หันจื่อวิทยากร ....มีไผเป็นคนเจียงฮาย ตี้ฮู้ประวัติเจียงฮายแต้ๆผ่องนะ เอาคนตี้ไหนมาอู้..ถึงอดีต...อนาคต บ่าเปิงก้า.........
หัวข้อ "อนาคตเมืองเชียงราย" โดย คุณชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้ว
ก็เหมาะสมแล้วลอครับ เปิ้นทำงานเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมมาทั่วโลก
เจ้าของ ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชันแนล
...............................................
ชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้ว เกิดที่จังหวัดเชียงราย เป็นบุตรชายของนายแพทย์เสม และนางแฉล้ม พริ้งพวงแก้ว ศึกษาชั้นประถมศึกษาที่จังหวัดเชียงราย เมื่อบิดาย้ายเข้ามารับราชการในกรุงเทพฯ จึงเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนสอบเข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับปริญญาตรีเมื่อ พ.ศ. 2507 หลังจากเข้ารับราชการที่กองแบบแผน กรมโยธาเทศบาลได้ระยะหนึ่ง จึงลาออกไปศึกษาต่อด้านสถาปัตยกรรมระดับปริญญาโทที่แพรตต์อินสติติว บรุคลีน นครนิวยอร์ก และจบการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2510
ชัชวาลย์ใช้เวลาฝึกงานกับสำนักงานสถาปนิกในสหรัฐฯ กับบริษัท โรเบิร์ต เอ ลิตเติล แห่งคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เป็นเวลา 1 ปี จึงกลับมาฝึกงานกับบริษัทสถาปนิกนานาชาติในกรุงเทพฯ คือบริษัท หลุยส์ เบอร์เจอร์ อีก 2 ปี จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทออกแบบของตนเอง คือ บริษัท ดีไซน์ 103 จำกัด ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2513 โดยอาศัยอาคารตึกแถวเลขที่ 103 ถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นคลินิกแพทย์ของบิดาที่ทำการอยู่ชั้นล่าง
การทำงานวิชาชีพและผลงานทางสถาปัตยกรรม
ชัชวาลย์เป็นผู้มีฝีมือในด้านการออกแบบมากผู้หนึ่ง ผลงานชิ้นแรกๆ ชิ้นหนึ่งเมื่อครั้งทำงานที่กรมโยธาเทศบาลเมื่อ พ.ศ. 2508 คือ อาคารกีฬาในร่มของ กรมพละศึกษา ยังคงสวยงามทันสมัยปรากฏให้เห็นอยู่ที่ด้านข้างอาคารมาบุญครอง การตั้งสำนักงานออกแบบอิสระแบบเต็มเวลาเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนนั้นนับเป็นความกล้าหาญเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศยังมีขนาดเล็ก การก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นงานภาครัฐบาล งานภาคเอกชนก็มีขนาดเล็ก งานขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่ของรัฐขณะนั้นเป็นงานของรัฐบาลอเมริกันที่สืบเนื่องจากสงครามเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีบริษัทอเมริกันเข้ามาตั้งรับงานอยู่แล้ว
ชัชวาลย์เริ่มทำงานออกแบบในสำนักงาน 103 ด้วยงานขนาดเล็ก และด้วยประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกงานทั้งในราชการกับบริษัทออกแบบอเมริกันซึ่งมีวิธีการทำงานระดับนานาชาติและมีมาตรฐานสูง ชัชวาลย์จึงนำประสบการณ์มาบริหารและให้บริการออกแบบแก่ลูกค้าไทยทั้งรายบุคคลและรายองค์กรธุรกิจ ประกอบกับอัธยาศัยที่น่าคบจึงมีงานออกแบบเข้ามามากขึ้นเป็นลำดับจนต้องขยับขยายไปตั้งในที่ใหม่ที่กว้างขวางขึ้น
การก้าวสู่ระดับนานาชาติ
ชัชวาลย์มีความเชื่อว่า หากจะแข่งขันกับนานาชาติได้นั้น จำเป็นต้องเรียนการทำงานภาคปฏิบัติกับบริษัทออกแบบชั้นนำของต่างประเทศด้วยและเรียนรู้งานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จุดเปลี่ยนสำคัญที่เป็นที่โต้เถียงกันมาก คือ การเข้าร่วมงานจัดการและควบคุมการก่อสร้างสำนักงานใหญ่ธนาคารแห่งประเทศไทย ชัชวาลย์ได้ถูกตำหนิโดยสถาปนิกไทยจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านการเข้ามาของสถาปนิกต่างชาติในประเทศไทย โดยเชื่อว่าสถาปนิกไทยทุกคนมีความสามารถเท่าเทียมกับสถาปนิกนานาชาติ ชัชวาลย์กล้าพอที่จะเสนอตัวเข้าร่วมงานกับบริษัทจากประเทศเนเธอร์แลนด์ซึ่งรัฐบาลไทยว่าจ้างเป็นผู้ออกแบบ ชัชวาลย์เคยกล่าวว่าบริษัทดีไซน์ 103 ได้รับประสบการณ์ในการจัดองค์กรออกแบบในด้านต่างๆ อย่างครบครันซึ่งเป็นการดำเนินงานที่ทันสมัยระดับนานาชาติ ชัชวาลย์ได้นำประสบการณ์และวิธีปฏิบัติวืชาชีพระดับนานาชาติมาประยุกต์ในสำนักงาน ทำให้สำนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถร่วมงานกับบริษัทต่างชาติที่รัฐบาลและองค์กรต่างประเทศว่าจ้างมาทำงานในประเทศไทย แม้จะมีบริษัทออกแบบของไทยที่มีการจัดการอย่างนานาชาติที่มีส่วนช่วยยกระดับวิชาชีพในประเทศแต่ก็มีจำนวนน้อย แต่การจัดการสำนักงานที่ทันสมัยที่ได้แพร่หลายออกไปในวงที่กว้างขึ้นส่วนหนึ่งเกิดสถาปนิกรุ่นหลังที่เคยทำงานกับชัชวาลย์ที่ได้ลาออกไปตั้งสำนักงานใหม่
การก้าวสู่ความหลากหลาย
นับตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2518 งานด้านการออกแบบได้เริ่มหลากหลายจากการเร่งรัดพัฒนาประเทศและการส่งเสริมการท่องเที่ยว งานบริการวิชาชีพได้เริ่มมีงานวางแผนที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญแบบสหสาขาทั้งวางแผน หรือนักผังเมือง วิศวกรสาขาต่าง ๆ นักเศรษฐศาสตร์ นักบริหาร ฯลฯ ตลอดจนภูมิสถาปนิกและมัณฑนากร ขนาดของงานก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและขยายออกไปต่างประเทศ ทำให้บริษัท ดีไซน์ 103 ต้องจัดตั้งบริษัทในเครือขึ้นอีกหลายบริษัท รวมทั้งบริษัทชัชวาลย์-เดอ เวเกอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทไทยอัลฟา คอนซัลติ้ง เอ็นจิเนียร์ส จำกัด และบริษัทอื่นๆ อีก 5 บริษัท
ผลงานออกแบบที่สำคัญ
ปัจจุบันบริษัทดีไซน์ 103 ของชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้วและบริษัทในเครือทำงานออกแบบสถาปัตยกรรม วิศวกรรม งานวางแผน งานที่ปรึกษาและจัดการงานก่อสร้างที่สามารถให้บริการวิชาชีพได้เกือบทุกประเภท มีงานกระจายอยู่ทั่วประเทศนับพันชิ้นรวมทั้งในประเทศข้างเคียง เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ซาอุดิอาระเบีย อินเดีย เยอรมันนี ฯลฯ ตัวอย่างงานชิ้นสำคัญที่ชัชวาลย์มีส่วนสำคัญในการออกแบบหรือวางแผน (ผังหลัก) ได้แก่
สวนนิทรรศการชา ของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ณ ศูนย์วิจัยการเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2548 - 2549
โรงงานชา และ Tea Pavilion ของ บริษัท ชาดอยช้าง จำกัด อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2547
อาคารแสดงนิทรรศการไทย EXPO 2000 ของ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ณ เมืองแฮนโนเวอร์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน พ.ศ. 2541 - พ.ศ. 2543
งานผังแม่บทและแบบสถาปัตยกรรม ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติกรุงเทพฯ (Bangkok International Trade & Exhibition Center - BITEC) ถนนบางนา-ตราด ก.ม. 1 กรุงเทพฯ พ.ศ. 2536 - 2540
งานผังแม่บท ออกแบบร่างเค้าโครง และควบคุมงานออกแบบ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพฯ แห่งที่ 2 (หนองงูเห่า) พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2540
อาคารที่ทำการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก คลองเตย กรุงเทพฯ พ.ศ. 2534 - พ.ศ. 2541* อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ถนนพระราม 3 กรุงเทพฯ พ.ศ. 2534 - 2539
อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ส่วนที่สอง ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ พ.ศ. 2533 - พ.ศ. 2538
อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ถนนราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ พ.ศ. 2533 - พ.ศ. 2538
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก คลองเตย กรุงเทพฯ พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2534
งานผังหลักและแบบร่างขั้นต้น สนามบินหนองงูเห่า อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. 2525
อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ส่วนที่หนึ่ง ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ พ.ศ. 2525
ชีวิตครอบครัว
ชัชวาลย์สมรสกับนางสาวผุสณี ยุวนะเตมีย์ เมื่อ พ.ศ. 2512 มีบุตรชาย 2 คน ในบั้นปลายชีวิต ชัชวาลย์ได้มอบหมายงานบริหารหลักๆ ให้พนักงานรุ่นหลังที่เติบโตขึ้นดำเนินการต่อเนื่อง คงคุมแต่นโยบายโดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานกุศล งานสาธารณะ และงานเพื่อสังคม ชัชวาลย์ได้สร้างบ้านและทำไร่ชาที่จังหวัดเชียงรายบ้านเกิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2539 และบริหารมูลนิธิหมอเสม พริ้งพวงแก้ว ที่จัดหาทุนสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ใน 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน จำนวนประมาณ 1,200 คน ชัชวาลย์เป็นผู้มีอัธยาศัยเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ และผู้เคยรู้จัก แต่ก็ยังเคยถูกยิงเมื่อ พ.ศ. 2527 ขณะนั่งรถไปทำงานโดยไม่รู้สาเหตุ แม้จะถูกกระสุนระยะใกล้หลายนัดแต่ก็ไม่ถูกที่สำคัญ
ชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้ว ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อ พ.ศ. 2546 เนื่องจากมีส่วนช่วยจรรโลงวิชาชีพสถาปัตยกรรมมาเป็นเวลายาวนาน รวมทั้งยังได้มีส่วนถ่ายทอดวิชาความรู้และประสบการณ์ที่มีมากมายแก่สถาบันการศึกษาต่างๆ
.......................................................................................
จะเอาหยังแห๋ม
http://www.d103group.com/profile.php