ผมเคยคิดไว้ว่าผมอยากเป็นนักบิน มากกว่า อัยการ หรือศาล เสียอีก แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างมันไม่เอื้อ หัวเรือใหญ่ของครอบครัวผม (พ่อผม)
เสียตอนผมเรียนจบ ปวส.พอดี น้องอีกคนก็ยังต้องห่วง อีกคนก็พึ่ง ๒ ขวบ ส่วนพี่ก็พึ่งแต่งงานไปหมาดๆ กำลังสร้างครอบครัว
จะผึ่งเค้าก็คงไม่ได้ สุดท้ายภาระต่างๆ ต้องตกมาที่ผมคนรอง ทั้งหลายๆ เรื่อง ขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นผู้จัดการมรดก ตกเป็นผู้ต้องหา
คดีทำให้เสียทรัพย์ (ฟันต้นไม้ที่ติดกับที่ดินพ่อผม) แต่สุดท้ายยอมความกัน และที่ดินแปลงนั้นยกบริจาค ทั้งๆ ที่นั้นเป็นของพ่อผม
พูดถึงกรณีนี้ผมเกือบจะตัดสินใจทำอะไรที่มันเล็กมาก คือทำผิด มาตรา ๕๙+ ๒๘๘ ประมวลกฎหมายอาญา
ตอนนั้นผมได้ปืน ๑๑ มม.มาจาก เพื่อนคนนึง ว่าจะเอาไปยิงลุงให้ตาย แล้วตัวเองยอมรับผิด ศาลน่าจะลดโทษให้
และขอไปติดคุกที่เรือนจำทหาร มลทลทหารบกที่ ๒๔ อุดรธานี ผมเคยคิดถึงขนาดนั้น แต่ทนายที่ว่าความให้ผม
แนะผมว่า จะทำแบบนั้นทำไม อายุก็ยังเล็กยังน้อยอยู่ ผมเสียดายอนาคตคุณ ผมรู้ว่าคุณไม่ผิด แต่คุณโดนกลั่นแกล้ง
ใช่ครับ ผมก่อนจะลงมือตัดต้นไม้ผมได้แจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย แต่สุดท้ายเขาไม่เป็นพยานให้ผม เพราะพนักงานสอบสวน
ผู้นึงที่รับคดีได้ทำการล๊อบบี้ฯ ไว้แล้ว ทนายก็หาทางออกให้ ดีที่คดีนี้เป็นคดีอันยอมความได้ ผมก็ไปคุยกับลุงผม ยังไงแกก็ไม่ยอม
จะเอาผมเข้าคุกให้ได้ (เพราะผมไปขัดความโลภแก) และผมก็ได้ไปคุยกับพนักงานสอบสวนผู้นั้น ไปแบบเต็มยศ
ผมโคงคำนับให้ด้วยความนอบน้อม เพราะยศสูงกว่าผม ๑ ดาว แล้วก็คุยกัน พี่เค้าว่าจะช่วยผมโดยที่ไม่เห็นแก่อามิฬ
สุดท้ายก็ยอมความได้และที่แปลงนั้นตกเป็นสาธารณะประโยชน์ ตอนคดีผมจบพนักงานสอบสวนผู้คำนับให้ผม ๑ ครั้ง
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนแล้ว ในบางครั้งคนเราก็ต้องยอม "แพ้" บ้าง ถ้าการชนะนั้นมันไม่มีประโยชน์ ซึ่งทางทหารก็เคยสอนผมมาที่ว่า
"แพ้ศึกแต่ชนะสงคราม" หลังจากนั้น ทนายคนนั้นก็ชวนผมเรียนกฎหมาย เพื่อให้ผมรู้เท่าทันอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น
และช่วยคน แต่เท่าที่ผมดูกฎหมายไม่เห็นช่วยคนเลย กระทั่งผมได้มารู้สิ่งนี้ที่ ผบ.ผมได้สอน "การเงิน การลงทุน" มายาวถึงขนาดนี้เลยเหรอ อิอิ
ผมเคยช่วงนึงไปสอบเป็นนักบินของกองทัพบก แต่ปรากฎว่าความรู้ความสามารถ รวมทั้งนามสกุลผมไม่ดังพอ 55+
แต่ผมไม่ได้ลมเลิกความคิดที่จะเป็นนักบินนะครับ ผมฝึกบินในคอมพ์อยู่เรื่อยๆ และหวังว่าวันนึงพอผมมีตังค์พอซื้อเครื่องบินแบบเฮลิคอปเตอร์
และกฎหมายไทยเปิด ผมจะซื้อไว้ขับเหมือนดาราฮอลลี่วูลสักลำ อิอิ ส่วนเรื่องช่วยคนทางกฎหมายนั้นผมก็ช่วยอยู่เท่าที่รู้เท่าที่ทราบ
แต่ผมว่าเรื่องการเงิน การลงทุนต่างหากที่จะช่วยให้คนส่วนมากไม่คิดลบได้ มากกว่ากฎหมาย ผมเห็นการทำงานของ ตำรวจ ทนาย อัยการ ศาลแล้ว
ผมว่ามันไม่ใช่ สิ่งที่ใช่สำหรับผม ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคืออะไร ผมอ่านหนังสือไปไม่น่าจะรู้เรื่องแล้ว 55+
เพราะมีเครื่องบินของนักศึกษาวิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาวิทยาลัยนครพนมบินผ่านหลังคาบ้านผม ผมเลยฟุ้งซ่านขนาดนี้ อ่านไม่รู้เรื่อง ทำไรดีหว่า
ว่าแต่จะฝึกบิน แว่นตานักบินรุ่นนั้นก็ให้น้องไปแล้ว ดูหนัง เพลินฮาเบอร์ ดีกว่า หนังเรื่องนี้ที่ทำให้ผม "คิด"อยากเป็นนักบินและซื้อแว่นรุ่นนั้น 55+
เห็นมั้ยครับ ความคิดคนเรามันใหญ่และเล็กเพียงใด แต่ต่อไปนับจากนี้ผมจะคิดแต่เรื่องใหญ่ๆ จะไม่คิดเรื่องเล็กๆ อีกแล้ว (ถ้าไม่จำเป็น).