ขั้นตอนการซื้อขายเปิดบัญชีซื้อขาย>>>วางเงินประกัน>>>ส่งคำสั่งซื้อขาย (มั่นใจทิศทางใช้ Futures ไม่มั่นใจทิศทางใช้ Options หรือซื้อประกัน) >>>ติดตามทิศทางราคาทุกสิ้นวันทำการ (ปิดสถานะเมื่อต้องการ หรือถือจนครบอายุสัญญา)
ทำไมต้อง Futures ....เปรียบเทียบระหว่าง Futures และ Stock .......Futures ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแต่ให้ผลตอบแทนมากกว่า.........ความเหมือนและแตกต่างของ Futures (SET50 Index Futures, Stock Futures , Gold Futures ) & Options ( SET50 Index Options , DW) 1.สินทรัพย์อ้างอิงเป็น
SET50 INDEX2.ตัวคูณดัชนี
Futures ตัวคูณดัชนีคือ 1,000 เช่น SET50 INDEX = 500 จุด แสดงว่ามูลค่าของสัญญาคือ 500 คูณ 1,000 = 500,000 บาท
ถ้า SET50 INDEX ปรับตัวขึ้นไปที่ 510 แสดงว่าผู้ซื้อ หรือ Long Futures ไว้ กำไร 510-500 = 10 จุด คูณ 1,000 บาท จะมีกำไร 10,000 บาท ขณะที่ผู้ขายหรือ Short Futures ขาดทุน 10,000 บาท
Options ตัวคูณดัชนีคือ 200 ดังนั้นถ้า SET50 INDEX อยู่ที่ 500 จุด มูลค่าของสัญญาจะเท่ากับ 500 คูณ 200 = 100,000 บาท
3.เดือนที่สิ้นสุดอายุสัญญา มี 4 ชุดเหมือนกัน H (MARCH) M (JUNE) U (SEPTEMBER) Z (DECEMBER)
ตัวอย่างFutures เช่น S50 H10 หมายถึง SET50 ที่หมดอายุเดือนมีนาคมหรือ MARCH (H) ในปี 2010
4.ลักษณะของสัญญา
Futures คู่สัญญาคือทั้งฝ่ายซื้อ (Long) และฝ่ายขาย (Short) ซึ่งมีพันธะผูกพันซึ่งกันและกัน
Options จะมีผู้ซื้อสิทธิ (Long) และผู้ขายสิทธิ (Short) โดยผู้ซื้อมีสิทธิที่จะซื้อ (Call Option) หรือมีสิทธิที่จะขาย (Put Option) และผู้ซื้อเป็นฝ่ายที่สามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ ส่วนผู้ขายสิทธิ (Short) มีพันธะผูกพันต้องปฏิบัติตามสัญญา เนื่อง่จากได้รับผลตอบแทนในตอนแรกเป็น premium ตั้งแต่ต้น
สิทธิของผู้ซื้อ (Long) จะสิ้นสุดเมื่อ1.มีการใช้สิทธิตามสัญญา หรือ
2.ออปชันหมดอายุโดยไม่ใช้สิทธิ หรือ
3.ผู้ซื้อทำการขายสิทธิ
ภาระผูกพันของผู้ขาย (Short) จะสิ้นสุดเมื่อ1.มีการปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาออปชัน หรือ
2.ออปชันหมดอายุโดยไม่ถูกใช้สิทธิ หรือ
3.ผู้ขายทำการซื้อสิทธิ
ตัวอย่างเช่นถ้าเป็น Call Options (C)S50 H08 C490 ถือสิทธิขายในราคาต่ำกว่าราคาตลาด แบบนี้เรียกว่า ITM (In The Money) สถานะที่ได้ประโยชน์
S50 H08 C500 ถือสิทธิขายในราคาเท่าราคาตลาด แบบนี้เรียกว่า ATM (At The Money) สถานะที่ไม่ได้ประโยชน์
S50 H08 C510 ถือสิทธิขายในราคาสูงกว่าราคาตลาด แบบนี้เรียกว่า OTM ( Out The Money) สถานะที่เสียประโยชน์
ตัวอย่างเช่นถ้าเป็น Put Option (P)S50 H08 P510 ถือสิทธิซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด แบบนี้เรียกว่า ITM (In The Money) สถานะที่ได้ประโยชน์
S50 H08 P500 ถือสิทธิซื้อในราคาที่เท่าราคาตลาด แบบนี้เรียกว่า ATM (At The Money) สถานะที่ไม่ได้ประโยชน์
S50 H08 P490 ถือสิทธิซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด แบบนี้เรียกว่า OTM ( Out The Money) สถานะที่เสียประโยชน์
กลยุทธ์การซื้อขาย1.Direction Trade (outright) มั่นใจในทิศทาง
มั่นใจว่าขึ้น Long Futures
มั่นใจว่าลง Short Futures
2.Relative Trade (combination) ไม่มั่นใจในทิศทาง
Basis Trade...ส่วนต่างระหว่าง Futures กับราคาสินค้าอ้างอิง
Intra-Commodity Spread Trade...จากวันเวลาที่เหลื่อมล้ำ
Inter-Commodity Spread Trade...จากความสัมพันธ์ Long correlation & Short correlation
และแล้วก็คงหมดแค่นี้ครับ แบบว่าเป็นน้ำจิ้ม เพราะขืนพิมพ์ต่อไปผมคงเป็นลมพอดี มันมีอะไรตั้งมากมายให้อ่านให้ศึกษา ใครสนใจการลงทุนแนวนี้ก็ค้นคว้าศึกษาเองได้ ลองดูอันนี้ก็ได้ http://www.kimeng.co.th/images/PDA/SET50Futures_01.pdfใครมีความรู้หรือเคยลงทุนแบบนี้ เชิญเข้ามาโพสแบ่งปันความรู้ให้เพื่อนๆที่สนใจไม่ว่าหน้าเก่าหน้าใหม่ได้เลยครับ จะเป็นพระคุณยิ่ง มันมีวันเวลาเงื่อนไขต่างๆ ค่อนข้างต้องทำความเข้าใจ ถ้ามีเพื่อนๆที่มีประสบการณ์มาแบ่งปันความรู้ ก็ทำให้ผมและหลายๆท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้นและมีทางเลือกในการลงทุนอีกทางหนึ่งนอกจาก การซื้อขายหุ้นตามปกติทั่วไป ไงก็เชิญญญญนะคร้าบบบ