ระหว่าง รีไฟแนนซ์ กะ เอาที่เข้าแบงค์ไปปิดโอดี อย่างไหนดีกว่ากันค่ะ

[เด็ด ฟิชชิ่ง (บ้านป้าห้า)]

พอดีตอนนั้นเอาที่ไปเข้าแบงค์เพื่อไปสร้างหอพัก ขอสินเชื่อไป 1 ล้านบาท แต่ทางแบงค์ให้สินเชื่อแบบ sme มาอ่ะค่ะ ระยะเวลาการส่ง 5 ปี เป็นเงินกู้ 300000 บาท แล้วให้โอดีมา 700000 บาทเฉยเลย ตอนแรกก็ยังงงๆอยู่ค่ะ ว่า เอ๊ะ.....เขาจะให้โอดีมาทำไม ทั้งๆที่เราต้องการเงินก้อนไปสร้างหอพัก แล้วอีกอย่างเงินโอดีเนี่ย มันเก็บดอกเบี้ยรายวันนี่นา แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปปิด เพราะว่าเราเก็บเงินค่าหอได้เป็นรายเดือน เข้าใจว่า ถ้าส่ง 5 ปีตามสัญญา ก็คงน่าจะเป็น เงินกู้ 300000 บาท ส่วนโอดีอีก 700000 ที่ส่งไปทุกวันนี้ก็คงจะเป็นดอกเบี้ยใช่มั้ยค่ะ
   ถ้าเป็นแบบนี้ อยากจะถามผู้รู้ว่า ระหว่างรีไฟแนนซ์ไปอีกธนาคารนึงแล้วเอาเป็นเงินกู้ทั้งหมด กะ เอาที่ไปเข้าแบงค์ใหม่ แล้วเอาเงินไปปิดที่กู้มา 1 ล้านบาท อย่างไหนดีกว่ากันค่ะ .......ที่ อยู่กะแบงค์เดิมมี 1 ไร่ 3 งานค่ะ ตอนนั้นราคาประเมินอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านบาทค่ะ (ตอนนั้นมีสิ่งปลูกสร้างคือ บ้านหลังเดียวค่ะ) ตอนนี้มีสิ่งปลูกสร้างคือ บ้าน 1 หลัง แล้วหอพักเป็น บ้านเดี่ยวอีก 10 หลังค่ะ
  ส่วนที่อีกที่นึง มีประมาณ 7 ไร่ค่ะ มีบ้านอยู่อยู่ 1 หลังค่ะ ......ทั้ง 2 ที่อยู่แถวๆบริเวณ ม.ราชภัฎเชียงรายค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยน่ะค่ะ   ...ขอบคุณค่ะ 

[แมงมุม]

.

ของเดิมดีอยู่แล้วครับ - -*

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบจ่ายแบบน้อยๆ....

------------------

OD คิดดอกเบี้ยเป็นวันก็จริง... แต่จ่ายดอกเบี้ยเป็นเดือนครับ และไม่ต้องจ่ายเงินต้นด้วย(ถ้าไม่อยากจะปิดบัญชี)

ส่วน 3แสนบาท ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกให้หมดภายใน 5 ปี ครับ

.
-------------------

ลองรีไฟแนนซ์มาก็ได้ครับ....ยินดีให้คำปรึกษา

.

[หลานอุ้ยเกี๋ยง]

เข้ามาเก็บความรู้ครับ 

[aol2l4]

งูๆปลาๆนะครับ
เมื่อเช้าพึ่งเรียนมา ไม่รู้ว่าจะถูกต้องตามที่ผมเข้าใจมั้ย

-ธนาคาร - เมื่อเราชำระ เงินต้นไปบ้างแล้ว  ดอกเบี้ยก็จะลงตามไปด้วย
-ไฟแนนซ์- เป็นดอกกระด่าง คือ ต้องจ่ายทั้งเงินต้น และดอก ตามจำนวนในสัญญาแรกเริ่ม ถึงเราจะส่งเงินต้มไปบ้างแล้ว แต่ ดอก ก็เท่าเดิม ไม่มีลด...

**มั้ง ฮาฮา

และสงสัยคงไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้มั้ง...อิอิ มั่วจิงตู

[aol2l4]

งูๆปลาๆนะครับ
เมื่อเช้าพึ่งเรียนมา ไม่รู้ว่าจะถูกต้องตามที่ผมเข้าใจมั้ย

-ธนาคาร - เมื่อเราชำระ เงินต้นไปบ้างแล้ว  ดอกเบี้ยก็จะลงตามไปด้วย
-ไฟแนนซ์- เป็นดอกกระด่าง คือ ต้องจ่ายทั้งเงินต้น และดอก ตามจำนวนในสัญญาแรกเริ่ม ถึงเราจะส่งเงินต้มไปบ้างแล้ว แต่ ดอก ก็เท่าเดิม ไม่มีลด...

**มั้ง ฮาฮา

และสงสัยคงไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้มั้ง...อิอิ มั่วจิงตู

อ้าว กลับไปอ่าน ข้อความของ เจ้าของกระทู้มา
จึงรู้ว่า เรานั้นมั่วไปจิงๆ ไม่ได้เกี่ยวกันเลย

[nuifish]

แบบนี้ดีอยู่แล้วครับ

เงินกู้ 3 แสน เอามาแบงค์คิดดอกเบี้ยทันทีเป็นรายวัน ส่งเป็นงวด ระยะเวลา 5 ปี เงินที่ส่ง จะมีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน เมื่อต้นเงินลดลง เดือนต่อไป ดอกเบี้ยก็ลดลงตามต้นเงิน (แต่ก็ขึ้นกับจำนวนวันในแต่ละเดือน)

สมมติ ส่งเดือนละ 10,000.- ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ชำระทุกวันสิ้นเดือน

เดือนที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 20-31 ต.ค. 54 (จำนวนวัน = 11 วัน วันที่ชำระไม่คิด ยกไปเดือนถัดไป)

ดอกเบี้ย = (300,000 x 7 x 11) / 36500 = 362.88
เงินต้น = 10,000 - 362.88 = 9,367.12
เงินต้นกู้คงเหลือ = 300,000 - 9367.12 = 290,632.88


เดือนที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 54 - 30 พ.ย. 54 (จำนวนวัน = 30 วัน)

ดอกเบี้ย = (290,632.88 x 7 x 30) / 36500 = 1,672.13
เงินต้น = 10,000 - 1,672.13 = 8,327.87
เงินต้นกู้คงเหลือ = 290,632.88 - 8,327.87 = 282,305.01

.......


ส่วนเงิน OD เบิกมาใช้เมื่อไหร่ ก็คิดดอกเบี้ยเมื่อนั้น เป็นรายวัน แต่ชำระแต่ดอกเบี้ยได้ทุกสิ้นเดือนเหมือนกัน (ถ้ายังไม่ชำระต้นเงิน) ถ้ามีเงินคงเหลือเมื่อไหร่ ก็เอามาชำระเงินต้น(ที่ติดลบ) ดอกเบี้ยก็จะคิดตามยอดเงินติดลบคงเหลือ

ประมาณนี้ครับ

คิดว่า ดีกว่า เอาเงินออกมาเป็นก้อน แล้วจ่ายดอกเบี้ยทั้งก้อน โดยที่เงินยังไม่ทันใช้ให้ออกดอกผลครับ

[เด็ด ฟิชชิ่ง (บ้านป้าห้า)]

แบบนี้ดีอยู่แล้วครับ

เงินกู้ 3 แสน เอามาแบงค์คิดดอกเบี้ยทันทีเป็นรายวัน ส่งเป็นงวด ระยะเวลา 5 ปี เงินที่ส่ง จะมีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน เมื่อต้นเงินลดลง เดือนต่อไป ดอกเบี้ยก็ลดลงตามต้นเงิน (แต่ก็ขึ้นกับจำนวนวันในแต่ละเดือน)

สมมติ ส่งเดือนละ 10,000.- ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ชำระทุกวันสิ้นเดือน

เดือนที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 20-31 ต.ค. 54 (จำนวนวัน = 11 วัน วันที่ชำระไม่คิด ยกไปเดือนถัดไป)

ดอกเบี้ย = (300,000 x 7 x 11) / 36500 = 362.88
เงินต้น = 10,000 - 362.88 = 9,367.12
เงินต้นกู้คงเหลือ = 300,000 - 9367.12 = 290,632.88


เดือนที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 54 - 30 พ.ย. 54 (จำนวนวัน = 30 วัน)

ดอกเบี้ย = (290,632.88 x 7 x 30) / 36500 = 1,672.13
เงินต้น = 10,000 - 1,672.13 = 8,327.87
เงินต้นกู้คงเหลือ = 290,632.88 - 8,327.87 = 282,305.01

.......


ส่วนเงิน OD เบิกมาใช้เมื่อไหร่ ก็คิดดอกเบี้ยเมื่อนั้น เป็นรายวัน แต่ชำระแต่ดอกเบี้ยได้ทุกสิ้นเดือนเหมือนกัน (ถ้ายังไม่ชำระต้นเงิน) ถ้ามีเงินคงเหลือเมื่อไหร่ ก็เอามาชำระเงินต้น(ที่ติดลบ) ดอกเบี้ยก็จะคิดตามยอดเงินติดลบคงเหลือ

ประมาณนี้ครับ

คิดว่า ดีกว่า เอาเงินออกมาเป็นก้อน แล้วจ่ายดอกเบี้ยทั้งก้อน โดยที่เงินยังไม่ทันใช้ให้ออกดอกผลครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

[เด็ด ฟิชชิ่ง (บ้านป้าห้า)]

แบบนี้ดีอยู่แล้วครับ

เงินกู้ 3 แสน เอามาแบงค์คิดดอกเบี้ยทันทีเป็นรายวัน ส่งเป็นงวด ระยะเวลา 5 ปี เงินที่ส่ง จะมีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน เมื่อต้นเงินลดลง เดือนต่อไป ดอกเบี้ยก็ลดลงตามต้นเงิน (แต่ก็ขึ้นกับจำนวนวันในแต่ละเดือน)

สมมติ ส่งเดือนละ 10,000.- ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ชำระทุกวันสิ้นเดือน

เดือนที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 20-31 ต.ค. 54 (จำนวนวัน = 11 วัน วันที่ชำระไม่คิด ยกไปเดือนถัดไป)

ดอกเบี้ย = (300,000 x 7 x 11) / 36500 = 362.88
เงินต้น = 10,000 - 362.88 = 9,367.12
เงินต้นกู้คงเหลือ = 300,000 - 9367.12 = 290,632.88


เดือนที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 54 - 30 พ.ย. 54 (จำนวนวัน = 30 วัน)

ดอกเบี้ย = (290,632.88 x 7 x 30) / 36500 = 1,672.13
เงินต้น = 10,000 - 1,672.13 = 8,327.87
เงินต้นกู้คงเหลือ = 290,632.88 - 8,327.87 = 282,305.01

.......


ส่วนเงิน OD เบิกมาใช้เมื่อไหร่ ก็คิดดอกเบี้ยเมื่อนั้น เป็นรายวัน แต่ชำระแต่ดอกเบี้ยได้ทุกสิ้นเดือนเหมือนกัน (ถ้ายังไม่ชำระต้นเงิน) ถ้ามีเงินคงเหลือเมื่อไหร่ ก็เอามาชำระเงินต้น(ที่ติดลบ) ดอกเบี้ยก็จะคิดตามยอดเงินติดลบคงเหลือ

ประมาณนี้ครับ

คิดว่า ดีกว่า เอาเงินออกมาเป็นก้อน แล้วจ่ายดอกเบี้ยทั้งก้อน โดยที่เงินยังไม่ทันใช้ให้ออกดอกผลครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

แล้วถ้าเป็น โอดี 700000 ละค่ะ ดอกวันละเท่าไหร่

[แมงมุม]

.

เอา 7 แสน คูณ อัตราดอกเบี้ย หาร 365 ครับ

[พีซี.โฟน]

.

เอา 7 แสน คูณ อัตราดอกเบี้ย หาร 365 ครับ

ก็อปของเพื่อนมาอีกที ง่ายดีไม่รู้ว่าเหมือนกันหรือเปล่า
  [(จำนวนเงินที่ถอน * (อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับ/ 100)) / 365] * จำนวนวันที่ใช้ไป

[เด็ด ฟิชชิ่ง (บ้านป้าห้า)]

.

เอา 7 แสน คูณ อัตราดอกเบี้ย หาร 365 ครับ

ก็อปของเพื่อนมาอีกที ง่ายดีไม่รู้ว่าเหมือนกันหรือเปล่า
  [(จำนวนเงินที่ถอน * (อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับ/ 100)) / 365] * จำนวนวันที่ใช้ไป

ขอบคุณค่ะ

[สมพร1962]

เงินกู้    คือการผ่อนชำระคืนธนาคาร ทั้งต้นพร้อม ด/บ.เท่าๆกันทุกเดือน จนครบสัญญา (อัตราการผ่อนชำระ
          ส่วนมากถ้าลูกค้าผ่อนชำระตรงทุกเดือน จะหมดก่อนสัญญา เพราะธนาคารคิดระยะเวลาเกินมาให้แล้ว)
          อย่างของท่าน จขกท.ระยะ 5 ปี ถ้าส่งตรงเวลาทุกงวด จะหมดประมาณ 4 ปีกลางๆ

ส่วนกู้เบิกเงินเกินบัญชี (O/D) คิดง่ายๆครับ ก็เหมือนๆกับบัตรเครดิตนั้นแหละครับ แต่ต่างกันตรงที่มีหลักประกันกับไม่มีหลักประกัน หากใช้ไม่เกินวงเงินที่ธนาคารอนุมัติมาให้ท่าน จขกท.ก็ไม่ต้องกังวลอะไรครับ
   -เช่น ท่านได้วงเงินมา 700,000.-บาท สิ้นเดือนมาท่านก็ดูว่าวงเงินเกินจำนวน 7 แสนไปเท่าไรท่านก็นำเงินเข้าบัญชีเท่านั้นอย่าให้เกิน หากเกินมาเจ้าหน้าที่ ธนาคารเค้าก็จะโทร.แจ้งท่านทั้นที

ส่วนที่ท่านถามว่า จะกู้เงินมาปิดวงเงิน O/D นั้น ผมคิดว่าไม่น่าดำเนินการนะครับ เพราะ 1 มีค่าใช้จ่ายในการจำนอง+ค่าธรรมเนียมอื่น ธนาคาร+เสียเวลาเดินเื่รื่องใหม่ แนะนำอย่างนี้นะครับ ท่านควรไปที่ธนาคารที่ท่านมีวงเงินอยู่แล้ว และของขึ้นเงินจำนอง เพื่อขอเพิ่มวงเงินกู้ก็ได้ครับ

เงินกู้ เมื่อชำระหมด ในอนาคตหากท่านต้องการเงินมาดำเนินธุระกิจ ขั้นตอนเริ่มใหม่หมดเหมือนตอนแรก ที่ท่านทำเรื่องกู้ในครั้งนี้นะครับ
ส่วนวงเงินเบิกเงินเกินบัญชี (O/D) ท่านใช้ได้ตลอดหากธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ท่านขอขยายวงเงินเพิ่มไปได้ เลือยๆ หากหลักประกันไม่พอท่านก็เพิ่มหลักประกันเข้าไป
           

[สมพร1962]

ผมขอเพิ่มอีกหน่อยนะครับ ธนาคารเค้าคิดถูกแล้วล่ะครับ
เพราะธนาคารไม่อยากให้ลูกค้าเสียงกับรายรับที่จะเข้ามา กรณีหอพักอาจจะอยู่ไม่เต็มทุกเดือนนะครับ และที่ให้วงเงิน O/D มาให้ก็เพื่อที่จะให้ลูกค้าได้มีโอกาสหายใจได้บ้าง ที่เป็นเงินกู้ทั้งหมด เดือนไหนที่รายรับเข้ามาไม่ได้อย่างที่ตั้งไว้จะเกินปัญหาได้ครับ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ