เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 กรกฎาคม 2025, 20:10:28
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM งานออนไลน์
| |-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM - ขายประกัน
| | |-+  โครงการขยายเครือข่าย 3.9G ให้เราร่วมมีรายได้มากถึง 3,000,000บาท/เดือน จองรหัสต้นสายด่วน !!!
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน โครงการขยายเครือข่าย 3.9G ให้เราร่วมมีรายได้มากถึง 3,000,000บาท/เดือน จองรหัสต้นสายด่วน !!!  (อ่าน 1671 ครั้ง)
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« เมื่อ: วันที่ 17 กันยายน 2011, 11:38:19 »


เกี่ยวกับระบบโทรศัพท์ 3.9G ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ณ.เวลานี้
3.9G เป็นระบบคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ 2100 MHz ( 2100 เมกกะเฮิร์ต ) ซึ่งเป็นคลื่นความถึ่สากลโลก ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 24 ของโลก และเป็นประเทศที่ 4 ของเอเชีย ที่ใช้คลื่น 2100 เมกกะเฮิร์ต สามารถโทรศัพท์เห็นหน้ากันได้ เล่นอินเตอร์เน็ตได้ถึง 42 เม็กซ์ ไม่มีสะดุด กระตุก ให้รำคาญใจ
(หากวันนี้คุณจะใช้ระบบ 3G หรือ 3.9G คุณก็ควรจะเลือกใช้คลื่น 2100 MHz เป็นการส่งสัญญาณจะดีกว่าไหม)

ระบบ 3.9G มีความเร็วและแรงกว่าคลื่น 3G อย่างน้อย 20 เท่า

เปรียบเทียบ
++ ระบบ 3G ดาวน์โหลดที่ 7.2 Mb/s (โหลดภาพยนต์เสร็จใน 60 นาที ) ความเเรงคลื่น  850  MHz  เสียงเเบบโมโน 
++ ระบบ 3.9G ดาวน์โหลดที่ 42 Mb/s(โหลดภาพยนต์ เสร็จใน 10 นาที )ความแแรงคลื่น 2100 MHz  เสียงแบบสเตอริโอ
สัมผัส ประสบการณ์ใหม่ของชีวิต ที่ไร้พรมแดนของการสื่อสารแห่งยุคอนาคต ด้วยความเร็วในการสื่อสารสูงถึง 42 Mbps. ให้คุณสามารถใช้อินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง  ไม่ว่าจะดาวน์โหลดข้อมูล ส่งภาพ เล่นเกมส์ ดูวิดีโอคลิป  หรือสื่อต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าคุณจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่คุณก็ยังสามารถสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น กับเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหล่านี้ ได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส
        สุดยอดเทคโนโลยีทางการสื่อสาร โทรศัพท์เห็นหน้ากัน พ่อแม่โทรหาลูก
        คนรักโทรหาคนรัก เพื่อนโทรหาเพื่อน เห็นทุกอย่างว่าใครทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน

โปรโมชั่น
1.ค่าโทรศัพท์ นาทีแรก 2 บาท นาทีต่อไป 50 สตางค์ (สำหรับคนชอบโทรศัพท์นานๆ)
2.โทรศัพท์เห็นหน้ากัน นาทีละ 2 บาท
3.เล่นอินเตอร์เน็ตสุดคุ้ม 75 สตางค์/MB (เล่นได้ทั้งวันทั้งคืน จะเล่นยังไงก็ไม่เกิน 5 บาท)


ผลประโยชน์ของผู้ใช้ระบบโทรศัพท์ 3.9G

คุณจะได้ใช้คลื่นที่ทันสมัยที่สุดก่อนใคร แถมมีรางวัลมากมาย คุณก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับ
1.รางวัลเงินสดประจำสัปดาห์และประจำเดือน ตั้งแต่ 50 บาท ถึง 4 ล้านบาท
2.รางวัลท่องเที่ยว ฮ่องกง,ญี่ปุ่น
3.รางวัลรถยนต์  Mercedes Benz รุ่น C-200  และ Mercedes Benz รุ่น S-280


มาดูผลประโยชน์ที่ได้รับอย่างละเอียด
 
























ทุกๆเดือนคุณจ่ายค่าโทรศัพท์ไปเท่าไหร่ คุณได้อะไรกลับมาบ้างนอกจากการได้แค่โทรศัพท์
แต่หากคุณเปลี่ยนมาใช้ระบบ 3.9G เพียงเดือนละ 500 บาท คุณก็มีสิทธิ์รับผลประโยชน์เหล่านี้

เติมเงิน 500 บาท ก็โทรศัพท์ได้ 500 บาท แถมมีรายได้กลับคืน + รางวัลอีกมากมาย มีที่นี่ที่เดียว


สมัครใช้งานด่วน!!!
http://thailand39g.com/?id=tot42mb

ขั้นตอนการสมัครสมาชิก
1.ท่านสามารถจองรหัสสมาชิก เพื่อทดลองนำไปโปรโมทหรือแนะนำให้กับผู้สนใจทั่วประเทศได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
    หมายเหตุ : หากมีผู้ต้องการสมัครภายใต้สายงานของท่านแต่ท่านไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกที่สมบูรณ์ รวมถึงยังไม่ได้โอนเงินเพื่อชำระค่าลงทะเบียนการเป็นสมาชิกผู้จำหน่าย ให้ครบถ้วน ท่านจะได้สมัครต่อจากคนที่ท่านแนะนำแทน หากเขาทำการสมัครและโอนเงินเข้ามาก่อน
2.ค่าใช้จ่ายในการสมัครลงทะเบียนเป็นสมาชิกมีดังนี้
   1.ค่าซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ราคา 250 บาท
   2.ค่าบัตรเติมเงินจำนวน 500 บาท
   3.ค่าบริการต่างๆ 500 บาท
        3.1 ค่าบริการในการเปิดบัญชีธนาคารทหารไทยฟรี !!! (ได้พร้อมบัตรเอทีเอ็ม กดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ทุกธนาคารไม่เสียค่าธรรมเนียม)
        3.2 ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 120,000 บาท (ในกรณีเสียชีวิต)
        3.3 รับสิทธิพิเศษค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 5,000 บาท/ครั้ง
หลังจากท่านกรอกข้อมูลสมัครเป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้ว กรุณาชำระค่าลงทะเบียน 1,250 บาท
(ต่างจังหวัดมีค่าจัดส่งเอกสาร 50 บาท รวมเป็น 1,300 บาท)

*********************************************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 ตุลาคม 2011, 12:40:43 โดย buahom » IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2011, 10:11:46 »

“THAILAND 3.9G”

-   ขอกล่าวคำว่า “ยินดีต้อนรับ” ท่านสู่ธุรกิจที่มีมูลค่ามากที่สุดในระบบเครือข่ายของโลกครับ
-   ที่บอกว่า “ของโลก”ผมพิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ เพราะมูลค่ามันคิดเป็นต่อเดือนกันเลยทีเดียว
-   ท่านคงจะทราบดีนะครับว่ามูลค่าการใช้บริการโทรศัพท์มือถือของประชาชนคนไทย  ซึ่งมีประมาณ 80,000,000 เลขหมาย มันมหาศาลเพียงใด เพียงคูณด้วย100 หรือ 500 บาท  ก็ตกประมาณ 8,000,000,000 – 40,000,000,000 ต่อเดือน (อ่านว่า  แปดพันล้านบาทต่อเดือน-สี่หมื่นล้านบาทต่อเดือน)
-   วันนี้ TOT บอกกับผมมาว่าเราขอแบ่งยอดค่าใช้บริการนี้สัก 10% จะได้หรือไม่คุณก็คิดออก 10%ของแปดพันล้านก็คือ แปดร้อยล้าน 10% ของสี่หมื่นล้านก็คือ สี่พันล้านบาท อย่าลืม!ว่าเป็นยอดต่อเดือนนะครับ
-   แล้วตัวคุณ-ตัวผมบอกกับตัวเองว่า “คนไม่เก่ง แต่มองเห็นโอกาส” อย่างเราขอแบ่งมาซัก 1%ของสี่หมื่นล้าน ตัวเลขมันจะออกมาที่ 400 ล้านต่อเดือนแล้วครับ
-   แต่ก็ไม่ต้องได้ 400 ล้านต่อเดือนหรอกครับ ขอสัก 4 ล้านต่อเดือนต่อจุดก็น่าจะเพียงพอแล้ว
-   งานของเราเป็นงานง่ายๆ เพียงแต่ไปบอกให้เพื่อนใช้ระบบโทรศัพท์ที่ทันสมัยที่สุด คือ ระบบ 3.9G ของ T0T ซึ่งระบบนี้คณะรัฐบาลได้อนุมัติให้ทีโอทีทำขึ้น เมื่อปีพ.ศ.2553เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ประโยชน์สูงสุดในการติดต่อสื่อสารได้ทัดเทียมนานาประเทศ

มีคำถามไปถึงประชาชนในทุกสาขาอาชีพว่า
“วันนี้ท่านใช้โทรศัพท์หรือเปล่าครับ”
ถ้าท่านตอบว่า “ใช้”
แล้วคุณใช้ในฐานะอะไรครับ
ในฐานะผู้ใช้  ผู้จ่ายอย่างเดียว
หรือ..
ใช้ในฐานะของ “ผู้ชาญฉลาด”
คือ ใช้ไปด้วย...บอกให้คนอื่นใช้ไปด้วย
แล้วค่าใช้บริการของเพื่อนเราก็จะไหลเข้ามาสู่บัญชีธนาคารของเราอย่างไม่น่าเชื่อ


สำหรับท่านที่เป็นนักขายในระบบเครือข่าย
ผมมีคำถาม และท่านก็คงอยากจะถามตัวเองว่า...
“ทำไมท่านถึงต้องย้ายบริษัทบ่อยๆ”....
ทั้งๆที่
บริษัทที่ท่านไปร่วมงานด้วยก็ยิ่งใหญ่มาก
•   เจ้าของก็มีชื่อเสียงมาก  เป็นเจ้าของบริษัทที่เปิดมานานมาก  มั่นคงมาก
•   เป็นมหาเศรษฐีที่รวยมากมีชื่อเสียงระดับชาติ หรือระดับ 1,2,3,4,5 ของโลกเลยทีเดียว
•   ตึกที่บริษัทเปิดอยู่ก็ใหญ่มาก  หรูมาก  พนักงานก็ดีมากๆ ทีมงานก็ดีมากๆ
•   แผนการตลาดก็ดีมากๆ  จ่ายเยอะมาก  แนะนำคนเดียวก็ได้เป็นพัน เป็นหมื่น
•   และที่สำคัญก็คือ ตัวเราก็มีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจอย่างมาก แม่ทีม  อัพไลน์  ดาวน์ไลน์ มีพันธะสัญญากันอย่างเป็นมั่นคง ว่าจะก้าวไปด้วยกัน รวยไปด้วยกัน แล้วทำไมถึงวันหนึ่งเราต้องพรากจากกันด้วย
ผมมีคำตอบให้ครับ เราเลิก  เราล้ม  เพราะ “สินค้า”  ครับ
สินค้าผม หรือสินค้าดิฉันไม่ดีตรงไหนครับ/คะ?
ดีครับ สินค้าคุณดีมากๆ  จำเป็นมากๆ ครับ
แต่ถึงอย่างไรสินค้าของคุณ
1.   เรื่องคุณภาพของสินค้า นี่สำคัญมากครับ
* ส่วนมากผู้จำหน่ายอิสระจะบรรยายสินค้าแบบ “อิสระ” จริงๆ คือ อยากจะใส่สี ตีไข่ใส่เข้าไปอย่างไรก็ได้  อาหารเสริมร่างกายก็ไปบอกว่า เฉียดๆเป็นยาวิเศษ รักษา-ป้องกันได้เกือบทุกโรค มะเร็ง เบาหวาน ความดัน หัวใจ กระเพาะดีขึ้นหมด เมื่อกิน “น้ำอันนี้”เข้าไป   แต่เมื่อลูกค้ากินแล้วถ้าถูกโรคก็ดีไป ก็กินไป  แต่กินๆๆไปสักหน่อยก็เหนื่อยถ้าไม่รวย หรือมีเงินซื้อจริงๆ
2.   ข้อจำกัดเรื่อง “ราคา” นี่สำคัญมากครับ สินค้าที่เราออกไปแนะนำเพื่อนมันถูกบวกราคาขึ้นไปมากจนบางทีก็เกินจะรับไหว จนมีคำพูดเข้าหูอยู่บ่อยๆว่า “นี่ถ้าไม่อยากรวย ไม่ซื้อนะเนี่ย”
3.   ข้อจำกัดเรื่อง “ลูกค้า” คือ ต้องรอคนอยากสวย  คนป่วย  คนเจ็บ  ก่อนเขาถึงอยากจะซื้อ
4.   เมื่อเขาใช้ไปสักระยะเขาจะเบื่อหน่ายเรื่องราคาที่มากกว่าปกติ  ซื้อยากกว่าปกติ  และสรรพคุณที่ “งั้นๆ” ลูกค้ามักจะกลับมาถามตัวเองเสมอว่า “นี่เราจะใช้ต่อดีรึเปล่าเนี่ย”
5.   ผมรู้จักระบบเครือข่ายหรือ mlm ครั้งแรก คือ “น้องA…” ผมใช้ยาสีฟันของเขาทุกวันเพราะมันดีมากๆๆ ใช้ไป 2-3 หลอด แต่มีอยู่วันหนึ่งมันหมดลงไปอีก แล้วลืมสั่งซื้อเอาไว้ ก็เลยไปซื้อที่ร้านหน้าปากซอย  ก็พบว่ามันก็ “สี” ได้ ไม่ต้องจ่ายแพงกว่าด้วย  ไอ้ที่ว่าอยากร่ำอยากรวยก็ไม่อยากแล้ว  เพราะไปบอกใครก็ไม่เห็นมีใครอยากจะรวย “ทางนี้”เหมือนกับเราเลย (ลับหลังเขาว่าเรา.. “ฝันเฟื่อง”) มันสำคัญอยู่ตรงที่ว่า เพื่อนเรามันไม่อยากใช้  มันไม่อยากรวย  มันอยากไปซื้อง่ายๆ เวลาไหนก็ได้ที่ร้านค้า  มันไม่อยากรบกวนเรา  ไม่อยากให้เราไปซื้อให้  ถึงเราจะเต็มใจมากๆๆๆ ขนาดไหนก็ตาม
           มีอีกเยอะแยะครับที่เป็นเหตุผลที่ “สินค้า” ของเราไม่อำนวยให้เราสำเร็จ


แล้วธุรกิจของระบบ 3.9G  มันดีอย่างไร  มันสำคัญ  มันดีกว่าธุรกิจที่เราทำอยู่อย่างไร
ขอบอกอย่างมั่นใจเลยครับ
“ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันดีกว่าอย่างไรบ้าง  แต่ พวกเรารอคอยโอกาสนี้มาทั้งชีวิตทีเดียว”
เพียงแต่คุณใช้สมอง สองหู  และสองตา ดูให้ดี  และมี “ใจ” ที่เป็น-ที่มี  “ธรรมะ”จริงๆ ในการพิจารณาดูครับ  มันเป็นดังนี้ครับ
1.   เป็นสินค้าที่จำเป็นมากในชีวิตของมนุษยชาติ ในบางสังคมมันสำคัญมากกว่า อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย  ยารักษาโรค เสียอีกครับ  ถ้าคุณไม่ใช้โทรศัพท์ โอกาสที่คุณจะมี จะได้ปัจจัยทั้ง 4 อย่างมากิน มาใช้นั้น “ยาก” ครับ
2.   เป็นสินค้าที่ไม่ต้องรอให้ป่วย  ให้เป็นโรค  ให้อ้วน  ให้อยากสวย  ก่อน  คือ ใช้กันทุกคนตั้งแต่เด็กที่เริ่มอ้อแอ้เป็น จนถึงผู้สูงอายุในวัยที่จะอำลาโลก
3.   ไม่ว่าจะอยากรวย หรือไม่อยากรวย ก็ต้องใช้ทั้งนั้น
4.   เป็นสินค้าที่ทำให้ธุรกิจเดิมของคุณมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการแนะนำ   และทำให้ทีมงาน  เครือข่ายของคุณ “มีเงิน” มาซื้อสินค้าที่คุณอยากจะให้เขากิน-เขาใช้
5.   เป็นสินค้าที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย คือเป็นพันๆล้านต่อเดือน
6.   เป็นสินค้าที่ได้ช่วยชาติ  ช่วยกอบกู้เอกราชทางการสื่อสารของไทยกลับคืนมา  เอาเลขหมายโทรศัพท์ที่เคยเป็นสมบัติของสิงคโปร์  นอร์เวย์  จีน  ฮ่องกง  อังกฤษ ญี่ปุ่น กลับมาเป็นสมบัติของลูกหลานไทยได้ใช้กันเหมือนเดิม  และเงินทองจะไม่ไหลออกไปต่างชาติมากจนเกินไป
7.   เป็นสินค้าที่คนที่อยู่ล่างสุดในสังคม ผู้ใช้แรงงาน  ลูกจ้าง  พนักงาน  นักศึกษา  แม่ค้า ประสบความสำเร็จได้ทุกคน เพราะ ใช้เงินลงทุนน้อย  เป็นสินค้าที่ต้องการใช้จริงๆ ไม่ต้องบังคับกัน  ราคาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายเมื่อเทียบคุณภาพของระบบ กับราคาที่เราจ่ายไป
8.   เป็นธุรกิจที่สามารถทำให้ “ความฝัน”ของเรากลายเป็น “ความจริง”ได้
-   บ้าน 6 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ห้องน้ำทุกห้องมีอ่างน้ำวนจากุชชี่ มีที่ให้หมาวิ่ง  มีที่เดินเล่นในบ้านได้(ไม่ใช่เดินวนในบ้านนะ) มีที่ปลูกต้นไม้  พืชผักสวนครัว  ดอกไม้  ทั้งหมดนี้น่าจะใช้เงินประมาณ 15 ล้านบาท

IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2011, 22:47:36 »

เคล็ดลับความสำเร็จ

ผลงาน:สร้างทีมงาน 100 คนภายในเวลา 10 วัน คือวันละ 10 คน
เป็นผู้เขียนโครงการขยายเครือข่ายกลุ่มผู้ใช้บริการระบบ 3.9G เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2554 หลังจากได้รับหนังสือแต่งตั้งให้บริษัทฯเป็นผู้แทนจะหน่ายผลิตภัณฑ์ 3G ของ ทีโอที 1 วัน

- เป็นประธานโครงการ “THAILAND 3.9G” มีเป้าหมายจะกู้เอกราชทางการสื่อสารของไทย กู้ศักดิ์ศรีความเป็นไทย ไม่ยอมให้สมบัติทางการสื่อสารขอชาติตกไปอยู่ในมือต่างชาติทั้งหมด ดังที่ผ่านมา
1.ถามตัวเองว่างานนี้มันยากกว่าที่งานที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ และงานที่เคยทำผ่านมายังไง
- หาคนใช้โทรศัพท์นี่มันยากมากไหม
- แนะนำ 2-4 คน ภายใน 1-15 วัน จะทำได้ไหม
- ถ้าทำไม่สำเร็จจะทำให้ชีวิตเลวร้ายลงมากไหม
- ถ้าทำได้ชีวิตจะเปลี่ยนมากไหม
- ดูตามแผนงานแล้วใช้เวลานานไหมจะได้เห็นความสำเร็จ
- คุ้มค่าไหมที่จะแลกชีวิตกับงานนี้

2. ถามตัวเองว่างานนี้มันลงทุนมากกว่าที่งานที่เราทำอยู่ และงานที่ผ่านมากไหม
- ต้องทิ้งงานเดิมของเราไหม
- ชวนคนไปทำเรื่องไร้สาระไหม
- ต้องฝืนใจตัวเองมากไหม


3.ถ้าคิดดูแล้วพบว่า
- มันยากและลงทุนมากกว่างานที่ทำอยู่ และงานที่ผ่านมา
- ให้ถามตัวเองว่า “แล้วผลตอบแทนมันคุ้มค่าหรือเปล่า”
- จะมีรายได้เกิดขึ้นเท่าไหร่ถ้าตั้งใจทำ
- จะเปลี่ยนชีวิตเราให้สุขสบายได้หรือไม่

4. ถ้าคิดออกแล้วว่าจะ “ทำ” ให้เริ่มลงมือศึกษา  ค้นคว้า หาความรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรืองานของเรา

5. ทำให้สมกับเป็นธุรกิจเงิน 100 ล้านหน่อย
“ลงทุน ศึกษา จริงจัง จริงใจ”
- ลงทุนเงิน  ลงทุนเวลา  ลงทุนความรู้สึก      - ศึกษาหาความรู้ในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- จริงจังในการทำงาน
- จริงใจกับเพื่อนร่วมงาน

IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 19 กันยายน 2011, 12:35:44 »

เนื่องจากในปี พ.ศ.2555 เป็นต้นไป บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีทางการสื่อสาร เข้าไปสู่ระบบ 3.9G ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ของประเทศไทย  และเรียกได้ว่าเป็นการ “ปฏิวัติ” วงการตลาดบริการสื่อสารข้อมูลไร้สาย ความเร็วสูง ครั้งยิ่งใหญ่และในโอกาส บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้แต่งตั้งให้ บริษัทสามารถ สมาร์ท น็ตเวิร์คส์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ ทีโอที 3G เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2554 นี้    ผู้เขียนโครงการจึงได้ทำโครงการฯขึ้นมาเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าผู้ที่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงสัญญาณจากเดิมที่เป็นระบบ2G เป็นระบบ3.9G ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สังคม และประชาชน ต่อไป
   โครงการขยายเครือข่ายผู้ใช้บริการระบบ3.9G   ตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะ
รวบรวมกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และความทันสมัยในการติดต่อสื่อสารซึ่งระบบ3.9G สามารถตอบสนองในความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการขยายเครือข่ายฯ ทางโครงการฯได้ยึดเอาระเบียบปฏิบัติ แบบแผน และระบบการจ่ายผลตอบแทนในรูปของรายได้ หรือ ผลประโยชน์ต่างๆของบริษัท สามารถ สมาร์ท เน็ตเวิร์คส์ จำกัด เป็นหลักทุกประการ

วิธีดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 รูป แบบดังต่อไปนี้
1.   ใช้วิธีดำเนินการแบบระบบเครือข่าย หรือ การแนะนำจากบุคคลสู่บุคคล
2.   ใช้วิธีดำเนินการแบบระบบเครือข่าย หรือ การแนะนำจากบุคคลสู่องค์กร
3.   ใช้วิธีดำเนินการแบบระบบเครือข่าย หรือ การแนะนำจากองค์กรสู่องค์กร

แผนการปฏิบัติงาน
1.   ให้การแนะนำโครงการกับผู้สนใจที่เป็นประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจ
2.   ให้การแนะนำโครงการบริษัท  ห้าง   ร้าน   หรือองค์กรต่างๆที่ต้องการใช้โทรศัพท์มือถือในระบบใหม่ที่ทันสมัย
เป้าหมาย
-   วันที่เริ่มโครงการมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสิ้นประมาณ 50 ราย
-   สมาชิกทุกคนมีความตั้งใจร่วมกันที่จะนำสิ่งที่ดีที่เป็นเทคโนโลยีทางการสื่อสารที่ทันสมัยนี้ไปแนะนำต่อผู้อื่นในอัตราส่วน1คนแนะนำ4คนภายใน1เดือน

ดังนั้น ทางโครงการจึงได้วางแผนการขยายเครือข่ายของสมาชิกผู้ร่วมโครงการดังนี้

วันที่   เดือน   สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง   อัตราส่วนที่แนะนำ   สิ้นเดือนจะมีสมาชิก
1   กันยายน   2554                  50.00    คน   1:4:เดือน                  200.00    คน
1   ตุลาคม   2554                 200.00    คน   1:4:เดือน                  800.00    คน
1   พฤศจิกายน   2554                 800.00    คน   1:4:เดือน                3,200.00    คน
1   ธันวาคม   2554              3,200.00    คน   1:4:เดือน              12,800.00    คน
1   มกราคม   2555            12,800.00    คน   1:4:เดือน              51,200.00    คน
1   กุมภาพันธ์   2555            51,200.00    คน   1:4:เดือน            204,800.00    คน
1   มีนาคม   2555          204,800.00    คน   1:2:เดือน            409,600.00    คน
1   พฤษภาคม   2555          409,600.00    คน   1:2:เดือน            819,200.00    คน
1   มิถุนายน   2555          819,200.00    คน   1:2:เดือน         1,638,400.00    คน
1   กรกฏาคม   2555        1,636,400.00    คน   1:2:เดือน         3,276,800.00    คน

งบประมาณที่ใช้ในโครงการ
   ใช้งบประมาณตามที่บริษัทได้กำหนดให้ตามระเบียบและแผนการจ่ายรายได้ของบริษัท
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
   คาดว่าจะสามารถขยายเครือข่ายผู้ใช้บริการระบบ3.9G จำนวน ประมาณ 6,000,000 คน ภายในเวลา 12 เดือน
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 กันยายน 2011, 22:32:53 »

รายได้ของทางโครงการฯมีให้คุณ 3 ทาง ครับ
1.   ค่าแนะนำ 5 ชั้นเป็นค่าน้ำชา-กาแฟที่เราสั่งๆมาเลี้ยงกัน ยามที่เรานัดพบปะพูดคุยกัน  ตรงนี้จะให้ 5 ชั้น คือคนที่เราไปบอกคนแรกและทำธุรกิจกับเรา ให้เรียกว่าชั้นที่ 1 คือชั้นลูก แล้วลูกก็ไปบอกหลาน เกิด เหลน-โหลน-ลื้อ ก็ได้ 50-40-30-20-10 บาท ตามลำดับชั้น  ไม่ว่าคุณจะเอาไปต่อลึกลงไปตรงไหน  แนะนำเองมากี่คน ให้เรียกว่า “ลูก” ทั้งหมด ตรงนี้เขาจะจ่ายให้เราทุกวันศุกร์ครับ  คือตัด/เช็คยอดซื้อในองค์กรของเราศุกร์นี้  จ่ายเงินให้เราศุกร์ถัดไป

2.   ค่าแอร์ไทม์ ทุกการเติมเงิน 500 บาท เขาจะคิดให้ 100 คะแนน เขาจะให้เรามีทีมอยู่ภายในองค์กรเพียง 2 ทีม คือทีม A และทีมB ยอดใช้บริการของทั้งสองทีมจะถูกคิดรายได้รวมให้ 15% คือ เอาจำนวนผู้ใช้บริการที่อยู่ในทีมข้างน้อยเป็นหลัก มาคูณด้วย100 คะแนน แล้วคูณด้วย 15% ก็จะออกมาเป็นตัวเงินได้สุทธิ ที่เราจะได้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน รายได้ตรงนี้จะให้เราสูงสุด 3 ล้านบาทต่อเดือน เช่น  หากเราแนะนำได้ 2 คนภายใน 7 วัน และสมมุติว่าทุกคนทำได้เหมือนกันหมด ประมาณ 6 เดือนเราก็จะมีรายได้ เดือนละ 3 ล้านทุกเดือนแล้วครับ
3.   รายได้ค่ากำกับดูแลองค์กร
เราจะมีตำแหน่งที่บ่งบอกถึงศักยภาพการทำงาน และความสามารถในการจัดการ และดูแลองค์กร ดังนี้ครับ




     ตำแหน่ง                                    คุณสมบัติ                     รายได้ที่จะได้สูงสุดในตำแหน่งนี้

1. MEMBER     ไม่ต้องแนะนำใครเลย/อัพไลน์โยนลงมาต่อให้จะได้             =        2,000 ฿
2. SILVER         แนะนำเพื่อนมาข้างละ     1:1   คน                                      =      15,000 ฿
3. GOLD       สร้างเพื่อนให้เป็น           S1:S1                               =     30,000 ฿
4. PEARL               G2:G2               =     50,000 ฿
5. RUBY               P2:P2                       =   100,000 ฿
6. EMERRALD            R2:R2               =   200,000 ฿
7. DIAMOND               E2:E2               =   500,000 ฿
8. CROWN                       D2:D2               =1,000,000 ฿
9. CENTURY CROWN         C2:C2               =3,000,000 ฿

หากเราขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งRuby เป็นต้นไป ทุกครั้งที่ชั้นลูกเติมเงิน 500 บาท เราจะมีรายได้ 100 บาท
ตำแหน่งEMERAL            เพิ่มชั้นหลานให้อีก 75 บาท
ตำแหน่งDiamond            เพิ่มชั้นหลานให้อีก 50 บาท
ตำแหน่งCrown                เพิ่มชั้นหลานให้อีก 25 บาท
ตำแหน่งCentury Crown  เพิ่มชั้นหลานให้อีก 10 บาท
รายได้ตรงนี้จะให้เราสูงสุดที่ 1 ล้านบาทต่อเดือน
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2011, 12:42:29 »

ธุรกิจของระบบ 3.9G  มันดีอย่างไร  มันสำคัญ  มันดีกว่าธุรกิจที่เราทำอยู่อย่างไร...
ขอบอกอย่างนี้ครับ....
“ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันดีกว่าอย่างไรบ้าง  รู้แต่ว่า
-   มันเป็นสินค้าที่ทุกคนทุกเพศ ทุกวัย อยากใช้ หรือต้องใช้
-   มันเป็นสินค้าที่ไม่ต้องสาธิต  ไม่ต้องรอให้ได้ผลก่อน  ไม่ต้องรออาการ
-   มันเป็นสินค้าที่ไม่ต้องหอบหิ้วให้ลำบาก ยุ่งยาก
-   มันมีมูลค่าทางการตลาดสูงมากที่สุดในจำนวนสินค้าทั้งหลาย
-   มันมีคู่แข่งที่ทำเหมือนกันกับเราน้อยมาก  บางทีคู่แข่งอยากทำก็ทำไม่ได้
-   “มันไม่ใช่คู่แข่งขันกับสินค้าของท่าน เพียงแต่มันเป็นกิจวัตรที่ทุกคนในโลกธุรกิจ ต้องใช้มัน” เท่านั้นเอง
และพวกเราก็รอคอยโอกาสนี้มาทั้งชีวิตเลยทีเดียว รอคอยว่าเมื่อไหร่เขาจะเอาค่าแอร์ไทม์ที่มหาศาล  มาแบ่งคืนให้ผู้ใช้บริการบ้าง”
เพียงแต่คุณใช้สมอง สองหู  และสองตา ดูให้ดี  และมี “ใจ” ที่เป็น  “ธรรมะ”จริงๆ พิจารณาดู จะเห็นดังนี้หรือเปล่าครับ
1.   โทรศัพท์เป็นสินค้าที่จำเป็นมากในชีวิตของมนุษยชาติ ในบางสังคมมันสำคัญมากกว่า อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย  ยารักษาโรค เสียอีกครับ  ถ้าคุณไม่ใช้โทรศัพท์ โอกาสที่คุณจะมี จะได้ปัจจัยทั้ง 4 อย่าง   มากิน มาใช้นั้น...... “ยาก” ครับ
2.   เป็นสินค้าที่ไม่ต้องรอให้ป่วย  ให้เป็นโรค  ให้อ้วน  ให้อยากสวย  ก่อน  คือ ใช้กันทุกคนตั้งแต่เด็กที่เริ่มอ้อแอ้เป็น จนถึงผู้สูงอายุในวัยที่จะอำลาโลก
3.   ไม่ว่าจะอยากรวย หรือไม่อยากรวย ก็ต้องใช้ทั้งนั้น
4.   เป็นสินค้าที่ทำให้ธุรกิจเดิมของคุณมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการแนะนำ   และทำให้ทีมงาน  เครือข่ายของคุณ “มีเงิน” มาซื้อสินค้าที่คุณอยากจะให้เขากิน-เขาใช้
5.   เป็นสินค้าที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย คือเป็นพันๆล้านต่อเดือน
6.   เป็นสินค้าที่ได้ช่วยชาติ  ช่วยกอบกู้เอกราชทางการสื่อสารของไทยกลับคืนมา  เอาเลขหมายโทรศัพท์ที่เคยเป็นสมบัติของสิงคโปร์  นอร์เวย์  จีน  ฮ่องกง  อังกฤษ ญี่ปุ่น กลับมาเป็นสมบัติของลูกหลานไทยได้ใช้กันเหมือนเดิม  และเงินทองจะไม่ไหลออกไปต่างชาติมากจนเกินไป
7.   เป็นสินค้าที่คนที่อยู่ล่างสุดในสังคม ผู้ใช้แรงงาน  ลูกจ้าง  พนักงาน  นักศึกษา  แม่ค้า ประสบความสำเร็จได้ทุกคน เพราะ ใช้เงินลงทุนน้อย  เป็นสินค้าที่ต้องการใช้จริงๆ ไม่ต้องบังคับกัน  ราคาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายเมื่อเทียบคุณภาพของระบบ   กับราคาที่เราจ่ายไป
8.   เป็นธุรกิจที่สามารถทำให้ “ความฝัน”ของเรากลายเป็น “ความจริง”ได้
-   บ้าน 6 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ห้องน้ำทุกห้องมีอ่างน้ำวนจากุชชี่ มีที่ให้หมาวิ่ง  มีที่เดินเล่นในบ้านได้(ไม่ใช่เดินวนในบ้านนะ) มีที่ปลูกต้นไม้  พืชผักสวนครัว  ดอกไม้  ทั้งหมดนี้น่าจะใช้เงินประมาณ 15 ล้านบาท
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2011, 12:57:01 »

1.   โทรศัพท์เป็นสินค้าที่จำเป็นมากในชีวิตของมนุษยชาติ ในบางสังคมมันสำคัญมากกว่า อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย  ยารักษาโรค เสียอีกครับ  ถ้าคุณไม่ใช้โทรศัพท์ โอกาสที่คุณจะมี จะได้ปัจจัยทั้ง 4 อย่าง   มากิน มาใช้นั้น...... “ยาก” ครับ
2.   เป็นสินค้าที่ไม่ต้องรอให้ป่วย  ให้เป็นโรค  ให้อ้วน  ให้อยากสวย  ก่อน  คือ ใช้กันทุกคนตั้งแต่เด็กที่เริ่มอ้อแอ้เป็น จนถึงผู้สูงอายุในวัยที่จะอำลาโลก
3.   ไม่ว่าจะอยากรวย หรือไม่อยากรวย ก็ต้องใช้ทั้งนั้น
4.   เป็นสินค้าที่ทำให้ธุรกิจเดิมของคุณมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการแนะนำ   และทำให้ทีมงาน  เครือข่ายของคุณ “มีเงิน” มาซื้อสินค้าที่คุณอยากจะให้เขากิน-เขาใช้
5.   เป็นสินค้าที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย คือเป็นพันๆล้านต่อเดือน
6.   เป็นสินค้าที่ได้ช่วยชาติ  ช่วยกอบกู้เอกราชทางการสื่อสารของไทยกลับคืนมา  เอาเลขหมายโทรศัพท์ที่เคยเป็นสมบัติของสิงคโปร์  นอร์เวย์  จีน  ฮ่องกง  อังกฤษ ญี่ปุ่น กลับมาเป็นสมบัติของลูกหลานไทยได้ใช้กันเหมือนเดิม  และเงินทองจะไม่ไหลออกไปต่างชาติมากจนเกินไป
7.   เป็นสินค้าที่คนที่อยู่ล่างสุดในสังคม ผู้ใช้แรงงาน  ลูกจ้าง  พนักงาน  นักศึกษา  แม่ค้า ประสบความสำเร็จได้ทุกคน เพราะ ใช้เงินลงทุนน้อย  เป็นสินค้าที่ต้องการใช้จริงๆ ไม่ต้องบังคับกัน  ราคาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายเมื่อเทียบคุณภาพของระบบ   กับราคาที่เราจ่ายไป
8.   เป็นธุรกิจที่สามารถทำให้ “ความฝัน”ของเรากลายเป็น “ความจริง”ได้
-   บ้าน 6 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ห้องน้ำทุกห้องมีอ่างน้ำวนจากุชชี่ มีที่ให้หมาวิ่ง  มีที่เดินเล่นในบ้านได้(ไม่ใช่เดินวนในบ้านนะ) มีที่ปลูกต้นไม้  พืชผักสวนครัว  ดอกไม้  ทั้งหมดนี้น่าจะใช้เงินประมาณ 15 ล้านบาท
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2011, 21:42:18 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 1: 3G มีกันกี่มาตรฐาน
มาตรฐาน 3G หรือ UMTS (Universal Mobile Telephone System) หรือเรียกกันในชื่อของเทคโนโลยี WCDMA (Wide Band Code Division Multiple Access) เป็นระบบที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลกขณะนี้ จริงๆแล้วมีอีกเทคโนโลยีหนึ่งก็คือ CDMA 2000 1x EVDO (ที่ CAT Telecom ให้บริการในต่างจังหวัด แต่สุดท้ายก็จะเปลี่ยนไปเป็น WCDMA ในเร็วๆนี้) พูดง่ายๆ ก็คือต้องบอกว่า 3G ในบ้านเราก็คงมีแต่ระบบ WCDMA นั่นแหละครับ ระบบ WCDMA นั้นมีการพัฒนาใช้กันมากว่า 10 ปี และมีการใช้งานบนความถี่มาตรฐานต่างๆ กันไป แล้วแต่ทวีป หรือประเทศนั้นๆ ว่ามีความถี่ใดว่างให้ได้ใช้กัน จนกลายมาเป็นมาตรฐานความถี่ที่ใช้บนเทคโนโลยี WCDMA ถึง 5 ความถี่ด้วยกัน อันได้แก่

• 2100 MHz เป็นความถี่แรกของมาตรฐาน 3G WCDMA โดยใช้กันแพร่หลายมากที่สุดทั่วโลก โดยมีการใช้ในทวีปยุโรป เอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย
• 1900 MHz ใช้กันแพร่หลายในแถบทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้
• 1700 MHz มีใช้กันในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
• 850 MHz ใช้กันมากในแถบทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ในเอเชียมีประเทศ ออสเตรเลียและไทย
• 900 MHz ใช้กันแพร่หลายในยุโรป เอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย หรือประเทศที่ให้บริการ GSM ในความถี่ 900 MHz แล้วมีการอัพเกรดระบบมาเป็น 3G บนความถี่เดิม

ในประเทศไทยนั้นเนื่องจากการประมูลความถี่ 3G ที่คลื่นความถี่ 2100 MHz ถูกล้มไปเมื่อปีก่อน ทำให้ผู้ให้บริการปัจจุบันต้องหันมาใช้ความถี่เดิมๆ ที่มีการจัดสรรก่อนหน้านี้มาใช้ไปก่อน (เพราะถ้าต้องรอ ก็ไม่รู้จะต้องรอถึงเมื่อไร…) ได้แก่ความถี่ 850 MHz และ 900 MHz ยกเว้น TOT ที่ได้สิทธิในการให้บริการ 3G ที่คลื่นความถี่ 2100 MHz ก่อนใคร ส่วนในเรื่องโทรศัพท์มือถือนั้น โดยส่วนใหญ่เครื่องที่มีขายในวันนี้จะมีการรองรับกันแบบ Dual Mode อยู่แล้ว นั่นคือ รองรับการใช้งาน 3G (WCDMA) และ 2G (GSM) ในตัวเดียวกัน โดยแต่ละ Mode นั้นก็จะรองรับความถี่ต่างๆ กันไปในเครื่องเดียวกัน

ในส่วนของ 2G (GSM) นั้นส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นเครื่องที่รองรับ 3G จะรองรับ 2G (GSM) ในทุกย่านความถี่เพื่อพร้อมใช้งานได้ทั่วโลกอยู่แล้ว อันได้แก่ GSM 850/900/1800/1900 MHz โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ส่วนความถี่ที่รองรับบน 3G (WCDMA) นั้นมักจะมีปัญหาว่าหลายๆยี่ห้อ จะไม่สามารถทำให้ทั้ง 3 ความถี่ที่มีการใช้งานในบ้านเราอยู่ในเครื่องเดียวกันได้ (850, 900, 2100 MHz) ปัญหาอยู่ที่ความถี่ 850 MHz กับ 900 MHz ที่อยู่ใกล้ๆกันมาก บางยี่ห้อไม่สามารถออกแบบ และพัฒนาได้ เพราะประสิทธิภาพที่ได้นั้นไม่เสถียรเมื่อนำมาใช้งานจริง แต่บางยี่ห้อก็สามารถก้าวข้ามปัญหาด้านเทคนิคนี้ และทำออกมาขายสู่ตลาดได้ นั่นเป็นเหตุว่าต้องทำความเข้าใจก่อนว่าจะใช้เครื่องใด กับผู้ให้บริการใดได้บ้าง
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2011, 12:40:31 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 2: ผู้ให้บริการ 3G ในประเทศไทย
 
3G โดยผู้ให้บริการไทย ใครกันบ้าง ความถี่อะไร
ปัจจุบันในบ้านเรามีการเปิดให้บริการ 3G กันหลายรายแล้ว ทั้งหมด 4 ราย ได้แก่
• TOT 3G ที่ปัจจุบันให้บริการกันที่ความถี่ 2100 MHz ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ขายในไทย และรองรับ 3G ก็จะรองรับความถี่ 2100 MHz กันทุกรุ่นอยู่แล้ว เพียงบอกว่าโทรศัพท์รุ่นนั้นรุ่นนี้รองรับเทคโนโลยี 3G (WCDMA หรือ UMTS ล้วนเป็นความหมายเดียวกันว่ารองรับ 3G เทคโนโลยี) ความถี่ 2100 MHz อยู่ โดยปัจจุบันให้บริการที่ความเร็วสูงสุด 42 Mbps (Mega bit per second) ปัจจุบันมีพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตจังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม อยุธยา ปทุมธานี
• True Move และ True Move H (ในเครือเดียวกัน) ที่มีการให้บริการ 3G ที่ความถี่ 850 MHz และให้ความเร็วสูงสุด 21 Mbps มีพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตจังหวัด กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา บางแสน หัวหิน ชะอำ
• AIS เปิดให้บริการ 3G ที่ความถี่ 900 MHz และให้บริการที่ความเร็วสูงสุด 21 Mbps โดยมีพื้นที่ให้บริการอยู่ในเขตจังหวัด กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา ภูเก็ต สงขลา ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี
• dtac เพิ่งจะเปิดให้บริการรายล่าสุดที่ความถี่ 850 MHz และให้ความเร็วสูงสุด 42 Mbps ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะมีการขยายไปสู่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้ความเร็วสูงสุดที่พูดถึงกันคือ ความเร็วในการ Download ส่วนความเร็วสูงสุดในการ Upload จะอยู่ที่ 5.76 Mbps หรือ 2 Mbps แล้วแต่ละรายที่จะรองรับกันได้ ทั้งนี้จะเห็นว่าประเทศไทยมีการให้บริการ 3G แตกต่างกันถึง 3 ความถี่ด้วยกัน อันได้แก่ ความถี่ 850 MHz (dtac, True Move) 900 MHz (AIS) และ 2100 MHz (TOT) เพราะฉะนั้นการเลือกโทรศัพท์มือถือให้ใช้ได้กับความถี่ 3G ที่ผู้ให้บริการที่คุณเลือกใช้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ผมเลยอยากขอแนะนำเป็นหมวดๆ กันไป โดยขอแนะนำเฉพาะรุ่นที่ยังมีขายอยู่ในตลาดเท่านั้นนะครับ โดยส่วนใหญ่จะออกเป็นจำพวกสมาร์ทโฟน แต่ถ้าอยากทราบว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ตรงกับที่ผมจะแนะนำ แสดงว่ารุ่นนั้นๆ เลิกทำตลาดไปแล้วอาจจะไม่มีขายแล้วในตลาด ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบรุ่มมือถือของคุณจากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการแต่ละราย ได้ ว่ารองรับการใช้งานได้หรือไม่
 
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2011, 22:53:57 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 4: iPhone 4, iPad2 ซื้อแล้วใช้ได้เลยทุกค่าย
เริ่มจากค่าย Apple ที่ใช้ iOS เป็นระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟนนี้ โดยมีมาหลายรุ่นแล้ว ตั้งแต่ iPhone ตัวแรกซึ่งไม่รองรับการใช้งาน 3G เลย รองรับแค่ GSM เท่านั้น ส่วนรุ่นต่อมาก็คือ iPhone 3G ก็รองรับ 3G และ GSM ในตัวเดียวกัน ส่วนรุ่นที่ยังมีขายอยู่ ก็ได้แก่
• iPhone 4: รองรับ 3G ความถี่ 850, 900, 1900, 2100 MHz พูดง่ายๆ ใช้ 3G ได้ทุกค่ายครับ โดยเครื่องรองรับ 3G ความเร็วดาวน์โหลดที่ 7.2 Mbps และอัปโหลดที่ 5.76 Mbps
• iPhone 3GS: รองรับ 3G ความถี่ 850, 1900, 2100 MHz ก็คือใช้ได้ทุกค่าย ยกเว้น AIS เพราะฉะนั้นใครอยากใช้รุ่นนี้ ก็ต้องแน่ใจแล้วว่าคุณใช้บริการของ TOT 3G, dtac หรือ True Move เท่านั้น โดยเครื่อง 3G ความเร็วดาวน์โหลดที่ 7.2 Mbps และอัปโหลดที่ 384 kbps
• iPad 2: รองรับ 3G ความถี่ 850, 900, 1900, 2100 MHz ก็คือใช้ 3G ได้ทุกค่ายครับ โดยเครื่องรองรับ 3G ความเร็วดาวน์โหลดที่ 7.2 Mbps และอัปโหลดที่ 5.76 Mbps (ส่วน iPad รุ่นแรกนั้น ไม่สามารถใช้ได้กับ 3G ของ AIS ได้นะครับ)
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2011, 12:37:53 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 5: BlackBerry ยอดนิยมสำหรับขาแชต ใช้ได้ทุกค่าย
 
โทรศัพท์มือถือ BlackBerry จาก RIM นั้น รองรับ 3G กันมามากมายหลายรุ่นแล้ว โดยรุ่นปัจจุบันที่รองรับอันได้แก่ Bold 9780, Torch 9800, Curve 9300 ส่วนรุ่นใหม่ที่กำลังจะออกขายในช่วง 2-3 เดือนนี้ได้แก่ Bold 9900, Torch 9810, Torch 9860, Curve 9360 ส่วนรุ่นที่ตกรุ่นไปแล้วละรองรับการใช้ 3G ได้ก็มี Bold 9000, Bold 9700 แต่โทรศัพท์ BlackBerry ที่รองรับ 3G และมีขายในเมืองไทยนั้นจะมี 2 หน่วยการขายในแต่ละรุ่น
• รองรับการใช้งาน 3G ความถี่ 850 / 1900 / 2100 / 800 ซึ่งปกติถ้าจะเลือกซื้อ ก็อาจจะเข้าไปที่ร้านของ dtac หรือ True Move ก็จะได้เครื่องที่รองรับความถี่ 850 MHz อย่างแน่นอน หรือถ้าอยากรู้ว่าใช้ได้จริงๆ หรือไม่ก็ดูว่าใส่ซิมแล้วขึ้นสัญลักษณ์ 3G ที่มุมขวาบนหรือไม่ แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ 3G แล้วแต่สัญลักษณ์ขึ้นเป็น EDGE หรือ GPRS เท่านั้นแสดงว่าเครื่องอาจจะไม่รองรับ มีอีกวิธีที่ตรวจสอบเครื่องของเราก็สามารถทำได้โดย เข้าไปที่เมนู Option แล้วเลือกหัวข้อ Device แล้วเลือกหัวข้อ About Device Versions สังเกตข้อมูลตรง 3G Bands ว่าต้องมีเลข 5 ซึ่งหมายถึง 3G ความถี่ 850 MHz (1,2,5,6 แปลว่ารองรับ 3G ความถี่ 2100, 1900, 850, 800)
• รองรับการใช้งาน 3G ความถี่ 900 / 1700 / 2100 ซึ่งปกติถ้าจะเลือกซื้อ ก็อาจจะเข้าไปที่ร้านของ AIS หรือ Telewiz shop ก็จะได้เครื่องที่รองรับความถี่ 900 MHz อย่างแน่นอน และเช่นกัน เราก็สามารถทำได้โดย เข้าไปที่เมนู Option แล้วเลือกหัวข้อ Device แล้วเลือกหัวข้อ About Device Versions สังเกตข้อมูลตรง 3G Bands ว่าต้องมีเลข 8 ซึ่งหมายถึง 3G ความถี่ 900 MHz (1,4,8 แปลว่ารองรับ 3G ความถี่ 2100, 1700, 900)
• ส่วนเครื่องที่รองรับ 3G Bands เลข 1 เท่านั้น แสดงว่าเป็นเครื่องที่รองรับ 3G 2100 MHz เท่านั้น และจะรองรับ GSM และ CDMA ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งส่วนมากเครื่องรุ่นแบบนี้มักจะนำหิ้วกันเข้ามาจากทางแถบอเมริกาหรือ อเมริกาใต้เสียส่วนใหญ่
• สรุปเลข 3G band ที่แสดงอยู่ในเครื่อง BlackBerry: 1 = 2100 MHz, 2 = 1900 MHz, 4 = 1700 MHz, 5 = 850 MHz, 6 = 800 MHz, 8 = 900 MHz
ผู้อ่านท่านใดที่จะซื้อเครื่อง BlackBerry เหล่านี้ก็สามารถสอบถามจากผู้ขายเสียก่อน และบอกให้ทราบว่าจะซื้อไปใช้กับ 3G ระบบใด อีกทางสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองอย่างที่แสดงข้างต้นนะครับ ไม่งั้นพลาดไปใช้งานไม่ได้ตรงตามที่ต้องการล่ะก็เสียดายเงินแย่เลย
 
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 27 กันยายน 2011, 00:14:29 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 6: Android ยอดนิยม ระวังให้ดี มีแตกต่างกันมากมาย
ปัจจุบัน Android Phone มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ถ้าจะถามว่ารุ่นไหนรองรับ 3G ความถี่ใด ก็ต้องดูกันให้ละเอียดล่ะ วิธีสังเกต (ใช้ได้กับ Android Phone ทุกยี่ห้อ)
• เช็คสเปคจากผู้ผลิต ว่ารองรับ 3G ความถี่ใดบ้าง เช่น 3G 900/2100 หรือ 3G 850/2100 หรือเปล่า หรือ รองรับ 3G 850/900/2100 อันนี้แบบว่าบ้านๆเลย ถามเอาซื่อๆ แต่ถ้าเขาตอบไม่แน่ใจ ก็ดูข้อต่อไป
• ถ้าจะเช็คเองให้แน่ใจก็ใช้วิธีค้นหาสัญญาณ 3G ด้วยตนเองว่าเครื่องจะจับสัญญาณ 3G/2G ในความถี่ใด ของเครือข่ายใดบ้าง แต่วิธีนี้คุณต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ 3G ของระบบที่คุณจะใช้อยู่นะครับ ไม่งั้นเครื่องก็จะบอกไม่ได้หรอกว่าเครื่องสามารถจับสัญญาณ 3G ของเครือข่ายนั้นได้หรือไม่ วิธีการคือเข้าไปที่เมนู Settings เลือกไปที่หัวข้อ Wireless and network เลือกไปที่หัวข้อ Mobile networks เลือกหัวข้อ Network Mode โดยดูให้แน่ใจแล้วว่าคุณเลือกให้เครื่องเป็น WCDMA Only หลังจากนั้นเลือกไปที่หัวข้อ Network Operators แล้ว Search Network เครื่องจะทำการค้นหาสัญญาณของระบบ 3G ของทุกเครือข่ายที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ถ้าพบเครือข่ายที่คุณต้องการใช้ ก็จะมีชื่อของเครือข่ายนั้นปรากฏขึ้น หรือมีสัญลักษณ์ 3G ปรากฏอยู่ด้วยข้างๆ ชื่อนั้น แสดงว่าเครื่องนั้นรองรับ 3G ความถี่ที่คุณต้องการแล้ว (หลังจากนั้นถ้าจะใช้ต่อ ให้แก้ Network Mode เป็น WCDMA/GSM Mode นะครับ ไม่งั้นถ้าเครื่องไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มี 3G เครื่องจะใช้ GSM ไม่ได้นะครับ)
• บางกรณีที่เครื่องจากผู้ผลิตนั้นรองรับการขายแบบสองหน่วยผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ยี่ห้อ Samsung
o Samsung Galaxy S II: ซึ่งมีรหัสสินค้าคือ i9100 และ i9100T โดยรุ่นที่เป็น i9100 นั้นจะรองรับการใช้ 3G ที่ความถี่ 900/1900/2100 MHz ส่วนรุ่น i9100T นั้นจะรองรับการใช้ 3G ที่ความถี่ 850/1900/2100 MHz วิธีดูรหัสนี้สามารถดูจากฉลากด้านหลังเครื่อง หรือเข้าไปที่ About Phone ในเมนู Settings ***แต่จริงๆ แล้วในรุ่นนี้ ทั้งสองรหัสนั้นจะรองรับทั้ง 4 ความถี่เลย แต่ถูกปรับจูนมาให้เหมาะสมกับความถี่ 850 หรือ 900 MHz แตกต่างกันไป ตัวอย่างถ้าเอาเครื่อง i9100 มาใส่ซิม dtac หรือ True Move นั้น เครื่องก็จะมองเห็น 3G ความถี่ 850 MHz เหมือนกัน และใช้ได้ แต่ประสิทธิภาพจะด้อยลงพอสมควร ขณะเดียวกันถ้าเอาซิม AIS ใส่เข้าไปก็จะรองรับการใช้งานสัญญาณ 3G ของ AIS ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด ในทางกลับกันก็เช่นกัน ถ้าเอาเครื่อง i9100T มาใส่ซิม AIS นั้น เครื่องก็จะมองเห็น 3G ความถี่ 900 MHz เหมือนกัน และใช้ได้ แต่ประสิทธิภาพจะด้อยลงพอสมควร ขณะเดียวกันถ้าเอาซิม dtac, True Move ใส่เข้าไปก็จะรองรับการใช้งานสัญญาณ 3G ของทั้งสองค่ายได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
o Samsung Galaxy Cooper: มีรหัสสินค้าคือ S5830 สำหรับเครื่องที่รองความถี่ 3G แต่ 900/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ AIS, TOT 3G (จริงๆ ไม่เหมือนกรณีรุ่น Galaxy S II นะครับ) ส่วนรหัสสินค้า S5830T ก็เป็นเครื่องที่รองรับความถี่ 3G แต่ 850/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ dtac, True Move, TOT 3G
o Samsung Galaxy Mini: คล้ายกรณีของ Galaxy Cooper มีรหัสสินค้าคือ S5570 สำหรับเครื่องที่รองความถี่ 3G แต่ 900/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ AIS, TOT 3G ส่วนรหัสสินค้า S5570B ก็เป็นเครื่องที่รองรับความถี่ 3G แต่ 850/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ dtac, True Move, TOT 3G
o Samsung Galaxy TAB: คล้ายกรณีของ Galaxy Cooper เช่นกัน มีรหัสสินค้าคือ P1000 สำหรับเครื่องที่รองความถี่ 3G แต่ 900/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ AIS, TOT 3G ส่วนรหัสสินค้า P1000T ก็เป็นเครื่องที่รองรับความถี่ 3G แต่ 850/2100 MHz เท่านั้น คือใช้ได้กับ dtac, True Move, TOT 3G
o ส่วนยี่ห้ออย่าง HTC มีรุ่นที่รองรับเฉพาะ 3G ความถี่ 850 / 2100 MHz นั้นได้แก่รุ่น Sensation, Desire S และ Wildfire S
o ส่วนรุ่นที่เหลือส่วนใหญ่จะรองรับ 3G ความถี่ 900/2100 MHz กันเป็นพื้นฐาน
o ยังมี Wellcom, i-mobile ที่ก็มี Android รองรับความถี่ 3G 850/2100 MHz มากมายหลายรุ่นมากครับ รองสอบถามดูได้สำหรับยี่ห้อเหล่านี้
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 27 กันยายน 2011, 12:47:57 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 7: Symbian^3 ยอดความนิยมลดลง แต่ใช้ได้ครอบจักรวาล
 
ตั้งแต่ Symbian^3 เริ่มถูกแนะนำลงสู่ตลาดนั้น ทุนรุ่นของ Symbian ^3 ก็พร้อมรองรับ 3G ทุกย่านความถี่ หรือที่เรียกกันว่า Penta Band กันหมดเลย คือใช้ได้ทั้งความถี่ 850/900/1700/1900/2100 MHz อันได้แก่รุ่นดังต่อไปนี้ N8, E6, E7, C6-01, C7, X7-00, C3-01, X3-02 นอกจากนั้นยังมีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเผยโฉมกันไปแล้วได้แก่รุ่น 500, 600, 700, 701, N9 ที่พร้อมใช้ได้ทันทีครับ ดูแล้วปวดหัวน้อยสุด ชอบแล้วเลือกเลย ลองเลือกดูถ้าคุณยังศรัทธาใน Nokia Symbian อยู่และยังมองเห็นประโยชน์รวมถึงคุณค่าในการใช้ Symbian ต่อไป ปัจจุบันออกเวอร์ชั่น Symbian Anna ออกมาแล้วและ Symbian Belle ก็เป็นเวอร์ชั่นต่อไปให้คุณได้เลือกใช้กันอีกในปลายปีนี้ครับ
 
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 27 กันยายน 2011, 22:02:31 »

หลักสูตร 3G เบื้องต้น ตอนที่ 8: Aircard อุปกรณ์ 3G ที่หาซื้อได้ง่าย และถูกที่สุดที่จะเริ่มใช้ 3G
ถ้าคุณมองหา Aircard ที่จะไปใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรือเนตบุ๊ค ผมขอแนะนำว่าจะใช้กับระบบใด ก็ไปซื้อหาจากผู้ให้บริการรายนั้นๆ ได้เลย เพราะไม่ว่าจะเป็น TOT 3G, AIS, dtac, True Move ต่างก็มีการจัดทำขึ้นมา และได้ทำมารองรับกันการใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่จะสั่งทำจากผู้ผลิตรายใหญ่ระดับโลกที่เชื่อถือคุณภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น Huawei หรือ ZTE นอกจากนั้นยังมีการทำโปรแกรมมารองรับการเติมเงินในกรณีที่เป็นแบบเติมเงิน รวมถึงยังสามารถเช็คปริมาณการใช้งานที่ผ่านไปได้อีกด้วย ปัจจุบันมี Aircard ที่รองรับ 3G ได้ถึงระดับความเร็ว 42 Mbps กันแล้ว แต่ราคาอาจจะสูงกว่ารุ่นทั่วไปอยู่พอสมควร

แล้วดูอย่างไรว่าตอนนี้ใช้งานโหมด 3G อยู่ในขณะนั้นสังเกตได้ง่ายมาก ก็คือดูที่สัญลักษณ์ระดับความแรงขอสัญญาณ ซึ่งจะมีตัวหนังสือแสดงผลต่างๆ กันไปเช่น
• “G” แสดงว่าจับสัญญาณ GSM แบบ GPRS
• “E” แสดงว่าจับสัญญาณ GSM แบบ EDGE
• “3G” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ได้แล้วแต่รองรับความเร็วสูงสุดในดาวน์โหลดอยู่ที่ 384 kbps เท่านั้น
• “H” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ในโหมด HSPA “High Speed packet access” ซึ่งจะทำให้คุณใช้อินเตอร์เนตได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 7.2 Mbps, 10.2 Mbps, 14.4 Mbps สูงสุด ขึ้นอยู่สเปคของเครื่องว่ารองรับได้สูงสุดเท่าไร
• “H+” แสดงว่าจับสัญญาณ 3G ในโหมด HSPA+ “High Speed packet access Plus” ซึ่งจะทำให้คุณใช้อินเตอร์เนตได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 21 Mbps และสูงสุดที่ 42 Mbps ขึ้นอยู่สเปคของเครื่องว่ารองรับได้สูงสุดเท่าไร

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโทรศัพท์มือถือที่รองรับคู่กันกับระบบเครือข่ายว่ารอง รับได้อยู่ที่ความเร็วระดับใด ส่วนในอนาคตเทรนด์ของการรองรับความถี่ที่ใช้ได้บน 3G ก็คงเหมือนอย่างที่ iPhone หรือ Nokia Symbian ทำได้ คือรองรับทุกความถี่ในเครื่องเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ 3G ก็คงง่ายขึ้นกว่าเดิม และไม่ต้องไปกังวลว่าจะซื้อไปใช้กับระบบใด และจะเปลี่ยนไปใช้ระบบไหนก็ได้ ก็ต้องรอกันอีกสักนิด คาดว่าปีหน้าน่าจะเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ครับ สุดท้ายนี้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนซื้อนะครับ และขอให้มีความสุขกับการใช้ 3G กันอย่างพอเพียงกับงบประมาณในกระเป๋า และความจำเป็นของคุณนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2011, 12:40:18 »

ศึกษารายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่
http://thailand39g.com/?id=tot42mb

ขอย้ำ !!! ไม่ควรพลาดจริงๆ
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2011, 12:31:26 »




       ทีโอที ไม่สนเอกชนเปิด 3G คุยความถี่ 2.1GHz คลื่นสากล ดีกว่าเยอะ จ่อเปิดบริการ 18 จังหวัด ภายในเดือนพ.ย.นี้ และพร้อมให้บริการทั่วประเทศเดือนพ.ค.55 เล็ง 4 ธุรกิจ ปะรูรั่วหลังหมดรายได้สัมปทานในอีก 2 ปีข้างหน้า
       
       นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือทีโอที กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการให้บริการระบบ 3G ของทีโอทีถือว่าไม่ได้ล้าช้าอย่างที่ใครหลายคนคิด ถึงแม้ว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเอกชนจะเปิดให้บริการ 3G แล้วก็ตาม แต่เป็นลักษณะของการอัพเกรดบนคลื่นความถี่เดิมที่มีอยู่ ทางทีโอทีไม่รู้สึกหวั่นเกรงแต่อย่างใด เพราะบริการ 3G ของทีโอทีนั้นเป็นคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ที่เป็นมาตรฐานสากล    สามารถรองรับกับอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า และสามารถรองรับข้อมูลความเร็วสูงได้
       
       ภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ตามแผนการขยายเครือข่าย 3G ของทีโอทีนั้น คาดว่าจะเปิดให้บริการครอบคลุมในพื้นที่ให้บริการ 18 จังหวัด และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ปัจจุบัน ทางทีโอทีมีผู้ใช้บริการบนเครือข่าย 3G อยู่ประมาณ 3 แสนรายแบ่งเป็นลูกค้าของทีโอทีเอง 8 หมื่นราย และลูกค้าจากการทำตลาดบริการขายต่อ บนโครงข่ายเสมือน หรือเอ็มวีเอ็นโออีก 2.2 แสนราย
       
       “ทางทีโอทีไม่กลัวคู่แข่งเอกชนที่เปิดทีหลังแต่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า เพราะเครือข่าย 3G ของทีโอทีใช้คลื่นความถี่มาตรฐาน 2.1 GHz ซึ่งใช้กันทั่วโลกเป็นมาตรฐานสากลกว่า ต่างจากบริษัทเอกชนที่เปิด 3G แต่ใช้คลื่นอื่น ซึ่งจำเป็นที่ผู้ใช้จะต้องเลือกอุปกรณ์ที่รองรับคลื่นนั้นๆ ”
       
       สำหรับแผนการติดตั้งโครงสร้าง 3G ที่ “กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสแอล คอนซอร์เตียม” ชนะการประมูลไปด้วยราคา 15,999 ล้านบาทนั้น กำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งขยายเครือข่าย แม้ว่าช่วงแรกที่การติดตั้งเครือข่าย 3G ทีโอทีจะล่าช้าไปบ้าง แต่มั่นใจว่าการเปิดให้บริการจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งสถานีฐานของทีโอทีตามเงื่อนไขการประมูลต้องติดตั้ง 2,320 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณทล และในต่างจังหวัดรวมถึงหัวเมืองใหญ่อีก 3,000 กว่าแห่ง
       
       ส่วนกรณีภายหลังปี 2556 ทางทีโอทีจะต้องโอนรายได้สัมปทานให้กับกสทช. ซึ่งจะทำให้บริษัทขาดทุนในส่วนของรายได้รวม ดังนั้นทีโอทีได้มีการวางแผนรองรับกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ใน 4 เรื่อง เพื่อจะทำให้ทีโอทีแข็งแกร่งภายหลังหมดรายได้จากสัมปทาน เรื่องแรก การมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเสริม เรื่องที่สอง เดินหน้าธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบมีสาย เรื่องที่สาม ธุรกิจอินเทอร์เน็ตไร้สายหรือไว-ไฟ และเรื่องที่สี่สุดท้าย ธุรกิจการให้บริการ3G ซึ่งแผนทั้งหมดนี้จะสรุปภายในปีหน้า ทั้งนี้ทีโอทีมีรายได้จากค่าสัมปทานประมาณ 40% หรือประมาณ 27,000 ล้านบาทจากรายได้ทั้งหมดของทีโอทีในแต่ละปี
       
       “กรณีภายหลังสัญญาสัมปทานหมดลงทีโอทีจะขายเน็ตเวิร์กให้เอไอเอส     เหมือนกับที่กสทจะขายคืนทรูมูฟหรือไม่นั้นตอนนี้คงยังตอบไม่ได้"
       
       ส่วนแผนให้บริการไว-ไฟฟรีตามพื้นที่สำคัญ อาทิ สถานที่ราชการ สถานศึกษา และสาธารณะตามนโยบายของกระทรวงไอซีทีนั้น คาดว่าจะได้เห็นภายในเดือนตุลาคมนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นในส่วนของทีโอทีเท่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกสทแต่อย่างใด แต่ในตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนบ้าง



2.   ระบบ3.9G  จะเปิดใช้ได้ทั่วประเทศเมื่อไหร่
ทีโอทีเปิดให้บริการ 3 จี ระบบ 3.9 จี อย่างเป็นทางการรายแรกของไทย โดยมั่นใจว่าจะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศกลางปีหน้า ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท
นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะกรรมการบริหาร  เปิดตัวบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่  TOT  3G. ด้วยระบบ3.9  จี รายแรกของประเทศ และเป็นลำดับที่ 24  ของโลก เพื่อให้รองรับการสื่อสารที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและถือเป็นการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของประเทศ  ตามแผนแม่บท ICT ฉบับที่2(2552-2556)

โดย TOT 3G. ระบบ 3.9จี นี้  ทีโอทีเลือกใช้เทคโนโลยี HSPA( เอชเอสพีเอ) พลัส ด้วยคลื่น 2100เมกะเฮิร์ต มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลถึง 42 เมกะบิตต่อวินาทีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณทล

ส่วนในพื้นที่เขตภูมิภาคจะมีความเร็วที่ 21 เมกะบิตต่อวินาที เร็วกว่าระบบ 3จี ที่การรับส่งข้อมูลมีความเร็วเพียง 7  เมกะบิตต่อวินาที นอกจากนี้ยังสามารถรับส่งข้อมูลได้พร้อมกัน  ในลักษณะ Triple. Play.  คือใช้งานได้ทั้งโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต และรับส่งข้อมูลได้ในเวลาเดียวกัน

ซึ่งระบบติดตั้งโครงข่ายในกรุงเทพมหานครและปริมณทล 18 จังหวัด จะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะครอบคลุมทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการคัดเลือกตัวแทนผู้ขายส่ง หรือขายต่อบริการระบบ 3จี หรือเอ็นวีเอ็นโอ จำนวน 7 ล้านเลขหมายนั้น เบื้องต้นมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกรายในตลาดให้ความสนใจ และมั่นใจว่าผู้ประกอบการรายใหม่ จะไม่ขัดแย้งกับผู้ให้บริการรายเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยคาดว่าการคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย จะแล้วเสร็จภายในปลายเดือนนี้ถึงกลางเดือนหน้า  และเมื่อตัวแทนจำหน่ายใหม่  เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะทำให้ทีโอที  มีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่ปีละ10,000ล้านบาทได้ และมีระยะคืนทุนในช่วง 5 - 8ปีต่อจากนี้



3.   ทำไม “เรา” จึงจำเป็นต้องทำตั้งแต่วันนี้  ทั้งๆที่ยังใช้ได้ไม่ทั่วถึง
- มีคำถามว่า “ต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกล ยังใช้ไม่ได้ ทำอย่างไรดี?” วิกฤตนี้เป็นโอกาสของเราจริงๆเลยครับ จังหวัดของเรายังไม่เปิด  แต่วันนี้เรารู้ก่อนใครในจังหวัด พอเปิดตูมขึ้นมาเราก็ทำก่อนใครแล้ว ข้อมูลเราแน่นแล้ว  นี่คืองานที่ทำภายใต้มติคณะรัฐมนตรี ที่บอกว่าจังหวัดใหญ่ๆต้องเปิด3.9Gให้ได้อย่างช้า ในเดือนพฤศจิกายน  เฉพาะในกรุงเทพฯและ 14 จังหวัดเหล่านี้  ก็มีคน  มีลูกค้า  มีคนร่วมทำธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคนแล้ว เราต้องการ “เครือข่าย”ภายใต้สายงานเราเพียง 1 แสนคนเท่านั้น   เราก็มีรายได้เป็นล้านบาทต่อเดือนแล้ว   และถึงอย่างไรระบบนี้ก็ต้องใช้ได้ทั่วประเทศตามมติคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนพฤษภาคมปี2555  แน่นอน หากใช้ไม่ได้บริษัทผู้รับเหมาต้องลำบากแน่ๆเพราะจะถูกปรับ  ถูกฟ้อง  และไม่ได้เงินงวดสุดท้ายในการก่อสร้าง “จากรัฐบาล”

4.   “ทีโอที” กับ “เอสเอสเอ็น” และ “เรา”  มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
-   ทีโอที แต่งตั้งให้ เอส เอส เอ็น เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3G ของทีโอที โดยเอส เอส เอ็น จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายซิมการ์ด  และค่าใช้บริการ หรือAIR TIME ซึ่งอยู่ในรูปของบัตรเติมเงิน หรือการหักเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้าแบบรายเดือน
-   เอส เอส เอ็น มีเราเป็นผู้ที่ช่วยกันใช้สินค้าของทีโอที ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ช่วยจำหน่ายร่วมกับเอส เอส เอ็นด้วย ซึ่งเอส เอส เอ็น ก็จะให้ส่วนแบ่งรายได้ที่ได้มาจากทีโอที มาจ่ายให้กับ “เรา” ตามระบบที่ได้กำหนดไว้
-   สรุปได้ว่า ทีโอทีจ่ายเงินให้กับเอสเอสเอ็น และเอสเอสเอ็นจ่ายเงินให้กับเรา ไม่ใช่ ทีโอทีจ่ายเงินให้กับเราโดยตรง จึงมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าทีโอทีจ่ายเงินให้เรา ซึ่งจริงๆแล้วเอสเอสเอ็นต่างหากที่จ่ายเงินให้เรา  เพียงแต่เงินจำนวนนี้ “มาจากที่มาเดียวกัน” คือ จากการขายผลิตภัณฑ์ 3.9G ของทีโอที เพียงแต่ต้องพูดลำดับขั้นตอน หรืออธิบายให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
5.   เอส แอล คอนซอร์เตี้ยมคืออะไร
วันจันทร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2554
ที่สำนักงานใหญ่ ทีโอที แจ้งวัฒนะ นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที และกลุ่มเอสแอล คอนซอเตียม โดยนายเจริญรัฐ วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทสามารถคอปอร์เรชั่น จำกัด และนายวสันต์ จาติกวณิช กรรมการบริหาร บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในสัญญาจ้างโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 โดยมีนายกำธร ไวทยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บมจ.ทีโอที และนางศริญญา ไชยประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักพัสดุและกฏหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ลงนามในฐานะพยาน พร้อมผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 3 หน่วยงานร่วมแสดงความยินดี ซึ่งโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จะเป็นการสนับสนุนนโยบายบรอดแบรนด์แห่งชาติของรัฐบาลในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนคนไทย ได้อย่างทั่วถึง และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ทีโอที ในการดำเนินธุรกิจด้วยตนเองแทนการพึ่งพารายได้จากสัมปทาน
ทีโอที กล่าวว่า “โครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่3G จะเป็นการสนับสนุนนโยบายบรอดแบรนด์แห่งชาติของรัฐบาลและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศ และแผนแม่บท ICT ฉบับที่ 2 (2552-2556) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ทุกที่ทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มสัดส่วนการใช้อินเทอร์เน็ตต่อประชากรให้สูงขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิตพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศทั้งในด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การแพทย์ และสาธารณสุข และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งพนักงาน ทีโอที ทุกคนต่างให้การสนับสนุนเนื่องจากจะทำให้ ทีโอที สามารถดำเนินธุรกิจด้วยตนเอง ทดแทนการพึ่งพารายได้จากสัมปทาน และทำให้ ทีโอที สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ การลงนามครั้งนี้ เป็นการลงนามจ้างกลุ่มเอสแอล คอนซอเตียมของบริษัท สามารถ คอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ ไวร์เลส จำกัด สำหรับงานจ้างโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G มูลค่า 15,999.50 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
-   การสร้างระบบโครงข่ายหลัก (Core Network) จำนวน 1 ระบบ
-   ระบบสถานีฐาน (UTRAN) จำนวน 4,772 แห่ง
-   ระบบสื่อสัญญาณ (Transport Network)
-   ระบบบริการจัดการโครงข่าย (OSS) จำนวน 1 ระบบ
-   ระบบบริการเสริมพื้นฐาน (VAS) จำนวน 1 ระบบ
-   ระบบสนับสนุนการให้บริการ (Business Support System) จำนวน 1 ระบบ
-   รวมทั้งการติดตั้งอุปกรณ์และการจัดเตรียมสถานที่ (Site Preparation) และ อุปกรณ์สนับสนุนและบำรุงรักษาโครงข่าย3G

ทีโอที จะดำเนินการติดตั้งสถานีฐานทั่วประเทศจำนวน 5,320 แห่ง ครอบคลุม 57 จังหวัด โดยจะเป็นการสร้างสถานีฐานใหม่จำนวน 4,772 สถานี และย้ายสถานีฐานเดิม จากใจกลางกรุงเทพฯไปติดตั้งในปริมณฑลกรุงเทพฯแทนจำนวน 548 สถานี ซึ่งหลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาแล้ว คาดว่าประมาณกลางไตรมาสที่4 ของปี 2554 ประชาชนคนไทยจะได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G เต็มรูปแบบในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 13 จังหวัดหลัก หลังจากนั้นภายในกลางปี 2555 จะสามารถใช้งานได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดให้บริการ
โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จะแบ่งเป็น 3 ระยะ ซึ่งหลังจากที่มีการลงนามเซ็นสัญญาว่าจ้างกลุ่มเอสแอลคอนซอเตียม แล้ว คาดว่าจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้บริการแล้วเสร็จในพื้นที่สำคัญ ซึ่งมีประชากรหนาแน่น โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
- เฟส 1 คือ กทม. ทุกพื้นที่และรวมปริมณฑล 4 จังหวัด คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน 180 วัน
- เฟส 2 คือ 13 จังหวัดเศรษฐกิจ เช่น ชลบุรี ระยอง สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น และหนองคาย เป็นต้น โดยจะสามารถเริ่มให้บริการได้ภายใน 90 วัน
- และเฟสสุดท้าย จะขยายไปยังทุกจังหวัดในประเทศเพื่อให้ครอบคลุมต่อจำนวนประชากร 70% ภายใน 360 วัน โดย ทีโอที จะพิจารณาจากพื้นที่ที่มีความต้องการสูง
นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวตอนท้ายว่า ปัจจุบัน ทีโอที มีลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT 3G ประมาณ 200,000 เลขหมาย โดยตั้งเป้าหมายปี 2554 จะมีลูกค้า ประมาณ 1.3 ล้านเลขหมาย และเพิ่มเป็น 7 ล้านเลขหมายในปี 2558 มีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 8 % โดยแผนการตลาด ทีโอที จะขายผ่าน MVNO (Mobile Virtual Network Operator) เป็นหลัก และจะทำตลาดเองบางส่วนโดยทำตลาด convergence ร่วมกับผลิตภัณฑ์ในเครือของ ทีโอที เช่น ADSL หรือ โทรศัพท์ประจำที่
สำหรับการจัดสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ทั่วประเทศ มูลค่า 19,980 ล้านบาท แบ่งเป็น การประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง มูลค่า 17,440 ล้านบาท งบสำรองโครงการมูลค่า 540 ล้านบาท และการปรับปรุงโครงข่ายเดิมของ เอซีทีโมบายจาก 2G เป็น 3G มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยโครงสร้างการลงทุนมาจากแหล่งเงินทุนของ ทีโอที ในสัดส่วนร้อยละ 20 และเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินร้อยละ 80 จากกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารยูโอบี ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อเสนอทางการเงินที่เป็นประโยชน์ต่อ ทีโอที สูงสุด กล่าวคือ ให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำที่สุด และระยะเวลาชำระคืนเงินกู้นาน รวมทั้งมีเงื่อนไขที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ภายใต้แบรนด์ “TOT 3G” บนคลื่น 2,100 MHz. ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล ของ International Mobile Telecommunications 2000 , IMT-2000 ภายใต้กลุ่มของ International Telecommunication Union (ITU) ด้วยความเร็วสูง 14.4 Mbps (download) 
6.   บริษัทที่ขายซิมการ์ดให้กับทีโอที เดิมนั้น มีบริษัทใดบ้าง
สำหรับผู้ให้บริการรายเดิม 5 รายได้แก่
1.สามารถไอโมบาย      2.ไออีซี       3.ล็อกซเล่ย์       4.เอ็มคอลเซาท์       และ5.บริษัท365 คอมมูนิเคชั่น


7.   ระบบ 3G เกิดขึ้นได้อย่างไร
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2011, 12:35:18 »

สนใจสมัครคลิก
http://thailand39g.com/?id=tot42mb
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 04 ตุลาคม 2011, 12:31:07 »

สนใจสมัครคลิก
http://thailand39g.com/?id=tot42mb
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 05 ตุลาคม 2011, 22:33:28 »

เพียงท่านมีความรู้เรื่องระบบเครือข่าย!ก็สามารถสร้างรายได้ กับระบบ3.9G สุดยอดธุรกิจที่มีมูลค่าการตลาดถึง 38,000 ล้านบาท/เดือน   ความภูมิใจของชาวไทยที่จะได้ใช้โทรศัพท์ และอินเตอร์เนตที่ทันสมัยระบบ 3.9G และมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์3.9Gที่กำลังจะเป็นแฟชั่นในปี'55นี้

เปิดตัวแล้ว!..ธุรกิจเครือข่ายที่มีมูลค่าการตลาดถึง 38,000 ล้านบาท/เดือน เป็นความภูมิใจของชาวไทยที่จะได้ใช้โทรศัพท์ที่ทันสมัย 3.9G ท่านสามารถสร้างรายได้ เพียงมีความรู้เรื่องเครือข่าย!ก็รวยได้ โดยการสร้างทีมงานแนะนำและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3.9G   เชิญท่านสมัครเป็นต้นสายของประเทศวันนี้!
IP : บันทึกการเข้า
buahom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 07 ตุลาคม 2011, 12:44:21 »

คำถามที่ถูกถามบ่อย

1.   ระบบ 3G ของทีโอที ดีกว่าของเอไอเอส ดีแทค ทรู  อย่างไร 
ทีโอที ไม่หวั่น 3G เอกชน ยันมีของดีกว่า
 


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   8 กันยายน 2554 19:49 น.     Share21
    





       ทีโอที ไม่สนเอกชนเปิด 3G คุยความถี่ 2.1GHz คลื่นสากล ดีกว่าเยอะ จ่อเปิดบริการ 18 จังหวัด ภายในเดือนพ.ย.นี้ และพร้อมให้บริการทั่วประเทศเดือนพ.ค.55 เล็ง 4 ธุรกิจ ปะรูรั่วหลังหมดรายได้สัมปทานในอีก 2 ปีข้างหน้า
       
       นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือทีโอที กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการให้บริการระบบ 3G ของทีโอทีถือว่าไม่ได้ล้าช้าอย่างที่ใครหลายคนคิด ถึงแม้ว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเอกชนจะเปิดให้บริการ 3G แล้วก็ตาม แต่เป็นลักษณะของการอัพเกรดบนคลื่นความถี่เดิมที่มีอยู่ ทางทีโอทีไม่รู้สึกหวั่นเกรงแต่อย่างใด เพราะบริการ 3G ของทีโอทีนั้นเป็นคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ที่เป็นมาตรฐานสากล    สามารถรองรับกับอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า และสามารถรองรับข้อมูลความเร็วสูงได้
       
       ภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ตามแผนการขยายเครือข่าย 3G ของทีโอทีนั้น คาดว่าจะเปิดให้บริการครอบคลุมในพื้นที่ให้บริการ 18 จังหวัด และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ปัจจุบัน ทางทีโอทีมีผู้ใช้บริการบนเครือข่าย 3G อยู่ประมาณ 3 แสนรายแบ่งเป็นลูกค้าของทีโอทีเอง 8 หมื่นราย และลูกค้าจากการทำตลาดบริการขายต่อ บนโครงข่ายเสมือน หรือเอ็มวีเอ็นโออีก 2.2 แสนราย
       
       “ทางทีโอทีไม่กลัวคู่แข่งเอกชนที่เปิดทีหลังแต่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า เพราะเครือข่าย 3G ของทีโอทีใช้คลื่นความถี่มาตรฐาน 2.1 GHz ซึ่งใช้กันทั่วโลกเป็นมาตรฐานสากลกว่า ต่างจากบริษัทเอกชนที่เปิด 3G แต่ใช้คลื่นอื่น ซึ่งจำเป็นที่ผู้ใช้จะต้องเลือกอุปกรณ์ที่รองรับคลื่นนั้นๆ ”
       
       สำหรับแผนการติดตั้งโครงสร้าง 3G ที่ “กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสแอล คอนซอร์เตียม” ชนะการประมูลไปด้วยราคา 15,999 ล้านบาทนั้น กำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งขยายเครือข่าย แม้ว่าช่วงแรกที่การติดตั้งเครือข่าย 3G ทีโอทีจะล่าช้าไปบ้าง แต่มั่นใจว่าการเปิดให้บริการจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งสถานีฐานของทีโอทีตามเงื่อนไขการประมูลต้องติดตั้ง 2,320 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณทล และในต่างจังหวัดรวมถึงหัวเมืองใหญ่อีก 3,000 กว่าแห่ง
       
       ส่วนกรณีภายหลังปี 2556 ทางทีโอทีจะต้องโอนรายได้สัมปทานให้กับกสทช. ซึ่งจะทำให้บริษัทขาดทุนในส่วนของรายได้รวม ดังนั้นทีโอทีได้มีการวางแผนรองรับกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ใน 4 เรื่อง เพื่อจะทำให้ทีโอทีแข็งแกร่งภายหลังหมดรายได้จากสัมปทาน เรื่องแรก การมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเสริม เรื่องที่สอง เดินหน้าธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบมีสาย เรื่องที่สาม ธุรกิจอินเทอร์เน็ตไร้สายหรือไว-ไฟ และเรื่องที่สี่สุดท้าย ธุรกิจการให้บริการ3G ซึ่งแผนทั้งหมดนี้จะสรุปภายในปีหน้า ทั้งนี้ทีโอทีมีรายได้จากค่าสัมปทานประมาณ 40% หรือประมาณ 27,000 ล้านบาทจากรายได้ทั้งหมดของทีโอทีในแต่ละปี
       
       “กรณีภายหลังสัญญาสัมปทานหมดลงทีโอทีจะขายเน็ตเวิร์กให้เอไอเอส     เหมือนกับที่กสทจะขายคืนทรูมูฟหรือไม่นั้นตอนนี้คงยังตอบไม่ได้"
       
       ส่วนแผนให้บริการไว-ไฟฟรีตามพื้นที่สำคัญ อาทิ สถานที่ราชการ สถานศึกษา และสาธารณะตามนโยบายของกระทรวงไอซีทีนั้น คาดว่าจะได้เห็นภายในเดือนตุลาคมนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นในส่วนของทีโอทีเท่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกสทแต่อย่างใด แต่ในตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนบ้าง



2.   ระบบ3.9G  จะเปิดใช้ได้ทั่วประเทศเมื่อไหร่
ทีโอทีเปิดให้บริการ 3 จี ระบบ 3.9 จี อย่างเป็นทางการรายแรกของไทย โดยมั่นใจว่าจะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศกลางปีหน้า ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท
นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะกรรมการบริหาร  เปิดตัวบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่  TOT  3G. ด้วยระบบ3.9  จี รายแรกของประเทศ และเป็นลำดับที่ 24  ของโลก เพื่อให้รองรับการสื่อสารที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและถือเป็นการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของประเทศ  ตามแผนแม่บท ICT ฉบับที่2(2552-2556)

โดย TOT 3G. ระบบ 3.9จี นี้  ทีโอทีเลือกใช้เทคโนโลยี HSPA( เอชเอสพีเอ) พลัส ด้วยคลื่น 2100เมกะเฮิร์ต มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลถึง 42 เมกะบิตต่อวินาทีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณทล

ส่วนในพื้นที่เขตภูมิภาคจะมีความเร็วที่ 21 เมกะบิตต่อวินาที เร็วกว่าระบบ 3จี ที่การรับส่งข้อมูลมีความเร็วเพียง 7  เมกะบิตต่อวินาที นอกจากนี้ยังสามารถรับส่งข้อมูลได้พร้อมกัน  ในลักษณะ Triple. Play.  คือใช้งานได้ทั้งโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต และรับส่งข้อมูลได้ในเวลาเดียวกัน

ซึ่งระบบติดตั้งโครงข่ายในกรุงเทพมหานครและปริมณทล 18 จังหวัด จะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะครอบคลุมทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการคัดเลือกตัวแทนผู้ขายส่ง หรือขายต่อบริการระบบ 3จี หรือเอ็นวีเอ็นโอ จำนวน 7 ล้านเลขหมายนั้น เบื้องต้นมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกรายในตลาดให้ความสนใจ และมั่นใจว่าผู้ประกอบการรายใหม่ จะไม่ขัดแย้งกับผู้ให้บริการรายเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยคาดว่าการคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย จะแล้วเสร็จภายในปลายเดือนนี้ถึงกลางเดือนหน้า  และเมื่อตัวแทนจำหน่ายใหม่  เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะทำให้ทีโอที  มีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่ปีละ10,000ล้านบาทได้ และมีระยะคืนทุนในช่วง 5 - 8ปีต่อจากนี้



3.   ทำไม “เรา” จึงจำเป็นต้องทำตั้งแต่วันนี้  ทั้งๆที่ยังใช้ได้ไม่ทั่วถึง
- มีคำถามว่า “ต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกล ยังใช้ไม่ได้ ทำอย่างไรดี?” วิกฤตนี้เป็นโอกาสของเราจริงๆเลยครับ จังหวัดของเรายังไม่เปิด  แต่วันนี้เรารู้ก่อนใครในจังหวัด พอเปิดตูมขึ้นมาเราก็ทำก่อนใครแล้ว ข้อมูลเราแน่นแล้ว  นี่คืองานที่ทำภายใต้มติคณะรัฐมนตรี ที่บอกว่าจังหวัดใหญ่ๆต้องเปิด3.9Gให้ได้อย่างช้า ในเดือนพฤศจิกายน  เฉพาะในกรุงเทพฯและ 14 จังหวัดเหล่านี้  ก็มีคน  มีลูกค้า  มีคนร่วมทำธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคนแล้ว เราต้องการ “เครือข่าย”ภายใต้สายงานเราเพียง 1 แสนคนเท่านั้น   เราก็มีรายได้เป็นล้านบาทต่อเดือนแล้ว   และถึงอย่างไรระบบนี้ก็ต้องใช้ได้ทั่วประเทศตามมติคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนพฤษภาคมปี2555  แน่นอน หากใช้ไม่ได้บริษัทผู้รับเหมาต้องลำบากแน่ๆเพราะจะถูกปรับ  ถูกฟ้อง  และไม่ได้เงินงวดสุดท้ายในการก่อสร้าง “จากรัฐบาล”

4.   “ทีโอที” กับ “เอสเอสเอ็น” และ “เรา”  มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
-   ทีโอที แต่งตั้งให้ เอส เอส เอ็น เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3G ของทีโอที โดยเอส เอส เอ็น จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายซิมการ์ด  และค่าใช้บริการ หรือAIR TIME ซึ่งอยู่ในรูปของบัตรเติมเงิน หรือการหักเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้าแบบรายเดือน
-   เอส เอส เอ็น มีเราเป็นผู้ที่ช่วยกันใช้สินค้าของทีโอที ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ช่วยจำหน่ายร่วมกับเอส เอส เอ็นด้วย ซึ่งเอส เอส เอ็น ก็จะให้ส่วนแบ่งรายได้ที่ได้มาจากทีโอที มาจ่ายให้กับ “เรา” ตามระบบที่ได้กำหนดไว้
-   สรุปได้ว่า ทีโอทีจ่ายเงินให้กับเอสเอสเอ็น และเอสเอสเอ็นจ่ายเงินให้กับเรา ไม่ใช่ ทีโอทีจ่ายเงินให้กับเราโดยตรง จึงมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าทีโอทีจ่ายเงินให้เรา ซึ่งจริงๆแล้วเอสเอสเอ็นต่างหากที่จ่ายเงินให้เรา  เพียงแต่เงินจำนวนนี้ “มาจากที่มาเดียวกัน” คือ จากการขายผลิตภัณฑ์ 3.9G ของทีโอที เพียงแต่ต้องพูดลำดับขั้นตอน หรืออธิบายให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
5.   เอส แอล คอนซอร์เตี้ยมคืออะไร
วันจันทร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2554
ที่สำนักงานใหญ่ ทีโอที แจ้งวัฒนะ นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที และกลุ่มเอสแอล คอนซอเตียม โดยนายเจริญรัฐ วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทสามารถคอปอร์เรชั่น จำกัด และนายวสันต์ จาติกวณิช กรรมการบริหาร บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในสัญญาจ้างโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 โดยมีนายกำธร ไวทยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บมจ.ทีโอที และนางศริญญา ไชยประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักพัสดุและกฏหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ลงนามในฐานะพยาน พร้อมผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 3 หน่วยงานร่วมแสดงความยินดี ซึ่งโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จะเป็นการสนับสนุนนโยบายบรอดแบรนด์แห่งชาติของรัฐบาลในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนคนไทย ได้อย่างทั่วถึง และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ทีโอที ในการดำเนินธุรกิจด้วยตนเองแทนการพึ่งพารายได้จากสัมปทาน
ทีโอที กล่าวว่า “โครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่3G จะเป็นการสนับสนุนนโยบายบรอดแบรนด์แห่งชาติของรัฐบาลและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศ และแผนแม่บท ICT ฉบับที่ 2 (2552-2556) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ทุกที่ทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มสัดส่วนการใช้อินเทอร์เน็ตต่อประชากรให้สูงขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิตพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศทั้งในด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การแพทย์ และสาธารณสุข และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งพนักงาน ทีโอที ทุกคนต่างให้การสนับสนุนเนื่องจากจะทำให้ ทีโอที สามารถดำเนินธุรกิจด้วยตนเอง ทดแทนการพึ่งพารายได้จากสัมปทาน และทำให้ ทีโอที สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ การลงนามครั้งนี้ เป็นการลงนามจ้างกลุ่มเอสแอล คอนซอเตียมของบริษัท สามารถ คอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ ไวร์เลส จำกัด สำหรับงานจ้างโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G มูลค่า 15,999.50 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
-   การสร้างระบบโครงข่ายหลัก (Core Network) จำนวน 1 ระบบ
-   ระบบสถานีฐาน (UTRAN) จำนวน 4,772 แห่ง
-   ระบบสื่อสัญญาณ (Transport Network)
-   ระบบบริการจัดการโครงข่าย (OSS) จำนวน 1 ระบบ
-   ระบบบริการเสริมพื้นฐาน (VAS) จำนวน 1 ระบบ
-   ระบบสนับสนุนการให้บริการ (Business Support System) จำนวน 1 ระบบ
-   รวมทั้งการติดตั้งอุปกรณ์และการจัดเตรียมสถานที่ (Site Preparation) และ อุปกรณ์สนับสนุนและบำรุงรักษาโครงข่าย3G

ทีโอที จะดำเนินการติดตั้งสถานีฐานทั่วประเทศจำนวน 5,320 แห่ง ครอบคลุม 57 จังหวัด โดยจะเป็นการสร้างสถานีฐานใหม่จำนวน 4,772 สถานี และย้ายสถานีฐานเดิม จากใจกลางกรุงเทพฯไปติดตั้งในปริมณฑลกรุงเทพฯแทนจำนวน 548 สถานี ซึ่งหลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาแล้ว คาดว่าประมาณกลางไตรมาสที่4 ของปี 2554 ประชาชนคนไทยจะได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G เต็มรูปแบบในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 13 จังหวัดหลัก หลังจากนั้นภายในกลางปี 2555 จะสามารถใช้งานได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดให้บริการ
โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จะแบ่งเป็น 3 ระยะ ซึ่งหลังจากที่มีการลงนามเซ็นสัญญาว่าจ้างกลุ่มเอสแอลคอนซอเตียม แล้ว คาดว่าจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้บริการแล้วเสร็จในพื้นที่สำคัญ ซึ่งมีประชากรหนาแน่น โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
- เฟส 1 คือ กทม. ทุกพื้นที่และรวมปริมณฑล 4 จังหวัด คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน 180 วัน
- เฟส 2 คือ 13 จังหวัดเศรษฐกิจ เช่น ชลบุรี ระยอง สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น และหนองคาย เป็นต้น โดยจะสามารถเริ่มให้บริการได้ภายใน 90 วัน
- และเฟสสุดท้าย จะขยายไปยังทุกจังหวัดในประเทศเพื่อให้ครอบคลุมต่อจำนวนประชากร 70% ภายใน 360 วัน โดย ทีโอที จะพิจารณาจากพื้นที่ที่มีความต้องการสูง
นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวตอนท้ายว่า ปัจจุบัน ทีโอที มีลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT 3G ประมาณ 200,000 เลขหมาย โดยตั้งเป้าหมายปี 2554 จะมีลูกค้า ประมาณ 1.3 ล้านเลขหมาย และเพิ่มเป็น 7 ล้านเลขหมายในปี 2558 มีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 8 % โดยแผนการตลาด ทีโอที จะขายผ่าน MVNO (Mobile Virtual Network Operator) เป็นหลัก และจะทำตลาดเองบางส่วนโดยทำตลาด convergence ร่วมกับผลิตภัณฑ์ในเครือของ ทีโอที เช่น ADSL หรือ โทรศัพท์ประจำที่
สำหรับการจัดสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ทั่วประเทศ มูลค่า 19,980 ล้านบาท แบ่งเป็น การประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้าง มูลค่า 17,440 ล้านบาท งบสำรองโครงการมูลค่า 540 ล้านบาท และการปรับปรุงโครงข่ายเดิมของ เอซีทีโมบายจาก 2G เป็น 3G มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยโครงสร้างการลงทุนมาจากแหล่งเงินทุนของ ทีโอที ในสัดส่วนร้อยละ 20 และเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินร้อยละ 80 จากกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารยูโอบี ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อเสนอทางการเงินที่เป็นประโยชน์ต่อ ทีโอที สูงสุด กล่าวคือ ให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำที่สุด และระยะเวลาชำระคืนเงินกู้นาน รวมทั้งมีเงื่อนไขที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ภายใต้แบรนด์ “TOT 3G” บนคลื่น 2,100 MHz. ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล ของ International Mobile Telecommunications 2000 , IMT-2000 ภายใต้กลุ่มของ International Telecommunication Union (ITU) ด้วยความเร็วสูง 14.4 Mbps (download) 
6.   บริษัทที่ขายซิมการ์ดให้กับทีโอที เดิมนั้น มีบริษัทใดบ้าง
สำหรับผู้ให้บริการรายเดิม 5 รายได้แก่
1.สามารถไอโมบาย      2.ไออีซี       3.ล็อกซเล่ย์       4.เอ็มคอลเซาท์       และ5.บริษัท365 คอมมูนิเคชั่น


7.   ระบบ 3G เกิดขึ้นได้อย่างไร
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!