เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 21:14:24
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การศึกษา (ผู้ดูแล: >:l!ne-po!nt:<)
| | |-+  มาแสดงความเห็น เรื่อง การจัดการศึกษาของเชียงราย กับประชาคมอาเซียน...??
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน มาแสดงความเห็น เรื่อง การจัดการศึกษาของเชียงราย กับประชาคมอาเซียน...??  (อ่าน 4391 ครั้ง)
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2012, 19:51:34 »

ปี พ.ศ.2558  ประเทศไทยจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน
ซึ่งคาดการณ์กันว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมไทยอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
ในด้านเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณี
รวมทั้งในด้านการศึกษา ....

จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
จำนวน 2 ประเทศ คือ พม่า และลาว และสามารถใช้เส้นทางคมนาคม
ติดต่อกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งอยู่ในประชาคมอาเซียน อีกจำนวน 1 ประเทศ
คือ จีน (ตอนใต้)  ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่ได้เปรียบจังหวัดอื่น ๆ มากที่สุด
และน่าจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเช่นกัน .....

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต..
โดยเฉพาะในด้านการศึกษา  เพื่อนสมาชิกคิดว่า  สถานศึกษา ในจังหวัดเชียงราย
ที่จัดการศึกษาในระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย  
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)  ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
และระดับอุดมศึกษา  ควรปรับปรุง แก้ไข พัฒนา เพิ่มเติม หลักสูตร หรือเรื่องอื่นๆ
อย่างไรบ้าง เพื่อสร้างความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงให้แก่นักเรียนในเชียงราย

ขอรับทราบความคิดเห็นจากเพื่อนสมาชิกด้วยครับ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลใช้ประกอบ
การนำเสนอต่อผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงการศึกษาบ้านเรา ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่าง
จะมาถึง และถูกปล่อยให้เป็นไปตามยะถากรรม ....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 21:42:39 โดย shiff2007 » IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
สาวนุ้ยผลัดถิ่น
เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณและคนที่คุณรัก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 719


เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรัก


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2012, 20:02:54 »

ปลูกฝังขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย ปลูกฝังการรักแผ่นดินเกิดนั้นคือเมืองเชียงราย และน่าจะมีการสอนถึงการเรียนรู้ขบนธรรมเนียมวัฒนธรรมเพื่อนบ้าน รวมถึงภาษาที่ใช้สื่อสารกัน เพราะอีกหน่อยหนทางเชื่อมต่อถึงกัน มันจะวุ่นวายปะปนกันไปหมด เพราะต่างคนต่างไม่รู้ถึงประเพณีซึ้งกันและกัน เหมือนสามชายแดนบ้านเราทุกวันนี้
IP : บันทึกการเข้า

ร้านรังนกทอง จ.เชียงราย จำหน่าย เครื่องดื่มรังนก และรังนกนางแอ่น มีทั้งแบบรังเต็ม รังที่คัดสะอาดพร้อมปรุง http://blog.chiangraifocus.com/?id=1156
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2012, 20:04:41 »

ก่อนที่จะได้แสดงความคิดเห็น เฉพาะประเด็นด้านการศึกษา
ขออนุญาตเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ประชาคมอาเซียน ให้ได้อ่านกันก่อน
ขออภัยสำหรับท่านที่ทราบข้อมูลดีอยู่แล้วนะครับ ....  ยิงฟันยิ้ม


ASEAN Community คืออะไร

อาเซียน (ASEAN) ประกอบด้วย 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย (2510) สิงคโปร์ (2510)
อินโดเนเซีย (2510) มาเลเซีย (2510) ฟิลิปปินส์ (2510) บรูไน (2527) เวียตนาม (2538)  
ลาว (2540) พม่า (2540)  กัมพูชา (2542)      มีประชากรรวมกันประมาณ
570 ล้านคน มีขนาดเศษฐกิจที่โตมาก เมื่อเดือนตุลาคม 2546 ผู้นำอาเซียนได้ร่วม
ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน ที่เรียกว่า ข้อตกลงบาหลี 2 เห็นชอบ
ให้จัดตั้ง ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) คือการให้อาเซียนรวมตัวเป็นชุมชน
หรือประชาคมเดียวกันให้สำเร็จภายในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) แต่ต่อมาได้ตกลง
ร่นระยะเวลาจัดตั้งให้เสร็จในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) เนื่องจากการแข่งขันรุนแรง
เช่น อัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของจีนและอินเดียสูงมากในช่วงที่ผ่านมา  

ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 ที่ชะอำ หัวหิน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2552
ผู้นำอาเซียนได้ลงนามรับรองปฏิญญาชะอำ หัวหิน ว่าด้วยแผนงานจัดตั้งประชาคม
อาเซียน (ค.ศ. 2009-2015) เพื่อจัดตั้งประชาคมอาเซียนภายในปี 2558

ประชาคมอาเซียนประกอบด้วยเสาหลัก 3 เสา

1.ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน  (ASEAN Security Community – ASC)
มุ่งให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีระบบแก้ไขความขัดแย้ง ระหว่างกันได้
ด้วยดี มีเสถียรภาพอย่างรอบด้าน มีกรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง
ทั้งรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและมั่นคง

2.ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community – AEC) มุ่งให้เกิด
การรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ และการอำนวยความสะดวกในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน
อันจะทำให้ภูมิภาคมีความเจริญมั่งคั่ง และสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆ ได้เพื่อความ
อยู่ดีกินดีของประชาชนในประเทศอาเซียน โดย

          (ก)มุ่งให้เกิดการไหลเวียนอย่างเสรีของ สินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน
การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ภายในปี 2020
         (ข)ทําให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (single market and
production base)
          (ค)ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียนเพื่อลดช่องว่าง
การพัฒนาและช่วยให้ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมกระบวนการรวมตัวทางเศรษฐกิจของ
อาเซียน
          (ง)ส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหภาค ตลาดการเงิน
และตลาดทุน การประกันภัยและภาษีอากร การพัฒนาโครงสร้างพิ้นฐานและ
การคมนาคม พัฒนาความร่วมมือด้านกฎหมาย การเกษตร พลังงาน การท่องเที่ยว
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยการยกระดับการศึกษาและการพัฒนาฝีมือแรงงาน
    
กลุ่มสินค้าและบริการนำร่องที่สำคัญ ที่จะเกิดการรวมกลุ่มกัน คือ สินค้าเกษตร /
สินค้าประมง / ผลิตภัณฑ์ไม้ / ผลิตภัณฑ์ยาง / สิ่งทอ / ยานยนต์ /อิเล็กทรอนิกส์ /
เทคโนโลยีสารสนเทศ (e-ASEAN) / การบริการด้านสุขภาพ, ท่องเที่ยวและการขนส่ง
ทางอากาศ (การบิน) กำหนดให้ปี พ.ศ. 2558 เป็นปีที่เริ่มรวมตัวกันอย่างเป็นทางการ
โดยผ่อนปรนให้กับประเทศ ลาว กัมพูชา พม่า และเวียตนาม
      ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้ทำ Roadmap ทางด้านท่องเที่ยวและการขนส่ง
ทางอากาศ (การบิน)
  3.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community –
 ASCC) เพื่อให้ประชาชนแต่ละประเทศอาเซียนอยู่ร่วมกันภายใต้แนวคิดสังคมที่เอื้อ
อาทร มีสวัสดิการทางสังคมที่ดี และมีความมั่นคงทางสังคม


ประโยชน์ที่ไทยได้รับคืออะไร

1.ประชากรเพิ่มเป็น 600 ล้านคนโดยประมาณ
ทำให้เพิ่มศักยภาพในการบริโภค เพิ่มอำนาจการต่อรองในระดับโลก
2.Economy Scale ยิ่งผลิตมาก ยิ่งต้นทุนต่ำ
3.มีแรงดึงดูดเงินลงทุนที่อยู่นอกอาเซียนสูงขึ้น
4.สิบเสียงย่อมดังกว่าเสียงเดียว

ผลกระทบมีอะไรบ้าง?
1.การศึกษาในภาพใหญ่ของโลก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ต้องไม่ให้การเปลี่ยนแปลงนี้มากระชากลากเราไปอย่างทุลักทุเล
เราต้องเตรียมความพร้อมทันที ตลอดเวลา โดยเฉพาะบุคลากรต้อง
ตามให้ทันและยืดหยุ่นปรับตัวให้รับสถานะการณ์ได้
2.ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษากลางของ ASEAN บุคลากรและนักศึกษา
ต้องเพิ่มทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ ให้สามารถสื่อสารได้
3.ปรับปรุงความเข้าใจทางประวัติศาสตร์ เพื่อลดข้อขัดแย้งในภูมิภาคอาเซียน
(Conflict Management) จึงต้องคำนึงถึงการสร้างบัณฑิตให้มีความรู้ความเข้าใจ
เรื่อง ASEAN ให้มากขึ้น
4.สร้างบัณฑิตให้สามารถแข่งขันได้ใน ASEAN เพิ่มโอกาสในการทำงาน
ไม่เช่นนั้น จะถูกแย่งงานเพราะเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงาน/บริการอย่างเสรี
คณะกรรมการวิชาชีพ สภาวิชาชีพ ต้องเตรียมการรองรับผลกระทบนี้อย่างเร่งด่วน
5.โอกาสในการเป็น Education Hub โดยอาศัยความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์
ของประเทศไทย แต่ต้องเน้นในเรื่องของคุณภาพการศึกษาเป็นตัวนำ
6.เราต้องการเครื่องมือในการ Transform คน การเรียนแบบ PBL หรือ Project Based
Learning น่าจะได้มีการวิจัยอย่างจริงจังและนำมาปรับใช้  ห้องเรียนไม่ใช่แค่ห้อง
สี่เหลี่ยมเล็กๆอีกต่อไป ต้องเพิ่มการเรียนจากชีวิตจริง ลงมือทำเป็นทีม
อยู่คนละประเทศก็ทำร่วมกันได้ด้วยไม่มีข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ประเด็นนี้ อาจารย์จะ
สอนได้ยากขึ้น แต่เป็นผู้ที่ช่วยให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ แสดงว่า อาจารย์ต้องมี
ความพร้อมมากกว่าเดิมและเก่งจริงๆMRAs

การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 9 เมื่อ 7 ตุลาคม 2546 ที่บาหลี อินโดนีเซีย
ได้กำหนดจัดทำข้อตกลงร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs)
เกี่ยวกับคุณสมบัติของวิชาชีพหลัก แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษ
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี โดยจะเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2558
ในเบื้องต้น ได้ทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว 7 สาขา คือ

1.วิศวกรรม (Engineering Services)
2.พยาบาล (Nursing Services)
3.สถาปัตยกรรม (Architectural Services)
4.การสำรวจ (Surveying Qualifications)
5.แพทย์ (Medical Practitioners)
6.ทันตแพทย์ (Dental Practitioners)
7.บัญชี (Accountancy Services)

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://nantanawk.wordpress.com/2011/08/26/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99-2558/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 มีนาคม 2012, 20:07:58 โดย shiff2007 » IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 10:03:19 »

ดันขึ้นมาขอความคิดเห็นกันหน่อยครับ ...
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 10:37:48 »

  ประเทศไทยเป็น ๑ ในสมาชิกประชาคมอาเซียนอยู่แล้วครับ แต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ นั้นชาติสมาชิกเหล่านี้มีข้อตกลงร่วมกัน

ด้านเศรษฐกิจที่ได้ทำการต่อยอดกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ พลเอก ชาติชาย ฯ ที่ว่าด้วยการเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าในภูมิภาคนี้

สมัยนายกอานันท์ ฯ ก็ได้มีการเริ่ม AFTA ขึ้น กระทั่งกลายเป็น FTA ณ ปัจจุบัน  สำหรับผม ผมว่าทางภาครัฐต้องเร่งแล้วครับ

เพราะเหลืออีก ๒ ปี กับ ๙ เดือนเศษๆ  ไม่ว่าจะเป็นระบบต่างๆ ที่เป็นพื้นฐาน หรือกฎหมายต่างๆ ก็ต้องแก้เพื่อรองรับอย่าง รัฐธรรมนูณเป็นต้น

อย่างตอนนี้ภายใด้การบริหารของนายกหญิงเท่าที่ผมดูก็ก็มาถูกทางแล้ว ไม่ว่าแสวงหาความร่วมมือกับมิตรประเทศ

ผมห่วงอย่างเดียวคือการเมืองภายใน ที่จะทำให้นโยบายต่างๆ สดุด ขนาดงบผูกพันยังถูกโยกเลยประเทศไทย

ต่างจาก ญี่ปุ่น ไต้หวัน ถึงการเมืองเขาจะน้ำเน่าแต่นโยบายต่างๆ ดำเนินไปมิได้หยุดหย่อน  นี่ผมกลัวไทยต้องเสียค่าโง่

รถไฟฟ้าหลายสายอยู่  เพราะตอนน้ำท่วมถูกทาง กทม.โยกงบมาช่วยชาวบ้าน เดียวเราได้เห็นปฏิมากรรมรถไฟฟ้าเหมือนโฮบเวลอีก... ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม


ปล.ไม่ใช่แค่ AEC แต่จะ AEC + ซึ่ง + เท่าไหร่นั้นผมยังไม่ทราบ ตอนนี้อเมริกาก็สนใจภูมิภาคนี้เหมือนกัน

เห็นมั้ยสุดท้ายอเมริกาก็สู้กับคอมมิวนิสต์ไม่ได้  ตัว C นั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่าอะไร ไหนจะโซเชียลเน็ตเวิคอีก นี่แหละระบบคอมมิวนิสต์ที่คาร์ลฯได้กล่าวไว้ 55+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 10:43:16 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 10:51:51 »

การค้าเสรี ...
เศรษฐกิจแบบมหภาค ...
การหลั่งไหลทางวัฒนธรรม ...
การท่องเที่ยวแบบไร้พรมแดน ...
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางการศึกษา ...

สิ่งเหล่านี้คือ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558

จังหวัดเชียงราย ได้รับอานิสงส์เหล่านี้แบบเต็ม ๆ
ถามว่า  .. เราได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับลูกหลานเยาวชน
ที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ .. มากน้อยแค่ไหน

ภาคธุรกิจ และภาคการเมือง .. มีการเตรียมความพร้อมมานานแล้ว
แต่สำหรับภาคการศึกษา .. ยังไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
นอกจากจะบอกให้ สอนวิชาภาษาอังกฤษ มากขึ้น ...

เราจัดการเรียนการสอน วิชาภาษาอังกฤษ มานานหลายศตวรรต
แต่ถามว่า มีคนไทยร้อยละเท่าไหร่ ที่เจรจาภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติได้
นอกเหนือจาก การผงกศีรษะ การสั่นหัว การเดินหนี การยิ้ม การมองหาตัวช่วย ฯลฯ

เคยถามในใจเหมือนกันว่า บ้านเราเมืองเรา สอนวิชาภาษาอังกฤษ กันยังไง..
ทำไมยิ่งสอน ยิ่งปรับหลักสูตร เด็กเราถึงใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้อย่างที่ต้องการ
แต่ตอนนี้ ... มันไม่ใช่เฉพาะวิชาภาษาอังกฤษอีกต่อไป
เพราะผลการทดสอบระดับชาติ  เด็กไทยเรา สอบตกทุกวิชา

... โอ พระเจ้า ...


AEC .... ปี 58 ก้มหน้ารับชะตากรรมกันเถิด เด็กไทย...

IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
beepeed
เฮา ฮัก เจียงฮาย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 259



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 14:08:36 »

ในความคิดของเราเอง คงต้องเปลี่ยนทั้งหมดน่ะค่ะ "ถ้าจะให้ดีจริง"[ไม่ใช่ผักชีโรยหน้า]

ถ้าเทียบกับประเทศที่บอกว่าพัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์ ประเทศไทยด้อยกว่ากันเยอะเลยค่ะ เด็กหรือคนที่เรียนเก่งก็อยู่ในส่วนของคนที่เรียนเก่ง แต่คนที่ไม่เก่งก็ไม่เก่งเลย มันแบ่งเส้นกันแบบเป็นตาย การสนับสนุนของเด็กเรียนเก่งจะดีกว่าคนที่ไม่เก่ง
รูปแบบการศึกษาในประเทศสิงคโปร์ เด็กจะต้องแยกเป็นคนๆเลยค่ะว่าจะเอายังไงกับชีวิตการเรียนของตัวเอง ในการเลื่อนชั้นทุกระดับช่วงชั้นจะต้องสอบวัดระดับของตัวเอง ซึ่งเค้าใช้ข้อสอบในระดับประเทศเหมือนกันทั้งหมด มาตรฐานจะใช้แบบประเทศสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรีย..

ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศไทย จะมีสอบก็แค่ กลางภาค ปลายภาค แล้วให้เกรด จะมาสอบวัดผล"ระดับชาติ"อีกทีก็ตอนป.6 แล้วก็ ม.6 ที่เรียกว่า o-net น่ะค่ะ [ซึ่งก็รู้ๆว่าข้อสอบมันเป็นยังไง??] แล้วก็มีสอบ GAT PAT การรับนักศึกษาเข้าเรียนออกแนวแบ่งระดับว่าใครเก่งให้มาอยู่ที่นี่ ใครไม่เก่งไปที่อื่น [นักเรียนที่กำลังอยู่ในช่วงสอบเข้ามหาลัยก็ต้องแข่งกันให้ตัวเองไปอยู่ในมหาลัยที่มีชื่อเสียง จะได้บอกว่าตัวเองเก่งได้น่ะ ตรงนี้ส่งผลไปถึงตอนที่จบแล้วไปสมัครงานก็จะมีแบ่งว่ามาจากมหาลัยไหน มาจากที่มีชื่อเสียงก็จะได้รับพิจารณาก่อน]
แล้วจะมาแยกความสามาถของเด็กก็ตอนเข้าม.ปลาย ให้เลือกว่าจะเรียนสายไหน?
แต่บางคนก็ไม่ได้รู้ค่ะว่าความสามารถของตัวเองอยู่ตรงไหน ตัวเองถนัดอะไร มีเยอะที่เลือกเรียนสายตามเพื่อน หรือเอาตามกระแสว่
IP : บันทึกการเข้า

YOU ARE WHAT YOU THINK
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2012, 21:53:50 »

ประเทศอื่น ๆ เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องการศึกษา
แทบจะเรียกได้ว่า เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่จะต้องทำ
ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศของเขา ....
ก่อนการกำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการศึกษา
เขาจะศึกษา ค้นคว้า เปรียบเทียบกับรูปแบบของประเทศอื่น ๆ
วิเคราะห์ตนเองในสิ่งที่มี สิ่งที่ขาด สิ่งที่น่าจะเป็น ...
และที่สำคัญที่สุด เมื่อกำหนดนโยบายและแนวทางทางการศึกษาแล้ว
จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ตามนโยบายของนักการเมือง หรือพรรคการเมือง
หรือนัก (ลอง) วิชาการ (กำมะลอ) ที่ทำให้ทิศทางและเป้าหมายทางการศึกษา
เป๋ไปเป๋มา ..

แม้กระทั่งวิชาภาษาแม่อันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชนชาติของตัวเอง
คือ  .... วิชาภาษาไทย .... ถามว่าทุกวันนี้ เด็กและเยาวชนไทย
... อ่านได้ เขียนถูกต้อง ใช้ได้เป็น มากน้อยขนาดไหน
เขียนไทย คัดไทย เรียงความ จดหมาย การเขียนรายงาน ฯลฯ
เด็กเขียนผิด ก็อ้างว่า กระแสของวัยรุ่น ภาษาฉาบฉวย วิวัฒนาการทางภาษา
อ้างว่าเป็นภาษาที่ใช้เฉพาะเวลา เฉพาะกลุ่ม เฉพาะสถานที่ (อินเตอร์เน็ต)
แต่ไม่ได้ดูว่า ในโลกของความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเด็กก็ใช้ภาษาแบบนี้แหละ ..

เฮ้อ...เหนื่อยใจครับ   ร้องไห้   ร้องไห้    ร้องไห้

IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
beepeed
เฮา ฮัก เจียงฮาย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 259



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2012, 01:17:26 »

ในเมื่อประเทศมันเป็นอย่างนี้ทางที่ดีก็เอาตัวให้รอดไว้ก่อนค่ะ
คนอื่นเค้าก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าใครจะดีใครจะร้าย เอาตัวเองรอดไว้ก่อ
ประเทศอื่น ๆ เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องการศึกษา
แทบจะเรียกได้ว่า เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่จะต้องทำ
ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศของเขา ....
ก่อนการกำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการศึกษา
เขาจะศึกษา ค้นคว้า เปรียบเทียบกับรูปแบบของประเทศอื่น ๆ
วิเคราะห์ตนเองในสิ่งที่มี สิ่งที่ขาด สิ่งที่น่าจะเป็น ...
และที่สำคัญที่สุด เมื่อกำหนดนโยบายและแนวทางทางการศึกษาแล้ว
จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ตามนโยบายของนักการเมือง หรือพรรคการเมือง
หรือนัก (ลอง) วิชาการ (กำมะลอ) ที่ทำให้ทิศทางและเป้าหมายทางการศึกษา
เป๋ไปเป๋มา ..

แม้กระทั่งวิชาภาษาแม่อันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชนชาติของตัวเอง
คือ  .... วิชาภาษาไทย .... ถามว่าทุกวันนี้ เด็กและเยาวชนไทย
... อ่านได้ เขียนถูกต้อง ใช้ได้เป็น มากน้อยขนาดไหน
เขียนไทย คัดไทย เรียงความ จดหมาย การเขียนรายงาน ฯลฯ
เด็กเขียนผิด ก็อ้างว่า กระแสของวัยรุ่น ภาษาฉาบฉวย วิวัฒนาการทางภาษา
อ้างว่าเป็นภาษาที่ใช้เฉพาะเวลา เฉพาะกลุ่ม เฉพาะสถานที่ (อินเตอร์เน็ต)
แต่ไม่ได้ดูว่า ในโลกของความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเด็กก็ใช้ภาษาแบบนี้แหละ ..

เฮ้อ...เหนื่อยใจครับ   ร้องไห้   ร้องไห้    ร้องไห้



การเปลี่ยนหลักสูตร การเขียนหนังสือให้เด็กเรียน อาจจะมีผลประโยชน์บางส่วนสำหรับบุคคลใดก็ได้ค่ะ มันเลยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่งั้นคงไม่มีงานทำ เงินไม่มีใช้น่ะสิ หุหุหุ
เห็นได้ว่าคนทำงานไม่ได้ทำงานด้วยใจรักเพราะหน้าที่ แต่ใจรักเพราะคำว่า"เงิน"กันซะมากกว่าค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

YOU ARE WHAT YOU THINK
inta
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,444


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2012, 06:26:35 »

เรื่องของเพื่อนบ้านส่วนมากเขารู้เรา    เราไม่ค่อยรู้เขา   เราก็จะไปรู้อะไรที่อยู่ไกลๆ    ที่ยังไม่ค่อยมีประโยชน์
โดยตรง    ถ้าเขาเปิดเสรีอาเซียนคงยังไม่พร้อม     
IP : บันทึกการเข้า


สนใจ โทร 086-9176511
IT-Agric
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2012, 07:19:25 »

ผมว่าถ้าจะปรัปปรุงกันคงต้องเริ่มจาก
-ฝ่ายบริหารกระทรวงหาคนที่เค้าอยู่ในแวดวงการศึกษาหรือเรียนทางนี้มาปรัปปรุงหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่(นักการเมืองไม่เกี่ยว)
-พัฒนาสื่อการสอนต่างๆให้พร้อมและทัดเทียมกันรวมทั้งกระจายครูที่เก่งๆไปให้ทั่วประเทศไม่ใช่กระจุกอยู่แค่ไม่กี่โรงเรียนหรือมหาลัย (แต่ไม่รวมแจก แท็บเล็ท นะครับผมไม่เห็นโดยอย่างแรง)
-พัฒนาครูผู้สอนให้มีจิตสำนึกในการเป็นครูและเพิ่มความรู้ความเข้าใจในวิชาที่สอน (ปิดโรงเรียนสอนพิเศษที่สอนวิชาเดียวกับอยู่ในห้องเรียน(ยกเว้นภาษาอังกฤษเพราะที่ถูกต้องควรจะเป็นเจ้าของภาษามาสอนอาจจะต้องใช้ทุนสูง) ในบางครั้งผู้สอนก็คือครูที่สอนวิชานั้นๆเอง ผมว่ามันเป็นอะไรที่น่ารังเกียจที่สุด ในเมื่อคุณมีหน้าที่สอนให้เด็กเข้าใจ ทำไมไม่สอนให้เข้าใจตั้งแต่ในห้อง ทำไมต้องมาสอนพิเศษแล้วเก็บเงินกับผู้ปกครองอีก หรือไม่ก็จ้างผู้สอนเหล่านั้นที่ไม่ใช่ครูมาสอนเทคนิคในโรงเรียนเลยก็ได้
-ปลูกจิตสำนึกครูอย่าตีกรอบความคิดเด็ก ให้เด็กออกความคิดเห็นไม่ใช่นั้งฟังอย่างเดียว แล้วก็เลิกความคิดที่เด็กไม่เข้าใจหรือเข้าใจยากเป็นเด็กโง่ เพราะผมว่าคนเรามีความชอบและถนัดไม่เหมือนกัน
-แล้วมีกิจกรรมให้ผู้ปกครองเด็กกับเด็ก หรือสังคมชุมชนให้มีกิจกรรมร่วมกัน หรืออาจจะให้คนที่ดี มีคุณธรรม มาเป็นวิทยากรพิเศษเพื่อเปิดโลกกว้างและจินตนาการให้กับเด็กนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2012, 20:09:35 »

เอาการศึกษาซึ่งเป็นเรื่องของการสร้างและพัฒนาคน
ไปผูกพันกับการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องของความฉาบฉวยและคะแนนเสียง
การศึกษาบ้านเรามันจึงตุปัดตุเป๋ ไม่นิ่ง ไม่ชัดเจน ..... เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
อยากขอให้พวกเราได้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้มากๆ ครับ
เสียงเล็กๆ เพียง 1 เสียง อาจมีคุณเอนกอนันต์ในอนาคตครับ....
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 01 มิถุนายน 2012, 06:38:08 »

ขอบคุณท่านเว็บมาสเตอร์ ที่เปิดบอร์ดการศึกษาและย้ายกระทู้นี้มาที่นี่ครับ


อยากเชิญชวนเพื่อนสมาชิดทุกสาขาอาชีพ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันให้มาก ๆ
ว่ากันตามความคิดเห็น และ ความต้องการของท่านกันเลย ว่าอยากให้โรงเรียนในจังหวัดเชียงราย
จัดการศึกษาอย่างไรเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรองรับ การไร้พรมแดนของ AEC
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
corolado4
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,841


บ้านสวน ดอยพระบาท11 (ธารน้ำกรณ์2)


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 01 มิถุนายน 2012, 08:25:52 »

ทราบว่าเพิ่งเอาเรื่องอาเซียน ไปเพิ่มเติมบทเรียนให้นักเรียนมัธยมแล้ว
นี่ล่ะการศึกษาของไทย ไม่มีการวางแผน วางระบบ ให้ต่อเนื่องและสอดคล้องกัน
ให้เด็กได้เรียนรู้ว่าประชาคมอาเซียนคืออะไร ก็จบภารกิจของหน่วยงานแล้ว
ทั้งที่เรื่องนี้ ประเทศอื่นเขาเตรียมการมาล่วงหน้าไว้แล้ว
จีนส่งเด็กมาเรียนในเชียงรายกี่รุ่นจบไปแล้วล่ะ
เด็กไทยแค่ภาษาไทยยังไม่แตกฉาน ไม่ต้องไปสื่อสารกับชาติอื่นหรอก
แค่สื่อสารกันเองก็ยังไม่ได้แล้ว อนาคตก็คงแยกสีสันแยกฝ่ายไปตามที่ถูกเบ้าหลอม
และถ้าไปเป็นผู้นำพาชาติไทยในอนาคต คงทำยิ่งกว่าสภาไทยเมื่อวันก่อน
IP : บันทึกการเข้า

jessica1234
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 01 มิถุนายน 2012, 10:12:20 »

 ยิงฟันยิ้ม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 26 สิงหาคม 2012, 08:39:02 โดย น้องนางบ้านนา » IP : บันทึกการเข้า
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,516


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 01 มิถุนายน 2012, 12:59:16 »

ผมว่าคนไทยเก่งเรื่องการปรับตัวครับ ในเชียงรายก็มีคนที่ใช้ภาษาจีน พม่า ได้ดีไม่น้อย เปิดประชาคมแล้วคงจะคึกคักขึ้นกว่าเดิมครับ
IP : บันทึกการเข้า

❀●•♪.FairytaleDH﹎.εїз︷✿
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,160


☆ (づ ̄ ³ ̄)づ~~♡


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 23:53:52 »

ประเทศอื่น ๆ เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องการศึกษา
แทบจะเรียกได้ว่า เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่จะต้องทำ
ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศของเขา ....
ก่อนการกำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการศึกษา
เขาจะศึกษา ค้นคว้า เปรียบเทียบกับรูปแบบของประเทศอื่น ๆ
วิเคราะห์ตนเองในสิ่งที่มี สิ่งที่ขาด สิ่งที่น่าจะเป็น ...
และที่สำคัญที่สุด เมื่อกำหนดนโยบายและแนวทางทางการศึกษาแล้ว
จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ตามนโยบายของนักการเมือง หรือพรรคการเมือง
หรือนัก (ลอง) วิชาการ (กำมะลอ) ที่ทำให้ทิศทางและเป้าหมายทางการศึกษา
เป๋ไปเป๋มา ..

แม้กระทั่งวิชาภาษาแม่อันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชนชาติของตัวเอง
คือ  .... วิชาภาษาไทย .... ถามว่าทุกวันนี้ เด็กและเยาวชนไทย
... อ่านได้ เขียนถูกต้อง ใช้ได้เป็น มากน้อยขนาดไหน
เขียนไทย คัดไทย เรียงความ จดหมาย การเขียนรายงาน ฯลฯ
เด็กเขียนผิด ก็อ้างว่า กระแสของวัยรุ่น ภาษาฉาบฉวย วิวัฒนาการทางภาษา
อ้างว่าเป็นภาษาที่ใช้เฉพาะเวลา เฉพาะกลุ่ม เฉพาะสถานที่ (อินเตอร์เน็ต)
แต่ไม่ได้ดูว่า ในโลกของความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเด็กก็ใช้ภาษาแบบนี้แหละ ..

เฮ้อ...เหนื่อยใจครับ   ร้องไห้   ร้องไห้    ร้องไห้




   หายเหนื่อยหรือยังคะ ยิ้มกว้างๆ มาช่วยกันคิด ระดมสมองคนรุ่นเก่าอย่างเราๆ
   เราเรียนกันมาอย่างไร คุณครูของพวกเราสอนอย่างไร ทําไมเราจึงรักและภูมิใจกับ  ภาษาไทย ความเป็นคนไทยของเรานัก ยิ้ม
       ส่วนตัวคิดว่า :  เราน่าจะเริ่มให้เด็กเรียนรู้เรื่อง
  
  **  3.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community –
 ASCC) เพื่อให้ประชาชนแต่ละประเทศอาเซียนอยู่ร่วมกันภายใต้แนวคิดสังคมที่เอื้อ
อาทร มีสวัสดิการทางสังคมที่ดี และมีความมั่นคงทางสังคม


  สอนให้รู้จักทุกเรื่องของประเทศตัวเองก่อน อ่าน พูด เขียน ภาษาไทยให้ถูกต้อง
  รู้จักวัฒนธรรม รากเหง้า ประวัติศาสตร์ไทยบ้าง
  รู้จักมีสังคมกับผู้คนตั้งแต่ในบ้าน หมู่บ้าน โรงเรียน
  สอนให้เด็กรู้จักหน้าที่ สิทธิ ความรับผิดชอบ ศีลธรรม ของตนเองและผู้อื่น รวมทั้ง
  ของส่วนรวม  ยิงฟันยิ้ม
        รู้จักตัวเองแล้ว เพิ่มพูนความรู้ไปรู้จักประเทศสมาชิกในสมาคมอาเซี่ยน

            ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษากลางของ ASEAN  ตกใจ
  เริ่มจากเด็กเล็กๆจนโตให้ท่องคําศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมคําแปลไทยวันละ5- 10 คําแล้วทํา Dictation (การเขียนตามคำบอก) ทุกวัน เมื่อบวกกับการเรียน Grammar ( หลักภาษา ) เด็กจะสามารถสร้างประโยคได้สบายมากเพราะเขามีคําศัพท์และ เข้าใจความหมาย นําคําเหล่านั้นมาแต่งประโยค เรื่องราวต่างๆได้  ยิงฟันยิ้ม

 ตัวเองก็เรียนมาแบบนี้ค่ะ สนุกกับคําศัพท์ใหม่ๆ ภาษาอังกฤษดิ้นได้ 1 คําอาจมีหลายความหมาย แล้วแต่จะอยู่ในรูปประโยคใด  ยิ้ม

  วันนี้ขอแสดงความคิดเท่านี้ก่อนนะคะ
  
  
    
  
IP : บันทึกการเข้า

(o◕‿◕)oแม่สีม่วง~ลูกสีเขียว(。◠‿◠。✿)
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,873


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2012, 15:57:15 »

แก้กฎระเบียบ ว่าด้วยการศึกษาทุกระดับชั้น แก้ ทัศนคติ ของบุคลระดับ ผอ. โรงเรียน เขต กรม กระทรวง ให้มีความคิดนอกกรอบบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็อ้างแต่กฎระเบียบ เห็นแล้วเซ็ง...
ที่โรงเรียนลูกสาว ป 5 เอง ทางโรงเรียน ใช้หนังสือจาก ประเทศสิงคโปร์ มาเรียนมาสอน กลับถูกบังคับให้ใช้หนังสือซึ่งเป็นภาษาไทย ที่ทางการแจกให้ฟรี เรียน...อ้างแต่กฎระเบียบ...เบื่อ
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
kruFleurs
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 403



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2012, 17:25:18 »

พอถึงวันที่ต้องเป็นประชาคมอาเซียนจริงๆ เราต้องรวมกับเขา การแข่งขันทำมาหากินจะมิใช่แค่แข่งกับคนไทยด้วยกันเองอีกต่อไป แต่ต้องแข่งกับชาติอื่นๆ ซึ่งหลายชาติพร้อมและจริงจังกว่า โดยเฉพาะการจัดการศึกษา ลำพังการแข่งขันในบ้านเรา คนที่รวยกว่าหรือรู้มากกว่าก็มักเอาเปรียบคนจนหรือคนที่รู้น้อยให้เห็นเนืองๆอยู่แล้ว ความห่างของชนชั้นจึงยิ่งถ่างมากขึ้น แล้วต่อไปเราต้องแข่งกับเขา ความเมตตาปราณี เอื้ออาทร หรือความเห็นอกเห็นใจจะน้อยลง เพราะเขากับเราคนละชาติ คนจน คนไม่รู้ หรือคนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา จึงมีโอกาสสูงที่จะถูกกระทำยิ่งกว่าแต่ก่อน

นี่แค่มองเรื่องการจัดการศึกษาเพียงอย่างเดียว ก็ดูน่าห่วงหรือน่ากังวลแล้ว คนไทยจะตกงานกันมากขึ้นจึงไม่ใช่คำทำนายที่เกินเลย ไหนจะเรื่องวินัย ความขยัน ความอดทน หรือความพยายามของคนในชาติอีกเล่า ที่ต้องนำมาร่วมพิจารณา
IP : บันทึกการเข้า

www.facebook.com/Maliwanphulae
สับปะรด"มลิวัลย์ภูแล" OTOP 5 ดาว
biki073
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 08 มิถุนายน 2012, 14:50:59 »

สำหรับการเรียนต่อ ที่ อาเซียนเค้ารับรองว่า เป็นอาชีพที่ผ่านรับรองแล้วว่าไม่ตกงานในยุค อาเซียน
1.แพทย์
2.ทันตะ
3.นักบัญชี
4.วิศวะ
5.พยาบาล
6.สถาปัตย์
7.นักสำรวจ
IP : บันทึกการเข้า

อยากชิมกล้วยเบรคแตก กล้วยไข่กรอบ อร่อยๆ กด like เลย
https://www.facebook.com/JNbanana
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!