ที่ประชุม ศอฉ. เห็นควรให้คงประกาศเคอร์ฟิวใน 24 จังหวัดต่ออีก 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 พ.ค. แต่ปรับเวลาจาก 23.00 น. เป็น 24.00-04.00 น. อ้างพบข้อมูลมีความพยายามสร้างความวุ่นวาย ด้าน กทม.เร่งเยียวยาผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และย่อย จับมือสถาบันการเงินออกโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
การประชุมศูนย์ อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นัดแรก ที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังจากย้ายมาจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธาน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงผลประชุมว่า ที่ประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล (เคอร์ฟิว) โดย รมว.กลาโหม รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และแม่ทัพภาคที่ 1 เห็นตรงกันว่า ยังมีความจำเป็นที่ต้องคงไว้ก่อนในพื้นที่ทั้ง 24 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 24.00-04.00 น. ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) ถึงวันที่ 31 พ.ค. 2553 เนื่องจากฐานข้อมูลข่าวสารพบว่า ยังมีความพยายามสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย แม้ระยะเวลาประกาศเคอร์ฟิวเพียง 4 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน สามารถคุมสถานการณ์ได้ ขณะเดียวกันไม่อยากให้ประชาชนต้องเดือดร้อนมากเกินไป ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวประชาชนโดยทั่วไปสามารถปฏิบัติภารกิจได้เสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป
ด้านนายพงศ์ศัก ติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร แถลงถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม โดยผู้ประกอบการอาคารขนาดใหญ่บริเวณแยกราชประสงค์ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้ว่าฯ กทม. สั่งให้สำนักงานโยธาธิการฯ และสำนักงานเขตท้องที่ เร่งเข้าตรวจสอบพื้นที่ว่ามีความมั่นคงแข็งแรง หรือต้องรื้อปรับปรุง หรือต้องประกาศเป็นเขตควบคุมให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือต่อไป ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสยามสแควร์ รัฐบาลและ กทม.จะจัดหาพื้นที่ให้สำหรับการค้าขายโดยเร็วที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพื้นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อให้ผู้ค้าสามารถกลับมาค้าขายได้ภายใน 1-2 วันนี้ โดย กทม.จะร่วมกับสถาบันการเงิน เปิดโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการที่ต้องการกู้เงินด้วย
ที่มา
http://www.chiangraitoday.net/hotnews/?hotnewsid=4986