เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2025, 12:48:13
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM งานออนไลน์
| |-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM - ขายประกัน
| | |-+  เว็บไซต์สำเร็จรูปรายเดือน 350 บ./ด. นักศึกษาหาเงินได้จากเว็บนี้ 50,000 บ./ด.
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เว็บไซต์สำเร็จรูปรายเดือน 350 บ./ด. นักศึกษาหาเงินได้จากเว็บนี้ 50,000 บ./ด.  (อ่าน 1744 ครั้ง)
toowaras
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 12 พฤษภาคม 2010, 11:50:59 »

โอกสามาถึงแล้วสำหรับบุคคลที่อยากมีเว็บไซต์เป็นชื่อของ ตัวเอง
เพื่อธุรกิจการค้าหรือเว็บไซต์ส่วนตัว
แล้วทางบริษัท GDI ยังคืนกำไร 10%
จากบุคคลที่คุณแนะนำมาให้กับคุณอีกด้วย
ดีหรือป่าวครับไม่ต้องเสียเงินเช่าเว็บไซต์โดยที่คุณเป็น ฝ่ายเสียเงินฝ่ายเดียว 
ทดลองใช้บริการฟรี 7 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
 
ทำไม กำแพงเมืองจีนที่แข็งแกร่งต้องมีประตู?
เพื่อ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในเมือง
เพื่อ ทำให้เมืองจีนเจริญรุ่งเรือง
แล้ว คุณหละอยากเป็นกำแพงที่ไม่มีประตูหรือ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 พฤษภาคม 2010, 12:17:24 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 25 พฤษภาคม 2010, 14:36:25 »

ทำไมเราจึงกล้า การันตีรายได้ขั้นต่ำ
เดือนละ50,000บาท  ภายใน 12 เดือน
จากแผนการตลาดข้อ1 รายได้ 5-Level  Uni-Level  คุณจะได้รับรายได้ $1/เดือน/คน   ลึกลงไปทั้งหมด 5ชั้นแต่ละชั้นจะได้รับรายได้ $1/เดือน/คน เท่ากันหมด โดยไม่จำกัดความกว้าง ผมจึงขอยกตังอย่างแผนธุรกิจในรูปแบบตาราง เพื่อให้สามารถเข้าใจธุรกิจได้ง่ายขึ้น
 
   ถ้าคุณแนะนำได้เดือนละ 1 คน เดือนแรกคุณจะมีทีมงาน 1 คนได้เงิน $1หรือ 35 บาท เดือนที่ 2 คุณและทีมงานหาเพิ่มได้อีก 1 คนคุณจะมีทีมงานทั้งหมด 1+2= 3 คน ได้เงิน $3 หรือ 245 บาท เดือนที่ 3คุณและทีมงานหาเพิ่มได้อีก 1 คนคุณจะมีทีมงานทั้งหมด 1+3+3 = 7 คน ได้เงิน $7 หรือ245 บาท ทำไปเรื่อยๆจนถึงเดือน 12 ถ้าหาได้เดือนละ 1 คนคุณจะมีรายได้ในเดือนที่ 12 เท่ากับ 55,475 บาท ถ้านับรายได้รวมทั้งปีคุณจะมีรายได้ทั้งสิ้น 142,870  บาท โดยใช้เงินลงทุนเพียง 4,200 บาทเท่านั้น
ตัวอย่างแผน ธุรกิจ  (ถ้า แนะนำได้เดือนละ1คน)  ตัวเลขที่มีไฮไลท์สีเหลือง เข้มในแนวตั้ง คือเดือนที่1-12 , LV1-LV5 ในแนวนอน คือลำดับชั้นที่ 1-5  (แทนค่า $1=35 บาท)
ทำไม กำแพงเมืองจีนที่แข็งแกร่งต้องมีประตู?
เพื่อ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในเมือง
เพื่อทำ ให้เมืองจีนเจริญรุ่งเรือง
แล้วคุณ หละอยากเป็นกำแพงที่ไม่มีประตูหรือ
ทดลองใช้บริการฟรี 7 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 พฤษภาคม 2010, 17:03:26 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 26 พฤษภาคม 2010, 10:53:25 »

ตัวอย่าง แผนธุรกิจ  (ถ้า แนะนำได้เดือนละ 2 คน)  ตัว เลขที่มีไฮไลท์สีเหลืองเข้มในแนวตั้งคือเดือนที่ 1-12 , LV1-LV5 ในแนวนอนคือลำดับ ชั้นที่ 1-5  (แทนค่า $1 =35 บาท)

  ถ้าคุณแนะนำได้เดือนละ 2 คน เดือนแรกคุณจะมีทีมงาน 2 คนได้เงิน $2 หรือ70 บาท เดือนที่ 2 คุณและทีมงานหาเพิ่มได้อีก 2 คนคุณจะมีทีมงานทั้งหมด 4+4 = 8 คนได้เงิน $8 หรือ 280 บาท เดือนที่ 3คุณและทีมงานหาเพิ่มได้อีก 2 คนคุณจะมีทีมงานทั้งหมด 6+12+8 = 26 คน ได้เงิน $26หรือ 910 บาท ทำไปเรื่อยๆจนถึงเดือน 12ถ้าหาได้เดือนละ 2 คน คุณจะมีรายได้ในเดือนที่ 12เท่ากับ1,235,920 บาท ถ้านับรายได้รวมทั้งปี คุณจะมีรายได้ทั้งสิ้น   2,888,340  บาท โดยใช้เงินลงทุนเพียง 4,200 บาทเท่านั้น
           ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สามารถเกิดขึ้นได้จริง ด้วย "พลังแห่ง เครือข่าย"ซึ่งไม่มีงานไหนในโลกนี้ที่สามารถให้คุณได้ และด้วยธุรกิจ GDIซึ่งเป็นธุรกิจเครือข่ายที่ลงทุนต่ำสุดและจ่ายผลตอบแทนในระดับสูง
คุณคิดว่ามัน คุ้มหรือไม่กับการทำงาน 1 ปี แล้วมีรายได้เดือนละ 50,000 บาท หรือบางคนอาจจะใช้เวลามากกว่านั้นเป็น 2-3ปี เนื่องจากไม่เต็มที่ในการทำงาน
คุณคิดว่างานประจำที่ คุณทำอยู่เมื่อทำครบ 1ปี ทำให้คุณมีรายได้เดือนละ 50,000 บาทได้หรือไม่ ความเป็นจริงสิ่งที่คุณได้กลับมา ก็คือ ปรับเงินเดือนปีละ 3-5 % พร้อมโบนัสอีก 1-2 เดือนหรืออาจจะไม่มีเลย
สำหรับผม ผมจะเลือกงานที่ทำให้ผมมีรายได้ไม่จำกัดพร้อมทั้งมี อิสรภาพทั้งการเงินและเวลา
แล้วคุณล่ะ คิดว่า คุ้มหรือไม่ที่จะทำ? 
     ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับงานประจำแล้วจะ เห็นภาพที่ชัดยิ่งขึ้นผู้ที่จบปริญญาตรีเมื่อเข้าทำงานครั้งแรกจะมีรายได้ อยู่ระหว่าง 8,000– 20,000 บาท (แล้วแต่สายที่เรียนมา) ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ตอนนี้ทำ งานประจำอยู่แล้วผมก็ลองมองไปในอนาคตว่าผมต้องใช้เวลาทำงานกี่ปีถึงจะมี โอกาสได้รับเงินเดือน50,000 บาท ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า "เป็นไปไม่ได้"
      แล้วคุณหล่ะ?คิดว่าคุณ ต้องทำงานกี่ปีถึงจะมีรายได้ถึงเดือนละ 50,000 บาท ซึ่งผมไม่ต้องการคำตอบจากคุณเพราะผมรู้คำตอบนั้นอยู่แล้ว  เมื่อคุณรู้คำตอบแล้ว
คุณจะเลือกวิธีไหน?
ทำไม กำแพงเมืองจีนที่แข็งแกร่งต้องมีประตู?
เพื่อ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในเมือง
เพื่อทำ ให้เมืองจีนเจริญรุ่งเรือง
แล้วคุณ หละอยากเป็นกำแพงที่ไม่มีประตูหรือ
ทดลองใช้บริการฟรี 7 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 มิถุนายน 2010, 11:19:49 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 27 พฤษภาคม 2010, 10:24:14 »

ตัวอย่าง แผนธุรกิจ  2 ปี  (ถ้า แนะนำได้เดือนละ 1 คน)  ตัว เลขที่มีไฮไลท์สีเหลืองเข้มในแนวตั้งคือเดือนที่ 1-12 , LV1-LV5 ในแนวนอนคือลำดับ ชั้นที่ 1-5  (แทนค่า $1 =35 บาท)

ทำไม กำแพงเมืองจีนที่แข็งแกร่งต้องมีประตู?
เพื่อ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในเมือง
เพื่อทำ ให้เมืองจีนเจริญรุ่งเรือง
แล้วคุณ หละอยากเป็นกำแพงที่ไม่มีประตูหรือ
ทดลองใช้บริการฟรี 7 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:28:46 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 27 พฤษภาคม 2010, 10:26:09 »

ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ฮืม

 

ธุรกิจเครือข่ายเป็นระบบการเคลื่อนสินค้าที่ เติบโตเร็วที่ สุดและถูกเข้าใจผิดมากที่สุดในปัจจุบัน จริงๆแล้วในประเทศไทยเป็นเรื่องน่าเสียดายครับที่ทำให้ ธุรกิจดีๆต้องมาถูกเข้าใจผิดเพราะข่าวแย่ๆ ของแชร์ลูกโซ่เมื่อหลายปีก่อน อย่างที่รู้ๆกันว่าบ้านเราข่าวร้ายๆ ขายได้และโด่งดังแต่ข่าวดีๆ ไม่ค่อยนำมาประกาศกันที่น่าเสียดายมากเพราะว่าอุตสาหกรรมเครือข่ายหรือ MLM นั้น มียอดขายมหาศาลในอเมริกา, ญี่ปุ่นและประเทศที่พัฒนาแล้วอีกหลายประเทศทั่วโลก ก่อให้เกิดเศรษฐีใหม่จำนวนมากโดยคิดเป็นร้อยละ 60 ของจำนวนเศรษฐี ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 40 เป็นเศรษฐีที่ เกิดขึ้นมาจากพื้นฐานทางการเงินที่ดีกว่าคนทั่วไปยิ่งถ้าบริษัทสามารถทำ Seamless Worldwide Link ได้คุณก็สามารถนำเงินจากประเทศอื่นๆ เข้ามาเป็นรายได้ของประเทศไทยได้อีกด้วยแต่อุตสาหกรรมดีๆ อย่างนี้กลับต้องมาตายในเมืองไทย เพราะว่าความเข้าใจผิดๆของคนไทยเรานี่เองนอกจากนั้นซ้ำร้ายเข้าไปอีกทาง กฎหมายบ้านเรายังจัดให้ธุรกิจที่ขายตรงจริงๆและธุรกิจเครือข่าย(MLM) จด ทะะเบียนเป็นธุรกิจ "ขายตรง" เหมือนกัน จึงทำให้คนได้ยินชื่อก็ขยาดแล้ว...เพราะว่าคนไทย ไม่ค่อยมีใครชอบขายของ พอคิดถึงคำว่าขายตรงก็คงต้องไปเดินขายของตามบ้านแน่ๆ ส่วนแชร์ลูกโซ่นั้นไม่สามารถจดทะเบียนได้ เพราะว่าผิดกฎหมาย! แล้วความแตกต่าง อยู่ตรงไหนล่ะ? ผมจึงต้องขอชี้แจงแถลงไขให้กับผู้ที่ยังไม่ทราบถึงความแตก ต่างของทั้งสามธุรกิจด้วยความจริงให้ชัดเจน! ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง แชร์ลูกโซ่ คืออะไร ต่างกันอย่างไร ?..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:31:21 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2010, 11:22:16 »

ธุรกิจขายตรง (Direct Sale) คืออะไร…?
ธุรกิจขายตรงต้องถือว่าเป็นปฐมบทหรือต้นกำเนิดของทั้ง 3 ธุรกิจนี้ที เดียว วีธีสังเกตธุรกิจขายตรงง่ายๆ ก็คือ ดูที่รายได้หลักของบริษัท จะได้มาจากการเน้นขายเกิน 90% นั่น เองรวมไปถึงรายได้หลักของสมาชิกที่ทำธุรกิจนี้ก็ได้มาจากเปอร์เซ็นต์จากการ ขายเช่นกัน ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องเป็นนักขายมือทองทีเดียวจึงจะประสบความสำเร็จ ได้รวมไปถึงสินค้าและบริการที่นำมาจำหน่ายก็ต้องมีความแตกต่างจากสินค้าที่ วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปหรือต้องมีจุดขาย ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจประกันชีวิตธุรกิจที่ลงโฆษณาขายสินค้าในโทรทัศน์และเดินตลาดตามบ้าน แต่สุดยอดขายตรงเมืองไทยผมขอยกให้ "อย่าลืมถามสาวยา คูลสิคะ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:31:56 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 30 พฤษภาคม 2010, 10:39:44 »

แชร์ ลูกโซ่ (Money Game) คือ อะไร…?
แชร์ลูกโซ่ หมายถึง รูปแบบ การดำเนินธุรกรรมที่มุ่งประสงค์เพื่อหารายได้จากการระดมทุนเป็นหลักโดยมีการ สัญญาในการเข้าร่วมธุรกิจที่จะตอบแทนผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆที่สูงกว่าเงินลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการมักจะ อ้างถึงการนำเงินไปลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ต่อ ๆไป เพื่อปันรายได้แจกจ่ายผู้เข้าร่วมธุรกิจอย่างทั่วถึงแต่ผลของมัน คือ การที่ตอบแทนผลประโยชน์ในช่วงต้น ๆเพื่อกระตุ้นให้เกิดการร่วมธุรกิจต่อเนื่องจนเมื่อถึงจุดที่ผู้ประกอบการ หวังผลในการระดมทุนสำเร็จแล้ว ก็จะหาทางปิดตัวไป เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายผลประโยชน์ต่อ ๆ ไปหรืออาจจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าฐานที่เข้ามาหรือผู้เข้าร่วมธุรกิจที่ เข้ามาในช่วงหลังจะไม่สามารถหมุนเวียนเงินตอบแทนได้กับคนที่มาก่อนได้ก็จะ เริ่มปิดตัวลง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:35:51 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 31 พฤษภาคม 2010, 12:17:52 »

ลักษณะและวิธีการดำเนินงานการหาสมาชิกและการจ่ายผล ประโยชน์ ส่วนใหญ่วิธีการดำเนินงานของแชร์ลูกโซ่จะเริ่มจากวงแคบ ๆจากเพื่อนคนใกล้ชิดแล้วค่อย ๆ ขยายตัวไปรอบนอก จนถึงขั้นควบคุมไม่ได้เพราะจะเริ่มออกสู่วงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ การหาสมาชิกก็จะใช้วิธีสร้างภาพลวงหว่านล้อมให้เกิดความเชื่อและการจ่ายผล ประโยชน์กับสมาชิกระดับต้น ๆหรือใกล้ชิดเป็นส่วนใหญ่ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ อีกข้อหนึ่ง คือสมาชิกเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็นคนสนิทของกลุ่มผู้ก่อตั้งแชร์ลูกโซ่อยู่ แล้วย่อมมีผลประโยชน์คาบเกี่ยวกันมากมาย ดังนั้น จึงสามารถที่จะสร้างภาพลวงร่วมกันได้สุดท้ายเมื่อได้ระดมทุนตามประสงค์แล้ว ก็จะปิดตัวลงซึ่งสมาชิกระดับใกล้ชิดก็จะไม่เสียประโยชน์ใด ๆส่วนแมลงเม่าที่บินมาภายหลังส่วนใหญ่จะเป็นผู้เสียหาย และตามตัวผู้รับผิดชอบไม่ได้เพราะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ครั้นจะมาหาข้อมูลจากสมาชิกระดับผู้นำก็เปล่าประโยชน์เพราะได้ปิดปากตัวเอง แล้วจากผลประโยชน์ที่คาบเกี่ยวกันกับเจ้าของแชร์ลูกโซ่ ดังนั้นแชร์ลูกโซ่จึงทำให้คนที่มาก่อนได้เปรียบอยู่เสมอ แม้จะนอนอยู่ที่บ้านไม่ทำงาน

 

ในขณะที่ธุรกิจ เครือข่าย (MLM) นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:36:30 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
yuibkk
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 31 พฤษภาคม 2010, 15:48:28 »


9 สัปดาห์ กับ รายได้หลักแสนจากธุรกิจเครือข่าย
บทเรียนการทำธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว

แสนห้า ต่อ เดือน ได้มาแล้ว จากธุรกิจเครือข่าย
จ่ายคอมมิชชั่นเป็นรายสัปดาห์

กับธุรกิจเครือข่ายบริษัทอันดับหนึ่งของโลก

http://www.wix.com/Yuibkk/intro
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 31 พฤษภาคม 2010, 17:04:48 »

ธุรกิจเครือข่าย  คืออะไร ? / ธุรกิจเครือข่าย ให้อะไร ? / ธุรกิจเครือข่าย เหมาะกับใคร ? / ทำไมต้องทำ ธุรกิจเครือข่าย ?

 

ธุรกิจ เครือข่าย หรือMLM ย่อมาจาก Multi Level Marketing(ระบบการตลาดซ้อนหลายชั้น หรือเรียกสั้นๆในบ้านเราว่าธุรกิจเครือข่าย) ธุรกิจ เครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภค สามารถได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากโดยไม่ต้องมีความเสี่ยง และไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือน กับการทำธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีและเมื่อเกิดความประทับใจในตัว ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้น เหมือนกับตน เป็นการโฆษณาแบบปากต่อปากเมื่อมีการซื้อ ผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้าย สินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านโฆษณาหรือพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิมที่การเคลื่อนย้ายสินค้าผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้อง ผ่านระบบพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จาก การจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่นสินค้าชนิดหนึ่งมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 50 บาททางโรงงานทำ การขายสินค้าให้กับพ่อค้าคนกลางที่ราคา 100 บาททางบริษัท เป็นผู้ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าชนิดนั้นให้เป็นที่รู้จักแล้วพ่อค้า คนกลางจึงทำการขายสินค้าชนิดนั้นให้กับผู้บริโภคที่ราคา 160 บาท จะเห็นได้ว่าระบบพ่อค้าคนกลางนั้นสามารถทำกำไรจากสินค้าชนิดนี้ได้ถึง 60 บาทหรือ 60% นั่นเอง แต่ธุรกิจเครือ ข่ายนั้นจะเกิด กระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านระบบ พ่อค้าคนกลาง ทำให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็น ค่าโฆษณาได้มากซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ไปทำการวิจัยพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี คุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้นบริษัทจะนำเงินส่วนนี้มา จัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วบอกต่อกับผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามสัดส่วน ที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายนี้จะทำให้ผู้บริโภคมีส่วนแบ่ง ของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบ ใหม่นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวใน ระบบธุรกิจแบบเดิมโดยการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภค ที่ใช้ วิธีการ แนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดทั่วๆ ไปคือความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มขึ้นได้แบบไม่จำกัดโดย อาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จาก 1 คน แนะนำ ให้กับ 2-3 คน และแต่ละคนของ 2-3 คนบอกต่อกับ2-3 คน ต่อๆ ไปก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภค ในลักษณะพหุคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:37:01 โดย toowaras » IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:38:10 »

คอนเซ ปง่ายๆของธุรกิจเครือข่าย คือการใช้ดีแล้วบอกต่อ (เหมือนคุณไปดู หนัง 1 เรื่อง หนังสนุกจึงไปแนะนำให้เพื่อนดูหรือไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแล้วอาหาร อร่อยจึงแนะนำให้เพื่อนไปทานบ้าง...โรงหนังและร้าน อาหารเหล่านั้นไม่ได้ให้ค่าตอบแทนคุณแต่ธุรกิจเครือข่ายให้ค่าตอบแทนที่คุณ ช่วยแนะนำธุรกิจ) ทั่วไปมักมองว่าเป็นลูกโซ่หรือปิรามิด ถ้าลองศึกษา ลงไปจะเห็นว่าเป็นระบบที่ดีตัวอย่างการมองอยู่ว่าเรามองอย่างไร หลายคนมองว่า คนมาก่อนได้เปรียบคนอยู่บนเอาเปรียบ ท่านลองมองระบบงานปัจจุบันครับ
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 13:39:02 »

จุดเด่นของธุรกิจเครือข่าย (Networking Marketing หรือ MLM)

1. เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของธุรกิจอย่างแท้จริง - ทุกคนที่อยู่ในระบบเครือข่ายทำงานให้กับ ตัวเอง เป็นเจ้านายตัวเอง ไม่ได้ทำงานให้กับผู้แนะนำหรือบุคคลอื่นไม่ต้องลงเวลาเข้า-ออก จากงานคุณอยากจะพักเมื่อไรก็ได้ที่คุณต้องการไม่ต้องขออนุญาตใครๆทั้งสิ้น

2. เป็นธุรกิจที่ลงทุนต่ำที่สุดในโลก - ทุกคน คงทราบว่าธุรกิจใดบ้างที่ทำแล้วคุณทำให้ประสบความสำเร็จได้แต่ที่คุณไม่ สามารถทำได้เนื่องจากไม่มีเงินลงทุนนั่นเอง เช่น ธุรกิจ 7-11 คุณรู ว่าถ้าคุณลงทุนซื้อแฟรนไชส์มาแล้วได้ทำเลดีคุณได้กำไรแน่นอน แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำล่ะ? ก็เพราะคุณไม่มีเงิน ลงทุนมากพอนั่นเอง แต่ ธุรกิจเครือข่ายเป็น ธุรกิจที่เงินลงทุนต่ำ คงที่ ไม่มีเพิ่มขึ้นแต่สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างไม่มีขีดจำกัดราย ได้เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ

3. ไม่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน - ธุรกิจ ทั่วไปคุณต้องมีประสบการณ์หรือมีความรู้ในธุรกิจนั้นๆคุณถึงประสบความสำเร็จ ได้ เช่นถ้าคุณต้องการเปิดร้านอาหารคุณต้องมีความรู้ในเรื่องของอาหารและความรู้ ด้านการบริหารจัดการส่วนธุรกิจเครือข่ายทุกคนสามารถเริ่มทำได้โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ด้านใดๆทั้ง สิ้นเนื่องจากมีระบบในการทำงานอยู่แล้ว คุณจะมีทีมงานหรือผู้แนะนำที่จะสอนงานคุณเขาต้องช่วยคุณให้ประสบความสำเร็จ ก่อนเขาจึงจะประสบความสำเร็จด้วย

4. ความเสี่ยงต่ำหรือไม่มีความเสี่ยงเลย - ทุก ธุรกิจมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นอยู่ที่ว่าความเสี่ยงนั้นจะมากน้อยเพียง ใดเช่น การเล่นหุ้นหรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ สามารถให้กำไรคุณได้เพียงไม่กี่นาทีแต่ก็สามารถล้มละลายได้ในเพียงไม่กี่ นาทีเช่นกัน การเปิดร้านอาหารก็เช่นเดียวกันไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าคุณจะได้กำไรขาดทุน ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีระบบในการบริหารจัดการดีแค่ไหนส่วนธุรกิจเครือข่ายเป็น ธุรกิจที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกมีระบบการบริหารที่จัดการที่ถูกต้องตาม กฎหมาย ไม่มีความเสี่ยงและทำให้ประสบความ สำเร็จได้จริง     ถ้าคุณทำ!
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2010, 09:25:06 »

เคล็ดรายได้ 3905$ ต่อเดือน
คุณ แนะนำเพื่อนได้ 5 คน คุณจะได้รับรายได้ 5$
เมื่อเพื่อนคุณแนะนำต่อ คนละ 5 คน
(โดย ที่คุณไม่ได้แนะนำต่ออีกเลย)
ชั้นที่ 1=5 = 5
ชั้นที่ 2 =5x5 = 25
ชั้น ที่ 3 =25x5 = 125
ชั้นที่ 4=125x5 = 625
ชั้นที่ 5 =625x5 = 3,125
รวมทั้ง 5ชั้น เป็นเงิน 3,905$ หรือประมาณ 136,675 บาท!!! ทุกเดือน
นี่เป็นเพียงการชวน คนแค่ 5 คนเท่านั้น .....แล้วถ้ามากกว่า 5 คนล่ะ???
รับ 136,675 บาท ทุกเดือน
ด้วยเงินลงทุนเพียง 350 บาทต่อเดือนเท่านั้น!!
ถึงแม้รายได้ที่คุณเห็นมันไม่เยอะคุณลองคิดดูสิว่าคุ้มไหม ลงทุนแค่ 10$
ได้คืนกลับมาตั้งหลายเท่าตัวเลยครับแต่นี้เป็นเพียงก้าว แรกของผมในการทำงาน ออนไลน์ 100%
 แล้วอนาคต ล่ะครับ รายได้ผมคงจะมหาศาลแน่ๆๆเห็นไหมครับว่าธุรกิจนี้ได้เงินจริงๆๆ
 
ทำไม กำแพงเมืองจีนที่แข็งแกร่งต้องมีประตู?
เพื่อ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในเมือง
เพื่อทำ ให้เมืองจีนเจริญรุ่งเรือง
แล้วคุณ หละอยากเป็นกำแพงที่ไม่มีประตูหรือ
ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 04 มิถุนายน 2010, 10:27:16 »

มีร้านค้าร้านค้าหนึ่งแจกลูกโป่งให้เด็กทุกวันเลยอยู่ร้านหนึ่ง
แล้วร้านค้านี้จะไม่ขาดทุนหรือ?
แต่ว่าเด็กที่จะมาเอาลูกโป่งก็ต้องมากับพ่แม่
แล้วพ่อแม่จะเข้าไปของลูกโปงมาให้ลูกฟรีๆอย่างเดียวหรือป่าวหละ
พ่อแม่ที่จะมาเอาลูกโป่งก็ต้องซื้อของในร้านซักฃิ้นสองชิ้น
เพื่อจะได้ของลูกโปงไปให้ลูก
แล้วทาไมร้านค้านี้ถึงทำแบบ?
ถึงมันจะขาดทุกแต่มันก็ไม่ขาดทุนมากหลอกครับ
เพราะได้เงินจากการที่พ่อแม่เด็กมาซือของในร้านแล้ว
แล้วอีกอย่างได้โฆษณาร้านฟรีๆเลย
นี่สิคือกำไรที่แท้จริงของร้านค้านี้โดยไม่ได้เสียเงินค่าโฆษณาเลย

การมองของคนมีอยู่ 3 แบบ
1.) มองแบบคนทั่วไป
2.) มองแบบพ่อค่าแม่ค้า
3.) มองแบบนักธุระกิจ
แล้วคุณหละกำมองแบบไหน

ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2010, 16:59:22 »

 สิ่ง ที่คุณจะได้รับเพิ่มเติมจาก ระบบ 21Millionaire.com นอกเหนือที่ได้รับจาก GDI
1.ได้เวบไซต์ภาษาไทยสำหรับทำธุรกิจซึ่งเป็นเวบไซต์ที่วิเคราะห์ แล้วว่าทำงานได้ผลรวมทั้งขั้นตอนการทำงานทั้งหมดที่จะทำให้คุณสามารถทำเงิน ได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างหน้าเวบไซต์ที่ได้รับ
2.ระบบ แจ้งเตือนเมื่อมีผู้สนใจเข้ามาใหม่โดยจะแจ้งทาง E-mail ทันที ที่ผู้สนใจเข้ามาในระบบ
3.ระบบ E-mail Marketing ติดตามผลเมื่อมีผู้สนใจลงชื่อที่หน้าเว็บ
4.เครื่องมือช่วยเหลือในการทำงานพร้อมสรรพคุณสามารถเริ่มงาน ได้ทันที
5.สอนวิธีเขียนเวบไซต์สำหรับคนที่ต้องการมีหน้าเวบเป็นของตน เองสามารถมีเวบไซต์ได้ภายในเวลา 2-3 ชม.
6.แบนเนอร์สำเร็จรูปพร้อมใช้ในการทำงาน
7.โปรแกรมช่วยจำพาสเวิร์ดและช่วยโพสเว็บบอร์ด
8.VDO แนะนำธุรกิจและเทคนิคการทำงานสามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน ของคุณเอง
9.เป็นสมาชิกของเวปบอร์ด 21Millionaire.com ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลของธุรกิจ GDI ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยพร้อมทั้งมีผู้ที่ประสบความ สำเร็จจากธุรกิจ GDI มาแนะแนววิธีการทำงานพร้อมทั้งตอบปัญหาทุกปัญหาของคุณ
10.มีการแจ้งความคืบหน้าของธุรกิจ GDI และความเคลื่อนไหวของทีมงานพร้อมทั้งเครื่องมือเพิ่มเติมใน การทำงานผ่านโปรแกรม Camfrog ทุกสัปดาห์คุณสามารถทราบเทคนิคพิเศษของแต่ละท่านได้โดยผ่าน หน้าจอคอมที่บ้านของคุณ
11.การันตีรายได้ขั้นต่ำ 50,000 บาท/เดือนภายใน 1 ปี(ถ้าทำตามคำแนะนำของระบบ)
 ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ฟรี!
ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
ตอนนี้คุณคงรู้จัก GDI พอ สมควรแล้ว
คุณสามารถประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าคน ทั่วไปถ้าคุณไม่เดินตามเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ชอบเดิน
www.toowarasone.ws
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2010, 23:50:20 »


                                        ทำไม่คุณถึงไม่ทำธุรกิจเครือข่าย???

 

                                 1.)   ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไง เลยไม่ทำ

                                         เรามีสอน วิธีการทำงานให้คุณ

 

                                2.)   ไม่อยากไปนั่งประชุมอบรมที่ไหน เลยไม่ทำ

                                      เราไม่มีการจัดประชุมหรืออบรมที่ไหนทั้งสิ้น

                                       เราสอนผ่าน ทาง Internet 100%

 

                                3.)   ไม่มีเวลาทำ เลยไม่ทำ

                                      เราไม่ได้ให้คุณเดินทางไปทำงานธุรกิจเครื่อข่าย

                                       ที่ ไหนในการทำงาน ใช้เวลาทำทั้งหมดที่บ้าน

                                       ผ่าน Internet วันใช้เวลาในการทำแค่วันละ 1-2 ชั่วโมง

                                       ต่อวันพอ แล้ว

 

                                 4.)  พูดไม่เก่ง เลยไม่ทำ

                                      เราไม่ได้ให้คุณไปพูดง้อใครให้มาทำกับคุณ

 

                                5.)  มีเพื่อนไม่เยอะ เลยไม่ทำ

                                      เรา ไม่ได้ให้คุณไปชวนเพื่อนของคุณมาทำกับคุณ

                                     ทั้งหมด ไม่ต้องมีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวคุณก็ทำได้

 

                                6.)  ไม่รู้จะชวนใครทำ เลยไม่ทำ

                                      เราไม่ได้ให้คุณไปชวนคนที่คุณรู้จักมาทำ คนที่คุณ

                                     ไม่ รู้จักก็มาทำกับคุณได้โดยที่คุณไม่ต้องไม่พูดคุยหรือ

                                     ง้อ ให้เค้ามาทำกับคุณ

 

                               7.)  ไม่รู้จะเอาของไปเสอนขายให้ใคร เลยไม่ทำ

                                       เราไม่ใช้ธุรกิจขายของเลยไม่มีต้องกังวนเรื่อง

                                      จะเอาของไป ขายที่ไหน เอาไปขายให้ใครจะ

                                      มีใครซื้อ ของหรือไม่

 

                                8.)  ไม่มีเงินรักษายอดในแต่ละเดือน เลยไม่ทำ

                                       เรา เป็นธุรกิจเครือข่ายที่ไม่ใช่ธุรกิจขายของ

                                       เราเป็น ธุรกิจให้เช่าโดเมนเนมเท่าในไม่มีการขายของ

                                       แล้วค่าเช่าต่ำที่สุดแล้วแค่เดือน ละ 10 เหรียญ

                                      หรือ ประมาณ 320 – 350 บาทต่อเดือน

                                      คุณแค่ เก็บเงินวันละ 12 บาทก็ทำได้แล้ว

 

                                9.)  ไม่มีเงินอับคลาสที่จะรับเงินตอบแทน เลยไม่ทำ

                                       เราไม่ต้องไปเสียเงินอับคลาสที่จะรับเงินตอบแทน

                                      3,000 – 30,000 แบบธุรกิจเครือข่ายแบบอื่นทั่วไป

                                      เพียง คุณเช่าโดเมนเนมเดือนละ 10 เหรียญ

                                      ก็รับ เงินค่าตอบแทนจากการทำธุรกิจได้แล้ว

                                      เข้าดูรายละเอียดที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ
                                            www.toowarasone.ws
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 15 มิถุนายน 2010, 12:15:11 »

ข้อดีของธุรกิจ GDI
 
 
1.)  ได้โดเมนเนมเป็นของตัวเองสามารถทำ website เป็นของตัวเองได้
 
 
2.)   มี website ภาษาไทยไว้สำหรับโปรโมทฟรี
 
3.)  สามารถช่วยหาคนต่อให้ลูกทีมได้ เพื่อให้ลูกทีมมีรายได้เพิ่ม(ได้รับเงิน)โดยที่เรายังได้รับเงินตามปกติไม่ สูญเสียรายได้แต่อย่างได ไม่เหมือนธุรกิจขายตรงทั่วไป
 
4.)   ไม่ใช่การขายสินค้าจึงไม่ต้องกังวล เรื่องการขาย
 
5.)   ไม่ต้องทำยอด ก็มีสิทธ์ได้รับเงิน
 
6.)   ส่วนแบ่งทางการตลาดสูง ลู่ทางในการหาเครือข่ายยังกว้างขวางกว่าธุรกิจขายตรงทั่วไป
 
7.)   สามารถ Link  เว็บไซด์ นี้กับเว็บไซด์อื่นได้(โดยให้เปิดปิดเข้าเว็บไซด์นี้โดยตรง)
 
8.)   เป็นการทำงานผ่านระบบ Internet 100%
 
9.)   ใช้ระบบจ่ายเงินผ่านธนาคาร online (paypal) จึงมีความปลอดภัยสูง
ทดลองใช้บริการฟรี 7 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย
ดูรายละเอียดเมเติมได้ที่
www.toowarasone.ws
IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 16 มิถุนายน 2010, 16:14:50 »

ประวัติความเป็นมาของบริษัทขายตรงที่เกิด ขึ้นในอเมริกา
แนวคิดการขายตรงแบบหลายชั้นเกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกใน ช่วงปี ค.ศ 1940 เชื่อกันว่าแนวความคิดนี้เป็นปีผลพวง ที่เกิดตามจากร้านลูกโซ่ (franchine) ที่แพร่หลายกันอยู่ในขณะนั้น ยุคปี 1940 วิธีการขายปลีกที่แพร่หลายที่สุดก็คือการตั้งร้านลูกโซ่หรือ บริหารแบบลูกโซ่นั่นคือนำธุรกิจ หรือ ยี่ห้อ หรือ วิธีการค้าขายที่ประสพความสำเร็จในขณะนั้น (การสั่งซื้อสินค้าและโฆษณา) ตลอดจนรูปแบบการ บริหารอื่นๆ ถ่ายทอดให้แก่ร้านใหม่อีกร้านหนึ่งที่ตั้งขึ้นเพื่อขายสินค้าประเภทเดียวกัน คล้ายๆกับ seven-eleven ฯลฯ ในเมืองไทยเรา
 
ต่อมา จึงมีการนำเอาวิธีนี้มาถ่ายทอดให้แก่นักขายตรง ( คือไม่ใช่ร้านขายปลีก )ซึ่งเราเรียกวิธีนี้ว่าการขายตรงแบบหลายชั้น
สมัยปี 1950 มีบริษัทขายตรงที่จำหน่ายเครื่อง ใช้ในครัวเรือนเกิดขึ้น
และในปี 1956 บริษัทขายตรงชาร์คเคิลก่อตั้งขึ้น แม้ว่าสมัยนั้นบริษัทนี้ยังไม่ใช่บริษัทขายตรงแบบหลายชั้นที่สมบูรณ์
ในปี 1934 มีบริษัทแห่งหนึ่งชื่อบริษัท วิตามินแคลิฟอร์เนีย ได้นำวิธีนี้มาใช้ โดยจำหน่ายวิตามินยี่ห้อ นิวเทอร์รี่รีเทอร์
หลังจากปี 1950 บริษัทขายตรงแบบหลายชั้นก็เริ่มเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
พอเข้าสู่ปี 1960 บริษัทเหล่านี้ผุดขึ้นทั่ว สหรัฐอเมริการาวกับดอกเห็ดในหน้าฝน ในจำนวนนี้ก็มีบริษัทขายตรงประเภทคิดจะโกยกำไรท่าเดียวก่อตั้ง ขึ้นด้วย เพื่อแก้ ปัญหานี้ สมาคม F.TC ( Federl Trade Commision ) ได้เปิดโปงบริษัทขาย ตรงที่ดำเนินการผิด กฎหมายพาณิชย์ ทีละบริษัท
ปี 1975 บริษัทแอมเวย์ ถูก F.T.C ฟ้อง ยังส่งผลให้บริษัทขายตรงซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในช่วงปี 1970 ต้องชะลอการเกิด
ต่อมาในปี 1979 บริษัทแอมเวย์ ซึ่งใช้เวลาสู้ความกับ F.T.C 4ปี และใช้เงินไปทั้งสิ้นสี่ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นฝ่ายชนะคดีในที่สุด ชัยชนะครั้งนั้นเป็นบทพิสูจน์ ว่าการตลาดขายตรงแบบหลายชั้นแตกต่างจากพวก บริษัทต้มตุ๋น อย่างสิ้นเชิง หลังจากชนะคดีแล้ว ธุรกิจขายตรงก็ทำให้สังคมต้องยอมรับจุดนี้ คดีฟ้องร้อง ของบริษัทแอมเวย์ ได้รับความสนใจจากบุคคลทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง และทำให้ธุรกิจต้องหันกลับมามองระบบขายตรงแบบหลายชั้นด้วยสายตาแบบใหม่ ต่อมานิตยาสาร Fortune ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการตลาดขายตรงแบบหลายชั้นโดยสรุป ว่าเป็นธุรกิจที่เป็นเอกลักษ์ของสหรัฐอเมริกา การขายสินค้าด้วยระบบขายตรงแบบหลายชั้นเริ่มแพร่หลาย บริษัทต่างๆเช่น บริษัท Texas Instruments , Kodak , Commodore Computer ,Beatrice Foods ฯลฯ ต่างขายสินค้าด้วยระบบการตรงแบบหลายชั้นทั้งสิ้น
ผล ปรากฏว่า ในปี 1979 มีบริษัทขายตรง เพียงแค่ 200กว่าแห่งเท่านั้น
แต่พอมาถึงปี 1983 บริษัทขายตรงมีจำนวนขึ้นถึง 1,500-2,000 บริษัทและมีนักขายประมาณ สามล้านเจ็ดแสน-สี่ล้านห้าแสนคน แต่นักขายเหล่านี้มักจะขายสินค้าของหลายๆบริษัท สมมุติว่านักขายคนหนึ่งสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทต่างๆ 3-4 บริษัท นักขายจำนวนสี่ล้านห้าแสนคนก็จะลดลงเหลือหนึ่งล้านสามแสนคน หลังจากทราบรายละเอียดประวัติความเป็นมาอย่างคร่าวๆ ของบริษัทขายตรงในอเมริกาแล้วทุกท่านคงจะเห็นชัดว่าการตลาดขายตรงแบบหลาย ชั้นนั้น มีการพัฒนาการทางประวัติศาสตร์มาอย่างไร ทำไมนับแต่ปี 1980 เป็นต้นมา ธุรกิจประเภทนี้ถึงรุ่งนัก แต่ว่านอกจากพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ แล้วยังมีสาเหตุสำคัญอีก 2 ข้อ ที่ช่วยให้ธุรกิจแขนงนี้แพร่หลายอย่างรวดเร็ว นั่นคือ
(1) โดยพื้นฐานของการขาย ตรงแบบหลายชั้นนั้น มุ้งเน้นที่จะนำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายให้กับลูกค้า จุดนี้เป็นจุดที่บริษัทขายตรงแบบหลายชั้นใช้เหตุผลในการโน้มน้าวจูงใจที่มี พลังที่สุด ดังข้อความตอนหนึ่งในหนังสือ Financial Freedom ซึ่งเป็นคู่ มือที่ใช้ในการอบรมลูกทีมของบริษัทขายตรงเขียนไว้ว่า การค้าขายแบบทั่วไป นั้น เซลส์ของผู้ผลิตก็คือคนกลางที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ผลิตกับผู้ส่ง เซลส์เหล่านี้จะได้ค่าตอบแทนประมาณ3 % ของยอดขาย ต่อมาสินค้าจะถูกส่งไปทางรถไฟ รถบรรทุก หรือรูปแบบอื่นๆจนกระทั่งถึงมือพ่อค้าขายส่ง พ่อค้าขายส่งก็จะนำสินค้า มาแยกบรรจุหีบห่อแล้วส่งไปยังร้านขายปลีก เซลส์ของผู้ผลิตจะรับค่านายหน้า พ่อค้าขายส่งจะรับค่าคนกลาง ส่วนร้านค้าปลีกที่ขายสินค้าถึงมือลูกค้าก็จะได้รับเงินกำไรซึ่งปกติจะอยู่ ในอัตรา 35 % ทั้งนี้เนื่องจากร้านค้าปลีกมีค่าใช้จ่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนพนักงาน ค่าสต็อกและรายจ่ายอื่นๆ ที่ใช้ไปในการบริหารงานจะถูกคิดรวมอยู่ในกำไร 35 % นี้ เรายังไม่ได้พูดถึงค่าโฆษณา แน่นอนเงินก้อนนี้ลูกค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าโฆษณาจะถูกบวกอยู่ในราคาสินค้าขายปลีก จริงๆแล้วผู้ซื้อต้องแบกรับค่าโฆษณาถึง 3 ชนิด แต่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว นั้นคือ ค่าโฆษณาที่ผู้ผลิตใช้ในการดึงดูดลูกค้าอย่างเช่นโฆษณาใหญ่ๆ ที่แพร่ไปในระดับประเทศ ค่าโฆษณาท้องถิ่นที่ผู้ขายส่ง ใช้ในการดึงดูดพ่อค้าปลีก ค่าโฆษณาที่พ่อค้าปลีกใช้ดึงดูดลูกค้าเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน ช่วยให้ร้านของตนขายดีขึ้น ค่าโฆษณาทั้ง 3 อย่างนี้ ผู้ซื้อสินค้าต้องรับภาระไปทั้งหมด ดังนั้นค่าโฆษณาจึงสูงขึ้นอีกร้อยละ 15 ของราคาสินค้า
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการประกอบธุรกิจทั่วๆไปออกมาอยู่ในรูปดังต่อไปนี้
ค่าวัตถุดิบ 10 %
ค่ากำไรและค่าดำเนินงานของฝ่ายโรงงาน 12 %
ค่านายหน้าของเซลส์โรงงาน 3 %
ค่ากำไรพ่อค่าขายส่ง 25 %
ค่าโฆษณา 15 %
รวม 100 %
เมื่อเห็นแผนภูมิแสดงค่าใช้จ่ายเช่นนี้ แล้ว หลายท่านคงนึกสงสัยว่าทำไมผู้ผลิตจึงไม่คิดค่าวิธีส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า ด้วยกระบวนการที่ง่ายที่สุด พูดง่ายๆก็หมายความว่าจะตัดพ่อค้าคนกลางออกไปได้ไหม ค่าไช้จ่ายต่างๆจะได้ถูกลง คำตอบคือ ได้ เวลานี้ในสหรัฐอเมริกามีแนวคิดพื้นฐานเกี่ยว กับการประกอบธุรกิจอิสระอยู่ว่าให้ลูกค้ารับบทบาทเป็นพ่อค้าคนกลางเสียเอง นั่นคือการ ขายสินค้าด้วยระบบขายตรงแบบหลายชั้น การค้าขายแบบนี้ สินค้าจะถูกส่งจากผู้ผลิตไปถึงมือลูกค้าโดยตรง
แผนภาพต่อไปนี้เป้นโครสร้างของ การขายตรงแบบหลายชั้น
ค่าวัตถุดิบ 10 %
ค่ากำไรและค่าดำเนินงานฝ่ายโรงงาน 12 %
ค่าจัดงานอบรมลูกทีม 3 %
คอมมิสชั่นของนักขาย 35 %
ใช้ในการพัฒนาสินค้าหรือเป็นส่วนลด สินค้า 15 %
รวม 100 %
จากแผนภูมินี้ เราจะเห็นได้ว่า กำไร 63 % ซึ่งเมื่อ ก่อนนั้นต้องจ่ายให้แก่พ่อค้าคนกลาง แต่หันกลับมาค้าขายด้วยระบบขายตรงแบบหลายชั้น เงินกำไรก้อนนี้จะตกเป็นของลูกค้า ซึ่งสมัครเป็นผู้แทนจำหน่ายของบริษัท อีกทั้ง สินค้า ยังมีราคาถูกลงอีก 15 % เนื่องจากไม่เสียค่าโฆษณา ตัวเลขที่กำกับไว้นี้อาจคลาดเคลื่อนได้บ้างแต่ในหลักการแล้วแนวคิดเช่นนี้ ถูกต้องตรงเผง เพราะฉะนั้น เราจึงกล้าพูดอย่างเต็มปากว่า ระบบขายตรงแบบหลายชั้นนั้น แท้จริงคือระบบการขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคในราคาที่ค่อนข้างถูก และนี้คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ระบบการขายตรงแบบหลายชั้นเฟื่องมากในยุคนี้ นอกจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว ยังมีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้การตลาดขายตรงแบบหลายชั้นแพร่หลาย มากนั้นคือ
(2) ผู้บริโภคเปลี่ยน แปลงทัศนคติต่อคุณภาพสินค้าและบริการ ระยะหลังๆ ผู้บริโภคจะไม่หลับหูหลับตาซื้อสินค้าเพราะหลงเชื่อคำโฆษณา หรือแรงเชียร์ดังแต่ก่อน แต่จะพิจารณาคุณภาพสินค้าแล้วจึงตัดสินใจซื้อ ความจริง สภาพที่ผู้บริโภคทำการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพสินค้าด้วยตนเองนั้นมีมานาน แล้ว อีกทั้งผู้บริโภคยังเป็นผู้ค้นพบปัญหาสารพิษเจือปนอยู่ในสินค้าอุปโภคในชนิด ต่างๆ ระยะ หลังๆจึงมีผู้บริโภคบางคนเปลี่ยนบทบาทจากผู้บริโภคมาเป็นผู้ผลิตเสียเอง อย่างเช่น มีการผลิตเครื่องสำอางขึ้นใช้เองและบางครั้งก็จำหน่ายให้แก่ญาติมิตร แนวโน้มเช่นนี้ก็ดุจเดียวกับการรักษาพยาบาล จริงอยู่แพทย์เป็นบุคคลที่สามารถบำบัดรักษาโรคให้คนไข้ได้ แต่ไม่สามารถทำให้เราแข็งแรงได้ จุดนี้เป็นจุดที่ทุกท่านทราบดี ดังนั้น เพื่อที่จะให้ตนเองมีสุขภาพแข็งแรง เราจึงต้องดูแลชีวิต ความเป็นอยู่และปรับปรุงสไตล์ชีวิตของตนเองให้ถูกต้อง หลายปีมานี้ ผู้ที่มีทัศนะเช่นนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันนี้ ในสังคมอเมริกา มีการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่อย่างกว้างขวางคนที่สูบบุหรี่ในที่ชุมชนจะ กลายเป็นคนละเมิดกฏหมาย และถ้าคนๆหนึ่งอ้วนผิดรูปผิดร่าง ก็จะถูกวิจารณ์ ว่าเป็นคนปัญญาอ่อน ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ จะเห็นได้เช่นกันว่าคนที่เริ่มมีจิตสำนึกว่า สุขภาพของตนเอง ตนเองจะต้องเป็นผู้ดูแลรักษาให้ดี นั้นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ภูมิหลังของสังคมเช่นนี้ คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การขายตรงแบบหลายชั้นเฟื่องฟูอย่างรวดเร็ว เพราะว่า การซื้อสินค้าที่โหมโฆษณากันอย่างอึกทึกครึกโครม อีกทั้งไม่มีค่าคอมมิสชั่นให้ผู้ซื้อนั้นย่อมสู้การซื้อสินค้าที่ตนเองเห็น ว่าพอจะมีคุณภาพดีอีกทั้งซื้อแล้วยังจะได้ส่วนลดในรูปคอมมิสชั่นไม่ได้
 
ปัจจุบันนี้ คนที่มีแนวโน้มเช่นนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเหตุนี้เอง ระบบการขายตรงแบบหลายชั้นจึงเป็นระบบการซื้อขายที่คนในสังคมยอมรับว่ามี ประโยชน์ประสิธิภาพมากที่สุด และเป็นที่ยอมรับของสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ
ภูมิหลังทางสังคมที่กล่าวมานี้คือสภาพ การเติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็ว ของตลาดการขายตรงแบบหลายชั้นในประเทศที่เจริญแล้ว และอีกไม่ช้าไม่นาน เหตุการณ์เช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นที่ประเทศของเราเช่นกัน
มีเว็บไซต์และโดเมนเนมเป็นของตัวเองด้วยเงิน $10 หรือเพียง 350 บาท
เราทดลองทำธุรกิจ ฟรี 7วัน
หากต้องการศึกษาเพิ่มเติม
www.Toowarasone.ws


IP : บันทึกการเข้า
toowaras
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2010, 10:18:16 »

มีเว็บไซต์และโดเมนเนมเป็นของตัวเองด้วยเงิน $10หรือเพียง 350 บาท
แถมยังได้เงินใช้อีก เพราะ GDI

เป็นธุรกิจรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจมาก เป็นธุรกิจต่างประเทศ

เปิดให้คนทำได้ทั่วโลก ได้ทำงานหน้าคอมฯ

รับเงินผ่าน ธนาคาร online (Paypal)

อย่างถูกกฎหมาย (รับเป็นดอลล่าร์)

มีเว็บภาษาไทยแปลแล้ว

การันตีรายได้ 50,000 ภายใน 1 ปี

กำลัง HOT สุดๆ รีบๆหน่อยนะครับ

อ่านรายละเอียดที่นี่เลย

http://www.toowarasone.ws

(ทดลองใช้ระบบได้ฟรี 7 วัน) ลองดูก่อน ไม่ชอบค่อยปิดไป

แต่การคลิ๊กดูครั้งนี้ อาจทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล ข้อมูลเพิ่มเติม

http://www.toowarasone.ws

ไม่ใช่ธุรกิจโกงคลิ๊ก, ธุรกิจอ่านเมลล์,

หรือขายสินค้า *เป็นงานผ่านเนต นั่งหน้าคอม 100%*


IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!