ชุมชนทั่วเมืองเชียงใหม่สุดทน ร้องผู้ว่าฯ เร่งแก้ปัญหาสถานบันเทิงศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวชุมชนช้างม่อย พร้อมตัวแทนชุมชนทั่วเมืองเชียงใหม่บุกศาลากลาง ยื่นหนังสือร้องแก้ปัญหาสถานบันเทิงหลังสร้างปัญหาทั่วเมือง ทั้ง “เสียงดัง-เปิดเกินเวลา-ลูกค้าอาละวาด” แถมบางทีลุกลามถึง “ยาเสพติด-ค้าประเวณี” ด้านผู้ว่าฯ เตรียมสั่ง “ท้องถิ่น-ตำรวจ-ปกครอง” เร่งตรวจสอบพร้อมตั้งคณะทำงานแก้ปัญหา วอนประชาชนต้องใช้เวลาแต่ยืนยันดำเนินการแน่ ยันทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย ชี้ผู้ประกอบการควรมีสำนึกไม่ทำลายเมือง
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มประชาชนจากชุมชนช้างม่อย จ.เชียงใหม่ และตัวแทนจากชุมชนอื่นๆ ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากสถานบันเทิง
กลุ่มประชาชนจากชุมชนช้างม่อย ระบุว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการที่สถานบันเทิงและร้านอาหารหลายแห่งได้เปิดให้บริการในบริเวณชุมชน และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่จากการส่งเสียงดังเกินกว่าปกติ การเปิดให้บริการเกินเวลา และปัญหาจากผู้ใช้บริการที่มีการทะเลาะวิวาท จอดรถกีดขวางการจราจร อาเจียนและปัสสาวะสร้างความสกปรกในบริเวณ รวมทั้งมั่วสุมโดยมีเรื่องของยาเสพติดหรือการค้าประเวณีเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงขอเรียกร้องให้ทางจังหวัดเข้ามาแก้ไขปัญหา เนื่องจากกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงภาพลักษณ์ของจังหวัดที่เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
นอกจากตัวแทนประชาชนจากชุมชนช้างม่อยแล้ว ยังมีตัวแทนจากชุมชนและย่านสำคัญๆ อื่นๆ ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งในและนอกเขตกำแพงเมืองเดินทางมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ได้แก่ ชุมชนลอยเคราะห์ วัดชมพู มูลเมือง ตลาดสมเพชร ป่าแพ่ง นิมมานเหมินท์ และวัดดอกเอื้อง ซึ่งมีพระภิกษุและสามเณรจากวัดดอกเอื้องเป็นตัวแทนชุมชน
ตัวแทนจากชุมชนลอยเคราะห์ นิมมานเหมินท์ และวัดดอกเอื้อง ยังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนในบริเวณชุมชนของตนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับตัวแทนจากชุมชนช้างม่อยอีกด้วย
หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวภายหลังรับมอบหนังสือจากตัวแทนชุมชนต่างๆ ว่า ตนได้รับฟังข้อมูลและอ่านข้อความบนแผ่นป้ายต่างๆ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำมา ซึ่งแสดงออกถึงความไม่สบายใจของประชาชน ที่เกิดจากการที่คนบางกลุ่มไม่เคารพกฎหมาย ทั้งนี้จะได้มอบกมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะต้องดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาเรื่องของสถานบันเทิงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแบบผลุบๆ โผล่ๆ เมื่อมีการตรวจตราก็จะหายไป แต่เมื่อไม่ได้ตรวจตราเข้มงวดก็จะเปิดให้บริการกัน ทั้งที่จริงๆ แล้วสถานบันเทิงก็ควรให้บริการแก่ผู้คนตามสมควร ไม่ใช่เปิดกันจนถึงเช้าอย่างที่เป็นอยู่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า เรื่องดังกล่าวความจริงแล้วถือเป็นจิตสำนึกของผู้ประกอบการที่จะต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและปฏิบัติตาม โดยหลังจากนี้จะเร่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งคาดว่าคงจะต้องใช้เวลาพอสมควร จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยอดทนรอด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการดำเนินการเพื่อให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองวัฒนธรรมที่สง่างาม และน่าภาคภูมิใจ ด้วยการพยายามจัดระเบียบเรื่องดังกล่าวเท่าที่จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจากรับมอบหนังสือจากตัวแทนชุมชนต่างๆ แล้ว หม่อมหลวง ปนัดดา ได้กล่าวกับผู้ชุมนุม ว่า ขอรับรองการมาในวันนี้จะไม่เสียเปล่า เพราะแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้ายังเดินทางมาร้องเรียน จะเพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าวไม่ได้ หากไม่ดำเนินการใดๆ ก็ถือว่าตนนั้นทำบาปหนัก
การเดินทางมายื่นหนังสือของตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งซึ่งถูกจังหวัดเชียงใหม่สั่งระงับการให้บริการเนื่องจากเปิดเกินเวลาไปได้ย้ายมาเปิดร้านแห่งใหม่บริเวณถนนช้างม่อย ทำให้ประชาชนในชุมชนหลายหลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน และมีการติดแผ่นป้ายประท้วงบริเวณถนนช่างม่อยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น ชาวชุมชนช้างม่อยส่วนหนึ่งได้เคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้เชิญตัวแทนจากชุมชนอื่นๆ ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนในลักษณะเดียวกันเข้าร่วมหารือ ก่อนที่จะตัดสินใจทำหนังสือร้องเรียนยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้
จากการสอบถามตัวแทนของชุมชนต่างๆ พบว่า หลายชุมชนประสบปัญหาจากสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลาและส่งเสียงดัง รวมทั้งต้องการให้ทางจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหา เนื่องจากเห็นว่าเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม แต่การให้บริการของสถานบันเทิงหลายแห่งทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสื่อมเสีย โดยกลุ่มพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากชุมชนวัดดอกเอื้องเปิดเผยว่า ทางวัดได้รับความเดือดร้อน จากเสียงจากร้านอาหารและรถขายเหล้าเบียร์ที่มาเปิดอยู่ใกล้บริเวณวัดในช่วงกลางคืน รวมไปถึงเสียงจากรถจักรยานยนต์และรถสามล้อเครื่องที่มารอรับผู้โดยสาร ทำให้พระเณรไม่ได้พักผ่อน
ขณะที่ตัวแทนจากชุมชนลอยเคราะห์ กล่าวว่า ร้านอาหารและบาร์เบียร์ต่างๆ ที่เปิดในย่านลอยเคราะห์เป็นผลจากการที่เจ้าของอาคารบางส่วนให้ผู้ประกอบการเช่าทำกิจการ โดยไม่คำนึกถึงความเดือดร้อนของผู้ที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนทั้งจากเสียงดังรบกวนในตอนกลางคืน รวมถึงการมีผู้หญิงและสาวประเภทสองแต่งกายไม่สุภาพออกมาเชิญชวนแขกให้เข้ามาเที่ยวหรือขายบริการอยู่ในย่านชุมชน แม้จะมีการไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับทางอำเภอเมืองเชียงใหม่แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร อีกทั้งยังมีคนจากสถานบันเทิงมาข่มขู่และตะโกนด่าชาวบ้านที่นำเรื่องไปร้องเรียนอีกด้วย
ส่วนตัวแทนจากชุมชนนิมมานเหมินท์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาสถานบันเทิงมาหลายที่แล้ว รวมทั้งที่เทศบาลซึ่งได้รับคำชี้แจงว่าไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายที่จะบังคับใช้กับสถานบันเทิง ส่วนการออกเทศบัญญัติก็ไม่สามารถทำได้เช่นกันเนื่องจากมีเสียงในสภาไม่เพียงพอ จึงต้องมาร้องเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ ในส่วนของชุมชนช้างม่อย มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ชุมชนกำลังหวั่นวิตกว่าการเปิดให้บริการของสถานบันเทิงที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ จะทำให้มีสถานบันเทิงอื่นๆ เข้ามาเปิดให้บริการในชุมชนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะลุกลามจนควบคุมไม่ได้เหมือนกรณีของชุมชนลอยเคราะห์ โดยในขณะนี้มีอาคารแห่งหนึ่งกำลังถูกปรับปรุงและตกแต่ง
จากการสอบถามของคนในชุมชน ได้ข้อมูลว่า อาคารดังกล่าวจะเปิดเป็นโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ช็อปเปอร์ แต่มีผู้พบเห็นว่า มีการตกแต่งชั้นสองและสามในลักษณะของบาร์ รวมทั้งมีการติดตั้งเครื่องเสียงภายในร้านด้วย ขณะที่อาคารอีกแห่งหนึ่งบริเวณตรงข้ามวัดหนองคำก็มีผู้มาติดต่อขอเช่าอาคารเพื่อเปิดเป็นร้านอาหารและสถานบันเทิงเช่นเดียวกัน โดยกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาตกลงราคากับเจ้าของอาคารที่มา
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000139254
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
