ภาษาไทย

[ละอ่อนโบราณ]

ขออนุญาตใช้ห้องนี้นะครับ

(เพิ่มข้อความ) คุณมีความคิดเห็นอย่างไร ที่มีบางคนใช้ภาษาไทยผิดๆ เช่นคำว่า "กาลครั้งหณึ่ง"
เห็นแปลกดีเลยเอามาให้ดู
คุณเห็นป้ายแล้วคิดว่าอย่างไรบ้าง ลองเข้าไปดูเว็บฯของเขา
ก็ใช้ทั้ง ณ ก็มี น ก็มี  



ขออนุญาตเอาภาพออกนะครับ

[Krubandoi]

เท่าที่ดูจากเวป ผมว่าเขาตั้งใจจะใช้  ณ นะครับ
แต่แถบเมนูข้าง ๆ คงพิมพ์ผิด

[conscious]

- เป็นภาษาวิบัติ ที่เริ่มเกิดขึ้นในปี 2553 ครับ


หลังจากที่ผม Search หาข้อมูลด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด ก่อนหน้าปี 2553 ยังไม่เคยเจอคำนี้เลยครับ

และก็ยังมีผู้ใช้คำว่า "หณึ่ง" แทนคำว่า "หนึ่ง" ซึ่งเป็นคำที่ถูกต้องกันอยู่อีกหลายราย


คนพวกนี้สงสัยจะไม่เคยอ่านวัตถุประสงค์ของวันภาษาไทยแห่งชาติ ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร?

ถ้าปากบอกว่ารักในหลวงของเราจริงๆ ก็คงจะไม่เกิดคำว่า "หณึ่ง" ขึ้นมาอย่างแน่นอนครับ

[conscious]

วัตถุประสงค์ในการจัดวันภาษาไทยแห่งชาติ มีดังต่อไปนี้


1. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์และนักภาษาไทย รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงแสดงความห่วงใย และพระราชทานแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย

2. เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

3. เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติ ให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุงส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ ให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป

4. เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการใช้ภาษาไทย ทั้งในวงวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งเพื่อยกมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาไทยในสถานศึกษาทุกระดับ ให้มีสัมฤทธิผลยิ่งขึ้น

5. เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐฯ และเอกชนทั่วประเทศ มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเผยแพร่ความรู้ภาษาไทยในรูปแบบต่างๆ ไปสู่สาธารณชน ทั้งในฐานะที่เป็นภาษาประจำชาติ และในฐานะที่เป็นภาษาเพื่อการสื่อสารของทุกคนในชาติ

[~KT 2 U~]

เขาใช้เป็น "ชื่อเฉพาะ" มั้งคะ ชื่อเฉพาะมักจะไม่มีความหมายฉะนั้นสถานที่นั้นก้ไม่มีความหมายนะสิ 

เดี่ยวนี้เวลาคุยเอ็มกับพวกรุ่นน้องนี่ปวดหัวจริงๆ
น้อง มันพิมพ์ ณ๊อง ไม่ก็ น๊อง
ค่ะ ► ค๊
นะ ► น๊
ฯลฯ

งงมากมาย 

[แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.]

ผ่านหลายเตื่อก่องงกุเตื่อ  บ่ฮู้จะถามไผ   

รอเคลียร์ตี้กระทู้นี้เลยละกั๋นเจ้า   

[ละอ่อนโบราณ]

เขาใช้เป็น "ชื่อเฉพาะ" มั้งคะ ชื่อเฉพาะมักจะไม่มีความหมายฉะนั้นสถานที่นั้นก้ไม่มีความหมายนะสิ  

เดี่ยวนี้เวลาคุยเอ็มกับพวกรุ่นน้องนี่ปวดหัวจริงๆ
น้อง มันพิมพ์ ณ๊อง ไม่ก็ น๊อง
ค่ะ ► ค๊
นะ ► น๊
ฯลฯ

งงมากมาย  

คิดว่าไม่ใช่เป็นชื่อเฉพาะแล้วล่ะ
ก่อนนั้นไม่รู้ว่ามีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ใช้ภาษาเขียนแบบนี้
จนได้มาอ่านความคิดเห็นของท่าน Conscious² แล้วไปค้นหาดูที่กูเกิ้ล
จึงพบว่ามีหลายคนที่ใช้แบบนี้ ในเฟสบุ๊คก็มี
บางคนศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ แต่ก็ใช้ภาษาวิบัติ
ก็รู้นะครับว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะเขียนอย่างไรก็ได้
แต่ถ้าหากไม่สนใจที่จะอนุรักษ์สิ่งดีๆของไทยเอาไว้ อีกหน่อยสมบัติชาติไทยจะมีอะไรเหลือ

[nundha]

เจ้าของคงอยากให้เป็นชื่อเฉพาะนะครับ แบบ
California = Kalifornia
Philippine = Filippin
ไม่เห็นมีใครจะเสียหายนี่

[ละอ่อนโบราณ]

เจ้าของคงอยากให้เป็นชื่อเฉพาะนะครับ แบบ
California = Kalifornia
Philippine = Filippin
ไม่เห็นมีใครจะเสียหายนี่

เคารพในความคิดเห็นของทุกท่านครับ
แต่เรื่องของการเขียนภาษาไทยนั้น
มองเผินๆไม่มีใครเสียหาย
แต่ถ้ามองให้กว้างหน่อยจะเห็นได้ว่าภาษาไทยซึ่งเป็นสมบัติประจำชาติ
กำลังวิบัติ ถ้าไม่ช่วยกันทักท้วง ติติง อีกหน่อยประเทศไทยคงจะกลายเป็น "ปะเทดไธ"

[conscious]

เจ้าของคงอยากให้เป็นชื่อเฉพาะนะครับ แบบ
California = Kalifornia
Philippine = Filippin

ไม่เห็นมีใครจะเสียหายนี่ <<<  ก็มันคิดกันแบบนี้นี่ไง ภาษามันถึงได้วิบัติ

 
 

- อันนั้นมันภาษาของประเทศอื่นครับ สำหรับผม เขาจะใช้อย่างไรก็เรื่องของเขาเถอะ เพราะผมเป็นคนไทยครับ และอาศัยอยู่ในประเทศไทย แผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองนอนของผม

ผมรักในหลวงครับ ยิ่งได้มาอ่านวัตถุประสงค์ของวันภาษาไทยแห่งชาติ ยิ่งซาบซึ้งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง  ถ้าคุณหรือใครยังไม่ซาบซึ้งก็ตามใจเถอะครับ บังเอิญว่ามันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายของไทยซะด้วย และตำรวจก็ไม่ได้จับ  เดี๋ยวผมจะ Copy วัตถุประสงค์ของการที่น่าจะใช้ภาษาไทยกันให้ถูกต้องมาให้อ่านอีกที

[conscious]

วัตถุประสงค์ในการจัดวันภาษาไทยแห่งชาติ มีดังต่อไปนี้


1. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์และนักภาษาไทย รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงแสดงความห่วงใย และพระราชทานแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย

2. เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

3. เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติ ให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุงส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ ให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป

4. เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการใช้ภาษาไทย ทั้งในวงวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งเพื่อยกมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาไทยในสถานศึกษาทุกระดับ ให้มีสัมฤทธิผลยิ่งขึ้น

5. เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐฯ และเอกชนทั่วประเทศ มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเผยแพร่ความรู้ภาษาไทยในรูปแบบต่างๆ ไปสู่สาธารณชน ทั้งในฐานะที่เป็นภาษาประจำชาติ และในฐานะที่เป็นภาษาเพื่อการสื่อสารของทุกคนในชาติ

[conscious]

- ถ้าใครยังจะมาค้านอีก  กลับไปนั่งนึกเอานะครับ อย่าบอกว่ารักในหลวงแต่ปาก


ตามนั้น!!!

[conscious]

- ถ้าใครยังจะมาค้านอีก  กลับไปนั่งนึกเอานะครับ อย่าบอกว่ารักในหลวงแต่ปาก


ตามนั้น!!!

อ่านแล้วไม่รู้จะเข้าใจไหมครับว่า "เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์และนักภาษาไทย

รวมถึงเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ" ของในหลวงของประเทศไทยเราน่ะ

[Krubandoi]

๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานและทรงอภิปรายเรื่อง “ ปัญหาการใช้คำไทย ” ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทรงแสดงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยห่วงใยในภาษาไทย จนเป็นที่ประทับใจผู้ร่วมประชุมครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า

    "เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้...สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่าๆที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก"


ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4

[conscious]

- ขอขอบคุณคุณครู ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอฝากไว้ร่วมด้วยช่วยกันอีกแรงเลยนะครับ  

[Krubandoi]

วิเคราะห์ได้เป็น 3 ข้อตามความเข้าใจของผมนะครับ

1. การออกเสียง หลายคนมีปัญหาในการออกเสียง ร ล  และคำควบกล้ำ  และการออกเสียงคล้าย ๆ กับภาษาอังกฤษ เช่นการออกเสียงเธอ /เทอ/ เป็น /เทชฺอ/ หรือออกเสียงตัวสะกดตัวสุดท้ายของคำด้วย (แบบภาษาอังกฤษ)
2. ความบริสุทธิ์ในวิธีใช้ เมื่อเอาไปประกอบ "ประโยค" ปัจจุบันนี้ (แม้กระทั่งครูภาษาไทยเอง) เรียงคำในประโยคเหมือนภาษาต่างประเทศจนเป็นนิสัยกันไปแล้วครับ เช่น แทนที่จะใช้ว่า เขาถูกโจรทำร้าย แต่กลับใช้ว่า เขาถูกทำร้ายโดยโจร
3. ข้อนี้แหละครับ ที่คำว่า "หณึ่ง" เข้าข่ายความผิดนี้ อิอิ แต่ส่วนตัวผมว่าถ้าตั้งใจให้เป็นชื่อเฉพาะอาจจะผิดแต่ก็พอเข้าใจครับ

ส่วน "ปีหณึ่ง" ที่เจ้าของกระทู้ยกตัวอย่างมา รับไม่ได้จริง ๆ ครับ เพราะเอามาใช้เป็นคำทั่วไปกันทีเดียว


ปล.1  ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรนะครับ แสดงความคิดเห็นตามที่ผมเข้าใจ ถ้ามีตรงไหนที่ไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ก็ขอน้อมรับฟังครับ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์และพัฒนาตนเองไปด้วยครับ
ปล.2 ขอบคุณท่าน Conscious²  ที่จุดประกายความคิดของผมให้กว้างขึ้นครับ

[conscious]

- ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่เก่งอะไรเลยครับ เพราะผมมีความคิดส่วนตัวที่ว่า ถ้าเราคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ก็เท่ากับว่าเราหยุดพัฒนาตัวเองไปแล้ว

เนื่องจากว่า ความรู้ในโลกของเรามีให้เรียนรู้ต่อไปได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่มีวันจบสิ้น มันอยู่ที่ว่า เราสนใจที่อยากจะเรียนรู้อะไรเท่านั้นเอง


ผมเจอมาเยอะแล้วครับ พวกที่มั่นใจในตัวเองอย่างสูงส่ง ถ้าไม่ยอมกัน เถียงกัน อย่างมากก็ต่อยปากกัน หรือไม่งั้นก็ต้องยิงกันตาย 555

[conscious]

- ขออนุญาต Copy กระทู้นี้ไปที่กระทู้ของผมที่อยู่ในห้องสังคมเชียงรายด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ  

[ละอ่อนโบราณ]

นี่คือเสน่ห์ของภาษาไทยครับ



เพลินชมป่า ดารดาษ
รุกขชาติ ดื่นดาษไป
โน่นพิกุล ยอดกุ้นต้อก้อ
แตกก้าน ต่อกอ
ระกะ กิ่งไกว
แก้วเกตุแกมกันกางกั้นโก่งกิ่ง
เกลื่อนกลาดลูกกลิ้ง
พันกิ่ง คานไก่
ลำเจียก ขจี ลิ้นจี่ ขจร
ลินจง ต้นจ้อน ขจรชื่นใจ
สะตือ สะตอ ติดต่อต้นเต็ง
ใบโตลูกเต่ง ต้นเต็งแข็งไต
ยางใหญ่ใบย่น กิ่งยอนลูกเยอะ
ยางยืดหยำเหยอะ
ลูกเยอะยางใหญ่
กระทิงเที่ยงท่อง
ว่าเมียท้องแล้วทิ้ง
ทุกข์แทนกระทิง ผัวทิ้งช้ำใจ
ละมั่งเดินเมี่ยง เข้าเคียงตัวเมีย
คลุกเคล้าคลอเคลีย
เหมือนเมียผัวใหม่
ฝูงแรดช้างร้อง
ตามล่องป่าร้าง
เจ้าแรดเหลียวหลัง
โดนลิงวิ่งไล่
สมันปนเม่น
มันเดินเล่นตามหมู่
โน่นหมีตามหมู เข้าหมู่กอไม้
โน่นช้างชนกัน
แย่งต้นอ้อยช้าง
พอแทงฉาด เลือดฉ่าง
ช้างดุพอใช้
จิ้งจอกเที่ยวจร ตามดอนป่าแจง
เรื่องใดไม่แจ้ง ร้องหอนจับใจ
นกยูงหางใหญ่
มันรำไม่ใคร่หยุดหย่อน
ขยักขย้อน บนยอดลำใย

นกเงือก ชะง่อนแบกหงอนชะโงก
ซบเซาเศร้าโศก สิ้นสุขสดใส
โน่นนกกาเหว่า มันบินผวา
มาเจอต้นหว้าที่หมายตา เอาไว้
ลูกหว้าร่วงวาย เสียดายลูกหว้า
กาเหว่าไม่มา ลูกหว้าไสว
กาเหว่าบินมา
ทำให้ลูกหว้าร่วงหมด
กาเหว่าต้องอด สลดหัวใจ
โลกนี้อนิจจัง อย่าหวังนึกแน่
ไม่เที่ยง ไม่แท้
ย่อมแปรเปลี่ยนไป
กาเหว่า อดหว้า
เสมือนดั่งข้า หมดหวัง
วิมานรักพัง
นะพลาดพลั้งเผลอไผล
ต้องใช้ธรรมะ ชำระบั่นรอน
ไม่ให้นิวรณ์ มากร่อมจิตใจ
เหมือนข้าวคอยเคียว
ไม่เกี่ยว หญิงใด
ไม่ขอช้ำใจ เช่น กาเหว่าเอย



ลานเทสะเทือน
คำร้อง-ทำนอง วัฒนา พรอนันต์

เสียงลมพัดตึง เคล้าคลึงยอดตอง
คิดถึงเนื้อทอง สาวลั่นทม เจ้าจากลานเท
ทมนั่งรถท่อง พอทั่วกรุงเทพฯก็ดีถมเถ
เพราะว่ากรุงเทพฯ- ลานเท นั่งเรือด่วนเที่ยว เดี๋ยวเดียวก็ถึง

เขียวเอ๋ยขาวเอย แล่นเลยทุกลำ
มิมีโฉมงามสาวแก้มนวล พี่สุดคะนึง
พ่อแม่ร้องไห้ ทมไม่คืนทุ่ง ป้าลุงถามถึง
หรือเพื่อนกรุงเทพฯคอยดึง ผู้คนคงทึ่งสาวทุ่งลานเท

จากวันเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนไปเป็นปี
ลั่นทมไม่มาซักที พวกพ้องน้องพี่ทุกคนสนเท่
รถเก๋งเพลงหวาน ตึกรามโอฬาร สวรรค์ทั้งเพ
สาธุเจ้าแม่ลานเท อย่าให้ลั่นทม อุ้มท้องคืนทุ่ง

เสียงเรือโครมครืน ทุกคืนพี่ตรม
คิดถึงลั่นทม โฉมบังอร โอ้หล่อนเพลินกรุง
เราทุ่มรักเก้อ เราเซ่อยอมก้ม ลั่นทมเขาสูง
ถึงกล้าไปเทียบคนกรุง พี่นอนสะดุ้ง เหมือนทุ่งสะเทือน

[blue dragon]

ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ
ถ้าภาษาไทยวิบัติ..ชาติจะเป็นอย่างไร....