~"* ตะลอนลำพูน ...ความทรงจำนานมาแล้ว... By.. กอย่า

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

 สืบเนื่องจากความต้องการเดินทาง อยากอยุดนิ่งทางความคิด และอยากค้นหาสมาธิให้ตนเอง  จึงเกิดทริปนี้ขึ้นค่ะ  

ทริปนี้อาจจะยาวซักหน่อย คงต้องค่อยๆ ทะยอยลงรูปให้ชม  อดใจกันนิดนึงละกัน

ต้อนรับการเดินทางด้วยมวนเมฆและสายฝนตลอดทาง  ได้รสชาดของการเดินทางไปอีกแบบ

ถึงที่หมายแรก  ก็ยังต้องพบกับสายฝนมากมาย  จนต้องนั่งชมเชยบรรยากาศท่ามกลางสายฝนอยู่จนเย็น

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

คงต้องเบนเข็มทิศหาที่ัพักกันก่อนละ  แสงก็ไม่มี  ฝนก็กระหน่ำซะขนาดนี้  คงไม่เหมาะกับการเดินเล่นแน่ๆ

ระหว่างที่ขับรถออกมาวนหาที่พัก  ก็พบขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่  สอบถามลุงป้าที่เดินผ่านมาระหว่างรถติด
ก็ได้ทราบว่า  เป็นขบวนแห่เครื่องสักการะพระธาตุหริภุญชัย  ซึ่งจะมีพิธีสรงน้ำพระธาตุกันในค่ำคืนนี้

อ๊อ! กอย่าลืมบอกไปว่า  วันที่เดินทาง  เป็นวันวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ หรือที่ชาวเหนือ เรียกว่าวันแปดเป็ง หรือวันวิสาขบูชานั่นเองค่ะ

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

ได้ที่พักเป็นที่เรียบร้อย  พร้อมเพื่อนใหม่ที่อาศัยอยู่ระเบียงหน้าต่าง

มองทิวทัศน์จากห้องพักไปนอกหน้าต่าง  ก็เห็นพระูธาตุหริภุญชัยอยู่ไม่ไกลนัก   คืนนี้กอย่าก็มีที่หมายละ  

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

วิวรอบๆ  ห้องพัก  ที่สามารถมองเห็นเมืองลำพูนได้เกือบรอบ

ท้องฟ้าก็ยังไม่งามเหมือนเดิม   พรุ่งนี้จะมีแสงแดดให้เชยชมรึป่าวน้ออออ...  

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

คิดว่าจะอาบน้ำนอนซักงีบ  แต่เสียงกลองปูจาที่ประโคมดังมาจากวัดพระธาตุหริภุญชัยช่างยั่วยวนเหลือเกิน

ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า  คว้ากล้องคู่ใจไปตะลุยเลยดีกว่า  อ๊อ!  ร่มด้วย  

พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน  ก็เดินลัดเลาะน้ำกวงไปเรื่อยๆ  จากโรงแรมที่พักไปที่วัดก็ประมาณ 500 เมตรเห็นจะได้

จ. ลำพูน มีแม่น้ำสายสําคัญไหลผ่านถึง 4 สายเชียวนะคะ  คือ แม่น้ำปิง แม่น้ำกวง แม่น้ำทา และแม่น้ำลี้ค่ะ  

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

ก่อนเข้าไปในวัด  ก็แวะดู "กาดขัวมุง"  ซึ่งเป็นศูนย์รวมของฝากของที่ระลึกของ จังหวัดลำพูน
(เขาบอกอย่างนั้น)  แต่ตอนกอย่าไป  พ่อค้าแม่ค้าเค้าเริ่มเก็บของกันแล้ว  เลยไม่ได้เดินจนสุดขัว

เดินดูรอบๆ วัดก็มีขายของกินทั่วไป  (ไม่มีของกินติดมา  เดี๋ยวว่าไม่ใช่กอย่าอีก)

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

      "พระบรมธาตุหริภุญชัย" เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งของจังหวัดลำพูนเป็นจอมเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวนแปดแห่งของประเทศไทย 
เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สร้างในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช  พระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป 
ประเพณีสรงน้ำพระธาตุเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่สนใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำพูน และจังหวัดใกล้เคียง ประเพณีนี้ ยึดถือและปฏิบัติมาเป็นประจำทุกปี  โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
 
   ๑. เพื่อเป็นการสักการะพระบรมธาตุฯ ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรวิหาร และนับเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ของชาวลำพูน และชาวพุทธทั่วไป
   ๒. เพื่อสักการะพระบรมธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
   ๓. เพื่อเป็นการบูชาเสาหลักเมือง ทั้งนี้เพราะประชาชนชาวจังหวัดลำพูนถือว่าเจดีย์พระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นเสาหลักเมือง เมื่อทำพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัย จึงเท่ากับได้ทำบุญเสาหลักเมืองลำพูนด้วย
 
    ประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัย กำหนดจัดขึ้น ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรวิหาร อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน  ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ หรือที่ชาวเหนือ เรียกว่าวันแปดเป็ง (ราวเดือนพฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ของภาคกลาง) หรือวันวิสาขบูชา  งานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุฯ มักจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น ๙ ค่ำ เป็นต้นไป ผู้คนจะหลั่งไหลมาร่วมงานสรงน้ำพระธาตุฯ


credit: http://www.rd.go.th/lamphun/50.0.html

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

กอย่าสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมอันดีงาม  พลังความศรัทธา ได้อย่างชัดเจน

ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ฝนพร่ำแทบไม่ขาดเม็ด  ตลอดจนถึงยามค่ำคืนเช่นนี้  คนเฒ่าคนแก่ พ่อแม่ เด็กเล็กเด็กโต  ตลอดจนถึงวัยรุ่น
ที่ต่างถือดอกไม้ธูปเทียน พร้อมด้วยขวดน้ำส้มป่อยมาสักการะสรงน้ำพระธาตุฯ กันอย่างคับคั้ง  เป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

    ภาพสวยๆ ยังมีอีกเยอะ  และการเดินก็ทางยังไม่จบค่ะ

ตอนนี้  ขอทำงานก่อน   ถนนคนม่วนเริ่มเดินได้ละเน้ออออ....   
อย่าลืมมาอุดหนุนกระเป๋าน้ำร้อนไฟฟ้า  และการบูรหอมๆ ของกอย่าเน้อเจ้า 

ไปละ  เดี๋ยวว่าง  มาต่อค่ะ 

[bm farm]

 ...รอชมต่อ....ภาพสวยๆดองเค็มจนได้ที่....อิอิ

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

...รอชมต่อ....ภาพสวยๆดองเค็มจนได้ที่....อิอิ

แช่อิ่มคร๊าบบบบบ...  บ่ใจ่ดองเค็มเน้อ   
มาๆๆ  ต่อเลยละกันเนาะ 

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

มาชมความงามยามค่ำคืนของวัดพระมหาธาตุหริภุญชัยกันต่อค่ะ

ปล. งานนี้น้อยซ์อื้อ อัด ISO ชั้นเพดานเลยค่ะ   ขาตั้งกล้องนอนแอ้งแม้งอยู่ท้ายรถ  จะแบกมาด้วยก็กลัวเป็นผีบ้าหอบผ้าตวบเพราะต้องถือร่มมาอีกอัน
ก็เลยได้ภาพมัวๆ แบบนี้มาฝาก  ไม่ว่ากันนะคะ

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

ดอกไม้สีทอง 2 ต้นอยู่ 2 ข้างประตูทางเข้าพระวิหาร  สวยงามและปราณีตมาก

และยังมีฆ้องยักษ์ใหญ่ (ใหญ่มากๆ เทียบจากคนที่ยืนนะคะ)   ใครๆ ไปถึงก็ต้องตั้งจิตอธิษฐานแล้วตีให้ดัง
แต่กอย่าไม่ได้ตีหรอกค่ะ  แค่ยืนชมอยู่ห่างๆ  เพราะเสียงดังมาก

ส่งท้ายคืนนี้ด้วภาพ  ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าวัดค่ะ  กอย่าเมื่อยก็เลยนั่งลงข้างๆ  แหงนๆ ขึ้นไปมอง
  เออ..  สวยดีแหะ  ก็เลยกดชัตเตอร์มา 1 ที  

ลากสังขารอันอ่อนแรง  กลับสู่ที่พักอย่างอ่อนล้า  เพราะขับรถฝ่าฝนมาทั้งวัน และยังมาเดินต๊อกๆๆ อีกครึ่งคืน
พรุ่งนี้เช้าตั้งใจว่าจะต้องตื่นแต่เช้า และมุ่งสู่ที่หมายแรกที่ตั้งใจไว้ นั้นคือ "วัดพระยืน"

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

       เริ่มต้นเช้าวันใหม่ท้องฟ้าไม่ค่อยสดใสนัก  แต่ยังโชคดีที่ไม่มีเม็ดฝนโปรย
      
        "วัดพระยืน" เป็นสถานที่ๆ กอย่าได้อ่านจากบันทึกฉบับหนึ่ง
ในบันทึกเล่มนั้น  ผู้เขียนได้บรรยายถึงกิจวัตรของผู้เขียนเอง ซึ่งขณะนั้นผู้เขียนได้บวชและศึกษาพระธรรมอยู่ที่นั่น บรรยายถึงวัดพระยืนจนทำให้เห็นภาพและทำให้กอย่าอยากสัมผัสและไปให้ถึงวัดพระยืนซักครั้งหนึ่ง  

      

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

             "วัดพระยืน"  ตั้งอยู่หมู่บ้านพระยืน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
มีชื่อเดิมว่า วัดพฤทธมหาสถาน ชื่อ "พระยืน" มาจากองค์พระพุทธรูปยืนเก่าแก่ ที่ตามเอกสารของวัดระบุว่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1606 ในสมัยพระเจ้าธรรมมิกราช(กษัตริย์องค์ที่ 32 แห่งหริภุญชัย) พระยืนองค์นี้หล่อด้วยทองสำริด สูง 18 ศอก(9 เมตร) เดิมประดิษฐานอยู่ในปราสาทสถูป(หลังพระวิหาร)
      
       ต่อมาในปี พ.ศ. 1712 พระยากือนา ผู้ครองพิงนครเชียงใหม่และลำพูน ได้สร้างพระพุทธรูปยืนเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 องค์

            พระเจดีย์วัดพระยืนเป็นพระเจดีย์ทรงมณฑป มีพระพุทธรูปยืนทั้งสี่ทิศ
 เครื่องบนประกอบด้วยเจดีย์ห้ายอด โดยมีเจดีย์ทรงระฆังและเจดีย์ทรงกลมขนาดเล็กเป็นประธาน

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

   พระอุโบสถที่สวยงาม 

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

องค์พระประธานในพระวิหาร  และรูปวาดพระนางจามเทวีที่อยู่ด้านหลังพระวิหาร

 สันนิษฐานว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 1213 (หลังครองราชย์ได้ 7 ปี) ซึ่งนับจนวันนี้มีอายุเก่าแก่มากถึงกว่า 1,300 ปี

             ซึ่งในสมัย“พระนางจามเทวี” ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรนี้ ได้สร้างวัดสำคัญในระดับรองลงมาจากวัดพระมหาธาตุหริภุญชัย  เพื่อเคียงคู่อยู่ 4 มุมเมือง เป็นจตุรพุทธปราการเพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง ได้แก่ วัดพระคงฤาษี ในทิศเหนือ, วัดประตูลี้ ในทิศใต้, วัดมหาวัน ทางทิศตะวันตก และ“วัดพระยืน” ในทิศตะวันออก
       
     

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ อย่างเช่นกำแพงก่ออิฐมอญ  ก็ยังมีให้เห็นและแฝงอยู่ีในธรรมชาติ ท่ามกลางสิ่งปลูกสร้างใหม่

ต้นไม้สูงใหญ่ให้ความร่มรื่นภายในวัด  บรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้เช้านั้นของกอย่า  เป็นเช้าที่สงบและมีสมาธิเป็นอย่างมาก

ขอบคุณบันทึกเล่มนั้น  ที่ทำให้กอย่าได้รู้จักสถานที่แห่งนี้  และหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากที่ใด   ...ขอบคุณมากค่ะ...



credit : http://www.manager.co.th/travel/viewnews.aspx?NewsID=9540000124297

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

หลังจากนั่งสมาธิ  ไหว้พระ  ดูเวลาก็สายมากแล้ว  ก็คงต้องถึงเวลาเดินทางต่อแล้วค่ะ

         ใครๆ ไปถึงเมืองลำพูน  ไม่ได้ไปกราบสักการะก็ถือว่าไปไม่ถึง
หลังจากถามแผนที่จากอากู๋ก็พอจะรู้ว่า  ต้องขับรถเลียบไปตามคูเมืองเรื่อยๆ  เดี๋ยวก็เจอเอง   

        "อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี" ตั้งอยู่ตำบลในเมือง บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 1 กิโลเมตร
สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม ความสามารถและกล้าหาญ ได้นำพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

กราบขอพร  ขอบารมีพระนางจามเทวีประทานความกล้าหาญและความเข้มแข็งให้กับตัวเองด้วยค่ะ