ข้อความยาว น่าเบื่อหน่อยนะครับ
ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนนะครับว่าผมเคยบวชเณรมาตอนอายุ 13 และได้ศึกษาทางโลก(เรียนมัธยม+นักธรรมเอก) มากกว่าทางธรรม(ปัจจุบันก็เจ็บใจตัวเองเหมือนกัน) ผมมีความรู้เกี่ยวกับธรรมะน้อยมากเสียดายที่เป็นคนพุทธซะเปล่า
เมื่อสอง ปีก่อนแม่ของผมท่านได้คุยโทรศัพท์กับญาติคนน้องท่านหนึ่ง โทรแต่ละครั้งเกิน 1ชั่วโมง จนเมื่อต้นปีก่อนแม่ผมต้องการจะยกที่ดินซึ่งเป็นมรดกของตากับยายแบ่งไว้ให้ กับลูกๆ เพราะญาติท่านนั้นจะทำเป็นวัด แต่ผมกับพ่อก็ถามให้มั่นใจว่าต้องการอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เพราะเราก็ไม่ใช่คนรวยอะไรอยากมีที่ทำกินเลี้ยงครอบครัวบ้าง แม่บอกว่าอย่ายึดติดกับสิ่งนอกกาย อีกหน่อยตายไปก็ไม่ใช่ของเรา ตอนแรกก็จะใจอ่อนแล้ว แต่มาเห็นอะไรแปลกๆ ช่วงหลังๆ เช่นตอนก่อนหน้าอ้างว่าจะไปค้างที่นั่นแค่วันพระ แต่ต่อมาเริ่มนานขึ้นจาก 2-3วัน กลายเป็นสัปดาห์ ปล่อยพ่ออยู่ที่บ้านคนเดียว ซึ่งบ้านเพิ่งปลูก(เพราะเคยบ่นว่าบ้านปลูกไม่เสร็จ มาอยู่ก็หนาว โดนลม โดนฝน แต่พอปลูกเสร็จบอกว่าจะไปแค่วันพระ ตอนนี้เดือนนึงกลับมาบ้าน 2-3ครั้ง มาแล้วก็เอาของติดไม้ติดมือกลับไปทุกครั้ง) แล้วก็มีคำสอนที่ได้มาบอกให้ผมและพ่อฟังอยู่เรื่อยๆ แปลกๆ ชอบกล และผมก็มีข้อแย้งใน "ความเห็นส่วนตัว" ของผมที่เรียนธรรมะมาน้อยดังนี้ครับ
1. ให้พ่อขายสวนยางที่กำลังจะทำอยู่ซึ่งเก็บเงินซื้อเกือบทั้งชีวิต แล้วซื้อสร้อยคอทองคำมาใส่ซะ เพราะวาสนาที่จะทำมาหากินให้รวยมันมาได้แค่นี้เอง ทำต่อไปก็ไม่รวยแล้ว (หากพ่อไม่ทำอะไรเลย แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงชีพ และหาสิ่งของมาจุนเจอแม่ตอนที่แม่อยู่วัดล่ะครับ และปลงขนาดนั้นมันสำหรับคนที่ไม่ห่วงหลังแล้ว หรือสมณะ ใช่ไหมครับ)
2. ถ้าหากถวายที่ดินให้กับทางวัดแล้ว บุญกุศลจะได้พอกพูน และครอบครัวจะได้อะไรเยอะกว่าที่ดินที่นำไปถวายอีก (แล้วไม่มีที่ปลูกผักขาย ไม่มีที่เกษตร พ่อผมและผมกับน้องจะได้อะไรมาทดแทนปากท้องที่หิวทุกวันเหรอครับ) ตอนนั้นบอกว่าไม่ต้องรีบถวายก็ได้ รอพร้อมทุกคนก่อน แต่ตอนนี้เริ่มมีปฏิกริยาอยากได้แล้วครับ(เพราะโฉนดยังเป็นหลังแดงอยู่ ห้ามซื้อ-ขาย-โอน ภายใน 10ปี ตอนนี้ 8ปีแล้ว)
3. ทุกคนที่ภาวนาจะมีขั้นของแต่ละคน หากใครขั้นต่ำกว่าไม่สามารถใช้หรือวานคนที่ขั้นสูงกว่าได้ และได้ทราบมาว่า คนเป็นพี่ที่ขั้นต่ำกว่า กราบคนน้องซึ่งได้ขั้นเทพด้วย (การนั่งภาวนา หรือการเรียนรู้ธรรมะ มีขั้นและชั้นแบบนี้ พอเคยได้ยิน แต่ที่ว่าไม่สามารถใช้หรือวาน และกราบคนที่มีขั้นสูงกว่านี้ ไม่เคยได้ยิน และเป็นว่ากลุ่มพี่ๆ กราบน้องเนี่ยะเหรอครับ ทั้งที่ไม่ใช่พระไม่ใช่ชี แม่ผมมีศักดิ์เป็นพี่สาว กราบน้องชายและน้องสาวทุกวัน)
4. ญาติอีกท่านแนะนำให้พ่อไปอยู่กับแม่ที่นั่น เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้รักษาทัน เพราะอีกหน่อยถ้าแม่จบแล้ว ก็สามารถกลับมาที่บ้าน ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวปกติ (ถ้าหากเป็นการเรียนแบบแผนที่ถูกต้องไม่เป็นไรครับ แต่ผมถามญาติท่านนั้นแล้วเค้าบอกว่า ก็เหมือนญาติคนน้องคนนั้นไง เค้าตัดหมดซึ่ง รัก โลภ โกรธ หลง เมื่อจบแล้วเขาก็มาทำธุรกิจและอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม) ผมขอถามท่านผู้รู้หน่อยครับว่า เป็นไปได้หรือที่คนเราตัดแล้วซึ่ง รัก โลภ โกรธ หลง หมดสิ้น แล้วกลับมาดำเนินชีวิตของปุถุชนทั่วไปได้อีก แล้วมันมีการจบอย่างงี้ด้วยเหรอครับ)
5. แม่อยู่ที่นั่นจะทานข้าว 2มื้อ เหมือนพระสงฆ์เป๊ะ และไม่ให้พ่อฆ่าสัตว์ ไม่ว่าอะไรก็ตาม (ผมเข้าใจว่าสมณะ หรือท่านที่ถือศีล 8 จะทานข้าว 2มื้อ เพราะอะไรผมไม่ทราบ แต่แม่ผมตอนนี้เหมือนหนังหุ้มกระดูก ใส่เสื้อผ้าเหมือนคนขาดสารอาหาร ซึ่งท่านก็บอกว่าผอมอย่างงี้แหละดี ไม่มีโรคภัย หากอ้วนแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ ... แล้วกลับมาที่พ่อของผม แม่จะไม่ให้ฆ่าสัตว์เลย แล้วหากเป็นสัตว์เลี้ยงโลกแบบปลาล่ะครับทำยังไง ปัจจุบันพ่อผมก็คงต้องทานผักไปเรื่อยๆ รอแม่ไม่รู้ก็จะแอบซื้อปลามาทำกับข้าวแทน ผมสงสารพ่อครับ)
6. ผมเคยได้ยินพระที่มาจำวัดอยู่รูปนึง เทศน์ให้ผมกับแม่ฟังว่า ผัวเมียอยู่กันตอนแรกมีความสุข เมื่อเวลาผ่านไป มีลูกขึ้นมาก็จะเกิดความทุกข์ คือต้องหาอาหารและทรัพย์สินให้ตอนโต จากที่อยู่กันดีๆ กลับต้องไปรับจ้างขนขวายเพื่ออนาคตของลูก เห็นไหมว่ามีความทุกข์ละ เมื่อมีลูกแล้วมีความทุกข์จะมีมันขึ้นมาทำไม !!!!??? (ผมอึ้งครับว่าทำไมถึงเทศน์อย่างงี้ แต่มองอีกแง่มันจริงครับว่ามีลูกแล้วก็มีทุกข์ตามมา แต่ทำไมบอกว่ามีแล้วทุกข์จะมีทำไมครับ สุดท้าย 2สัปดาห์ผ่านไป แม่โทรหาน้องสาวที่อยู่ ตจว. กับแฟนว่า อย่ามีลูกนะ ผมก็คุยกับน้องนานเหมือนกัน กว่าที่จะเข้าใจกันว่าต้องเป็นคนที่ปลงจากทางโลกจริงๆ หรือสมณะ จะต้องทำอย่างงั้น)
7. มีการสอบว่าใครถึงบทไหนขั้นไหนแล้วทางโทรศัพท์กับพระอาจารย์ บางทีถ้าไม่ผ่านก็โดนด่าแรงๆ บ้าง (ผมไม่รู้ว่าพระรูปนี้ท่านเป็นศิษย์ของหลวงตาบัวจริงหรือเปล่า หากจริงทำไมท่านแนะนำแม่ว่าน้องสาวคือพญามาร และทำไมคำสอนไม่เหมือนหลวงตาบัวเลย แถมยังมีการสอบว่าใครถึงขั้นไหนด้วย) มีข่าวมาว่าเคยมีน้าชายสอบไม่ผ่านโดนด่าเป็นหมูเป็นหมา ซึ่งสมณะทำไมพูดเช่นนั้น ... ที่ผมได้เห็นมาส่วนมากพระผู้ใหญ่ หรือท่านเกจิ จะพูดกับฆารวาสว่า "โยม" หรือพูดชื่อเลย แต่นี่ได้ข่าวว่าพูด ม. ก. อ. E (ขออภัยคำไม่สุภาพ) ซึ่งผมก็เคยเห็นและได้ยินหลวงพ่อคูณพูดอยู่เหมือนกัน แต่ท่านเป็นของท่านอย่างงั้นแต่ไหนแต่ไร ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นการเลียนแบบหรือเปล่า)
8. ตอนนี้พยายามให้แม่ผมมาขอโฉนดที่ดินกลับไปแล้วอ้างว่ายายต้องการดู(ทั้งที่ยายจำอะไรไม่ได้แล้ว) และให้ป้าไปอาละวาดทะเลาะกับลุงที่บ้าน เพราะว่าลุงขายสวนให้กับญาติกันเอง ซึ่งคนในสถานที่นี้เขาไม่ต้องการให้ที่ดินหลุดมือไป เขาต้องการทั้งหมดเป็นของวัดของเขา
9. ได้ยินมาว่าพระอาจารย์ท่านนี้ได้นำกลุ่มของญาตผมไปงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงตามหาบัว สามารถนำรถนี้ไปจอดที่ในวัดได้เลย และข่าวแว่วๆ ว่าได้อยู่ในกลุ่มและวงของศิษย์หลวงตาที่ 40พรรษาขึ้นทั้งที่ท่านพรรษาไม่ถึง และท่านได้น้ำเหลืองของหลวงตามา จะนำมาให้ให้ญาติๆ
ของผมด้วย (ผมไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ วันนั้นในงานหลวงตาที่ผมเห็น ไม่มีรถคันไหนที่จะจอดเข้าใกล้เมรุเลย เพราะสานุศิษย์เยอะมากๆ บางท่านยังอยู่แค่นอกกำแพงวัดเอง แต่คนในกลุ่มนั้นบอกว่าพระอาจารย์เป็นศิษย์ของหลวงตา ซึ่งปกติไปกราบหลวงตาได้คุยกันตัวต่อตัวกับหลวงตาในกุฏิเลย
อันนี้ผมงงครับว่า ศิษย์ของหลวงตาแต่ละท่านนั้นอายุอานามร่วม 60ขึ้นแล้ว แต่ท่านยังไม่ถึง 50 แล้วได้คุยกับหลวงตาตัวต่อตัวในกุฏิได้ ผมทึ่งครับ พอคุยกับแม่ก็โดนตอกกลับมาว่าผมคอยจะจับผิดท่าน ผมเลยหยุดครับ)
10. ปัจจุบันไม่ได้ตั้งเป็นวัดแล้ว แต่ใช้ชื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมแทน และเมื่อก่อนว่าจะไม่เรี่ยไรเงินบริจาค แต่ปัจจุบันเห็นมีซองผ้าป่าเอย อะไรเอยตามมา ซึ่งจัดพิมพ์กันเอง ทำตรายางกันเองด้วย (หากจะสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมขึ้นมาจริงต้องมีขั้นตอนอะไรบ้างข้อนี้ผมไม่ รู้ แต่กลัวว่าการเทศน์และคำสอนจะบิดเบือนจากศาสนา และครอบครัวไหนได้ดีก็จะเอามาปะติดปะต่อว่าเป็นเพราะญาติคนนั้นภาวนาเลยทำ ให้ครอบครัวได้ดี แต่หากครอบครัวผมที่เพิ่งตกงานก็ว่าเพราะขัดขวางแม่เข้าวัด แต่ตอนนี้ผมจะได้ที่ทำงานใหม่ ก็มาว่าเพราะแม่ผมภาวนาเลยทำให้ผมได้งานเร็ว ซึ่งข้อนี้ผมก็ 50-50 ไม่ปักใจเชื่อน่ะครับ แต่ถ้าหากเป็นจริงทำไมแม่ผมยังมีโกรธเมื่อมีคนว่าคำสอนนั้นผิด หลงเข้าไปสถานที่นั้นจนถึงขนาดพ่อปวดหัวรุนแรงจนต้องนำเข้าอนามัยหมู่บ้าน แต่ตัวเองต้องนอนเฝ้าวัด เพราะไม่มีใครอยู่ อีกวันถัดมาถึงจะเข้ามาดูพ่อ หากวันนั้นผมไม่อยู่กับพ่อด้วยล่ะก็ไม่อยากจะคิดครับเดี๋ยวจะว่าแช่งพ่อ
11. สุดท้ายผมเคยได้ยินเกจิ หรือพระอาจารย์หลายท่านกล่าวว่า ก่อนจะทำบุญเลี้ยงพระในวัด ให้ดูแลรักษาพระในบ้านให้ดีซะก่อน แต่ที่เห็นไม่เป็นอย่างนั้น (ผมเห็นเต็มๆ ว่ายายของผมตอนนี้ท่านหลงๆ ลืมๆ ความดันสูงก็มาเยือน แต่วันหนึ่งท่านความดันขึ้นที่บ้าน อ๊วกเอยอะไรเอย ดีที่ลุงผมนำไปส่ง รพ.ทัน ซึ่งลูกๆ ที่เหลือก็ไปสถานที่นั้นกันหมด กลางปีก่อนก็พากันไปสถานปฏิบัติธรรมแถวภาคอิสานที่ทำกันขึ้นมา แล้วปล่อยยายผมไว้กับญาติอีกคนที่ไม่เข้ากลุ่มนี้ให้ดูแลแทน ทำไมไม่มีใครห่วงพระที่บ้านอย่างงี้ ปล่อยให้อยู่ตามประสาคนแก่ทั่วไป แล้วไปหาสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างนี้เหรอ) และอยากจะฝากอีกเรื่องครับ คนที่มียศเป็นน้องและอ้างตัวว่าเป็นผู้สำเร็จ และเป็นอรหันต์แล้วนั้น ได้ให้ลูกซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร(แต่มีจิตศรัทธาจริง) ทำเวบขึ้นมา เพื่อที่จะเรี่ยไรผ้าป่าจากเพื่อนหรือคนรู้จักของญาติ หรือแม้กระทั่งญาติกันเอง ซึ่งดูในเวบตอนแรกผมก็ศรัทธามาก แต่พอได้ยินเทศน์ และเห็นพฤติกรรมกับการอวดอุตริมนุษธรรมแล้วผมเลิกนับถือครับ เช่นว่าบอกแม่ผมกับน้าผมว่า เกือบตายแล้วเพราะชะตาขาด แต่ตอนนี้ดีขึ้นละ เพราะเทวดาต่อชะตาให้
!!!!!
หากต้องการทราบหรือรู้ว่าท่านเทศยังไงก็ลองให้คนแอบไปเข้ากลุ่มดู หากผิดสังเกตจะเทศปกติ แต่ว่าหากหลวมตัวแล้ว จะให้ขาดจากทางบ้าน บอกว่าคนที่เขาเข้าไม่ถึงน่ะจะห้ามเรา เราไม่ต้องสนใจ เพราะเราคือศิษย์ของพระพุทธเจ้า หรือหากใครตีสนิทและทำตัวเป็นพวก เป็นกลุ่มป้ากับแม่ของผม แล้วลองแกล้งถามจะรู้ทันทีว่าท่านเทศและสอนยังไงครับ
อยากถามท่านผู้รู้ว่า ความคิดเห็นส่วนตัวของผม และคำสอนของสถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ อะไรเป็นยังไงบ้างครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ