ใครได้ไป วัด ห้วยปลากั้ง มาบ้างครับ..

[dach11]

อยากถามผู้รู้หน่อยครับ เจย์ดี 9 ชั้นที่สร้วงใหม่ ทำไม มีพระพุทธรูปอยู่ชั้นล่าง แล้วมีคนขึ้นชั้นบน มีทั้งผู้หญิงด้วย..ซึ่งอยู่สูงกว่าพระพุทธรูป ขอขอบคุณครับ...

[ClassicHome]

ไปแค่ชั้น 4 ค่ะ มีองค์หลวงพ่อโสธร ท่านประดิษฐานอยู่ ไปสวดมนต์ที่นั่น งานสมโภชเจดีย์ เลยไม่กล้าขึ้นไปชั้นต่อไป เพราะจะอยู่สูงกว่าพระพุทธรูป ต้องมีวิจารณญานเองค่ะ ว่าควรจะไปต่อไหม ส่วนเรื่องที่ท่านสงสัย ต้องไปถามท่านเจ้าอาวาสเองค่ะ

[สาวนุ้ยผลัดถิ่น]

เรามองว่าเค้าแยกเป็นชั้นๆแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะหากเรามีบ้าน 2 ชั้นที่บ้านพระพุทธรูปก็มีทั้งชั้นบนและชั้นล่าง หรือ ตามตึกสูงๆก็เป็นเช่นนั้น คงไม่เกี่ยวกันมั้งค่ะ ยังไงผู้รู้มาตอบให้แถลงไขด้วยน่ะค่ะ

[superguy]

นานาจิตตัง 

[zombie01]

เคยไปวัดท่าตอนไหมครับ 

[corolado4]

ลองตามคำสอนพระพุทธเจ้า
มีคนถามว่า " ฉันอยากมีความสุข "  จะต้องทำอย่างไร?
พระองค์ตรัสว่า  อันดับแรก  ตัด  คำว่า   " ฉัน "   ออกไปก่อน เหลืออะไร?
                    อันดับต่อไป ตัด  คำว่า  " อยากมี " ออกไป ก็จะเหลือ แต่ " ความสุข "
....ฉะนั้น..." ฉันยืนอยู่เหนือองค์พระพุทธรูป " ลองตัดออกไปที่ล่ะคำ ให้เหลือแต่
             " องค์พระพุทธรูป "
...ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม...มีแต่เราเท่านั้นที่จิตใจไม่มั่นคง..เมื่อขึ้นไปอยู่ที่สูงกว่า
..สุดท้าย ถ้า "  ฉัน อยาก ถูกหวย  " ตัดไปแล้ว จะเหลืออะไร?.....

[lek_lek]

แล้วคุณคิดว่าครวรจะทำยังงัย กับการที่จะกราบไว้ สักการะ เจดีย์
ถ้าไมอนุญาติให้ผู้หญิงขึ้นขึ้นไป (เขาผู้นั้นผิดอะไร)
แล้วคนที่มีจิตใจตำ่ำทราม ชั่วช้ากว่าผู้หญิง จะขึ้นไปทำไม
แล้วอยากจะถามว่า
ทิศใต้           มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม
ทิศตะวันตก    มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม
เพราะส่วนมากทุกคนจะหันพระไปาทางทิศเหนือกับทิศตะวันออก
ลองคิดดูให้ดี ว่าสิ่งที่ควรเป็น ควรจะเป็นอย่างไร
ถ้ายังมีการที่จะเลือกว่าองค์ พระอยู่ชั้นไหน หันหน้าไปด้านไหน
แล้วห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไปกราบสักการะ เจดีย์

[ClassicHome]

ส่วนตัวแล้ว มีความเคารพท่านพระอาจารย์พบโชคอย่างสูง งานสมโภชเจดีย์ไป ร่วมสวดอิติปิโสด้วย 3 วัน แล้วยังพาเพื่อนไปวันอื่นด้วย วันที่ 8 มี.ค นี้ ก็ตั้งใจจะไปไหว้ครูท่าน

เรื่องที่พระเจดีย์มีพระพุทธรูปที่อยู่ต่ำ ยกตัวอย่างที่เห็นคือที่ชั้น 4 มีองค์หลวงพ่อโสธรท่านตั้งอยู่ที่ตรงชั้ย 3 หรือ 4 ไม่แน่ใจ เป็นมุมที่ บางทีถ้าใครไม่สังเกตุ จะมองไม่เห็น ชั้นนี้เหมือนคล้ายๆ จะเป็นชั้นลอย องค์พระท่านก็ไม่เล็ก สีทองเหลืองอร่ามสวยงาม ตนเองเห็นดังนนั้นก้ไม่ขึ้นไปต่อ เพราะว่าไม่เกี่ยวกับว่าเป็นหญิงหรือชาย ดั่งที่คุณ Lek_lek comment มา เพราะกลัวบาป กลัวเป็นกรรมอย่างที่สุด เพราะองค์พระพุทธรูปคือองค์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะต้องยกไว้สูงสุดเศียรเกล้า

แต่บางท่านอาจจะว่าเคารพสิพระพุทธเจ้า เคารพมาก แต่อยากจะขึ้นไปดูพระเจดีย์  ไม่ได้ปรามาส เคารพอยู่ แต่ตัวกูบอกอยากไปดู คำว่าอยากนี่แหล่ะ กิเลส อวิชชามันชอบแสดงให้เห็นนัก  ก็เลยตองทำให้เป็นกรรมกับตนเอง  เรื่องกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากใครเชื่อว่าบุญบาปมีจริง กรรมเวรมีจริง คงต้องระวังบ้างก็ดี

เราเป็นชาวพุทธ หากมีพุทธะ อยู่ในใจ แล้วจะมองข้ามจุดนี้ได้อย่างไร การที่เราอยู่สูงกว่าพระพุทธรูปนั้น หากขึ้นไปต่อนี่ คือเลยศรีษะองค์พระไปเลย จะรู้หรือไม่รู้ก็เป็นกรรมแน่อย่างแน่นอน หากอยากจะขึ้นไปกราบ ก็คงต้องมีวิธีเดียวคือ กราบขอขมาพระรัตนตรัยก่อน คือบท สัพพัง อะปะราธัง ฯ จนจบ ถึงแม้จะขอขมาก็ดี แต่อย่างไร ก็ยังไม่สมควร

เมื่อวานเพิ่งได้ฟัง CD ธรรมะขององค์หลวงตาพระมหาบัว ท่านเทศน์ไว้ จับใจความสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้คือ " องค์หลวงตามั่นนั้น ท่านเคารพต่อพระพุทธเจ้า และพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์สมัยพุทธกาลอย่างอย่างที่สุด ท่านยกไว้เหนือหัว "  ครั้งหนึ่งท่านเห็นหน้าซองยาที่เป็นรูปพระสังกัจจายน์ ซึ่งเป็นพระสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า พอหลวงปู่มั่นท่านเห็นดังนั้น ท่านก็ดำริว่า นี่พระสังกัจจายน์  ท่านเป็นสาวกพระพุทธเจ้านี่ ท่านก็เทยาออกและนำเอารูปพระสังกัจจายน์ ออกมา แล้วท่านนำไปวางไว้ใต้หมอน ตอนกลางคืนท่านก็สวดมนต์ ท่านก็กราบองค์พระสังกัจจายน์ ซึ่งอยู่ใต้หมอนไปด้วย

อีกครั้งที่หลวงปู่มั่นท่านไปค้างที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาสท่านจัดที่จำวัดให้หลวงปู่มั่น ปรากฎว่า ที่ห้องนั้นมีหนังสือธรรมะอยู่ หลวงปู่มั่นเห็นดังนั้น ท่านบอกว่าให้นำหนังสือพระขึ้นไปไว้ที่สูงๆ เพราะถ้าหนังสืออยู่ต่ำกว่ท่าน ท่านก็จะไม่นอนที่นั่น

นี่ขนาดพระธรรม และพระอริยะสงฆ์ หลวงปู่มั่นท่านยังทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่า อยู่สูงกว่าไม่ได้ ต้องเคารพ กราบไว้ ด้วยใจอย่างเคารพที่สุด คงไม่ต้องพูดถึงพระพุทธเจ้า หรือองค์พระพุทธรูปต่างๆ ว่าหลวงปู่มั่น ท่านจะให้ความเคารพสูงสุดเพียงใด หลวงตาพระมหาบัวท่านเทศน์ว่า ไม่เคยเห็นใครกราบพระพุทธรูปได้งดงามอย่างองค์หลวงปู่มั่นมาก่อนเลย ท่านกราบได้งามแบบนอบน้อมอย่างที่สุด

เหล่านี้ที่กล่าวมา คือความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ให้ตัดความเป็นตัวกู ของกู ออก แล้วท่านจะมีสายตาที่บริสุทธิ์ มีจิตใจที่บริสุทธิ์แท้เข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยไม่ต้องลังเลว่าสิ่งใดควรหรือไมควรกระทำ

จะให้ดีให้ผู้รู้ อาทิ ท่านเมฆพัตร มาช่วยเสนอแนะด้วย โมทนาล่วงหน้าค่ะ

ขอให้เจริญในธรรม สาธุ

[noom@hotmail.com]

ลองตามคำสอนพระพุทธเจ้า
มีคนถามว่า " ฉันอยากมีความสุข "  จะต้องทำอย่างไร?
พระองค์ตรัสว่า  อันดับแรก  ตัด  คำว่า   " ฉัน "   ออกไปก่อน เหลืออะไร?
                    อันดับต่อไป ตัด  คำว่า  " อยากมี " ออกไป ก็จะเหลือ แต่ " ความสุข "
....ฉะนั้น..." ฉันยืนอยู่เหนือองค์พระพุทธรูป " ลองตัดออกไปที่ล่ะคำ ให้เหลือแต่
             " องค์พระพุทธรูป "
...ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม...มีแต่เราเท่านั้นที่จิตใจไม่มั่นคง..เมื่อขึ้นไปอยู่ที่สูงกว่า
..สุดท้าย ถ้า "  ฉัน อยาก ถูกหวย  " ตัดไปแล้ว จะเหลืออะไร?.....

กด LIKE ให้ครับ

[@เชียงแสน]

...อันนี้พูดยากครับผม...ถ้าดูจากเจตนาของหลวงพ่อผู้สร้างวัด และผู้ที่ได้ไปวัดห้วยปลากั้ง ล้วนแล้วแต่มีเจตนาดี ยุคนี้เปลี่ยนไปจริง ๆ ครับ เลี่ยงยากโดยเฉพาะบ้านเรือน ตึก ฯลฯ มีหลายชั้น บางทีการวางพระพุทธรูป  ดูแล้วจึงไม่เหมาะสมหากเทียบกับสมัยก่อน  คงกลับมาดูที่เจตนา คงไม่มีปัญหาอะไรครับ...

...ในส่วนของผู้หญิง ผมว่าบางท่านจิตใจดี งดงาม จิตใจเป็นกุศล สมมุติว่าการได้ขึ้นไปสูงกว่าพระพุทธรูป โดยที่ไม่ได้เจตนา หากเป็นโทษ (สมมุติ) นะครับ ก็คงจะเป็นแค่ความผิดเล็กมาก เพราะด้านจิตใจสูงอยู่แล้วครับ...ผมว่ายังได้บุญกว่าขี้เมา กินเหล้าในวัดครับ แต่ว่าขี้เมา ขี้เหล้าในวัด ก็ยังมีข้อดีอีก ถ้างานไหนไม่มีขี้เมา ไม่มีขี้เหล้า แล้วใครจะช่วยยกโต๊ะเก้าอี้...ทุกอย่าง มีดี มีเสีย เพศหญิงบางท่าน จิตใจสูงส่งกว่าบุรุษ และบุรุษบางท่านก็จิตใจสูงกว่าสตรี มีคละเคล้ากันไปครับ...

...ที่ท่านเจ้าของกระทู้รู้สึกว่าไม่เหมาะสม ก็เพราะว่าธรรมเนียมของเราแต่โบราณที่มักจะดูว่าผู้หญิงเป็นเพศที่มิควรที่จะอยู่สูงกว่าวัตถุมงคล หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ตาม และธรรมเนียมแต่ละท้องที่บางทีก็ต่างกัน ยกตัวอย่าง นานแล้วที่ สว.หญิงท่านหนึ่ง มาเชียงใหม่ ขึ้นดอยสุเทพ แล้วไปเรียกร้องสิทธิสตรีว่าทำไมห้ามสตรีเข้าไปในเขตองค์พระธาตุดอยสุเทพ กรณีนี้ ก็ทำไม่ถูกครับ เพราะทางเหนือเราถือมาก ขนาดเราเป็นผู้ชายยังไม่อยากเข้าไปในเขตองค์พระธาตุเลย....คงต้องดูที่ธรรมเนียมปฏิบัติด้วย

...ดังนั้น ทุก ๆ เรื่องคงต้องดูที่เจตนาครับ...

...ที่แน่ ๆ ผมไปมาแล้ว เข้าไปในองค์เจดีย์ กลิ่นหอมจากไม้ที่แกะสลักองค์เจ้าแม่กวนอิม และเสียงเพลงเบา ๆ ที่ทางวัดเปิด ขณะขอพรทำจิตใจให้สงบ มันช่างมีความสุขจริง ๆ ครับ รู้สึกสงบจิต สงบใจมากกกกกก....

....สิ่งทั้งมวลล้วนใจเป็นใหญ่ สำเร็จสมได้ด้วยเจตนา....

[Toy88]

เจดีย์สวยมาก เป็นบุญแล้วที่ท่านอนุญาตให้เราขึ้นไป เอาจิตจับแต่สิ่งดีๆ แล้วจะรู้ด้วยจิตว่าทุกสิ่งที่รวมกันเป็นองค์เจดีย์มีพลังสูงมาก ณ ที่แห่งนี้มีจุดพลังของแรงโน้มถ่วง ระหว่างโลกและจักวาล ซึ่งสามารถรับรู้และสัมพัสได้ ทำให้การไหลเวียนของเลือดในตัวเราดีขึ้นได้อย่างมหัศจรรย์

[ปัญญาวุฒิ]

บางทีผมก็คิดนะว่า คนพุทธเราบางที ก็พูดหรือทำอะไรแบบเอาตัวรอด หรือ อธิบายเข้าตัว กันไปหมด เช่น พุทธอยู่ที่ใจ, อย่ายึดมั่นถือมั่น หรืออะไรประมาณนั้น

ถ้าจะเป็นอย่างนั้น

เกิดมีวัดแห่งหนึ่ง เอารูปเคารพหรือเครื่องหมายของศาสนาอื่นไปวางไว้บนโต๊ะหมู่บูชาหรือหิ้งพระ แล้วให้ชาวบ้านกราบ ด้วยการอธิบายว่า "นี่เป็นอุบายว่า หากเราไม่รักษาพระพุทธศาสนาไว้ให้ดีแล้วอนาคตข้างหน้าจะไม่มีพระพุทธรูปให้กราบ แต่จะเป็น....แทน"

อย่างนี้ได้ไหม?

[Toy88]

การมองโลกในแง่ดีมีประโยชน์ครับ
 
          เคยได้ยินประโยคที่ว่า หากเรามองโาลกในแง่ดีแล้วจะทำให้จิตใจเราผ่องใส และสุขภาพที่ดีก็จะตามมา ... แต่มีบางคนที่แย้งว่า การมีสุขภาพร่างกายที่ดีต่างหากที่จะทำให้เรามองโลกในแง่ดี 


          คงไม่ต้องเถียงกันอีกต่อไป เมื่อมีผลวิจัยมากมายที่บ่งชี้ว่า การมองโลกในแง่บวกจะส่งผลใมีชีวิตที่ยืนยาว และสุขภาพดี แข็งแรงกว่าการมองโลกในแง่ลบ แต่ล่าสุดนักวิจัยเริ่มสงสัยว่า เป็นสิ่งใดที่เกิดก่อนกันแน่ ระหว่างมองโลกในแง่บวกแล้วสุขภาพดี หรือว่าสุขภาพดีแล้วจึงส่งผลให้มองโลกในแง่บวก


          คณะนักวิจัยกล่าวว่า "คนที่มองโลกในแง่บวกจะมีอัตราการเสียชีวิตเพราะเจ็บไข้ได้ป่วยน้อยกว่าคนที่มองโลกในแง่ลบ ผู้ป่วยที่ทำบายพาสหัวใจ ถ้าเป็นพวกที่มองโลกในแง่ดีจะมีแนวโน้มกลับเข้าไปนอนในโรงพยาบาลน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับพวกที่มองโลกในแง่ร้าย พวกที่มองโลกในแง่ดีจะมีความดันเลือดต่ำ ส่วนพวกที่มองโลกในแง่ร้ายจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจ เมื่อเทียบกับพวกที่มองโลกในแง่ดี"


          ส่วนข้อสงสัยที่ว่า "มองโลกในแง่บวกแล้วสุขภาพดี หรือว่า สุขภาพดีแล้วจึงมองโลกในแง่บวกนั้น" ทางนักวิจัยในสหรัฐฯ ได้ศึกษาเรื่องนี้ โดยเชื่อมโยงกับอาการป่วยของคนไข้กลุ่มหนึ่งพบว่า ผู้ที่กำลังเจ็บป่วย แม้จะมองโลกในแง่ดี ทั้งที่ยังเจ็บป่วยอยู่ ช่วยได้ก็แค่ทำให้อารมณ์สดใสชื่นบาน ไม่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ส่วนผู้ที่มองโลกในแง่ดีแล้วมีสุขภาพแล้วมีสุขภาพแข็งแรงชีวิตยืนยาวนั้น เป็นเพราะว่าการมองโลกในแง่ดีจะโน้มนำให้มีการใช้ชีวิตที่ดีตามไปด้วย ในทางตรงข้ามเวลาที่เราเกิดความเครียดหรือมองโลกในแง่ร้าย ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนซึ่งส่งผลเสียต่ออวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ตั้งแต่เหงือกไปจนกระทั่งหัวใจ...


          การถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็มีส่วนทำให้คนเรามองโลกในแง่ดีหรือร้าย เพราะยีน (Gene) บางตัวโน้มนำให้บางคนมองโลกในแง่ดี และยีน (Gene) ยังมีส่วนสำคัญในการกำหนดความแข็งแรงของสุขภาพและชีวิตที่ยืนยาว แต่ถึงกระนั้นการจะมองโลกในแง่ดี หรือร้ายก็ต้องมีอีกหลายปัจจัยมากำหนด คงไม่ใช่แค่ยีน (Gene) อย่างเดียว แต่ที่แน ๆ ปัญหาที่เรากำลังเผชิญทุกวันนี้น่าจะทำให้เราพยายามมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ดีกว่ามองโลกในแง่ร้าย แล้วทำให้จิตใจหดหู่


          มองทุกอย่างให้เป็นบวกเข้าไว้นะครับ แล้วสุขภาพจิตใจที่ดีก็จะตามมา อารมณ์ดี มีเสน่ห์... รวมถึงสุขภาพกายที่ดี ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยอีกด้วยครับ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ บางกอกทูเดย์ ฉบับวันที่ 22 พฤษภาคม 2551

[iiล้วiiต่น้oj]

ไปมาแล้วครับ สวยมากมายเลย