เกี่ยวกับคำว่า "ครูบา"

[@เชียงแสน]

...ขอท่านผู้รู้ตอบด้วยครับ...

คำว่า "ครูบา" ได้มาอย่างไร ได้มาโดยวิธีไหน เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจครับ

[boy013]

http://board.palungjit.com/f61/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA-271786.html

[icu]

คำว่าครูบา  หมายถึงครุ ผู้รู้  ครูบา ต้องเป็นผู้มีศลีอันงดงามบ่ด่างพ้ลอย มีจาริวัตรเป็นที่เคารพ แก่คนทั่วๆไป เป็นผู้ปฏิบัติดี  สันโดน  อออีกอย่าง ที่ผมรู้มา พระที่จะเป็นครูบาได้ ต้องมีคุณสมดังนี้ครับ
๑  ต้องบวชตั้งแต่เป็นเณร และเปนพระ  ไม่เคยสึก และมีครอบครัวมาก่อน และถึงเวลาอันสมควรแล้วชาวบ้านทั้งหมดจะพร้อมใจกัน ยกยอเอา พระรูปนั้นเปงครูบา  แต่พระรูปนั้นต้องมีอายุพรรษาแก่พอสมควร พูดง่ายๆพรรษา ต้องสามสิบขึ้นไปก่อน ถึงเป็นครูบาได้ และต้องนิมนต์พระสงฆ์ มาทุกทิศเพื่อมารับรู้ว่าชาวบ้านทั้งหมดได้พร้อมใจกัน ให้พระรูปนี้เป็นครูบาแล้ว และถามความคิดเห็นของคณะสงฆ์ว่าสมควรที่จะให้พระรูปนี้ เป็นครูบารึมั้ยถ้าพระสงฆ์ในมี่นั้นเห็นว่าสมควรแล้วถึงเป็นได้   

ที่ผมรู้มาคับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ  ขอ้มูลได้มาจากผู้เฒ่าผู้แก่ จากเชียงตุง
ท่านว่านี้คือธรรมเนียม ออลืมบอก ก่อนที่จะเปงครูบานั้น ต้องเปง สะติ ก่อน และ สามี  และถึงเปงครูบา

[ลุงหนาน]

ครูบา คือคำที่ใช้เรียกขานพระเถระผู้เป็นที่เคารพนับถือ ซึ่งมักจะมีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป ครูบา ไม่ใช่คำที่กำหนดขึ้นเพื่อเรียกขานตัวเอง ผู้ที่จะเป็นครูบานั้นมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อ คือ 1. เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษามาก (ทั้งอายุและอายุการบวช) 2. ต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ (ตลอดอายุการบวช) และ 3. สร้างสิ่งดีสิ่งงามกับพระศาสนาซึ่งอาจหมายถึงศาสนสถานหรือ หรืออื่น ๆ พูดแบบชาวบ้านคือ ถ้าอายุมาก บวชมานาน แต่ไม่มีคุณสมบัติตามข้อ 2 และ 3 จะเรียกขานว่า ตุ๊ หรือ ธุ เฉย ๆ อาจเติมคำว่า ลุง ปู่ หรือ พ่อ ตามหลัง เช่น ธุลุงคำ ธุปู่เป็ง ธุพ่อแก้ว เป็นต้น หรือมีเพียงข้อ 2 และ ข้อ 3 ไม่มีข้อ 1 ก็ไม่นิยมเรียกว่าครูบา ถึงแม้จะได้รับการเล่าขานกันว่า เป็นครูบาเจ้าศรีวิชัยมาเกิดก็ตาม ผู้คนจึงล้อเลียนครูบาหนุ่ม ๆ เหล่านี้ว่า ครูบาอุ๊กแก็ส ( อุ๊กแก็ส หมายถึง บ่มด้วยแก็สเพื่อให้สุกก่อนกำหนด เช่น กล้วยอุ๊กแก็ส คือกล้วยที่บ่มด้วยแก็สเพื่อให้สุก มิใช่กล้วยที่สุกขำเครือ เป็นต้น ) ครูบาอุ๊กแก็สบางองค์ มิได้เรียกขานตัวท่านเอง หากแต่ศรัทธาญาติโยมที่เคารพนบไหว้ทั้งหลายต่างยกตำแหน่งครูบาให้ บางองค์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพียงแต่อายุยังน้อย คือได้เป็นครูบาตั้งแต่ยังหนุ่ม ถือเป็น หน่อดีจ๋าวงาม ในวงการสงฆ์ (ถ้าบ่หลุล้มม้างไปเสียก่อน) ท่านเหล่านี้มักนุ่งห่มให้มีลักษณะเช่นเดียวกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เช่น มีผ้ามัดอก สวมลูกประคำ ใช้พัดขนนกยูง มีไม้เท้า และที่สำคัญเป็นพระนักอนุรักษ์รังสรรค์แบบล้านนานิยม


ครูบา ยังมีอีกความหมายหนึ่งคือ เป็นคำเรียกขานตำแหน่งพระสงฆ์ของชาวไทเขินเชียงตุงอีกด้วย ตำแหน่งสูงกว่าสวามี ต่ำกว่าอาชญาธรรม ส่วนคำว่า ครูบาเจ้า นั้น เป็นคำยกย่องในฐานะนักบุญ หรือตนบุญ( คำว่า ตนบุญนี้ ต้องอธิบายยาวค่อยติดตามในตอนหลัง) เช่นครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เป็นต้น และอีกความหมายหนึ่งตามที่บัณฑิตทางอักขระล้านนาบางท่านกล่าวว่า หมายถึงครูบาที่เป็นเจ้า คือมีเชื้อทางเจ้านายฝ่ายเหนือ เช่น ครูบาเจ้าเกษม เขมโก เป็นต้น เขียนไปเขียนมาก็ยาวอีกแล้ว ขอจบเรื่องพระเรื่องเจ้าแบบห้วน ๆ แค่นี้ แล.
อ้างมาจาก เวปล้านนา

[ลุงหนาน]

สรุปแล้วก็คือ คำว่าครูบาสมัยก่อนคงไม่มีพร่ำเพรื่อเหมือนปัจจุบัน แม้แต่สามเณรอายุ10 กว่าปีก็อุปโลกตัวเองเป็นครูบา ขึ้นป้ายโฆษณาเป็นการยกใหญ่ โดยความเข้าใจแล้ว พระที่ตั้งตนเป็นครูบาขอแค่ ห่มผ้าสีกรัก ใส่ลูประคำ ถือไม้เท้า บางรูปเคี้ยวหมาก พูดช้า.. ให้พรยาวๆ ทำท่าทางเหมือนคนอายุสัก 70-80 ปี ก็ถือว่าเป็นครูบาแล้ว โดยแท้จริงแล้ว คำว่าครูบา นั้นหมายถึงบุคคลที่มีบุญบารมีพอสมควร ถึงจะเป็นได้สมบูรณ์ควรแก่การกราบใหว้ 

[kruFleurs]

แถวๆ บ้าน ก็มีครูบาน้อย เหมือนกันคะ 

[@เชียงแสน]

สรุปแล้วก็คือ คำว่าครูบาสมัยก่อนคงไม่มีพร่ำเพรื่อเหมือนปัจจุบัน แม้แต่สามเณรอายุ10 กว่าปีก็อุปโลกตัวเองเป็นครูบา ขึ้นป้ายโฆษณาเป็นการยกใหญ่ โดยความเข้าใจแล้ว พระที่ตั้งตนเป็นครูบาขอแค่ ห่มผ้าสีกรัก ใส่ลูประคำ ถือไม้เท้า บางรูปเคี้ยวหมาก พูดช้า.. ให้พรยาวๆ ทำท่าทางเหมือนคนอายุสัก 70-80 ปี ก็ถือว่าเป็นครูบาแล้ว โดยแท้จริงแล้ว คำว่าครูบา นั้นหมายถึงบุคคลที่มีบุญบารมีพอสมควร ถึงจะเป็นได้สมบูรณ์ควรแก่การกราบใหว้ 

...ครับ...ผมก็เลยต้องตั้งกระทู้ เพราะสงสัยเหลือเกิน ว่าเท็จจริงแล้วครูบาเนี่ย ได้มายังไง...บางรูป อายุยังไม่ถึง 30 เป็นครูบาซะงั้น...

[JAMESCOM]

นั่น อาจเป็นครูผีบ้า นะกะ อิอิ รู้จักปะ หมอซ้ง แต่ไม่ใช่หมอ หรือ Dr. PoP คือเด็กแต่งหนังสือ อยู่ ม. เองครับ จะเป้นอะหยังก็เป็นไปเตอะ ถ้าจะอยากเป้นนั่นเป้นนี้ ก็บ่ได้นิพาลละครับ

[monmaprangsity]

อ้อ เข้าใจ๋ละ ที่วัดบ้านผมมีครูบามานับแต่สร้างวัดก่หลายต๋นละ

[nantong]

ครุปิ  อาจาริโย

ครูบา อาจารย์

ครูบา  เล็กกว่า อาจารย์ ลองอ่านดู

ครูบาพรรษาไม่เกิน10
อาจารย์พรรษา เกิน 10
ในธรรมเนียมอิสาน

ฮีตบ้านเฮา เมืองเหนือ

ครูบาคือเจ้าวัด เจ้าอาวาส

อาจารย์ คือ มัคคทายก มัก เป็น หนาน มาก่อน
 อาจเป็นเจ้าวัดนั้นมาด้วย

จึงมักได้รับ ความเกรงใจ จาก ทั้ง ครูบา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศรัทธาสาธุชน ทั้งคนเฒ่า หนุ่มสาว

พ่อออก แม่ออก หรือ พวกศรัทธาวัด......
คนหนุ่มสาว คือ กลุ่ม หนุ่ม สาววัดนั้น วัดนี้
กลุ่มแม่บ้านวัด...


ครูบา กับ อาจารย์ มี ธรรมะ มีแต่ ดีกับดี
ครูบา ผิดหัวกั๋น กับ ป้อ อาจารย์ เมื่อใด
เดือดร้อน ผีเจ้าวัด ตลอดถึง ศรัทธา เมื่อนั้น

ขอสมมาอภัยทุกท่านอธิบาย อาจไม่ละเอียด ครอบคลุมเท่าใด เอาแค่สังเขป เน้อ

[พญาสิงห์ ๒]

เจียงฮายจาใดมีครูบานักแต้นักว่า หรือว่าครูบาอุกแก็ส มีสถาบันใดรับรองหรือว่ามีหน้าม้าจ่วยกั๋นหากิ๋น.

[พญาสิงห์ ๒]

...ขอท่านผู้รู้ตอบด้วยครับ...

คำว่า "ครูบา" ได้มาอย่างไร ได้มาโดยวิธีไหน เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจครับ

1.สถาปนาเอาเองหรือว่าครูบาอุกแก็ส หาปัจจัยเป็นทีม  2.ศรัทธาเลื่อมใส อันมาจากปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ 3.มีอายุพรรษากาลมาก  เท่านี่แหละ.

[nantong]

ครูบาอาจ๋ารย์
ฮีตเมืองเหนือ
ครูบา คือเจ้าวัด เจ้าสำนัก หัวหน้านักบวช ใหญ่ย้อนศีล ย้อนธรรม ปารมีธรรม
อาจ๋ารย์ ป้ออาจ๋ารย์ ใหญ่ในตางโลก คือ ในฐานะผู้นำของคณะศรัทธาจาวบ้าน ใหญ่นอกวัด 
แต่ ถ้า ป้ออาจ๋ารย์ วางตั๋วใหญ่ล้ำ ครูบา ล้ำไป   ย่อม นำความเดือดฮ้อน เมื่ออั้น

ครูบาใหญ่ในวัดแน่ ๆ  แต่ ถ้ามีปารมีธรรมสูง ๆ กะใหญ่ ฮอด นอกวัด
เช่น ครูบาเจ้าศรีวิจัย ครูบาเจ้าเกษมเขมโก
 ตี่มีกำว่า เจ้า ต่อ จากครูบา นี้  บ่ เกี่ยวกับก๋าร มี เจื้อเจ้า แต่อย่างใด
เปิ่นฮ้อง ครูบาเจ้า ย้อนศีล ย้อนธรรม ปารมีธรรม

[khonmieng]

ถ้าไม่ใช่ครูบามันไม่ดังมันกระจอก.....ได้ตังค์น้อยโนเนม....ครูบาดีๆก็น่าจะมีอยู่แต่เท่าที่ดูทุกวันนี้เป็นครูบาโฆษณา..โปรโมชั่นเยอะ...รายการเพียบ...พูดไปก็แค่นั้น...ไร้สาระครับ....

[@เชียงแสน]

ถ้าไม่ใช่ครูบามันไม่ดังมันกระจอก.....ได้ตังค์น้อยโนเนม....ครูบาดีๆก็น่าจะมีอยู่แต่เท่าที่ดูทุกวันนี้เป็นครูบาโฆษณา..โปรโมชั่นเยอะ...รายการเพียบ...พูดไปก็แค่นั้น...ไร้สาระครับ....

[tassanai]

 นี่อาจจะเป็นคำตอบหนึ่ง คำว่า"ครูบา"เป็นคำนามที่ใช้เรียกพระภิกษุที่บวชเข้าในบวรพระศาสนา  ส่วนมากตามดูประวัติท่านมักบวชสามเณรมาก่อน  ประเด็นหลักที่สำคัญมักดูกัน คือ ๑) เป็นพระภิกษุที่บวชมาเกิน  ๕ ปีขึ้นไป  ๒) มีจริยาวัตร เป็นไปตามนักบวชที่มีศีลงดงาม ครบ  ๒๒๗ ข้อ เคร่งครัดในศีลปาติโมกข์ เช่น ไม่กินข้าวเย็น  ไม่ยืนฉี่ ไม่ยืนดื่มน้ำ  ไม่ซื้อหวย ไม่เก็บเงินเพื่อตนเอง ฯลฯ  ๓) พุทธบริษัท ให้การนับถือตามคุณลักษณะข้อ ๒   ๔) เผยแผ่ศาสนาตามแนวพุทธเจ้า    ๕) ให้การช่วยเหลือสหธรรมมิก ทั้งคฤหัสถ์และนักบวช   ๖) ไม่เป็นพระภิกษุที่เป็นโลกวัชชะ - ชาวบ้านติเตียน  ๗) อาศัยอยู่ในที่สมกับสถานที่ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติศาสนกิจ คือ บิณบาตร  กวาดวัด  ทำวัตรเข้า/เย็น  ....... คงมีอีกมากมาย

[Phanchick]

คำว่าครูบา  หมายถึงครุ ผู้รู้  ครูบา ต้องเป็นผู้มีศลีอันงดงามบ่ด่างพ้ลอย มีจาริวัตรเป็นที่เคารพ แก่คนทั่วๆไป เป็นผู้ปฏิบัติดี  สันโดน  อออีกอย่าง ที่ผมรู้มา พระที่จะเป็นครูบาได้ ต้องมีคุณสมดังนี้ครับ
๑  ต้องบวชตั้งแต่เป็นเณร และเปนพระ  ไม่เคยสึก และมีครอบครัวมาก่อน และถึงเวลาอันสมควรแล้วชาวบ้านทั้งหมดจะพร้อมใจกัน ยกยอเอา พระรูปนั้นเปงครูบา  แต่พระรูปนั้นต้องมีอายุพรรษาแก่พอสมควร พูดง่ายๆพรรษา ต้องสามสิบขึ้นไปก่อน ถึงเป็นครูบาได้ และต้องนิมนต์พระสงฆ์ มาทุกทิศเพื่อมารับรู้ว่าชาวบ้านทั้งหมดได้พร้อมใจกัน ให้พระรูปนี้เป็นครูบาแล้ว และถามความคิดเห็นของคณะสงฆ์ว่าสมควรที่จะให้พระรูปนี้ เป็นครูบารึมั้ยถ้าพระสงฆ์ในมี่นั้นเห็นว่าสมควรแล้วถึงเป็นได้   

ที่ผมรู้มาคับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ  ขอ้มูลได้มาจากผู้เฒ่าผู้แก่ จากเชียงตุง
ท่านว่านี้คือธรรมเนียม ออลืมบอก ก่อนที่จะเปงครูบานั้น ต้องเปง สะติ ก่อน และ สามี  และถึงเปงครูบา

ครูบา คือคำที่ใช้เรียกขานพระเถระผู้เป็นที่เคารพนับถือ ซึ่งมักจะมีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป ครูบา ไม่ใช่คำที่กำหนดขึ้นเพื่อเรียกขานตัวเอง ผู้ที่จะเป็นครูบานั้นมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อ คือ 1. เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษามาก (ทั้งอายุและอายุการบวช) 2. ต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ (ตลอดอายุการบวช) และ 3. สร้างสิ่งดีสิ่งงามกับพระศาสนาซึ่งอาจหมายถึงศาสนสถานหรือ หรืออื่น ๆ พูดแบบชาวบ้านคือ ถ้าอายุมาก บวชมานาน แต่ไม่มีคุณสมบัติตามข้อ 2 และ 3 จะเรียกขานว่า ตุ๊ หรือ ธุ เฉย ๆ อาจเติมคำว่า ลุง ปู่ หรือ พ่อ ตามหลัง เช่น ธุลุงคำ ธุปู่เป็ง ธุพ่อแก้ว เป็นต้น หรือมีเพียงข้อ 2 และ ข้อ 3 ไม่มีข้อ 1 ก็ไม่นิยมเรียกว่าครูบา ถึงแม้จะได้รับการเล่าขานกันว่า เป็นครูบาเจ้าศรีวิชัยมาเกิดก็ตาม ผู้คนจึงล้อเลียนครูบาหนุ่ม ๆ เหล่านี้ว่า ครูบาอุ๊กแก็ส ( อุ๊กแก็ส หมายถึง บ่มด้วยแก็สเพื่อให้สุกก่อนกำหนด เช่น กล้วยอุ๊กแก็ส คือกล้วยที่บ่มด้วยแก็สเพื่อให้สุก มิใช่กล้วยที่สุกขำเครือ เป็นต้น ) ครูบาอุ๊กแก็สบางองค์ มิได้เรียกขานตัวท่านเอง หากแต่ศรัทธาญาติโยมที่เคารพนบไหว้ทั้งหลายต่างยกตำแหน่งครูบาให้ บางองค์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพียงแต่อายุยังน้อย คือได้เป็นครูบาตั้งแต่ยังหนุ่ม ถือเป็น หน่อดีจ๋าวงาม ในวงการสงฆ์ (ถ้าบ่หลุล้มม้างไปเสียก่อน) ท่านเหล่านี้มักนุ่งห่มให้มีลักษณะเช่นเดียวกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เช่น มีผ้ามัดอก สวมลูกประคำ ใช้พัดขนนกยูง มีไม้เท้า และที่สำคัญเป็นพระนักอนุรักษ์รังสรรค์แบบล้านนานิยม


ครูบา ยังมีอีกความหมายหนึ่งคือ เป็นคำเรียกขานตำแหน่งพระสงฆ์ของชาวไทเขินเชียงตุงอีกด้วย ตำแหน่งสูงกว่าสวามี ต่ำกว่าอาชญาธรรม ส่วนคำว่า ครูบาเจ้า นั้น เป็นคำยกย่องในฐานะนักบุญ หรือตนบุญ( คำว่า ตนบุญนี้ ต้องอธิบายยาวค่อยติดตามในตอนหลัง) เช่นครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เป็นต้น และอีกความหมายหนึ่งตามที่บัณฑิตทางอักขระล้านนาบางท่านกล่าวว่า หมายถึงครูบาที่เป็นเจ้า คือมีเชื้อทางเจ้านายฝ่ายเหนือ เช่น ครูบาเจ้าเกษม เขมโก เป็นต้น เขียนไปเขียนมาก็ยาวอีกแล้ว ขอจบเรื่องพระเรื่องเจ้าแบบห้วน ๆ แค่นี้ แล.
อ้างมาจาก เวปล้านนา

ตามนี้ครับ

[@เชียงแสน]

...คลายความสงสัยได้บ้างแล้วครับ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ความเห็น...ตั้งใจจะถามต่อกระทู้นี้นานแล้วครับ เพราะอยากได้คำตอบของคำว่า "ครูบา" ให้มากพอก่อน คำที่จะถามคือคำว่า "ครูบาเจ้า"...

...ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยเห็นปัจจุบันใช้คำว่า "ครูบาเจ้า" เยอะมาก...แต่เท่าที่ผมได้คุยกับผู้รู้หลาย ๆ คน คำว่าครูบาเจ้า จะใช้กับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่เป็นเชื้อสายเจ้า เช่น ครูบาเจ้าเกษม  เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ท่านเป็นเชื้อสายสกุล ณ ลำปาง...

...แล้วครูบาเจ้าที่ใช้กับพระในยุคนี้ละครับมีที่มาอย่างไร อยากให้ผู้รู้ และพระท่านทั้งหลายที่รู้เข้ามาตอบกระทู้นี้เพื่อเป็นวิทยาทานครับ...

[TheAon]

คำว่าครูบา  หมายถึงครุ ผู้รู้  ครูบา ต้องเป็นผู้มีศลีอันงดงามบ่ด่างพ้ลอย มีจาริวัตรเป็นที่เคารพ แก่คนทั่วๆไป เป็นผู้ปฏิบัติดี  สันโดน  อออีกอย่าง ที่ผมรู้มา พระที่จะเป็นครูบาได้ ต้องมีคุณสมดังนี้ครับ
๑  ต้องบวชตั้งแต่เป็นเณร และเปนพระ  ไม่เคยสึก และมีครอบครัวมาก่อน และถึงเวลาอันสมควรแล้วชาวบ้านทั้งหมดจะพร้อมใจกัน ยกยอเอา พระรูปนั้นเปงครูบา  แต่พระรูปนั้นต้องมีอายุพรรษาแก่พอสมควร พูดง่ายๆพรรษา ต้องสามสิบขึ้นไปก่อน ถึงเป็นครูบาได้ และต้องนิมนต์พระสงฆ์ มาทุกทิศเพื่อมารับรู้ว่าชาวบ้านทั้งหมดได้พร้อมใจกัน ให้พระรูปนี้เป็นครูบาแล้ว และถามความคิดเห็นของคณะสงฆ์ว่าสมควรที่จะให้พระรูปนี้ เป็นครูบารึมั้ยถ้าพระสงฆ์ในมี่นั้นเห็นว่าสมควรแล้วถึงเป็นได้   

ที่ผมรู้มาคับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ  ขอ้มูลได้มาจากผู้เฒ่าผู้แก่ จากเชียงตุง
ท่านว่านี้คือธรรมเนียม ออลืมบอก ก่อนที่จะเปงครูบานั้น ต้องเปง สะติ ก่อน และ สามี  และถึงเปงครูบา

ข้อมูลนี้ตรงกับที่ผมรับรู้มาจากพระผู้ใหญ่ที่ผมนับถือครับ

ท่านเล่าว่า ครูบาคำหล้า ท่านก็ได้รับการยอมรับเช่นที่กล่าวมาครับ
เพราะท่านเป็นศิษย์ครูบาคำหล้า ท่านรู้ท่านเห็นมา ไม่ใช่ยกตัวเองขึ้น

[mrkan]

คำว่าครูบา  หมายถึงครุ ผู้รู้  ครูบา ต้องเป็นผู้มีศลีอันงดงามบ่ด่างพ้ลอย มีจาริวัตรเป็นที่เคารพ แก่คนทั่วๆไป เป็นผู้ปฏิบัติดี  สันโดน  อออีกอย่าง ที่ผมรู้มา พระที่จะเป็นครูบาได้ ต้องมีคุณสมดังนี้ครับ
๑  ต้องบวชตั้งแต่เป็นเณร และเปนพระ  ไม่เคยสึก และมีครอบครัวมาก่อน และถึงเวลาอันสมควรแล้วชาวบ้านทั้งหมดจะพร้อมใจกัน ยกยอเอา พระรูปนั้นเปงครูบา  แต่พระรูปนั้นต้องมีอายุพรรษาแก่พอสมควร พูดง่ายๆพรรษา ต้องสามสิบขึ้นไปก่อน ถึงเป็นครูบาได้ และต้องนิมนต์พระสงฆ์ มาทุกทิศเพื่อมารับรู้ว่าชาวบ้านทั้งหมดได้พร้อมใจกัน ให้พระรูปนี้เป็นครูบาแล้ว และถามความคิดเห็นของคณะสงฆ์ว่าสมควรที่จะให้พระรูปนี้ เป็นครูบารึมั้ยถ้าพระสงฆ์ในมี่นั้นเห็นว่าสมควรแล้วถึงเป็นได้   

ที่ผมรู้มาคับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ  ขอ้มูลได้มาจากผู้เฒ่าผู้แก่ จากเชียงตุง
ท่านว่านี้คือธรรมเนียม ออลืมบอก ก่อนที่จะเปงครูบานั้น ต้องเปง สะติ ก่อน และ สามี  และถึงเปงครูบา

ขอแจมความคิดเห็นเน้อครับ เดี๋ยวนี้ตังลำปางมีปะเลอะครับบางตนบวชเณรอยู่ก็ตั้งตนเป็นครูบา  เป็นตุ๊ดก็มี บางตนเป็นเจ้าป้อผีลง เป็นตุ๊ด  ไปบวชได้ 2-3  พรรษา ก็เป๋นครูบาไปละ  น่าอนารถแต้ศาสนาพุทธ เฮา บ่มีไผจ่วยกั๋นดูแล ฝากผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลตวยเน้อครับก่อนที่มันจะย่ำแย่ไปกว่านี้ครับ
ข้อมูลนี้ตรงกับที่ผมรับรู้มาจากพระผู้ใหญ่ที่ผมนับถือครับ

ท่านเล่าว่า ครูบาคำหล้า ท่านก็ได้รับการยอมรับเช่นที่กล่าวมาครับ
เพราะท่านเป็นศิษย์ครูบาคำหล้า ท่านรู้ท่านเห็นมา ไม่ใช่ยกตัวเองขึ้น