inAus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2011, 21:32:41 » |
|
บทความต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์จริง ที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่ผ่านมา เป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ที่เกิดขึ้นย่านชานเมือง แต่นำศพไปทิ้งที่ จ.ปทุมธานี ผมได้รับอนุญาติจากเจ้าของเรื่องให้นำเผยแพร่ต่อสาธารณะชนแต่เพียงผู้เดียว และเปิดเผยที่นี่เป็นครั้งแรกนอกจากทีมงานเขียนของกระผมเอง น้องโม เป็นพยาบาล โรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งหนึ่ง และกำลังเรียนต่อ ป.โท ที่มหาลัยแห่งหนึ่งในสาขา นิติเวชศาสตร์ โดยเธอมีหมอพรทิพย์เป็นไอดอลตั้้งแต่เรียนพยาบาลที่ใกล้ชิดกับชีวิตคนไข้ และความตาย พอมีโอกาสเธอจึงศึกษาต่อในภาควิชาที่ต้องการ ขณะที่เรียนอยู่ปีแรก ก็ได้ขอย้ายมาอยู่ประจำห้องดับจิต เพื่อทำธุรกรรมเกีียวกับทะเบียนคนตาย และ ผอ. ให้ช่วยงานชันสูตรพลิกศพในห้องนิติเวชด้วย เพราะเห็นเรียนและสนใจด้านนี้ เธอจึงได้เรียนจากศพโดยตรงอีกทางหนึ่ง
วันหนึ่งมีศพหญิงสาวถูกฆ่าตัดคอทิ้งน้ำ ซึ่งผลชันสูตรของตำรวจคือถูกฆาตกรรมและข่มขืน ตำรวจนำร่างไร้วิญญาณมาฝากที่ ร.พ. เมื่่อเธอเดินเข้าไปทำทะเบียนคนตาย เธอได้มองศพอย่างสงสารปนสมเพชในสภาพศพ ที่เริ่มขึ้นอืดแล้ว และได้อธิฐานในใจว่า อยากช่วยเธอนะ อยากให้เธออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ อยากหาศรีษะให้เธอ จะได้บำเพ็ญกุศลตามประเพณีได้ จากนั้นเธอก็ไปทำงานปกติ จนเวลากลับบ้านซึ่งเธอมีงานต่อเนื่องต้องเลิกงานเวลาประมาณสองทุ่มเศษ เธอขับรถผ่านป้อมยาม ซึ่งยามได้มองรถเธออย่างผิดสังเกตุแต่เธอไม่ได้สนใจ รีบขับกลับบ้านเพราะนัดคุณแม่ทานข้าวไว้
หลังทานข้าวก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้กับแม่ฟัง (แม่เธอเป็นพยาบาล ร.พ.เอกชน พ่อเป็นตำรวจนครบาล) เธอก็บอกกับแม่ว่าอยากช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้ แม่ก็ยังแซวเธอ อย่าไฟแรงมากนัก เพิ่งเรียนปีแรกเอง ต่างคนก็หัวเราะและแยกย้ายกันเข้านอน
คืนนั้นเธอได้ฝันว่า ขณะขับรถออกจาก ร.พ. เป็นเวลาโพล้เพล้ ได้มีหญิงสาวหน้าตาดีมากคนหนึ่งโบกรถเธอ และขอให้ไปส่ง ซึ่งเธอก็ยินยอม ขณะขับไปเรื่อยๆ ก็ได้ถามหญิงสาวว่าบ้านอยู่ไหน เธอไม่ตอบแต่ชี้มือให้เธอขับตามไป จนไปถึงที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านร้าง เธอก็บอกว่าให้จอดให้เธอที่นี่ โมก็จอดรถ แต่ผู้โดยสารสาวไม่ยอมลง ได้แต่ก้มหน้าร้องให้กับฝ่ามือและคร่ำครวญว่าเข้าไปไม่ได้ เขาไม่ให้เข้าไป และโมก็สะดุ้งตื่น ตอนฟ้าสางพอดี
ตอนเช้าขณะขับรถเข้าจอดที่ ร.พ. เพื่อมาทำงานปกติ รปภ. คนเมื่อวานเย็นเพิ่งเลิกกะดึก เข้ามาทักเธอ เมื่อวานมีเพื่อนนั่งรถออกไปด้วยหรือครับ เธอก็ปากออกไปว่า ไม่นิคะ แต่เธอกำลังวุ่นถือเอกสารในมือ เลยไม่ได้ใส่ใจนักกับคำพูด รปภ. และเดินขึ้นตึกไป
คืนต่อมาเธอก็ฝันเช่นเดียวกับคืนก่อนอีก เธอได้แต่งุนงง สงสัย อาจจะมีอะไรผิดปกติแน่นอน แต่ยังไม่ปักใจเชื่อนัก จนคืนที่สามก็ฝันเช่นเดียวกันอีก ผู้หญิงคนเดียวกัน เธอเริ่มชัดในความรู้สึกแต่ยังไม่ปักใจ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรมาชี้ชัดได้ว่า ผู้หญิงต้่องการความช่วยเหลือจากเธอจริงๆ หรือ เธออาจจะเก็บเอาไปฝันเอง เพราะความในใจเธออยากจะช่วยจริงๆ ก็เป็นได้
วันที่สี่ของการเก็บศพไว้ที่ ร.พ. ตำรวจได้มาขอรับศพไปไว้ที่ ร.พ.ตำรวจ เพื่อผ่าพิสูจน์ทางการแพทย์และรักษารูปคดีต่อไป ขณะเธอนำทะเบียนประวัติผู้ตายเท่าที่มีอยู่ ไปให้ตำรวจในห้องเก็บศพ ศพที่ถูกห่อด้วยถุงห่อศพ ถูกนำออกมาอยู่บนรถเข็น และสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อถุงแตกกระทันหัน อาจจะเพราะศพขึ้นอืดเกินไป หรือเพราะเหตุอะไรไม่ทราบ แต่แขนของศพได้หลุดออกจากตัวศพ และมือพร้อมนิ้วของศพหญิงสาวชี้ตรงมาที่โม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ ร.พ. จะจัดการห่อถุงใหม่ และนำศพให้กับทางตำรวจต่อไป
จากเหตุการณ์ทั้งหมด โมเริ่มนั่งประติดประต่อกัน คงจะจริงที่หญิงสาวอยากให้เธอช่วย จึงไปเข้าฝันเธอและยังทำกริยาชี้นิ้วมาที่เธอ เพื่อให้เธอช่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง และ สิ่งที่ผุดขึ้นมาในสมองของเธอขณะนั้นคือ ชื่อป้ายหมู่บ้าน ที่เธอเห็นในฝัน คงจะช่วยอะไรเธอได้ เธอได้เปิดอินเตอร์เน็ต เข้าค้นหาชื่อหมู่บ้าน โครงการต่างๆ ที่น่าจะเกี่ยวข้องหรือมีชื่อดั่งป้ายที่เธอเห็น และยังติดต่อพ่อของเธอ ให้ช่วยสืบหาชื่อหมู่บ้านนั้น จนสามวันผ่านไปเธอได้ข้อมูล เป็นชื่อหมู่บ้านร้างโครงการขายไม่ออก อยู่แถวมีนบุรี
ในวันหยุดราชการ เธอตั้งใจมุ่งมั่นแน่วแน่ ขับรถออกจากบ้านแต่เช้ามุ่งหน้าไปตามแผนที่ ที่เธอได้รับมา เมื่อไปถึง เธอขนลุกซู่ เลือดในกายพล่านไปหมด แม้ไม่ใช่คนกลัวผี แต่เหตุการณ์นี้เธอสัมผัสได้กับบางสิ่งบางอย่างที่เหนือธรรมชาติ รอบกายเธอเป็นป่าแขมขึ้นเต็มไปหมด หลังคาหมู่บ้านร้างผู้คน ปรากฎอย่างที่ภาพในฝันบอกเธอทุกอย่าง เธอจอดหน้าป้ายโครงการหมู่บ้าน "ธารทิพย์วิลล่า" เธอหยิบโทรศัพท์ขึิ้นมาติดต่อเพื่อนที่ทำงาน "ปอเต็กตึ้ง" "เห้ย...มึงรีบมาหากูเลยนะ กูอยู่ที่......" "มึงเชื่อในซิกเซ้นต์ของกูไหม...รีบมา ขนลูกน้องมึงมาสี่ห้าคนด้วย"
ชั่วโมงต่อมาเพื่อนเธอก็ขับรถมาถึงพร้อมลูกน้องสี่คน หลังเสวนากันถึงเหตุผลแล้วเธอก็ขับรถนำเข้าไปในหมู่บ้านร้าง เพื่อหาร่องรอยบางอย่างที่เธอสงสัย รอบแรกไม่เจออะไร รอบสองเข้าทุกซอกซอย ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้เรื่องราวอะไรอย่างที่คิด รอบที่สาม ซึ่งเธอขอร้องเพื่อนให้ขับตาม จงเชื่อในสิ่งที่เธอมั่นใจ และในรอบนี้เอง ยางรถของ ปอเต็กตึ้ง ได้เกิดรั่วขึ้นอย่างกระทันหันตรงขอบฝาท่อ ซึ่งมีเหล็กแหลมยื่นออกมาซึ่งเป็นที่ งงงวยของคนขับเพราะยางหน้าเพิ่งเหยียบไปตะกี้ไม่เป็นไร แต่ยางหลังกลับรั่ว ทั้งรถของโม ก็ขับผ่านไปก่อนหน้าไม่รั่ว ขณะที่ทุกคนในรถลงมาเพื่อจะเปลี่ยนยาง เท่านั้นก็กลับกลายเป็นผงะแทน เพราะกลิ่นเน่าโชยเข้าจมูก มาจากข้างใต้ฝาท่อนั่นเอง และเจ้าหน้าที่ปอเต็กตึง ก็ทำการงัดฝาท่อพิสูจน์ และก็จริงอย่างที่โมคิด ศรีษะของมนุษย์ มีผมยาวคล้ายของผู้หญิงแต่บวมอึด จำสภาพไม่ได้ และที่สำคัญมีตะปูสามตัวปักติดตรงหน้าผากของศรีษะนั้น เหมือนจะสะกดวิญญาณ ต่อมาทางมูลนิธิได้ประสานตำรวจท้องที่ให้มาชันสูตร และนำศรีษะนั้นไปที่ ร.พ.ตำรวจทันที พร้อมกับทางนิตเวช ร.พ.ตำรวจได้นำศรีษะไปต่อกับร่างหญิงสาว กลับเข้ากันได้ดี ทั้งรอยตัด และเยื่อต่างๆ ทำให้คดีนี้มีความกระจ่างขึ้นมาระดับหนึ่ง เป็นหน้าที่ของตำรวจพิสูจน์บุคคลได้ว่า เป็นหญิงสาวจากจังหวัดหนองคาย มาทำงานเป็นเด็กเสริฟร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี จึงได้ประสานครอบครัวผู้ตายให้รับทราบและหาเบาะแสเพิ่มเติม โมก็ได้รับคำขอบคุณในไมตรีที่ช่วยเหลือราชการ
เรื่องราวน่าจะจบกับเธอเท่านั้น แต่ไม่ ............
คืนต่อมาเธอยังคงฝันถึงผู้หญิงคนเดิมอีก ในภาพเธอร้องให้และบอกว่าฆาตรกรยังลอยนวล เธอยังไปไหนไม่ได้ เพราะมันทำกับเธอเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ทั้งยังสะกดวิิญญาณเธอด้วยตะปู ในฝันโมพยายามถาม จำหน้ามันได้ไหม หญิงสาวส่ายหน้า บอกแต่ว่าจำรอยสักเสือเผ่นได้ และยังต้องมีรอยเล็บที่เธอข่วนตามร่างกาย แล้วร่างนั้นก็เลือนหายไป และเธอตกใจตื่น ขณะนั้นเวลาตีหนึ่ง
ตีหนึ่ง เธอหยิบโทรศัพท์โทรหา 191 ในท้องที่ที่ ร.พ.เธออยู่ เพราะศพถูกนำมาทิ้งไว้ในท้องที่นี้ ต้องมีส่วนรับผิดชอบ และพยายามเล่าตามที่เธอฝันให้ตำรวจรับทราบ แต่ถูกปฎิเสธ และ ว่าเธอเพ้อเจ้อ เรื่องนี้ทาง ร.พ.ตำรวจรับศพไปแล้ว รุ่งขึ้นเธอโทรหาตำรวจเจ้าของคดีอีก แต่ก็ถูกปฎิเสธเช่นเดิมว่าเป็นเพียงความฝัน พิสูจน์ไม่ได้และเขางานยุ่ง สุดท้ายเธอไประบายกับพ่อเธอซึ่งเป็นนายตำรวจระดับ ผกก. ในสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง พ่อเธอเชื่อในสิ่งที่ลูกสาวฝัน ประสานหลานชายที่อยู่กองปราบปราม จัดกำลังลงพื้นที่สืบคดีนี้ และเธอได้บอกว่า เท่าที่ได้ไปที่เกิดเหตุ สภาพทั่วไปมีโรงสีอยู่แถวนั้น สองโรง และมีคนงานมากมาย ซึ่งน่าจะเกียวข้องกับคดี เรื่องนี้ถ้าเป็นคนอื่นพูดอาจจะไม่มีน้ำหนัก แต่พ่อและอาเธอ ซึ่งเชื่อในซิกเซ็นต์ของเธอ และสัมผัสมาตั้งแต่เด็กว่าบางคราเธอมีจริงๆ และถูกต้องด้วย ก็ได้นำกำลังมุ่งสู่โรงสีทั้งสองแห่ง จากการประสานกับเจ้าของโรงสีแห่งแรก ก็ได้เรื่อง เจ้าของโรงสีอนุญาติให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นได้ตามสะดวก และเรียกคนงานทั้งหมดออกมายืนแถวหน้ากระดาน เมื่อทุกคนมายืนหมดแล้ว อาเธอก็ได้มากระซิบโม ว่าเอาไงต่อ เธอก็บอกอาสั่งให้ทุกคนถอดเสื้อ เมื่อทุกคนถอดแล้ว ตำรวจก็ยังทำอะไรไม่ได้ อาจึงมากระซิบเธออีกครา ครานี้เธอบอกให้ทุกคนหันหลังหาคนที่มีรอยสักเสือเผ่นและมีรอยเล็บเต็มตัว ให้นำตัวคนที่มีรอยสักเสือเผ่น ในกรณีที่มีมากกว่าหนึ่งคนไปสอบสวน เธอเชื่อว่าต้องมีคนหนึ่งเป็นคนร้าย พออาเธอสั่งให้คนงานหันหลัง แค่นั้น หนึ่งในคนงานทั้งหมดได้ออกวิ่งหนี ปากร้องบอกไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว อย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นเหตุให้ตำรวจวิ่งไล่ตามจับชายคนนั้นทันที และชายคนนั้นมีรอยสักเสือเผ่นบนแผ่นหลัง ที่ตรงกับคำให้การของโมจากที่เธอฝัน ตำรวจควบคุมตัวชายคนนั้นทันที และในเวลาไม่กี่นาทีก็รับสารภาพว่าเป็นคนร้าย ที่ลงมือข่มขืนหญิงสาวเด็กเสริฟร้านอาหารที่ตนหลงรัก ละแวกโรงสีเพราะหญิงสาวหน้าตาดี และได้ฆ่าตัดคอหญิงสาวจริง และแยกศพไปทิ้งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี แถมยังตอกตะปูสะกดวิญญาณตามที่ตนได้เรียนมาจากญาติผู้ใหญ่ แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่เขาบอกหลังคำรับสารภาพก็น่าสะพึงกลัวไม่น้อย
หลังจากฆาตกรรมหญิงสาวผ่านไปได้สามวัน เขาเองก็อยู่ไม่เป็นสุข เหมือนมีสิ่งใดจับตาจ้องเขาตลอดเวลา กลางคืนบ่อยครั้งที่ฝันเห็นหญิงสาว เหมือนภาพที่ตามหลอกหลอนไม่หยุด และที่เขาวิ่งหนีเพราะเห็นหญิงสาวยืนอยู่ตรงเสา ไม่ไกลจากที่ตนยืนเข้าแถวนัก ทำให้หวาดกลัว กรอปกับกลัวตำรวจรู้ความจริง จึงมีอาการเกร็งเก็บอาการไม่อยู่ ทั้งกลัวหญิงสาวที่เริ่มแสยะยิ้มให้อย่างน่ากลัว จนขามันพาตัวเขาวิ่งออกไป จนโดนรวบตัวไว้
งานนี้ปิดคดีเพราะความซนของน้องโมเพื่อนผมนี่หล่ะครับ ขอได้รับความขอบคุณจากเราทีมงานผู้เขียน
|
|
|
|
|
inAus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2011, 21:53:35 » |
|
เสริมอีกนิดครับ หลังจากคลี่คลายคดี คนร้ายถูกจับ คืนหนึ่งขณะเธอนอนใกล้จะเคลิ้มหลับ หญิงสาวคนเดิมในชุดใหม่ที่ทางโรงพยาบาลตำรวจจัดให้ ได้มายืนที่ปลายเตียงของเธอ ก้มกราบเธอและพูดว่า ขอขอบคุณในความกรุณาทั้งหมดที่มีต่อเธอ และได้เลือนหายไปกับความมืด
ผมไม่อาจจะเปิดเผยรายชื่อจริงของเจ้าของเรื่อง และคนตาย รวมทั้งคนร้ายได้
ขอบพระคุณครับที่เข้ามาอ่านกัน
|
|
|
|
|
|
|
inAus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2011, 22:37:18 » |
|
อ่านแล้วก็จินตนาการตามไปด้วย น่ากลัวอ่ะ เหมือนหนังสือนิยายบางเรื่องที่เคยอ่านเลยค่ะ
แต่ก็เคยมีเรื่องจริงทำนองนี้ ที่เคยได้ยินมาเหมือนกันนะคะ ถ้าเอาไปทำเป็นภาพยนต์ คงสนุกและน่ากลัวมาก.. นึกถึงภาพส่วนหัวที่ถูกตัดอ่ะค่ะ บรื๊อส์...
ครับ มันคล้ายหลายเรื่องที่เคยฉาย หรือไม่ก็ในนิยายผี ต่างๆ แต่นี่คือเรื่องจริงครับ มีหมายเลขคดี มีตัวตนของคนตาย และ คนร้ายตัวจริง ผมจะลงรายละเอียดในส่วนของบทภาพยนต์ ที่ทีมงานเราจะเขียน ซึ่งก็มี อดีต ผช. ผกก. น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ร่วมเขียนด้วยครับ บทเราจะสร้างให้ดูลึกลับมากขึ้นครับผม แต่ทุกอย่างมาจากเรื่องจริงทั้งนั้น หมู่บ้าน ธารทิพย์วิลล่า ก็มีอยู่จริงครับ ส่วนจะดำเนินการเสนอจัดถ่ายทำเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่หล่ะครับ แต่ผมคิดว่าเราพร้อมเกือบทุกอย่างแล้วในงานบทเขียน มีแทรกรายละเอียดอย่างครบอารมณ์ครับ ใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญ ก็ให้ติดตามต่อไปครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
inAus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2011, 23:18:05 » |
|
เอ่อ..ท่านครับ..ทำไมท่านต้องเอามาเล่าตอนกลางคืนด้วยครับ....และทำไมผมถึงตั้งใจอ่านมันจนจบ....ด้วย...อยู่คนเดียวด้วยซิ....*  สร้างบรรยากาศครับ กลางคืนผมเขียนหนังสือได้ดีกว่าหล่ะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องครับความลี้ลับ ถ้าสนใจเชิญติดตามได้ครับผม ตอนต่อไปพรุ่งจะลงคดีฆาตกรรมหญิงไทยที่เมืองดาร์วิน ออสเตรเลียครับ เป็นเรื่องจริงที่หญิงไทยไปพบเจอกับการค้ายาเสพติดของแก๊งเวียดนาม เลยถูกฆ่าโยนน้ำ ครับผม
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
inAus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2011, 22:30:06 » |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
inAus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2011, 11:13:35 » |
|
ข่าวล่าสุดครับ น้องโมเจ้าของเรื่อง ประสบอุบัติเหตุรถชนที่ จ.ปทุมธานี กะโหลกศรีษะแตก มีเศษกะโหลกเข้าไปอยู่บริเวณก้านสมองครับ ตอนนี้อยู่ ร.พ.จุฬาฯ เพื่อรออาจารย์หมอผ่าตัดสมองต่อไป
ขอให้บุญกุศลอันใดทีีข้าพเจ้าได้ทำมา ดลบันดาลให้น้องสาวผู้น่ารักจงรอดปลอดภัยและขอให้ผลการผ่าตัด ประสบผลสำเร็จด้วยดีครับ
|
|
|
|
|
|
|