PHRATHAT DOI SUTHEP วัดพระธาตุดอยสุเทพ

[ช่างเอ๋]

PHRATHAT DOI SUTHEP
วัดพระธาตุดอยสุเทพ และบรมธาตุดอยสุเทพเป็นปูชนียสถานสำคัญ
คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่และล้านนานไทยมาเป็นเวลานาน จนมีคำกล่าวว่า
             "หากมาเชียงใหม่ แล้ว ไม่ได้กินข้าวซอย
             ไม่ได้ขึ้นดอยสุเทพ ก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่"
      พระบรมธาตุดอยสุเทพ จึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ และเป็นสถานที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในล้านนาไทย

        วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนยอด ดอยสุเทพ เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดเชียงใหม่ที่ มีความสำคัญมากที่สุด ในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน

        วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัตรสาม รอบ แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ

ในปี พ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น และกระทั่งถึงสมัยครูบาศรีวิชัย ท่านได้สร้างถนนขึ้นไป โดยถนนที่สร้างนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร เป็นวัดที่ดังมาก

       เนื่องในวันจันทร์ ที่ 5ธันวาคม 2554 ผมได้มีโอกาสพาลูกชายไปนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยและ พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุประจำปี ปีมะแม ปีเกิดของลูกชายวัยแปดขวบพอดี





ขับรถมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาไม่กี่นาที เมื่อถึงจุดหมายหาที่จอดรถได้สะดวก สบายครับ อ้อ...หากเด็กที่มีอาการเมารถ ผู้ปกครองควรเตรียมถุงมาด้วยนะครับ


สำหรับเจ้าลูกชายเกิดอาการไม่ถูกกับทางโค้งและขึ้นดอยระดับสูง ได้พักสักครู่ก็มีอารมณ์ดี พร้อมจะเดินขึ้นไปสักการะพระธาตุ ระหว่างลานจอดรถไปทางขึ้นบันไดนาคเจอแม่ค้าขายลูกสตรอเบอรี่(รสเปี้ยวนิดๆแต่โรยด้วยน้ำตาลทรายก็อร่อย)น่าทานมากครับ แก้วล่ะ20บาท


วันพ่อวันนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะครับ มาเป็นครอบครัว มาเป็นกลุ่ม มาเป็นคู่ แต่ส่วนมากพกกล้องพร้อมเลนส์ชั้นดีมากันเยอะครับ มือรับจ้างถ่ายภาพที่นี่ก็มีให้บริการครับ 10นาทีได้ภาพสวยๆกลับไปเป็นที่ระลึก


เดินขึ้นบันไดนาควันนี้จะเจอดาราตัวเล็กๆ ผมเพลอไปกดชัตเตอร์ โดนละอ่อนน้อยบอกว่า"จ่ายค่าถ่ายรูปผมด้วย"ผมก็เลยควักให้ไปซาวบาท เอ่อมันเล่นกันอย่างนี้เข้าท่า...แฮะ

[ช่างเอ๋]

ของฝากก็มีขายนะครับ เสื้อผ้า เครื่องประดับ หมวก พลอยหลายสี อื่นๆอีกหลายอย่างไม่ได้เก็บรูปมาครับ


ดอกไม้ธูปเทียนเตรียมจากข้างล่างไป "ซาวบาท" ครับ


หลายครอบครัวก็เตรียมพร้อม เห็นภาพน่ารักในวันนี้เยอะครับ


เดินไปพักไป เรื่อยๆ เหมือนชีวิตไม่ต้องเร่งกันไม่ต้องรุนแรงต่อกัน ถนอมใจกันไว้และมีเวลาเติมพลังให้กันบ้างเราก็มีความสุขพอ


เมื่อทุกท่านถึงจุดหมาย ก็จะไม่ลืมบันทึกภาพประทับใจ เหมือนประดั่งว่า ฉันก็มาถึงพระธาตุดอยสุเทพแล้ว


ใครไม่ได้เตรียมดอกไม้ธูปเทียนขึ้นมาด้านบนก็มีครับ ราคาไม่แพง


ใครเกิดปีนี้ก็อยากให้มีโอกาสมากันครับ


เริ่มกิจกรรมกันตามอัธยาศัย


จะเดินเวียนขวาสามรอบ พร้อมท่องอิปิติโส...    บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ มีแจกด้านบนด้วยครับ


หลังจากนั้นเดินชมวิว


จะมองเห็นทั่วเมืองเชียงใหม่


ท้ายนี้ขอบคุณ คุณแม่ที่ให้พ่อลูกได้พบกัน ขอบคุณกิจกรรมโรงเรียนที่ครูให้ลูกชายผมเขียนการ์ดบอกรักพ่อ



ขอบคุณทุกกำลังใจ
จากน้องๆและเพื่อนๆ
ช่างเอ๋

[shane-chaingrai]

 

[SaLa X]

บ่าได้ไปเป๋นจะสิบปี๋ล่ะครับ.....สองภาพแรกมุมนิยมเลยครับ....ต้องหาโอกาสไปแล้วล่ะครับ

[krirung]

ชอบภาพสุดท้ายจริงๆครับเป็นภาพที่ร้อยเรื่องราวความผูกพันและมีความหมายที่ดีครับ