เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 15:47:57
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM งานออนไลน์
| |-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM - ขายประกัน
| | |-+  ยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลง สกัดจากขีวภาพ ไม่มีสารเคมีเป็นอันตรายต่อคน ไม่มีพิษตกค้าง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลง สกัดจากขีวภาพ ไม่มีสารเคมีเป็นอันตรายต่อคน ไม่มีพิษตกค้าง  (อ่าน 590 ครั้ง)
Tanongsak Boonsri
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 01 ตุลาคม 2011, 22:45:21 »

นววัตกรรมใหม่ ทางการเกษตร ของ บริษัท เอส ซี พี เน็ทเวอร๋ค จำกัด
มีทั้งยาฆ่าหญ้า และ ยากำจัดแมลงศัตรูพืช ต่างๆ
ยาฆ่าหญ้า  kill grass   เป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากชีวภาพ   ไม่มีสารเคมีเจือปน   
คุณสมบัติ
ใช้กำจัดวัชพืชประเภทสัมผัส ไม่เลือกทำลาย ใช้ปราบวัชพืชที่มีสีเขียว ในไร่อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด สับปะรด สวนผลไม้ กล้วย องุ่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน คันนา ขอบบ่อเลี้ยงปลา บริเวณโรงงาน รอบไร่ ริมถนน ทางรถไฟ คันคลอง
สนใจ ติดต่อ ทนงศักดิ์ 0831835991 , 0821924356
www.scpnetwork.co.th
ยาฆ่าแมลงและขับไล่แมลง kill atack  เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อคน  เป็นนวัตรกรรมใหม่ สุดยอด  ทางการเกษตร  ไม่มีสารเคมีเจือปน
พืชสวน พืชไร่ นาข้าว มีปัญหาจาก เพลื้ย หนอน หอยเชอรี่  ใช้ยาฆ่าแมลง
ผลิตภัณฑ์ ชีวภาพกำจัดแมลง ปลวก และหนอนดื้อยา ทุกชนิด เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว   เพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง หนอนใยผัก หนอนหนังเหนียว เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน หนอนกระทู้หอม ฯลฯ
สารชีวภัณฑ์ ซึ่งอยู่ในรูปผงสปอร์พักตัวพร้อมใช้ สะดวกต่อการใช้งาน
ปสามารถทำลาย แมลง ปลวก และ หนอน รวมทั้งไข่แมลง ปลวก และ หนอน
มีคุณสมบัติ ดังนี้ :
1.  สามารถเข้าทำลายปลวก และแมลงศัตรูพืชทุกชนิด เช่น เพลี้ยแป้ง, เพลี้ยไฟ, เพลี้ยอ่อน, เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล, เพลี้ยไก่แจ้, เพลี้ยจักจั่น, ไรแดง, แมลงหวี่ขาว, หนอนใย, หนอนกอ, หนอนกระทู้, แมลงเต่าแตง ฯลฯ โดยผ่านเข้าทางผิวหนังของแมลง ด้วยการสร้างหลอด (germ tube)ออกมาแทงทะลุผิวหนังของแมลงเข้าไปภายใน สารสกัด kill attack จะสร้างกลุ่มเส้นใย (mycelium) เข้าไปตามท่ออาหารและขยายจำนวนมากขึ้นโดยเส้นใยจะแตกและหักออกเป็นท่อนสั้นๆ เข้าไปทำลายอวัยวะต่างๆ ในตัวแมลง และเพิ่มจำนวนภายในตัวแมลง ซึ่งจะทำลายเนื้อเยื่อของแมลง และปล่อยสารพิษทำลายแมลง ทำให้แมลงป่วย ร่างกายอ่อนแอ และตายในที่สุด
2. ติดต่อไปยังแมลงข้างเคียงอย่างรวดเร็ว และทำลายแมลงตัวอื่นๆด้วย
3. แมลงไม่สามารถแสดงอาการดื้อยาเหมือนสารเคมีกำจัดแมลงทั่วๆไป
4. สามารถกำจัดไข่ของแมลง เช่น ไข่หนอนเจาะลำต้น ไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไข่เพลี้ยแป้ง ไข่หนอนใยผัก ไข่หนอนเจาะสมอฝ้าย ไข่หนอนกระทู้หอม ฯลฯ และไข่ของแมลงทุกชนิดทั้งปากกัดและปากดูด รวมทั้งไข่หอยเชอรี่ในนาข้าว
5. ไม่เป็นอันตรายต่อ มนุษย์ แมลงที่เป็นประโยชน์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด จึงปลอดภัย มากกว่าสารเคมี
วิธีการใช้ :
นำ “เอสซีพี แอทแทค” แช่น้ำทิ้งไว้ 6-12 ชั่วโมง ก่อนนำไปฉีด เพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์เพิ่มปริมาณและขยายตัว
แต่ในกรณีที่ต้องการกำจัดปลวกสามารถใช้ในรูปผงโรย หรือ ผสมน้ำฉีดพ่น
อัตราการใช้ :
อัตรา 50 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร แต่ในกรณีที่ต้องการกำจัดปลวกให้ใช้อัตรา 100 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดให้ทั่วบริเวณที่มีปลวก นอกจากใช้ผสมน้ำแล้วยังสามารถโรยผงสปอร์ให้ทั่วรัง หรือบริเวณทางเดิน หรือบริเวณที่เห็นปลวกเข้าทำลายได้ทันที
แนวทางการใช้ :
ฉีด ช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็ได้ แต่ช่วงเย็นจะเหมาะที่สุด เพราะผ่านช่วงกลางคืนจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ทำงานได้เต็มที่ ฉีดให้ชุ่ม ฉีดให้ทั่ว
 
กรณีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว :
1.   ฉีด “เอสซีพี แอทแทค” ให้ทั่วต้นพืชและฉีดให้โดนตัวแมลงให้มากที่สุด (ส่วนมากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จะเกาะอยู่ตามโคนต้นและใต้ใบ)
2.   สามารถใช้ “เอส ซีพี แอทแทค” ลดจำนวนแมลงตัวแก่ได้โดยฉีดไปที่ตัวแมลงที่มาเล่นไฟโดยตรง เพราะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลส่วนใหญ่ที่มาเล่นไฟจะเป็นตัวเมีย จึงทำให้ตัวแก่ตัวเมียตายไม่สามารถออกไข่ได้
3.   “เอส ซีพี แอทแทค” จะเข้าไปทำลายไข่ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่เกาะอยู่ตามใบต้นข้าวไม่ให้ ฟักออกมาเป็นตัว ทำให้ช่วยลดจำนวนของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้อีกทางหนึ่ง สาเหตุที่สารเคมีใช้ไม่ได้ผล เป็นเพราะการดื้อยา เนื่องจากสารเคมีนั้นฆ่าได้เฉพาะตัวอ่อนกับตัวแก่เท่านั้น แต่ฆ่าไข่ไม่ได้ เมื่อไข่ฟักออกมาเป็นตัวก็จะทำลายต้นข้าวได้อีก
4.   หากแมลงมีการระบาดมากแล้ว ให้ผสม “เอส ซีพี แอทแทค” กับสารเคมีได้เลย ฉีดไปพร้อมกันจะทำให้แมลงตายเร็วขึ้น ถึงแม้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลสามารถสร้างภูมิต้านทานสารเคมีได้ แต่ไม่สามารถต้านทาน “เอสซีพี แอทแทค” ได้
5.   หากต้องการฉีดเพื่อการป้องกัน สามารถฉีด “เอส ซีพี แอทแทค” ที่ต้นข้าวได้ทันทีถึงแม้ขณะนั้นยังไม่มีตัวเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (เป็นการวางกับดัก) เมื่อเพลี้ยกระโดดบินเข้ามาในแปลงข้าวและไปโดน “เอสซีพี แอทแทค” หรือดูดน้ำเลี้ยงจากต้นข้าวก็จะดูด “เอสซีพี แอทแทค” เข้าไปในตัว จึงทำให้เพลี้ยกระโดดติดโรค ป่วย และตายในที่สุด นอกจากที่กล่าวมานี้ยังสามารถใช้ “เอสซีพี แอทแทค” สลับกับสารเคมีหรือผสมกับสารเคมีไปพร้อมกัน เพื่อป้องกันการดื้อยาของแมลงทุกชนิด โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่ดื้อยาได้รวดเร็วมาก (ยาดีๆ แพงๆ ยังเอาไม่อยู่)
กรณีเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง :
1.   ฉีด “เอสซีพี แอทแทค” ให้ทั่วต้นพืช ฉีดให้โดนตัวแมลงให้มากที่สุด
2.   และ ฉีดลงดินด้วยโดยฉีดให้ดินชุ่ม ช่วงฤดูฝนเพลี้ยแป้งจะหลบไปอาศัยอยู่ใต้ดิน การใช้สารเคมีจะไม่สามารถกำจัดเพลี้ยแป้งที่หลบอยู่ใต้ดินได้ การฉีด “เอส ซีพี แอทแทค” ลงดินจะสามารถกำจัดทั้ง ตัวแก่ ตัวอ่อน และไข่ ที่อยู่ใต้ดินได้ ซึ่งเป็นการกำจัด ควบคุม และตัดวงจรชีวิตเพลี้ยแป้งเพื่อไม่ให้กลับมาระบาดในแปลงมันสำปะหลังในช่วง ฤดูแล้งได้อีก
3.   หากแมลงมีการระบาดมากแล้ว ให้ผสม “เอส ซีพี แอทแทค” กับสารเคมีได้เลย ฉีดไปพร้อมกันจะทำให้แมลงตายเร็วขึ้น ถึงแม้เพลี้ยแป้งสามารถสร้างภูมิต้านทานสารเคมีได้ แต่ไม่สามารถต้านทาน “เอสซีพี แอทแทค” ได้
4.   หากต้องการฉีดเพื่อการป้องกัน สามารถฉีด “เอส ซีพี แอทแทค” ได้ทันทีถึงแม้ขณะนั้นยังไม่มีตัวเพลี้ยแป้ง (เป็นการวางกับดัก) เมื่อเพลี้ยแป้งเข้ามาในแปลงและไปโดน “เอสซีพี แอทแทค” หรือดูดน้ำเลี้ยงจากต้นมันสำปะหลังก็จะดูด “เอสซีพี แอทแทค” เข้าไปในตัว จึงทำให้เพลี้ยแป้งติดโรค ป่วย และตายในที่สุด นอกจากที่กล่าวมานี้ยังสามารถใช้ “เอสซีพี แอทแทค” สลับกับสารเคมีหรือผสมกับสารเคมีไปพร้อมกัน เพื่อป้องกันการดื้อยา
แนะนำให้ฉีด “เอส ซีพี แอทแทค” ทุกๆ 20-30 วัน 3-4 ครั้ง ต่อ 1 ฤดูปลูก จะช่วยเพิ่มปริมาณเชื้อราปฏิปักษ์ต่อ หนอน และแมลงทุกชนิด ทั้งเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเพลี้ยแป้ง เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณ
หนอนและแมลงไม่ให้ระบาดได้แน่นอน
พฤติกรรม การใช้สารเคมีเป็นอาวุธในการกำจัดแมลงศัตรูพืชของเกษตรกร นับวันยิ่งจะใช้สารเคมีที่มีอนุภาพการทำลายที่รุนแรงและใช้ในปริมาณที่เพิ่ม มากขึ้นทุกที เกษตรกรอาจจะไม่ทราบว่าการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชไม่ว่าจะโดยวิธี การใดก็ตาม ไม่ค่อยได้ผลคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่สูญเสียไป นอกจากนั้นการฉีดพ่นสารเคมียังทำให้แมลงดื้อยา เป็นอันตรายต่อตัวเกษตรกรผู้ฉีดพ่นสารเคมีเอง และสิ่งแวดล้อม แน่นอนที่สุดสารเคมีบางชนิดอาจตกค้างในผลผลิตและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
แผนการตลาด สุดยอด ไม่ต้องรักษายอด
www.scpnetwork.co.th

IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!