อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ!

[NoOK-ManiA]

อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ!   

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจอดรถตากแดดไว้ ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที ตามผลการวิจัย แผงคอนโซล เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น (อย่างที่คุณได้กลิ่่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ "โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถใหม่" : ผู้แปล)

นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้

ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร / ในรถ คือ 50 มิลลิกรัม ต่อ ตารางฟุตแต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่มมีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม

หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ (15.5 องศาเซลเซียส "ในเมืองไทยจอดในร่มอุณหภูมิก็สูงเกินแล้ว" : ผู้แปล) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 -4000 มิลลิกรัม คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 40 เท่า คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษที่สูงเกินมาตรฐานดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถ ไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย ซึ่งส่งผลร้ายต่อ ตับ ไต ไส้ พุง ("สองอันหลังเพิ่มเอง" : ผู้แปล) จะได้ลดปริมาณลง

"เมื่อใครบางคนแบ่งปันบางสิ่งที่มีค่ากับคุณ และคุณได้รับประโยชน์จากมัน คุณก็ควรจะแบ่งปันสิ่งนั้นให้กับผู้อื่นด้วย"

[krirung]

  นับว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านมากๆครับ คราวนี้เปิดแอร์รถครั้งใดต้องทำตามอย่างถูกวิธีครับ

[zombie01]

fw mail 

[sdoopy]

น่าจะเป็นไปได้ ขึ้นที่ไดมันอับทุกทียิ่งตากแดดร้อนๆเข้าไปหายใจไม่ออกเลย

[corolado4]

เป็นธรรมชาติ อากาศถูกเผาผลาญด้วยการอบร้อน
ออกซิเจนจะสลายตัวไป ตามข่าวที่เด็กถูกขังในรถและแอร์ดับ แดดร้อน
จนตายอนาถคารถ คือตัวอย่างของการสูดหายใจเอาแต่สารที่กล่าวถึง
การสตาร์ทรถที่จอดตากแดดโดยให้แอร์ทำงานถ่ายเทความร้อนจาก
อากาศที่ไม่ค่อยมีออกซิเจน คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราได้รับเฉพาะสารก่อมะเร็ง
วิธีการ คืออาจเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศภายนอกถ่ายเทเข้ามาสักหน่อย
สตาร์ทเครื่องวิ่งไปให้ลมภายนอกพัดให้อากาศเข้ามาหมุนเวียนแทน
อย่างน้อยลมภายนอกมาไล่ความร้อนในรถให้ความร้อนรุ่มลดลง
เื่มื่อเปิดแอร์จะได้ไม่ทำงานหนัก แถมได้หมุนเวียนอากาศชุดใหม่ด้วยครับ

[^เด็ก_วัด^]

เป็นความรู้ที่ดีมากๆเลยครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้เป็นอย่างสูง ครับ

[nutjunior]

เป็นธรรมชาติ อากาศถูกเผาผลาญด้วยการอบร้อน
ออกซิเจนจะสลายตัวไป ตามข่าวที่เด็กถูกขังในรถและแอร์ดับ แดดร้อน
จนตายอนาถคารถ คือตัวอย่างของการสูดหายใจเอาแต่สารที่กล่าวถึง
การสตาร์ทรถที่จอดตากแดดโดยให้แอร์ทำงานถ่ายเทความร้อนจาก
อากาศที่ไม่ค่อยมีออกซิเจน คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราได้รับเฉพาะสารก่อมะเร็ง
วิธีการ คืออาจเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศภายนอกถ่ายเทเข้ามาสักหน่อย
สตาร์ทเครื่องวิ่งไปให้ลมภายนอกพัดให้อากาศเข้ามาหมุนเวียนแทน
อย่างน้อยลมภายนอกมาไล่ความร้อนในรถให้ความร้อนรุ่มลดลง
เื่มื่อเปิดแอร์จะได้ไม่ทำงานหนัก แถมได้หมุนเวียนอากาศชุดใหม่ด้วยครับ

ขอบคุณครับคุณ corolado4
และขอบคุณ จ ข ก ท ด้วยครับ จะนำไปไช้ครับ

[MCL.Morchula shop]

ขอบคุณค่ะ
ความรู้ใหม่  ดีใจจังที่เข้ามาอ่านพอดีเลย
เพราะซื้อรถใหม่พอดี  อันตรายกว่าเดิมอีกเนอะ

[rung1122]

ควมรุ้ใหม่เลยนะเนี้ย
เพิ่งรู้จริงๆ

[corolado4]

เพิ่มเติมอีก
๑ อย่าเผลอมีไฟแช็กแก๊สแบบน้ำใสๆ วางไว้ในรถเชียวนะครับ
โดนอบความร้อน ถึงจุดนึง มันระเบิดตัวเอง แรงดันทำให้เศษพลาสติก
แตกเป็นสะเก็ดเข้าตาบอด จุดสำคัญร่างกายถึงตาย ถ้าระเบิดตอนเราเข้ามา
หรืออย่างน้อย แรงดันทำให้กระจกรถแตก(โป่งออก) ได้ง่ายๆ
เตือนท่านนักสูบ อย่าเผลอทิ้งบุหรี่กับไฟแช็กไว้ในรถจอดตากแดดนะครับ
๒ พวกน้ำขวดแถมจากปั๊มเหมือนกัน ขวดใสๆ ถูกแดดส่อง สารบริสุทธิ์ในน้ำ
จะปรับสภาพเป็นตะไคร้น้ำ เป็นเมือกวุ้น แล้วแต่องค์ประกอบเดิม
พวกน้ำผลไม้ ซื้อมาเก็บในรถ เกิดอาการอย่างนี้ แล้วไปโทษเขาว่าผลิตไม่ดี
ลองมองย้อนกลับไปว่า ท่านซื้อมาแล้ว เอาไปเก็บตามคำแนะนำหรือเปล่า?
๓ อีกอย่างพวกน้ำหอมปรับอากาศทั้งหลาย พวกนี้ไม่ถูกกับอากาศร้อนครับ
ซื้อมาไม่นานระเหิด ระเหยหมดเร็ว ต้องซื้อเพิ่มตลอด บางกลิ่น เปลี่ยนจากหอม
สดชื่น เป็นเหม็นแทบอ้วกแตก (สังเกตุจากเพื่อนที่มาขึ้นรถเราแล้วแพ้กลิ่น)
๔ นอกจากเด็กแล้ว พวกรักสัตว์ ให้หมาเฝ้ารถ เปิดช่องนิดเดียวหรือไม่เปิดเลย
ระวังเป็นข่าวเหมือนกันนะครับ หมาราคาหลักแสน ดิ้นทุรนทุรายตายคารถร้อน
  เท่าที่ทราบจากประสบการณ์มีเพียงเท่านี้  หากมีอีกจะมาเพิ่มเติมให้อีกนะครับ