพจิต ที่ ได้

ได้โลกีย์ ยังดี ที่ได้   ได้ โลกุตร ดีกว่า โลกียะ

 มีไปหลายระดับ ครับ ของแจก แถม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 17:12:58 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2012, 19:31:52 »

อานิสงส์ของสมถะ(สมาธิ)นั้นมี ๕ ประการ คือ
๑. ทำให้เข้าสมาบัติได้ เพื่อเป็นสุขในภพปัจจุบัน
๒. ทำให้เป็นบาทวิปัสสนา
๓. ทำให้เกิดโลกียอภิญญา ๕ ประการ
๔. ทำให้เกิดเป็นพรหม
๕. ทำให้เข้านิโรธสมาบัติได้

อานิสงส์ของวิปัสสนา
๑. มีสติมั่นคงไม่ตายด้วยความหลง
๒. ได้เกิดอยู่ในสุคติภูมิ (คือมนุษย์สวรรค์)
๓. ถ้าอุปนิสัยยังอ่อนอยู่ ก็จะเป็นอุปนิสัยติดขันธสันดานไปในภพหน้า
๔. ถ้ามีอุปนิสัยและอินทรีย์แก่กล้า ก็จะทำพระนิพพานให้แจ้งด้วยปัญญาภายใน ๗ วันหรือ ๗ เดือน หรือ ๗ ปี พระอรหันต์หรือพระอนาคามี พึงหวังได้

*****************************************************
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว จขกท คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้ไหมครับ...??
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2012, 22:33:40 »

ช่วงดวงตก อาจเป็นช่วงเวลาที่นักโหราศาสตร์ คำณวน เวลาว่า เป็น ช่วงจิตตก ช่วงอกุศลเข้ามาให้ผลได้ ง่าย
การทำทาน กุศลส่งได้ระดับ หนึ่ง ยังด้อย กว่า รักษา ศีล
การรักษาศีล ศีลช่วย รักษา กาย วาจา มีอานิสงส์ประโยชน์สูงกว่าทานล
ศีล ยังช่วยรักษา สมาธิ
สมาธิ ช่วย รักษาปัญญา
ได้ปฐมฌาน ได้ ชื่อว่ามี ปัญญา จากการ ภาวนา
ภาษาพระ เรียก ภาวนามยปัญญา เป็นบาทฐาน สู่ วิปัสสนา
ฌานเสื่อมไปแล้ว ยังไม่แน่ว่าจะมี ปัญาจาก ภาวนา เสื่อมตามไปด้วย หรือ ไม่
ตราบใด ยังไม่ใช่อริยะ
มีโลกียฌาน ก็ลง นรก ตัวเป็น ๆได้ แบบพระเทวทัต

แค่โลกียฌานก็ ไม่ธรรมดา มีทิพยอำนาจ อิทธิวิธี
ไปทัวร์โลกอื่น มิติอื่น ยังไหว ไปสววรค์ตั้งแต่ยังไม่ตาย หรือ ตัวยังเป็นๆหากจิตมีกุศลทรงฌานในขณะนั้น
ขนาดเศรษฐีโลกที่ไม่มีฤทธ์ ไม่มีฌาน ก็ไม่อาจจะไปได้ด้วยอำนาจเงิน

อาจารย์ บอกว่า
หากทำสมาธิได้ฌาน
ขณะทรงฌานสมาบัติ(เข้าถึง ตั้งอยู่ในฌาน) จิต เกิด ปิติ ซาบซ่าน ขนลุกชัน รู้สึกเหมือน ตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวโยก ตัวโคลง ตัวสั่น
ตัวหมุนติ้วเหมือน ลูกข่าง
ลอยขึ้น จากพื้น
จัดเป็น อานิสงส์ผลพลอยได้ ของแถม จาก ฌานสมาบัติ
ความสุข ที่เงินซื้อไม่ได้ ครับ

ด้วย อำนาจการทรงฌาน บ่อยๆ มีกุศลจิตเกิด บ่อยๆ
อกุศลกรรมจะรอให้ผล รอคิวไปเถอะ เมื่อ จิตตก จาก กุศล จึงจะได้ผลของกรรมชั่ว

กุศลจิตที่หล่อเลี้ยงบ่อยๆ
จะดึงกุศลผลกรรมดีน้อยใหญ่ ในอดีตชาติ ตลอดปัจจุบันชาติ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ ก็ดี  
หรืออาจ อธิษฐานขอให้ผลวิบากกรรมดีของเราทั้งหลายมาหนุนชีวิตอัตภาพ นี้ ให้ ดีขึ้นจาก ทุกข์ด้วยเถิด หรือ ไม่อธิษฐาน ก็มาตามเหตุปัจจัยที่ดี อยู่แล้ว

ยินดีในคำถาม ขอบคุณคำถาม ขอให้ได้บุญทั้งมนุษย์ อมนุษย์นะครับ ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน
ขอบคุณอาจารย์อิทธิ ท่านเมฆพัตร ที่ ทำให้ขยายการอธิบาย เพิ่มเติมได้สะดวก

สาธุอนุโมทามิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 17:14:27 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2012, 23:39:48 »

อานิสงส์กี่กัล์ป จากการบรรลุ ฌาน

1กัล์ป จาก ปฐมฌาน
8กัล์ป จาก ฌาน 2
64กัล์ป จาก ฌาน 3
500กัล์ป จาก ฌาน 4
2หมื่น กัล์ป จาก อากาสานัญจายตนฌาน
4หมื่น กัล์ป จาก วิญญานัญจายตนฌาน
6หมื่น กัล์ป จาก อากิญจํญจายตนฌาน
84,000 กัล์ป จาก เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน

ท่องเที่ยวอยู่ใน มนุษย์โลก เทวโลก และ พรหมโลก
ตลอด 1 แสนกัล์ป ไม่รู้จัก ทุคติเลย   เมื่อ เจริญพระคาถาธรรมบท บทใด บทหนึ่ง

บรรลุโสดาบันผล ปิดอบายถาวร เกิดอีก ไม่เกิน 7 ชาติ ได้ อรหันตผล (อ่านว่า อะระหัตตะผล / ไม่ใช่ ออระหัตตะผล นะ
หลายคน ออกเสียงผิด แบบว่า ม้า กลาย เป็น หมา / ออระหันต์ เป็น สัตว์ป่าหิมพานต์อย่างหนึ่ง เขาว่ามาผมว่าไป ไม่เคยเห็น)

สกทาคามีอีก 1ชาติจบ เกิดได้ แค่ในมนุษย์ หรือ สวรรค์ เท่านั้น ไม่ได้เกิดในพรหมโลก

อนาคามีไปสู่ อริยภูมิ อันเป็นทิพย์ คือ สุทธาวาสพรหม เท่านั้น
แล้วปฏิบัติ ต่อ จนบรรลุอรหันตผล อยู่ไปจนหมดอายุขัย ก็ดับสูญดับขันธ์ไป

ถามว่า หาก มีแค่องค์เดียวเป็นอรหันต์อยู่ล่ะ และกำลังจะหมดอายุลง
หมดอายุไข เมื่อใด พรหม ชั้นนี้ จักหายไป ทั้งชั้น เมื่อ ท่านดับขันธ์
เพราะ ถ้ายังไม่มีพระอนาคามีใหม่ มาปรากฎ

อรหันต์ ดับขันธ์ ก็สูญไป ไม่เหลือ แม้แต่ จิต
แต่อาจเหลือ แค่ ธาตุเจดีย์ ที่ เราเรียก ว่าพระะธาตุ

พระธาตุ เช่น พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า พระบรมธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุของพระอริยบุคคล
ตั้งแต่ โสดาบัน หลวงปู่สมภาร เมืองบึงกาฬ ครูบาอาจารย์  ท่านเมตตาเล่าให้ผมทราบว่า กระดูก ก็เริ่ม แปรเป็น  พระธาตุ แล้ว

แต่เจดีย์ พระะธาตุ ทั่วไป ปกติที่ สร้างขึ้น คือ สถูป คือ สิ่งก่อสร้าง เป็น วัตถุ ของสมมติ
ต่อให้ สร้างด้วยเพชร หรือ แก้วมณีใดๆ มีค่ามากใน3 โลก หรือ ทุก จักรวา่ล
ก็ไม่สำคัญเท่าพระธาตุจริงๆ เม็ดเล็ก ๆ เท่าเม็ดผงทรายละเอียด
พระธาตุ ของ อริยบุคคล ๆ ไม่อาจสู้ของพระปัจเจกพุทธะ ๆไม่อาจเทียบ ของพระพุทธเจ้า

แม้น พระธาตุเจ้า เป็น วัตถุที่ประมาณค่า  บ่  มิได้  ก็ยัง ไม่อาจสู้ พระธรรมธาตุ พุทธธรรม คำสั่งสอน

แม้นพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตปัจจุบัน และ อนาคต ก็ทรงเคารพ พระธรรม
แม้นพญามาร ก็เคารพพระสัทธรรม

มีแต่มาร ตัวน้อยๆ แหละครับไม่ค่อยเอาพระธรรม


หนานธง มึง ด่าใผ๋
ด่า กู..... คนที่ เป็น กู  โปรดได้ไปอ่าน  ที่กระทู้ นี้ คือ

    กู....ดี...แต่ปาก

เข้าท่าดีครับ

สาธุ จบก่อน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 17:32:25 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2012, 00:37:36 »

พระพุทธเจ้าศากยมุนี
ท่านทรงตรัส กล่าวอ้างพระพุทธเจ้าทั้งหลาย รวมทั้งการทำจิต รวมถึง สมาธิด้วยนั่นแหละ

ว่า
สพฺพปาปสฺส  อกรณ๋   ท่านทั้งหลาย  จงอย่าทำชั่วทุกอย่าง

กุสลสฺ  สูป สมฺปทา  จงทำแต่ ความดี

สจิตฺตปริโยทปน๋  จงทำจิตใจให้ผ่องใส จาก กิเลส

เอต๋  พุทธานสาสน๋  พระพุทธเจ้าทุกองค์  ตรัสอย่างนี้ เหมือนกันหมด

หากการทำสมาธิ หลับตา หลับหู งับปาก ไม่ดี ไม่มีประโยชน์อานิสงส์ผลพลอยได้ที่ดี
พระพุทธศรีศากยมุนีบรมครูเจ้า และ พระพุทธเจ้า ท่านคงไม่สอนให้ ทำจิตให้หมด กิเลส 
สมาธิ ที่ท่านสอน ว่าดี คือ  สัมมาสมาธิ โดย ต้องยกจิต ไปสู่
           วิปัสสนาสมาธิ 
ให้รู้เท่าทัน ในปัจจุบัน เพื่อ ถากถางกิเลส ตัดภพชาติ

คืนตรัสรู้ ท่าน เดินฌาน ทรงจิต ทรงฌาน จนเกิด ญาณ
ญาณ คือปัญญา ในความ สำเร็จ

ทรง  ฌาน แล้ว เอา ปัญญาญาณ ประกอบ
ตัดราก ถอนโคน ต้นกิเลส ทิ้ง
 ด้วย

 มีฌานโลกียะ อย่างเดียว  ยังไม่พอ ต้องเอาญาณ ด้วย จึงเป็น โลกุตร

ฌาน เกื้อหนุน ญาณ เช่นนี้
เหมือน นักปริยัติ นักเทศน์ เกื้อ หนุนนักปฏิบัติได้
ปริยัติ หนุน ปฏิบัติ
ปฏิบัติ หนุน ปฏิเวธ

ฌาน ยิ่งแน่น น่าจะเสริม ญาณทัศสนะ ใครรู้โปรดช่วยขยายความ

เดิมที ท่านทรงเป็น มหาโพธิสัตย์ปัญญาธิกะ
ผู้ตั้งสัตยาธิษฐานเป็น พระพุทธเจ้า ก็มาสำเร็จเริ่มในวันวิสาขะนั้นนั่นเอง ทรงตรัสรู้ธรรม

สาธุ ๆ ๆ
พุทโธ อปฺปมาโณ  พระพุทธคุณ ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ
นโมพุทธายะ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าทั้งหลาย     
       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 17:41:57 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
james_cr2001
magdafVE
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 276


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2012, 14:40:57 »

สมาธิเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต ผมเคยได้ยินเค้าพูดต่อ ๆ กันมาครับ ฟังดูมันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ครับ ผมพูดตามความคิดและตามประสบการณ์ครับ ไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือขัดแย้งกับใครครับ

คือเราต้องยอมรับก่อนครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดกับเรามันต้องมีเหตุมาก่อนผลมันก็จะตามมาอย่างเช่น เราเกิดมาหน้าตาเป็นแบบนี้ ผิวพรรณเป็นแบบนี้ ก็เพราะกรรมเก่ามัีนส่งผลมา
อันนี้พอฟังได้มันสมเหตุสมผลหน่อย เราต้องมาเจอกับคน คนนี้ มาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ยกตัวอย่างเช่น ในเวลาเดียวกันเรานั่งรถโดยสารไปเต็มคันรถ พอรถวิ่งไป เกิดเหตุการณ์รถชนกันข้างหน้า มีคนตายเกลื่อนถนน  ในระหว่างที่รถคันที่เรานั่ง บางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็น
คนที่เห็นก็กลัว หรือสะอิดสะเอียน บางคนชะเง้อมองยังไงก็ไม่เห็น ขนาดเวลาและสถานที่เดียวกันบางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็นภาพที่ไม่สบายใจแบบนั้น

คือทีนี้เราไม่เอาแล้วหล่ะ เพราะกรรมเก่ามันส่งผลทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ แก้ไม่ได้มันแค่รอเวลาที่จะส่งผล เพราะการกระทำกรรม ยังไงต้องรับผลของกรรมก็คือ วิบากครับ เราเลิกคิดถึงเรื่องอดีตไปเพราะเรามองไม่เห็นมันปิดบังไว้หมด ต่อไปเราก็กระทำแต่สิ่งที่ดี ๆ ผลในอนาคตมันก็ต้องดี แบบนี้ก็พอสมเหตุสมผลหน่อย

ที่นี้คำว่าสมาธิ คนธรรมดาทั่ว ๆ ไป มีหมดครับ สมาธิ และสมาธิก็เป็นของสาธารณ
ที่เกิดขึ้นได้กับจิตทุก ๆ ดวงครับ เช่น ขับรถ ทำงาน ก็ต้องมีสมาธิอยู่แล้วครับ
ไม่งั้นรถมันก็ชนกัน ทำงานก็ผิด ๆ ถูก ๆ อันนี้คือ สมาธิแบบโลก ๆ

แต่สมาธิในทางศาสนาพุทธ ก็คือ สัมมาสมาธิ  สัมมาสมาธิ คือ สมาธิที่ตั้งมั่นรู้เนื้อ รู้ตัว
ไม่ไหลไป ไม่หลงไป สมาธิชนิดนี้ เอาไว้ทำวิปัสนาครับ ถ้าเป็นสมาธิแบบนี้อานิสงส์
มีแน่นอนครับ เพราะจิตที่มีสมาธิแบบนี้ ท่านเรียกว่า "มหากุศลจิต"

แต่ถ้าเรานั่งสมาธิ แล้วมันเห็นโน่น เห็นนี่ เคลิบเคลิ้ม ไม่รู้เนื้อรู้ตัว งอก ๆ แงก ๆ ส่ายไปส่ายมา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เหมือนกับคำถามที่ว่า "นอนมาก ๆ แล้วจะรวยไม๊"



IP : บันทึกการเข้า

ลุงหนาน
ผู้ดูแลบอร์ด
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2012, 15:34:49 »

สมาธิมันก็มีอานิสงส์อยู่ 2 ประการคือ อานิสงส์แบบมองไม่เป็น นั่นคือเราคิดว่านั่งแล้วได้บุญ จิตสงบ ตายไปได้ขึ้นสวรรค์ หรือจะนั่งเพื่อลดกรรมอะไรก็แล้วแต่ถือว่า อานิสงส์แบบมองไม่เห็น ส่วนอานิสงส์ข้อสอง คืออานิสงส์มองเห็นชัดเจน ได้แก่สมาธิช่วยให้จิตเราตั้งมั่น มีสติในอิริยาบทการดำเนินชีวิตหรือ การพิจารณาสิ่งๆ ต่างๆด้วยความสุขุมรอบคอบ แต่ข้อนี้ทำแต่สมาธิโดดๆ ไม่ได้ ต้องอาศัยตัวปัญญาเข้ามาช่วยเสริม จึงจะพลิกดวงชะตาชีวิตให้จากสามัญชนขึ้นสู่ความเป็นกัลยาณชนได้ สุดท้ายจนเป้นอริยบุคคล แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงสอน และทรงพาดำเนินมาก่อน ถ้าปฏิบัตินอกลู่นอกทาง หรือข้องแวะกับสิ่งต่างๆ ก็ทำให้ไปถึงช้าได้เช่นกัน หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาก็เหมือนเมล็ดพันธุ์พืช ไม่ใช่ว่าได้มาแล้ว ปลูกจะเติมโตเลยทีเดียว มันต้องมีการเตรียมดิน ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ ดูแลรักษา ไม่ต่างอะไรกับจิต หรือชีวิตเราทีต้องปฏิบัติตามรูปแบบวิถีแนวทางตามที่พระอริยทั้งหลายได้ปฏิบัติ
IP : บันทึกการเข้า

อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดๆ เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน
aook
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 13:49:37 »

อนุโมทนาครับ อานิสงส์ที่ได้จากการทำสมาธิคือสติครับ มีสติในชีวิตทุกอย่างก็จะดีขึ้นครับ
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 18:03:06 »

สมาธิเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต ผมเคยได้ยินเค้าพูดต่อ ๆ กันมาครับ ฟังดูมันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ครับ ผมพูดตามความคิดและตามประสบการณ์ครับ ไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือขัดแย้งกับใครครับ

คือเราต้องยอมรับก่อนครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดกับเรามันต้องมีเหตุมาก่อนผลมันก็จะตามมาอย่างเช่น เราเกิดมาหน้าตาเป็นแบบนี้ ผิวพรรณเป็นแบบนี้ ก็เพราะกรรมเก่ามัีนส่งผลมา
อันนี้พอฟังได้มันสมเหตุสมผลหน่อย เราต้องมาเจอกับคน คนนี้ มาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ยกตัวอย่างเช่น ในเวลาเดียวกันเรานั่งรถโดยสารไปเต็มคันรถ พอรถวิ่งไป เกิดเหตุการณ์รถชนกันข้างหน้า มีคนตายเกลื่อนถนน  ในระหว่างที่รถคันที่เรานั่ง บางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็น
คนที่เห็นก็กลัว หรือสะอิดสะเอียน บางคนชะเง้อมองยังไงก็ไม่เห็น ขนาดเวลาและสถานที่เดียวกันบางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็นภาพที่ไม่สบายใจแบบนั้น

คือทีนี้เราไม่เอาแล้วหล่ะ เพราะกรรมเก่ามันส่งผลทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ แก้ไม่ได้มันแค่รอเวลาที่จะส่งผล เพราะการกระทำกรรม ยังไงต้องรับผลของกรรมก็คือ วิบากครับ เราเลิกคิดถึงเรื่องอดีตไปเพราะเรามองไม่เห็นมันปิดบังไว้หมด ต่อไปเราก็กระทำแต่สิ่งที่ดี ๆ ผลในอนาคตมันก็ต้องดี แบบนี้ก็พอสมเหตุสมผลหน่อย

ที่นี้คำว่าสมาธิ คนธรรมดาทั่ว ๆ ไป มีหมดครับ สมาธิ และสมาธิก็เป็นของสาธารณ
ที่เกิดขึ้นได้กับจิตทุก ๆ ดวงครับ เช่น ขับรถ ทำงาน ก็ต้องมีสมาธิอยู่แล้วครับ
ไม่งั้นรถมันก็ชนกัน ทำงานก็ผิด ๆ ถูก ๆ อันนี้คือ สมาธิแบบโลก ๆ

แต่สมาธิในทางศาสนาพุทธ ก็คือ สัมมาสมาธิ  สัมมาสมาธิ คือ สมาธิที่ตั้งมั่นรู้เนื้อ รู้ตัว
ไม่ไหลไป ไม่หลงไป สมาธิชนิดนี้ เอาไว้ทำวิปัสนาครับ ถ้าเป็นสมาธิแบบนี้อานิสงส์
มีแน่นอนครับ เพราะจิตที่มีสมาธิแบบนี้ ท่านเรียกว่า "มหากุศลจิต"

แต่ถ้าเรานั่งสมาธิ แล้วมันเห็นโน่น เห็นนี่ เคลิบเคลิ้ม ไม่รู้เนื้อรู้ตัว งอก ๆ แงก ๆ ส่ายไปส่ายมา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เหมือนกับคำถามที่ว่า "นอนมาก ๆ แล้วจะรวยไม๊"
  ขัดแย้ง กับ ผม หนานธง ครับ  หาก ท่านว่า  สมาธิ เปลี่ยน ชีวิต ไม่ได้  ผมได้ ยกความเห็น ที่อิงอรรถ  อิงธรรม มาโพสต์ ที่ผ่าน ๆมา ในกระทู้นี้
มีอานิสงส์ จากการบรรลุฌาน  ต่าง ๆ ไป จนก้าวสู่การบรรลุญาณ ของ พระมหาโพธิสัตว์ 
                                                                                         
เคยได้ยินมาว่าการนั่งสมาธินี่ได้อานิสงส์แรง แต่ไม่ทราบว่าแรงขนาดไหน มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้หรือเปล่าคะ

อานิสงฆ์มากมายมหาศาลเลยละครับ  สามารถเปลี่ยนคนจากคนธรรมดาให้กลายเป็น

อริยบุคคลเลยละครับ  ปิดประตูอบายไม่ต้องตกนรก มีสุคติเป็นที่หวังแม้ในโลกนี้และโลก

หน้า ทั้งนี้สมาธิที่ผมกล่าวมาหมายถึง อัปปนาสมาธิ น่ะครับ ได้แล้วก็นำไปพิจารณาธรรม

กันต่อไป จนสำเร็จ โสดาบันเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องปลาย....


**************************************************


  สามารถเปลี่ยน ชะตาชีวิต
จาก คนธรรมดา ให้ ไม่ธรรรมดา

คนธรรมดา มี กิเลสหนา กลายเป็น อริยบุคคล คนพ้นโลก เหนือโลก

คนไม่ธรรมดา  คึือ โสดาบันบุคคล จน ถึง อรหันตบุคคล
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 18:13:17 »

อะไร ๆ ก็ กรรมเก่า เท่านั้น  หากคิดอย่างนี้  จัดเป็น  มิจฉาทิฎฐิ
พระพุทธเจ้า ทรงตำหนิ มา
พวกเหมาเอาแต่ ผลจากกรรมเ่ก่า  หรือ พวกไม่เชื่อ เรื่อง กรรม ก็ตาม  หรือ  พวกที่เหมาว่า พระเจ้า จัดให้  
 3 หมู่นี้ เป็น  ความเห็นผิด  ตายไปแล้ว มีสิทธิ ได้ไปเกิด  ในที่ต่ำ
 ด้วยกรรมจำแนก  ไม่ต้องมีใครมาแช่ง

ลองดู กระทู้  เกี่ยวกับ กรรม ฯ ในห้องศาสนา มาประมวลดู ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 18:21:12 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 18:45:08 »

ประโยชน์  จาก  การนั่งสมาธิ  ต้อง เปรียบเทียบ ไปตามลำดับ  ตามขั้น ระหว่างขั้นน้อยกว่า มากกว่า ไม่ควร  ว่า ไม่มีประโยชน์ ในการทำสมาธิ หากเป็น แบบนั้น แบบนี้

คนนั่ง จนสำเร็จ เป็น  พระพุทธเจ้า  ย่อมยังประโยชน์ สูงกว่า  พระปัจเจกพุทธเจ้า
นั่งจนสำเร็จ เป็น พระปัจเจก ฯ ก็สูงกว่า  พระอรหันต์   แม้น พระปัจเจก ไม่ทรงวางพระศาสนา หรือ เผยแผ่พระธรรมก็ตาม
ทำสมาธิ จน สำเร็จพระอรหันต์ ดีกว่า พระอนาคามี ๆ ดีกว่า สกทาคามี ๆ ดีกว่า โสดาบัน ๆ  ดีกว่า ได้ญาณ ๆ ดีกว่า ได้ ฌาน
ได้ฌาน  ดีกว่า ไม่ได้ฌาน
ได้นั่งสมาธิ แม้น ไม่ได้ ฌาน  ได้นั่งพักจิต  พักใจ ให้สงบ เป็น สมถะ ก็ค่อยยังดี
ดีกว่า นั่ง ฝึก ไม่ได้ฌาน ไม่ไ้ด้ สงบ  แถม หลับใน คือ ได้ฝึกนั่ง
ได้ฝึกนั่ง ก็ยังดีกว่า  ฝึกนั่ง อย่าง ไม่ตั้งใจ
ไม่ได้ตั้งใจฝึก จริงจัง ก็ยังดีกว่า นั่งหลับ โดย ไม่ได้ คิด หรือ ฝึกหัด ในการนั่ง ในการทำ สมาธิ เอาเสียเลย

 

IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 19:17:56 »

 หนาน กราบขออภัย ในญาติธรรม หากความเห็น ผมไปขัดแย้ง กับ  ความเห็น ความรู้สึก ของ ท่านใด ด้วยตั้งใจ  หรือ ไม่ตั้งใจ ก็โปรดได้ อภัย แก่ผม  
แล้ว ท่านก็จะได้  ให้การอภัย จาก จิตจากใจ  ของ  ตัวท่าน ออกสู่ ผู้อื่น

ผมแสดง ความเห็น ทาง ธรรม อาจ ผิดจากธรรมแท้ ก็เป็น ความเห็นผิด เป็นธรรมกลาย
 หากถูก ก็เป็น เห็นถูก ต้องตามธรรมแท้

แต่ หากมาเอาถูกใจ เป็น หลัก ไม่เอาความถูก ตาม ธรรมแท้
ก็กลายเป็น ประจบประแจงเอาใจ ญาติธรรม
หรือ เอาตามโลก  ให้โลก  มา เหนือธรรม
บาปกรรม เปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2013, 19:20:11 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
ละอ่อนเจียงของ
บทเรียนนอกห้องเรียน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120


เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2013, 21:45:09 »

เคยได้ยินมาว่าการนั่งสมาธินี่ได้อานิสงส์แรง แต่ไม่ทราบว่าแรงขนาดไหน มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้หรือเปล่าคะ

อนุโมทนาครับ ขอตอบตามจุดประสงค์ของ จขกท.เลยนะครับ มีหลายท่านได้ให้ความรู้มากมายแล้ว อิอิ ยิงฟันยิ้ม
นั่งสมาธิแรงครับ วิปัสนากรรมฐานแรงที่สุดครับ มีเวลามีโอกาสถืออุโบสถศีลเจริญกรรมฐานเป็นดีที่สุดครับ
ชะตาชีวิต เห็นผลเลยในเสี้ยววินาที คือตัวท่าน ใจท่านล่ะครับ  ยิ้มกว้างๆ ต้องการเอาดีในชีวิต กตัญญูมาก่อนรับรองเปลี่ยนแปลงได้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
l3ear 33
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 827



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2013, 23:29:56 »

การนั่งสมาธิได้อานิสงแรงจริงครับ แต่ ระดับ ของสมาธิด้วยนะครับ ว่าเรานั่งได้ระดับได นั่งไปแล้วโดนสัญญาลากไปกินก็สมาธิตอไม้ไปอะ ครับ
IP : บันทึกการเข้า

จำหน่ายไก่ฟ้าโกลเด้น​ (ไ่ฟ้าสีทอง)​   สอบถามได้ คราบ 0811446675
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 13 มีนาคม 2013, 03:02:20 »

บุญกิริยาสิบ มีตั้งแต่ ทานมัย  ศีลมัย ภานามัย ฯลฯ
ในบุญ สิบอย่าง  สามารถ เปลี่ยน ชะตาชีวิต แก้ กรรมเก่า ได้  แม้นว่า กรรมเก่า ลบล้างไม่ได้ ก็ตาม 
พระพุทธเจ้า สอนเราให้  ฉลาด  ไม่ให้ โง่ดักดาน  มัวมาเป็นไปตาม ยถากรรม แต่อย่างเดียว  รอแต่ ใช้หนี้เวรกรรม สลับกันไปมา
  ปานคนผีบ้า คนเมา ที่เขาเล่าว่า มัน ผลัดกัน ส่งกัน ปิ๊กบ้าน เมือบ้าน อยู่หมดคืน  ฮอดแจ้ง

พระท่านสอนว่า
แต่ไหน แต่ไรมา  ใน โลกนี้               เวร ไม่มีระงับ ด้วยการจองเวร
มีแต่  ระงับ  ด้วยการไม่จองเวร         
 นี้ เป็น  กฏเกณฑ์ ตายตัว

น  หิ  เวเรน   เวรานิ           สมฺมนฺตีธ   กุทาจนํ
อเวเรน   จ   สมฺมนฺติ          เอส   ธมฺโม   สนนฺตโน ฯ5ฯ

At  any  time    in  this  world ,  Hatred never  ceases  by  hatred ,
But  through  non-hatred  it  ceases .
This  is  an  eternal  law.

หาก ไม่มี ทาน มีศีล มีภาวนา หรือ การทำดี ใด ๆ มาแก้ไข กรรมเก่า
 เขาก็จะ สลับทำเวรต่อกัน และกัน อยู่อย่างนั้น ก็กรรม การกระทำมันแต่ง มาปรุง กรรมจัดให้ หรือ จัดหนัก ก็ว่ากันเอาเถอะ
การทำสมาธิ ภาวนา  เป็น บุญใหญ่  บุญหนัก  หาก ทำวิปัสสนา จน ได้ อรหันต์  แล้ว ดับขันธ์ ไปแล้ว  ไม่ว่า กรรมดี หรือ กรรมชั่ว ก็กลายเป็น  อโหสิกรรม

การอโหสิกรรม คือ ยกเลิก การให้ผล อย่างเด็ดขาด  ย้ำว่า เด็ดขาด จึงจะจัดว่า  เป็น  อโหสิกรรม
ดั่ง โจรองคุลีมาลัย หาก ไม่มีการ ระงับเวร
โดย พุทธมหาเมตตา กรุณา จากการเล็งข่ายพระญาณ มีหวัง ลงนรก ขุมลึก ด้วย มาตาปิตุฆาต
 ฆ่าพ่อแม่ กรรมหนัก  อนันตริยกรรม
ด้วย อดีตชาติ แม่ของ ท่านเคย เกี่ยวพันกรรม จาก ควายป่า ที่ถูก เขารุมฆ่าตาย  แล้ว จ่ายแจกเนื้อ ให้เป็นทาน สู่กันกิน ใน หมู่บ้าน
ควายป่า แค้นใจ ที่โดน รุมฆ่า อธิษฐาน คือ การตั้งใจเอาไว้  ว่า
จะขอจองเวร ฆ่า หมู่มัน บ้าง
ควาย  กลับชาติ มาเป็น คน      นายอหิงสกะ  แปลว่า ผู้ไม่เบียดเบียน เป็นการแก้เคล็ด ก็ยัง มิวาย  มาแก้แค้น คนที่ตน อาฆาตเอาไว้ รวมทั้ง นางแม่ ด้วย

ทางโหราศาตร์  ท่านจึง มีการตั้งชื่อ แก้เคล็ด งดการกินเนื้อสัตว์ใหญ่ สัตว์น้อย หากกินพืชผัก เจ มังสะวิรัตน์ได้ ยิ่งดี  การทำพิธีขมากรรม  อโหสิกรรม
การพึ่ง พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ  มาใน  การทำการ ขออโหสิกรรม ต่อ เจ้ากรรม นายเวร
มีการอุทิศบุญ แผ่เมตตา หลังการ ฝึกจิตภาวนาสมาธิ
  ด้วยถือว่า  ภาวนามัย ได้บุญแรงมาก กว่า ทานมัย  ศีลมัย อันเป็น บุญขนาดมินิบุญ ขนาดจิ๊บ ๆ   เจ้ากรรม นายเวร  ยอมรับ บุญใหญ่  บุญมาก 
 หรือ  บางที บุญเล็ก บุญใส่บาตร ให้ทาน ก็ยังเอาอีก

ด้วยเขา ปรารถนาในบุญ ในดี  ความเป็น  มงคล ดีงาม   
 เจ้ากรรมนายเวร  เจ้าบุญ นายคุณ ใครว่า ไม่ดี   หากทำ บุญให้เขาพึงพอใจ มาก ๆ
 
 ร้าย  จักกลายเป็นดี  ในเบื้องปลาย

ไม่เหมือน พวกมาร ชอบ ให้เขาทำเลว ชั่ว     
 มันมาล่อ  เอากิเลส ตัณหา  พาเราหลงผิด เป็น ชอบ   
 
     เปิ่น ว่า  เสือ  ตั๋วว่า  พระเจ้า      เข้า ตางเตียว  มาร ฯ

ไหว้สาธุ  ขอจงเป็น  ธรรมทาน แล  วิทยาทาน
จาก  หนานธง  บุญนี้ จงถึง นายซิมบุ่นอิม นางวัลลี  แสงแก้ว

กราบขออภัย หาก กระทบใจ ท่านใด ๆ
ข้อมูล จำมาจาก ธัมมะ พระพุทธเจ้า เป็นหลัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก  หนังสือ พุทธวจนะ ใน ธรรมบท  โดย นายเสฐียรพงษ์  วรรณปก ,มหา ปธ.9  อดีต นาคหลวง ท่านแรก ใน รัชกาล ปัจจุบัน
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!