เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 19:09:04
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ชีวิตที่เลือกไม่ได้หรือไม่ได้เลือก...กันแน่
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ชีวิตที่เลือกไม่ได้หรือไม่ได้เลือก...กันแน่  (อ่าน 1778 ครั้ง)
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 19:31:20 »

บางคนบอกว่าชีวิตนี้เป็นพรหมลิขิต
บ้างก็บอกว่าชีวิตเป็นไปตามประสงค์ของพระเจ้า
บ้างก็บอกว่าเป็นกรรมบันดาล

พระพรหมท่านเต็มไปด้วยเมตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ถ้าท่านลิขิตชีวิตใครชีวิตผู้นั้น คงเต็มไปด้วย ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
พระเจ้าก็เช่นกันท่านเต็มไปด้วยความรัก ความกรุณา ปราถนา ให้มนุษย์อยู่กันด้วยความรัก ความเข้าใจ ความเสมอภาค แล้วมนุษย์ทั้งหลายเป็นไปตามประสงค์ของพระองค์หรือไม่
กรรมบันดาล แล้วกรรมทั้งหลายใครเป็นคนกระทำ ใครเป็นผู้สร้าง
ทางสี่แพร่งแห่งการตัดสินใจ
ทางซ้ำเดิม คือวิถีชิวิตที่ทำอะไรเหมือนเดิม ถูกก็ถูกแบบเดิม ผิดก็ผิดแบบเดิม เป็นการใช้ชีวิตแบบแผ่นเสียงตกร่อง
ทางสู่ที่ดีกว่าเดิม คือวิถีชีวิตที่ทำอะไรดีขึ้น ใช้ชีวิตคุ้มค่ามากขึ้น
ทางสู่ที่แย่กว่าเดิม คือวิถีที่ทำอะไรแย่อละโง่เง่ากว่าเดิม ผลคือชีวิตขาดทุนมากขึ้น
ทางสู่บริสุทธิ์ คือวิถีที่ยกจิตใจเหนือดี เหนือชั่ว และหลุดจากความเคยชินเดิมๆ
    ทุกครั้งที่ตัดสินใจ ย่อมนำไปสู่ทางใดทางหนึ่งในสี่ทางนี้ จะไปทางไหน เป็นสิทธิ เป็นอำนาจของทุกคนที่จะเลือกได้



* Y5759669-40.jpg (46.46 KB, 500x375 - ดู 173 ครั้ง.)

* Y5759669-41.jpg (53.71 KB, 500x375 - ดู 183 ครั้ง.)

* Y5759669-42.jpg (37.19 KB, 500x375 - ดู 179 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
@ไอ้อ้วน@
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,031


2 มือ ที่ดูเหมือนจะบอบบาง


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 19:36:05 »

น่าจะมีอีกหลายรูปเลยนะคะ รอติดตามรูปต่อไปคะ
IP : บันทึกการเข้า

สมองดี แกมโกง แต่เลือกที่จะเดินทางผิดเอง ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เป็นไป
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 19:45:38 »

การเลือกเกิดและการบริหารการเกิด

บางคนบอกว่าชีวิตเลือกเกิดไม่ได้
คนเหล่านี้เป็นผู้ไร้เดีอยงสาที่น่าสงสารยิ่งนัก
เพราะชีวิตเขาจะถูกซัดไปตามกระแสกรรมเก่าเท่านั้น

วณิพก สุนัขเศรษฐี
    ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคตรัสเล่าว่า มีวณิพกคนหนึ่งเดินทางข้ามหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหารเป็นเวลานานเมื่อถึงชานเมืองใหม่ก็เจอบ้านหลังแรกเป็นบ้านใหญ่โตจึงเข้าไปขออาหารกิน แม่บ้านก็บอกให้รอก่อนเพราะท่านเศรษฐีกำลังกินอาหารอยู่อย่างสำราญ มีหมาตัวหึ่งอยู่ข้างๆ เศรษฐีกินอาหารไปก็แบ่งอาหารให้หมากินไปด้วย
   วณิพกนึกในใจว่า "เป็นหมาเศรษฐีนี้ดีจริงได้กินอาหารอร่อยๆเหมือนเศรษฐีด้วย เราเป็นคนเสียอีกแทบจะไม่มีกิน" เมื่อเศรษฐีกินอาหารอิ่มแล้วแม่บ้านก็ยกอาหารมาให้วณิพกกิน วณิพกคงกินด้วยความมูมมาม คงเคี้ยวไม่ดี อาหารไม่ย่อย ปวดท้องบิดไปมา ไม่นานก็เสียชีวิต
   เมื่อวณิพกละร่างละร่างนั้นไปเกิดเป็นลูกเศรษฐีเพราะเหตุแห่งอาสันกรรม อาศัย "ความยินดีในการเป็นสุนัขเศรษฐี"  อาสันกรรมคือกรรมใหม่ บุคคลตั้งจิตยินดีและมุ้งไปที่ใดก่อนตายจะเหนี่ยวนำให้ไปเกิดอย่างนั้นได้
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 19:59:43 »

นกกระยางขึ้นสวรรค์

     มฆะมานพมีภรรยาสี่คน มีมิตรสหายสามสิบคน มิตรสหายทั้งหมดและภรรยาทั้งสามคนมีน้ำใจเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นและช่วนกันสร้างสาธารณะกุศลจำนวนมาก มีการสร้างศาลาที่พักแก่คนเดินทางเป้นต้น แต่ภรรยาที่สี่เป็นคนฉาบฉวย เอาแต่แต่งตัวสวยงามอวดคนอื่น
     เมื่อตายไป มฆะมานพได้ไปเป็นพระอินทร์  ภรรยาสามคนกับเพื่อนสามสิบคนก็ตามไปด้วย มีเพียงภรรยาคนเล็กสุด อาศัยจิตที่รักสวยรักงามแต่ไม่มีบุญกุศลจึงไปเกิดเป็นนกกระยาง คอยจับปลาที่ว่ายไปมาเป็นอาหาร
    พระอินทร์ทรงห่วงใยในภรรยาคนน้อย จึงสำรวจดู พบว่าไปเกิดเป็นนกกระยาง จึงแปลงองค์ไปสอนนางว่า อย่ากินปลาเป็นๆ ให้กินเฉพาะที่ตายแล้วเพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์กับเขาบ้าง นางนกกระยางก็ทำตาม เมื่อตายจากนกกระยาง นางได้ขึ้นสวรรค์ แต่ด้วยเหตุที่ไม่ได้ทำบุญร่วมกันกับพระอินทร์จึงไปเกิดเป็นลูกท้าวเวปจิตติจอมอสูรใต้ดาวดึงส์ จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า แม้นางนกกระยางตั้งใจจะขึ้นสวรรค์ก็สามารถขึ้นได้ หากปฏิบัติตนให้เหมาะสม
การจุติของพระโพธิสัตว์
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 20:11:46 »

การจุติของพระโพธธิสัตว์   อีกตัวอย่างหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงเล่า การมาตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์เพื่อเป็นพระพุทธเจ้านั้น เทวสภาจะประชุมกันที่ธรรมสภาเพื่อพิจารณาวาระที่เหมาะสม เมื่อวาระที่เหมาะสมปรากฎ ที่ประชุมจะมอบหมายให้มหาเทพชั้นผู้ใหญ่ไปทูลเชิญพระโพธิสัตว์ลงมาจุติในโลกเพื่อตรัสรู้ในการจะมาเกิดนั้นทางเทวสภาได้เลือกผู้ทรงศีลแปดครบเป็นปกติ และมีมหากุศลร่วมกับพระองค์เป็นพระมารดา และเลือกพระบิดาที่ทรงตั้งอยู่ในครรลองธรรมดีแล้ว
   ดังนั้นการเกิดของพระโพธิสัตว์เป็นการเกิดอย่างมีแบบแผน และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งเลือกครอบครัวที่จะเกิดด้วยอย่างเหมาะสมแก่ภารกิจ
   ดังนั้น ใครที่คิดว่าชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ พึงพิจารณาการไปสู่ที่ชอบที่ชอบใหม่  ใครอยากจะลองเลือกเกิดดูบ้างก็จงศึกษาหลักการและวิธีการให้ดี





***แก้ไขเพื่อเน้นตัวหนา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 กันยายน 2011, 23:50:37 โดย เมฆพัตร » IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 21:59:44 »

ใครบ้างที่เลือกเกิดได้

ผู้ที่เลือกเกิดได้ คือ
สัตว์ที่มีผู้สอนหรือผู้นำทาง
มนุษย์ผู้รู้หลัก และใช้ได้ถูกที่ ถูกเวลา
พรหม เทพ เทพี ที่มาจากข้างบนทั้งหมดที่ไม่รอให้หมดอายุขัย

ใครที่เลือกเกิดไม่ได้

ผู้ที่เลือกเกิดไม่ได้ คือ สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ที่ไม่มีใครนำจิต มนุษย์ผู้เชื่อและยึดมั่นว่าชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ พรหม เทพ ผู้ประมาทจนหมดอายุขัย
หากไม่บริหารการเกิด จะเกิดอะไรขึ้น
ผู้ที่ไม่บริหารการเกิด โดยไม่เลือกให้ดี จะถูกกรรมเก่าซัดไปเวลาหมดอายุจากภพหนึ่งมารู้ตัวอีกทีก็อยู่ภพใหม่แล้ว ทำอะไรไม่ได้เลย พวกนี้มักจะเหมาไปว่า ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 22:37:19 »

การบริหารการเกิด
   การเกิดมีหลายรูปแบบ หลายเทคนิค ผู้ชำนาญในการเกิดย่อมเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายในการเกิดแต่ละชาติ
เป้าหมาย(Mission)ของการเกิด   คนที่ปล่อยให้กรรมซัดตามวาระนั้นมักจะไม่มีเป้าหมายก่อนเกิด เกิดแล้วจึงมาควานหา หรือปั้นเป้าหมายภายหลัง  สำหรับคนที่จะบริหารการเกิด ควรตั้งเป้าหมายการเกิดก่อนเพราะการบรรลุความสำเร็จแต่ละอย่างในแต่ละยุคนั้น ต้องการครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
   Mission หรือเป้าหมายการเกิดที่คุ้มค่า สามารถมีได้หลายประการ เช่น
   เกิดมาเพื่อเรียนรู้และรื่นเริงกับโลก
   เกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมีเพิ่ม
   เกิดมาเพื่อหลุดพ้น
การเลือกครอบครัว
   ก่อนการเกิดควรตรวจสอบให้ดีว่าพ่อแม่พี่น้องที่จะเกิดด้วยเป็นอย่างไร กรรมร่วมเป็นอย่างไร
ครอบครัวที่ยากจนแต่ทรงธรรม   ผู้ที่ต้องการสำเร็จอรหันต์ในยุคที่ไม่ใช่พุทธกาลมักเลือกเกิดในครอบครัวเช่นนี้ เพราะจะทำให้เห็นทุกข์ชัด ไม่มีภาระมาก ปล่อยวางได้ง่าย
ครอบคัวที่ยากจนแต่ไม่ทรงธรรม
   ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรเสี่ยงเกิดในครอบครัวเช่นนี้ ความยากจนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คนรวยหรือคนจนก็อยู่รอดได้ในโลกนี้ เพียงแต่ต่างวิธีเท่านั้น แต่ความไม่ทรงธรรมนั้นจะพาไปสร้างกรรมมากมายนานาประการ ยิ่งมีความจนบีบคั้นด้วยแล้วโอกาศที่จะก่ออาชญากรรมต่างๆ มีสูง จึงเสี่ยงเกินไป
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 22:53:55 »

ครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ทรงธรรม   ข้อดีของการเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยคือสะดวก(แต่ไม่สบาย)และมีโอกาสทำกุศลใหญ่ได้มาก
   ข้อเสียของการเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยคือ มีโอกาศที่จะ spoiled เสียนิสัย และโอกาสหลงโลกก็มาก การเสียนิสัยนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าการเสียทรัพย์หลายเท่า เพราะจะติดตัวข้ามภพข้ามชาติ
   ดังนั้นควรเกิดในครอบครัวเช่นนี้เมื่อต้องการทำบุญทั้งกับผู้ด้อยโอกาสและมุ่งสู่ธรรมชั้นสูงให้มหาศาลจึงจะคุ้มค่าเสียง
ครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ไม่ทรงธรรม
   การเกิดในครอบครัวเช่นนี้โอกาสพัฒนาจิตใจจะต่ำ เพราะเมื่อเกิดมาแล้วต้องกินอยู่เติบโตด้วยทรัพย์อันมิชอบและถูกบีบให้หาทรัพย์ โดยมิชอบตั้งแต่เด็ก โอกาสตกอบายสูง ระยะยาวแล้วขาดทุน
   ควรหลีกเลี่ยงการเกิดกับครอบครัวเช่นนี้ ยกเว้นมีพันธสัญญาว่าต้องแก้จริต หรือพัฒนาจิตวิญาณของพ่อแม่ผู้ไม่เคยมีความผูกพันกันมาก่อน
ครอบครัวมิจฉาทิฏฐิแต่สำเร็จทางโลก   การเกิดในครอบครัวเช่นนี้จะถูกปลูกฝังแนวคิด หลักการ และเล่ห์กลผิดๆ มากมาย หากปฏิบัติ โอกาสที่สติปัญญาจะเสียหายมีมาก
   ดังนั้นไม่ควรเกิดกับครอบครัวเช่นนี้ ยกเว้นได้ตรวจสอบดูแล้วว่า วันหนึ่งไม่นานเกินไป มิจฉาทิฎฐิของครอบครัวนี้จะถูกแก้ไขได้
ครอบครัวมิจฉาทิฎฐิและไม่สำเร็จทางโลก
   ถ้าไม่อยากหลงผิดและทุกข์ตรม อย่าเสี่ยงมาเกิดกับครอบครัวเช่นนี้

IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 23:17:23 »

ครอบครัวสัมมาทิฏฐิและสำเร็จทางโลก  
   ครอบครัวเช่นนี้จะอยู่กันอย่างผาสุกพอสมควร มีทุกข์บ้างตามธรรมชาติของชีวิต
ควรเกิดกับครอบครัวเช่นนี้สำหรับทุกเป้าหมาย
ครอบครัวสัมมาทิฏฐิแต่ไม่สำเร็จทางโลก  
   ครอบครัวเช่นนี้ มักอยู่อย่างมักน้อย สันโดษ แม้จะไม่สำเร็จทางโลกแต่โอกาสสำเร็จทางธรรมสูงมาก
   ควรเกิดกับครอบครัวเช่นนี้ในชาติที่ต้องการเรียนวิชาหรือพัฒนาจิตใจให้สูงส่ง



ปล.แก้ไขเพื่อเน้นตัวหนา
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2011, 23:49:30 »

การเลือกวิถีชีวิต
การเลือกแบบการดำรงอยู่มีหลายสิ่งที่พึงพิจารณาคือ
1.ชีวิตนี้จะอยู่รอดได้อย่างไร
2.ชีวิตนี้ควรจะเป็นอย่างไร
3.ชีวิตพึงทำอะไร
4.ชีวิตนี้ควรเลือกหลักปฏิบัติอย่างไรบ้าง
5.วิถีชีวิตนี้ควรมีตัวแปรแห่งความสำเร็จอย่างไรบ้าง
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
การอยู่รอดของชีวิต
  เราเอาธาตุในธรรมชาติมาสร้างเป็นร่างกาย ก็สิ่งต่างๆในธรรมชาตินั้นแหละคืออาหารหล่อเลี้ยงร่างกาย
ถ้าเก็บผักหรือปลูกพืชเป็น ก็ไม่อดตายแล้ว  แต่ถ้าไม่อยากทำหรือไม่สามารถเก็บอาหารได้เอง สังคมก็มีระบบตลาดให้ซื้อหาสินค้าที่ต้องการได้  ระบบตลาดคือศูนย์กลางแห่งการแลกเปลี่ยนคุณค่าที่แต่ละคนมีดดยประเมินค่าทุกสิ่งเป็นตัวกลาง คือ เงิน
   ดังนั้นใครมีคุณณค่าใด ไม่ว่าจะเป็นแรงงาน ความสามารถพิเศษสิ่งของ สินค้าหรืออื่นใด ก็สามารถนำสู่ตลาดตี มูลค่าเป็นเงิน ขายและนำเงินนั้นไปซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ ได้ตามประสงค์
   ดังนั้น ถ้าใครไม่เกียจคร้าน รอคอยแต่จะให้มีคนมาเลี้ยงแล้วไซร้โอกาสอดตายแทบไม่มี  การอยู่รอด แม้เป็นสิ่งที่ทุกชีวิตวิตกเป็นเบื้องต้น แต่ไม่ใช่ปัญหายาก เป็นปัญหาที่ง่ายที่สุดที่ทุกชีวิตสามารถหาทางออกได้ตามสัญชาติญาณ ยกเว้นผู้ที่ถูกครอบงำด้วยความหลงผิด หวังจะพึ่งพิงผู้อื่นมากจัดหรือด้วยกรรมโลภะล่อให้เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นจนต้องเผชิญภัยความอดอยากเพื่อการเรียนรู้
   ถ้าถูกครอบงำด้วยความหวังพึงพิงก้เพิกออกเสีย ก็หาย
   ถ้าถูกครอบงำด้วยโลภะ ก็พึงเรียนรู้ และปรับจิตใจเสีย ก็หายได้เช่นกัน
   ยังมีอีกปัญหาที่ยากกว่าการอยู่รอด คือรอดไปเพื่ออะไร...


IP : บันทึกการเข้า
yuan lanna
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2011, 11:34:29 »

อ่านแล้วเห็นทางมา ทางไป ครับ  ขอบคุณท่านผู้ทรงภูมิที่นำธรรมะ มาเผยแผ่ตลอด ขออนุโมทนาครับ
IP : บันทึกการเข้า
flashi
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,797


on the internet nobody knows you’re a dog


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2011, 11:38:20 »

บางคนก็เลือกทางเดินที่ผิดพลาด
แล้วก็แก้ไขความผิดพลาด ด้วยการพยายามทำให้สิ่งที่ผิดกลายเป็นถูก
IP : บันทึกการเข้า

ทุกอาชีพไม่มีไส้แห้ง ไม่ว่าอาชีพใดทั้งสิ้น ที่เมิงไส้แห้ง เพราะเมิงกระจอกไง มันอยู่ที่ใจเมิง ใจเมิงสูงเมิงก็รอด ใจเมิงกระจอกเมิงก็จน!
--- (เชิญชมคลิปเต็ม)
http://www.youtube.com/watch?v=s-g89WcO6DQ
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2011, 12:35:43 »

การเลือกเป้าหมายอุดมคติของชีวิต
     ชีวิตที่ดำเนินไปอย่างไร้เป้าหมายนั้นอาจจะเหมือนขอนไม้ที่ถูกซัดไปตามกระแสน้ำ ชีวิตที่ไร้เป้าหมายก็เช่นกันจะถูกซัดไปตามกระแสและสิ่งแวดล้อม ยากที่จะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่
     การจะเลือกเป้าหมายอุดมคติในชีวิตนั้น ควรปราดตาดูโลกกว้างแล้วดูว่าอะไรที่เราเห็นแล้วดึงดูดพลังงานส่วนลึกของใจออกมาได้มากที่สุด หรือ่านหนังสือประวัติบุคคลที่ประสบความสำเร็จหลากหลายในโลกแห่งยุคสมัยนั้นๆ และดูว่าอะไรที่ท่านรู้สึกว่าท่านทำได้ดีกว่า
     จงเลือกวิถีนั้นเป็นตัวเลือกหนึ่งของชีวิต แม้ขณะที่เลือกอาจยังไม่มีความสามารถนั้นๆ เลยก็ไม่เป็นไรความสามารถเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นภายหลังได้ แต่สิ่งที่ต้องมีก่อนคือปณิธานอันยิ่งใหญ่
     พระพุทธเจ้าบอกว่า พลังที่จะนำไปสู่ความสำเร็จนั้นต้องเริ่มที่ศรัทธา เพราะศรัทธาจึงมีวิริยะ เพราะวิริยะจึงมีสติ เพราะสติจึงมีสมาธิ เพราะสมาธิจึงมีปัญญา ผู้มีปัญญาย่อมประสบความสำเร็จโดยไม่ยากเลย
     ดังนั้นก่อนอื่นหาศรัทธาของตนเองให้เจอ ว่าตนศรัทธาชีวิตในรูปแบบใด
 (ศรัทธา--->วิริยะ--->สติ--->สมาธิ--->ปัญญา)
     ถ้าทำในสิ่งที่ศรัทธา จะทำด้วยความมั่นใจ ภูมิใจ และสำเร็จอย่างเป็นสุขโดยไม่ยากเลย ถ้าดำเนินชีวิตอย่างมีศรัทธาในสิ่งที่ควรชีวิตจะมีค่าไปในทำนองสิ่งที่ศรัทธานั้น
เหล่านี้คือตัวเลือกให้พิจารณา
ความเป็นมหาศาสดา
ความเป็นมหาอัจฉริยะ
ความเป็นมหาบุรุษ อภิสตรี
ความเป็นมหาเศรษฐี มหาเศรษฐีนี
ความเป็นซุปเปอร์สตาร์
ความเป็นซุปเปอร์แชมป์
ความเป็นพ่อพระ แม่พระ
ความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2011, 12:58:28 »

ความเป็นมหษศาสดา
     หากอยากเป็นมหาศาสดา พึงเลือกอาชีพนักบวช นักวิชาการ นักปกครอง และต้องดำเนินชีวิตและกอปรภารกิจโดยธรรม
ความเป็นมหาอัจฉริยะ
     หากอยากเป็นมหาอัจฉริยะ พึงเลือกอาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ครูอาจารย์ นักปฏิบัติการ รักและอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างยิ่ง
     ไอน์สไตน์อยู่อย่างธรรมชาติ ผมก็ไม่หวี จึงเข้าถึงกฏธรรมชาติ
     กาลิเลโอค้นพบว่าโลกกลมตอนอยู่ชายทะเล
     นิวตันพบแรงโน้มถ่วงตอนอยู่ใต้ต้นไม้
     เมเดลพบกฏแห่งพันธุกรรมตอนปลูกต้นถั่ว
     พาฟลอฟพบกฏแห่งการเรียนรู้ตอนเลี้ยงสุนัข
     ทั้งนี้ธรรมชาติมิใช่เฉพาะธรรมชาติดิบเท่านั้น ธรรมชาติของมนุษย์และสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์์ทั้งหมดก็มีให้ศึกษามากมายเช่นกัน
ความเป็นมหาบุรุษ อภิสตรี
หากอยากเป็นมหาบุรุษ อภิสตรี พึงเลือกอาชีพนักปกครอง
นักการเมือง หรือ NGO ผู้มุ่งหวังสร้างประโยชน์สุขแด่มหาชน
ความเป็นมหาเศรษฐี มหาเศรษฐีนี พึงเลือกอาชีพธุรกิจ การค้า อุตสาหกรรม ประดิษฐการที่สร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลกและแลกเปลี่ยนกันอย่างเป็นธรรม นำเสนออย่างน่าพึงพอใจ (สตี๊ป จ๊อป,บิล เกรท ,มาร์ก ผู้สร้างเฟคบุ๊ค เป็นต้น )
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2011, 13:09:09 »

ความเป็นซุปเปอร์สตาร์
     หากอยากเป้นซุปเปอร์สตาร์ พึงเลือกอาชีพดารา นักร้อง นักดนตรี สื่อมวลชน นักเขียนนิยาย นักวาด นักปั้น ที่มุ่งหวังสร้างความสุขให้แก่ผู้อื่น และจรรโลกชีวิตจิตใจให้บรรเจิดแจ่มใสยิ่งขึ้น
ความเป็นซุปเปอร์แชมป์     
     หากอยากเป็นซุปเปอร์แชมป์ พึงเลือกอาชีพนักกีฬาผู้มุ่งหวังพัฒนาศักยภาพสูงสุดของชีวิต และพิชิตสถิติโลกให้ได้
ความเป็นพ่อพระ แม่พระ
     หากอยากเป้นพ่อพระ แม่พระ พึงเลือกอาชีพเกาตรกรรม ครูหรืออาชีพอื่นใดก้ตามที่ทำให้ใจดี สันโดษ อดทน ยอม และเข้าใจคนอื่นได้เสมอ ทั้งเป้นคนรักครอบครัวและกรุณาผู้อื่นเสมือนครอบครัวตน
ความเป็นผู้เรียบง่าย
     หากอยากมีชีวิตที่เรียบง่าย ให้เน้นการอยู่กับธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการปรุงแต่งไร้ความจำเป็น
     ไม่ว่าจะเลือกอาชีพใดก้สามารถใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายได้ เพียงแต่ต้องเลือกอยุ่กับสาระเป็นสำคัญ
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2011, 13:32:21 »

แหล่งที่มา จากหนังสือ


* IMG_2951.jpg (48.21 KB, 400x575 - ดู 140 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Samon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 105


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2011, 19:59:36 »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี ที่นำมาแบ่งปันคะ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!