supakorn kaewchan
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 804
|
 |
« เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2025, 06:37:53 » |
|
สวัสดีครับ วันอาสาฬหบูชา ปี 2568 ก็ครบรอบปีที่ 7 กึ่งหลังพระพุทธศาสนา ของพระสมณโคดมสัมพุทธเจ้า ซึ่งทรงดำรัสไว้ เมื่อถึงกึ่งศาสนาของท่าน ให้มีการเปลี่ยนผ่าน เป็นสีเสาหลัก อสูร มาร เทพ พรหม ค้ำยันกันคู่ศาสนา ในแดนสุวรรณภูมิ ในที่นี้ได้นำจิต วิญญาณของผู้ตกทุกข์ที่ถูกเลือก ให้ปลดปล่อย นำพวกเขาเริ่มสร้างกุศล บารมี ในสี่เสาหลัก เป็นฐานให้พวกเขาไปสู่กัปป์ที่ 5 ยุคพระศรีอาริยะเมตตรัย วันที่ 1 ก.พ 2561 ได้รับนิมิต ภาพวัดฉลองและขุมเหมืองแร่เก่า ก็เข้าใจได้เลยว่าให้ปลดปล่อยกลุ่มอั้งยี่ ที่ก่อการ ปี 2419 ด้วยเป็นบุพกรรมตรงของผมที่ผ้าขาวโพกหัว ก็ดูฤกษ์ยาม ของพวกเขา ตรงกับวันที่ 1 มี.ค 2561 ตรงกับวันมาฆบูชา วันสำคัญของพระพุทธเจ้า วันนี้เป็นวันฤกษ์ปฐพีซ้อนปฐพี ตั้งแต่ช่วยปลดปล่อยผ่านมาแล้ว 10 กลุ่ม ไม่มีกลุ่มไหนที่ฤกษ์ตรงกับวันสำคัญของพระพุทธเจ้า จึงขอย้อนไปสู่อดีตชาติของพวกเขา พวกเขามาจากภพภูมินาค สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้อาสามาช่วยรบกอบกู้บ้านเมือง ได้ร่วมขบวนอัญเชิญพระแก้วมรกต จากเวียงจันทร์ข้ามแม่น้ำโขงมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรี พวกเขาได้เกิดใหม่อีกครั้ง มาอยู่ที่เกาะภูเก็ต ทำเกี่ยวกับเหมืองแร่ ทำการไม่ควรก่อความไม่สงบ ดูแล้วเหมือนมีการกำหนดทางให้พวกเขาไว้แล้ว เมื่อถึงกึ่งพุทธศาสนา พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือ สร้างกุศล บารมี ไปสู่อีกยุคของภัทรกัปป์ ( ตามความเข้าในแต่แรก อั้งยี่คือกลุ่มคนไม่ดี ก่อความไม่สงบ ก่อความเดือร้อนแก่ผู้อื่น แต่กลุ่มนี้มีนัยยะอยู่ ) และในนิมิต โฟกัสไปอีกที่ คือ ซ.ธนูเทพ ก็ปรากฎภาพผู้หญิง 2 คน ตั้งอธิฐาน หน้าพระแก้วมรกต เมื่อตรวจดูผู้หญิงคนนี้ได้กลับชาติมาเกิด อาศัยอยู่ในซอยนี้ ผู้หญิงคนนี้อดีตเคยเป็นพระสนมของ ร.5 ได้ป่วยเกี่ยวกับธาตุลม เป็นลมอัมพาต เป็นอัมพฤก ได้รับการช่วยเหลือจากหลวงพ่อแช่ม จากวัดฉลอง เมื่อปี 2420 นางได้ตั้งอธิษฐานไว้ ภพชาติใดหากได้ช่วยเหลือหลวงพ่อแช่ม ขอให้นางได้เกิดในภพชาตินั้น ( ปัจจุบัน พี่ฝน ชื่อ รุ่งนภา จีนบางช้าง เป็น คน จ.อยุธยา ) ผมได้ส่งก๊าซมาที่บ้านคุณสายฝน ซึ่งอาศัยอยู่ที่ทางแยกสามแพร่ง ไม่ได้เจอพี่เขามาเกือบเดือนแล้ว นึกว่าพี่เขาไปกรุงเทพอยู่กับลูก เห็นเขาเดินออกจากบ้านเหมือนคนหมดแรง ร่างกายดูผอมลงมาก จึงสอบถามดู ว่าเป็นอะไร พี่เขาบอกไปนอนอยู่ ร.พ วชิระภูเก็ต มาสามสัปดาห์แล้ว ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆร่างกายก็เกิดอาการหมดเรี่ยวแรง กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ จะอาเจียรออก เอ็กซเรย์ไป 2 รอบแล้ว หมอวินิจฉัย ร่างกายไม่เป็นอะไร เดี๋ยวดี เดี๋ยวเป็น หมอก็บอกไม่ถูก ผมก็บอกพี่เขาไปว่าเขาไม่เป็นอะไร พี่ฝนเป็นอาการเกี่ยวกับธาตุลม เขาสำแดงอาการให้ผมรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือพี่ฝน แล้วปมก็เอายาให้พี่เขาไปสามหลอด กินแล้วจะหาย พี่ฝนก็ยังสงสัยกินแล้วจะหายจริงเหรอ นอนโรงพยาบาลมา สามสัปดาห์ ยังไม่ดีขึ้น ตอนเย็นผมผ่านไปร้านแก เห็นแกขายอาหารตามปกติ ดูเหมือนคนปกติ พี่ฝนก็ไม่อยากเชื่อกินแล้วหายจริงๆ จึงบอกพี่ฝน ผมขอให้ช่วยอะไรบางอย่าง วันมาฆบูชา ขอให้พี่ฝนไปทำอะไรบางอย่างที่วัดฉลอง ผมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ ให้พี่ฝนทำตามที่ผมเขียนไว้ในกระดาษ พี่ฝนก็รับปาก แล้วผมก็บอกกับดวงวิญญาณ อั้งยี่ทั้งหลาย หากพวกท่านประสงค์จะเริ่มสร้างกุศล บารมี ไปสู่ภพภูมิใหม่ ก็ขอให้ไปตามสถานที่ ที่กำหนดไว้ให้ ก็คือ ตำแหน่งไม้สามนาง เขาน้อย ซ.ตาเอียด ที่ปริศนาพระธุดงค์ ทิ้งไว้ให้ อ้อย ช้างคลาน ทองสามพาน อยู่กลางเขาน้อย ก็คิดหาวิธี ที่จะให้พวกเขาแสดงตนแบบโอปปาติกะยังงัย ขณะที่ทำการขนย้ายถังก๊าซ ก็เปิดยูทูป ทิ้งไว้ก็ต้องขอบคุณรายการเรื่องเล่าอาจารย์ยอด ได้เล่าเรื่องราวของฤาษีโสรส ที่หลวงปู่เทพโลกอุดร ให้ท่านวางข้าว 7 ปั้น เข้าใจแล้ว ว่าจะให้ผู้ตกทุกข์แสดงตนอย่างไร จึงกำหนดให้พวกเขาแสดงตน มาหยิบข้าว 7 ปั้นที่วางไว้ให้ และกำหนดให้พวกเขาไปอยู่ที่เสาเทพ ก่อนจะถึงกำหนดวัน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งไม่เคยรู้จัก เธอชื่อปอย มาจากกรุงเทพ อีกไม่กี่วันเขาจะเดินทางไป ฝรั่งเศส ไม่รู้เป็นอะไรเขาอยากมาภูเก็ตก่อน อยากมาเจอผม ผมดูแล้วเธอคืออดีตนางกำนัลพระสนม หนึ่งในผู้หญิงสองคนนั้น เธอก็เล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา สามีเธอทำธุระกิจเกี่ยวกับค้าแร่พลอย สามีเธอถูกอุ้มหายไป เธอและลูก ได้รับการช่วยเหลือจากลูกน้องสามี พาหนีจึงรอดชีวิตมาได้ เขาบอกว่าเขารู้สึกว่าสามีเขาได้ตายไปแล้ว ดวงวิญญาณเขายังห่วงใย ตามเธอยู่ จะช่วยเขายังงัย ไม่ต้องห่วงเธอและลูก ขอให้เขาไปสู่สุขคติ ผมก็บอกเข้าใจถูกแล้ว เขาตายแล้ว เขาเป็นห่วงจริง งั้นวันมาฆบูชา 1 มี.ค นี้ ให้ไปที่วัดฉลอง ไปอุทิศกุศล บารมีให้เขา ให้ทำตามที่เขียนบอก เขาจะไปภพภูมิใหม่กับผู้ตกทุกข์อีกจำนวนมาก เมื่อถึงวันที่ 1 มี.ค 2561 มาฆบูชา ผมก็ขึ้นเขาน้อย วางข้าวเหนียว 7 ปั้น ที่ ตำแหน่ง ทองสามพาน พี่ฝนกับน้องปอย ก็ไปวัดฉลอง ทำตามที่บอก เข้าสู่พิธีกรรม ดวงวิญญาณผู้ตกทุกข์ ก็กำเนิดจิต แบบโอปปาติกะ เป็นแสดงออกมา เขาเดินออกมาจากตำแหน่งที่ไม้สามนาง หยิบข้าวปั้น เป็นอันว่า ภาระกิจนี้ สำเร็จ ลุล่วง
|