เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 เมษายน 2024, 02:49:27
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  เตรียมการสู่การเปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล สืบอายุขัย พระพุทธศาสนา ( part 4 )
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เตรียมการสู่การเปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล สืบอายุขัย พระพุทธศาสนา ( part 4 )  (อ่าน 3088 ครั้ง)
supakorn kaewchan
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 786


« เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2023, 23:20:34 »

สวัสดีพุทธบริษัท
     บอกเล่าถึงความเป็นสถานที่ ที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมการ เปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล บางครั้งสถานที่ ที่เราเคยเห็น เคยสัมผัส เราก็จะเข้าใจว่าสร้างถวายเป็นพุทธบูชา แต่เมื่อได้มาทำภาระกิจนี้ ต้องเข้าไปสู่สัตยาอธิษฐานของสิ่งนั้นไม่ว่าจะเห็นด้วยตาเนื้อ หรือ นิมิต หรือ คนที่ส่งมาช่วย ตามไปถึงอดีตชาติ มีบุพกรรม กันมาอย่างไร จะเริ่มต้นแต่อดีตถึงปัจจุบัน
     1. รอยพระพุทธบาทนัมทานที เกาะแก้ว ภูเก็ต แต่อดีตเมื่อ 2,600 กว่าปี ที่พระพุทธเจ้าเสด็จทางเรือมายังสุวรรณภูมิเพื่อเผยแผ่ศาสนาของท่าน พระองค์ทรงรับรู้ล่วงหน้าว่าศาสนาของพระองค์ ที่แคว้นมคต แดนชมพูทวีป จะเสื่อมสลายลง แต่จะมาเฟื่องฟูที่แดนสุวรรณภูมิ เมื่อแบ่งเป็นสี่ส่วน จะเสื่อมลงไปสามส่วน จึงทรงดำรัสไว้เมื่อถึงกึ่งศาสนาของท่าน ให้เปลี่ยนผ่านเป็นสี่เสาหลัก อสูร มาร เทพ พรหม ค้ำยันพระสัมมาโพธิญาณ ในแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้ จนครบวาระ 5,000 ปี เหล่าพญานาค ขอเป็นผู้สร้างบารมีนี้ พระพุทธองค์ก็มอบหมายให้ และพระพุทธองค์ทรงมอบใบโพธิ์หนึ่งใบ แด่ท้าวสักกะเทวราช เมื่อถึงกึ่งศาสนาของท่าน ขอให้มอบใบโพธิ์นี้แก่ผู้ที่จะทำหน้าที่ช่วยสืบอายุขัยพุทธศาสนา
       2. พระแก้วมรกต และ พระบรมสารริกธาตุ ถ้านับย้อนอดีตไป จะประมาณปี พ.ศ 325 พระนาคเสน และพระมหาธรรม หรือพระเจ้าเมนันเดอร์ ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันเพ็ญ อาสาฬหบูชา ในการส่งพระแก้วมรกต เข้าผจญภัยในแดนสุวรรณภูมิ เมื่อถึงกึ่งพระพุทธศาสนา ประดิษฐาน สถานที่แห่งใด ให้ยึดถือตำแหน่งนั้น เป็นศูนย์กลางธรรมจักร สี่เสาหลัก ของกึ่งพุทธกาลหลัง
        3. พระธาตุดอยตุง เป็นการแจ้งตำแหน่ง ผู้ที่จะมาช่วยสืบอายุขัยพระพุทธศาสนา จะอยู่ในเขตแดนแห่งนี้เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล ( เมื่อครั้งประเทศ ใช้นามว่า สยาม ก็มีพระอริสงฆ์ทรงอภิญญา เจ้าคุณธรรมเทพ หรือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านแจ้งลักษณะของผู้ที่ จะช่วยสืบอายุขัยพระพุทธศาสนา ว่า เป็นชาย เกิดเดือนอ้าย ปี พ.ศ 2514 นักษัตรกุน มีแผลเป็นอยู่ที่คาง อยู่ทิศอุดรของสยาม )
      4. พระพุทธชินราช พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก กษัตริย์เมืองเชียงแสน พระองค์ทรงทำสัตยาอธิฐาน เพิ่มจากพระแก้วมรกต จาก 7 เพิ่มเป็น 9 คือ ให้พระพุทธชินราชเป็นสัญญาณพุทธนิมิต เมื่อถึงกึ่งพุทธกาลแก่ผู้ทำหน้าที่ช่วยสืบอายุขัยพระพุทธศาสนา และให้ทำสี่เสาหลัก ตามนิ้วพระหัตขวา ( ชีปะขาว นั้นคือ ท้าวสักกะเทวะราช )
     5. รอยพระพุทธบาทเขาสุวรรณบรรพต ( สระบุรี ) ให้เป็นกุศลบารมีแก่กษัตริย์ ที่รอยนี้ปรากฎเป็นสัญลักษณ์ เป็นวันนับเริ่มต้นของกึ่งพุทธกาลหลัง ซึ่งก็ตรงกับ วันที่ 28 ก.ค 2561 ตรงกับวันพระราชสมภพ องค์รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ( ย้อนอดีตชาติ พระองค์สู่อดีต รัชกาลที่ 10 > พระเจ้าทรงธรรม กรุงศรีอโยธยา > พระเจ้าอโศกมหาราช แคว้นมคต ชมพูทวีป สร้างเสาอโศก และ สังฆทูติ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา )
     6. พระปฐมเจดีย์ เหรียญเงิน ศรีทวารวดีศวรปุณญะ เป็นสัญลักษณ์ ของทวารวดี  ที่เหลือให้ตามหา ด้วยพระบารมีขององค์รัชกาลที่ 4 ที่ทรงบูรณะ ให้องค์เจดีย์เป็นเด่นสง่า ด้วยบุญบารมีที่พุทธบริษัทมีให้ ทำให้ติดตามช่วยเหลือผู้คนในยุคนั้น ที่เจอวิบากกรรมอย่างหนัก ในโลกวิญญาณ ที่สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า เมื่อ 900 กว่าปีที่ผ่านมา ( พระปฐมเจดีย์ ทำพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 6 เม.ย พ.ศ 1168 โดยพราหมณ์ สิทธิชัย แต่เดิมประเพณีเขานับถือในพิธีกรรมช้างเผือก เรียกว่า พฤฒิบาศก์ ได้เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา )
       7. กรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยพระบารมีองค์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ทรงเลือกตำแหน่ง ตามที่เทพไทยทองและเหล่าเทพ กำหนดไว้ ทรงเลือกฤกษ์สถาปนาราชวงศ์จักรี เอาวันที่ 6 เม.ย 2325 ชึ่งเป็นประตูเข้าไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์แห่งทวารวดี ,  ทรงเลือกเอาวันอาทิตย์ ที่ 21 เม.ย 2325 เวลา 6.45 น. เป็นวันสถาปนา กรุงรัตนโกสินทร์ ถ้าให้นับตามดวงเมือง รอบนี้เข้าสู่ฤกษ์มฤตยูจร 7 ปี ตั้งแต่ มิ.ย 2559 - ก.ค 2565 เป็นฤกษ์ แห่งมิติกาลเวลาเปิด ภพภูมิ เชื่อมต่อกัน ตำแหน่งอยู่ที่เกาะภูเก็ต  สัญลักษณ์ ฤกษ์ยาม เป็นดังนี้
   - ฤกษ์ มฤตยูจร มีเหตุการณ์ดังนี้ เปลี่ยนผ่านองค์พระมหากษัตริย์ จากรัชกาลที่ 9 สู่รัชกาลที่ 10 , เปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล พุทธศาสนา , เปลี่ยนผ่านดวงวิญญาณผู้ตกทุกข์ อยู่ในสภาวะหาที่เกิดไม่ได้ สู่การกำเนิดแบบโอปปาติกะ สู่การสร้างกุศลบารมี สี่เสาหลัก ค้ำยันพระสัมมาโพธิญาณ
   - สัญลักษณ์ จักร ใช้ตัดกรรมแก่ดวงวิญญาณผู้ตกทุกข์
   - ตรีศูล ความหมาย ทำลายสิ่งชั่วร้าย คงอยู่สิ่งที่ดี และ เริ่มต้นสิ่งใหม่ที่ดีกว่า เมื่ออดีตแก้ไขดังเดิมไม่ได้ ก็เลยนำผู้ตกทุกข์ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
    - ความหมายของเสาหลักเมือง ฝังลงดิน 79 นิ้ว หมายถึง แจ้งทำภาระ 7 อย่างในสมัยรัชกาลที่ 9 , ให้อุทิศกุศล บารมี แด่เทพไทยทองและเหล่าเทพ หรือ ที่เราเรียกกันว่า พระสยามเทวาธิราช  ( ตามชื่อ ไทย เริ่มเปลี่ยนจนสิ้นสุดปี เปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล พ.ศ 2482 - 2561 = 79 ปีและ เสาเหนือพื้นดิน 108 นิ้ว หมายถึง พรบารมี 108 ทำเป็นจักร ตัดกรรมแก่ผู้ตกทุกข์ , กำหนด 108 วัน ให้ทำภาะกิจเริ่มต้นจนจบ 7 อย่าง ก่อนองค์รัชกาลที่ 9 จะสวรรคต 1 ก.ค 2559 - 16 ต.ค 2559 ( อ่านตามสาร์นที่แจ้งมา )
     - งู 4 ตัว ที่ลงไปในหลุมของเสาหลักเมือง คือสัญลักษณ์ของนาคสี่เหล่าเขาสร้างบารมี ช่วยสืบอายุขัยพระพุทธศาสนา เมื่อถึงกึ่งพุทธกาลตามที่ได้รับมอบหมายจากพระพุทธเจ้า พวกเขามาตามสัตยาอธิษฐาน ในพระแก้วมรกต
      8. พระบรมสารีริกธาตุ ในเจดีย์จอมไทยบารมีประกาศ วัดฉลอง ที่ได้รับมาจากวัดสัมโพธิหาร ศรีลังกา เนื่องในวาระครบรอบ 72 พระชนมพรรษา รัชกาลที่ 9 ด้วยเป็นไปตามสัตยาอธิษฐาน ที่ทำไว้ร่วมกับพระแก้วมรกต พระบรมสารีริกธาตุนี้ เป็นสัญลักษณ์ ประเพณีของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระโพธิสัตว์ที่จะบรรลุธรรม ในยุคหน้า ศรีอาริยะเมตตรัย มาเยือน กึ่งศาสนาของพระพุทธเจ้าปัจจุบัน ผู้มาเยือนนามว่า นารท หรือ พระนารทสัมพุทธเจ้า ในยุคหน้า ( เพื่อเป็นเกียรติ บารมี แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์มาในฐานะผู้กอบกู้ไล่ตามอดีตชาติ ปัจจุบันสู่อดีต รัชกาลที่ 9 กรุงรัตนโกสินทร์ > พระเจ้าตากสินมหาราช กรุงธนบุนี > พระนเรศวรมหาราช กรุงอโยธยา > พระเจ้าเมนันเดอร์ มหาราช แคว้นสาคละ )
 ( ดวงจิตดั่งเปลวเทียน สิ้นไส้และไขเทียน ไปจุดติดแท่งใหม่ ก็ยังเรียกว่า เปลวเทียน)
      9. พระใหญ่เขานาคเกิด สร้างถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้า และ ถวายศักการะแด่ท้าวสักกะเทวะราช เป็นสถานที่ ประทานพรให้ และ ส่งสาร์นแจ้งให้ทำภาระกิจช่วยเหลือดวงวิญญาณผู้ตกทุกข์แต่ละกลุ่ม ตามฤกษ์ยามที่แจ้ง
     10.วัดและสำนักสงฆ์ในเกาะภูเก็ต กระจายทำสัตยาอธิษฐาน แก่เหล่าโอปปาติกะ เข้าสู่ธรรมจักรสี่เสาหลัก ตามสัญลักษณ์ ที่แจ้งมา ได้แก่ สำนักสงฆ์เกาะแก้ว วัดพระใหญ่เขานาคเกิด วัดฉลอง วัดเกาะสิเหร่ วัดเขารัง วัดหลวงปู่สุภา วัดพระนางสร้าง สำนักสงฆ์แหลมพรหมเทพ วัดหาดในหาร
     สุดท้ายนี้ก็ขอกราบขอบพระคุณพระสงฆ์หลายท่านที่ช่วยเหลือ เช่น
    หลวงปู่บุญพิน กตปุญโย สำนักสงฆ์ดอยเทพนิมิติ ที่แสดงปาฏิหาร พญานาคให้เมื่อวันที่ 28 ก.ค 2560 ในการขอใช้สถานที่ แก้บุพกรรม พระเจ้าชัยวรมันกับ นางโสมา สีวิกา นาคีเทวี และ พญาเกล็ดแก้วเพชรภัทรนาคราชกับอัญญารินธสินี
     หลวงพ่อเสือ เกาะแก้ว ท่านมรณะภาพเมื่อสิ้นสุดภาระกิจ ท่านมาอยู่ที่นี่ตามสัจจะ ที่ให้ไว้กับพระพุทธเจ้า เมื่อถึงกึ่งพุทธศาสนา ท่านจะมาช่วยเหลือ ท่านช่วยชี้แนะ ว่าผมแก้บุพกรรมไม่หมด เหลืออีกหนึ่ง ซึ่งอยู่ในครรภ์อัญญารินทร์ธสินี โดยทำสัญลักษณ์ปั้นนาคเกี้ยว และพระวิษณุ ไว้หลังกุฏิท่านตอนที่สนทนากัน ท่านพูดเหมือนสั่งลา เมื่อผมมาที่นี่ ก็ใกล้ถึงเวลาที่ท่านจะต้องไป ชวนสงสัยก็เลย
ตามอดีตท่านรอยพระพุทธบาท ที่อยู่อย่างสงบเงียบ กว่า 2,600 ปี แล้วพญานัมทานาคราช นิมนต์ท่านมาที่นี่เป็นมาอย่างไร รอยพระพุทธบาทที่เกี่ยวข้องกับภาระกิจ มี สองที่ เกาะแก้ว กับ สระบุรี ไล่นามปัจจุบันสู่อดีต หลวงพ่อเสือ > พระราชมุณี สามีราม ที่เราเรียกกันว่าหลวงปู่ทวด > พระปุณณะ )
     พระครูจันทร สำนักสงฆ์ป่าเทพทาโร ที่ท่านหล่อพระทองคำครบรอบการบวช 19 พรรษา มีแจ้งมาในนิมิต ให้หล่อพระพุทธรูปทองคำ ทดแทนทองไม่เต็มในการหล่อพระพุทธชินราช ทั้งสองครั้ง ให้หาตำแหน่ง ช่วยเหลือญานนาคราชทั้งเก้าของพญาเพชรภัทร ตามเสด็จพระโพธิสัตว์นารท ก็มาเจอสถานที่นี้
      พระอาจารย์ เฉลิมโชค ฉันทะชาโต วัดป่ากล้วย อุตรดิตถ์ ที่ใบ้เรียกคุณเมธินี ว่า สุริโยทัยมาแล้ว และยับยั้งคุณเมธินี ไม่ให้เปลี่ยนชื่อ เมื่อปี พ.ศ 2555ให้เปลี่ยนชื่อ วันที่ 11 ต.ค 2559 ซึ่งเป็นฤกษ์ยามที่ต้องช่วยเหลือดวงวิญญาณสมเด็จพระสุริโยทัย ดวงวิญญาณท่านแยกกันตามอาคมของพระแสงของ้าว
ส่วนพระเศียร คุณเมธินี ทองนวม เป็นผู้รักษา มุ่งทำบุญ สร้างกุศลบารมี
ส่วนพระวรกาย คุณพรรณมัย ( ป้าวิ ) บ้านโคกตะโหนด ต.ฉลอง เป็นผู้ครอง ชีวิตเจอแต่ความลำบาก จากที่มีฐานะ เมื่ออายุได้สามสิบกว่าปี ตามอายุพระสุริโยทัย สวรรคต ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงตามฤทธิ์อาคม ยามดวงอาทิตย์ขึ้น ร่างกายจะอ่อนแรงลง ไม่ว่าจะไปอยู่แห่งใดก็เป็นเหมือนเดิม ต้องอยู่แต่ในที่มืด และร่างกายจะกลับมาปกติเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
    ครูบาอริยะชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย เชียงราย ที่แนะนำลูกศิษย์ท่าน คุณสุดา คน จ.มหาสารคาม อดีตชาติเขามาจาก ทวารวดี เป็นคนเดียวที่รอดชีวิตที่สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า เมื่อ 900 กว่าปีก่อน ให้ไปช่วยเหลือผู้คนที่ล้มตาย ที่เห็นในนิมิต ด้วยเป็นกรรมที่ร่วมกันมา
      ฌาน อภิญญา พระอริสงฆ์ที่ล่วงลับ เช่น หลวงปู่เทพโลกอุดร , หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล , สมเด็จพระพุฒาจารย์โต , หลวงปู่มั่น , ครูบาศรีวิชัย , หลวงปู่ดู่ , หลวงปู่แหวน , ครูบาอ้วน วัดดงมะดะ , หลวงพ่อฤาษีลิงดำ , หลวงพ่อเกษม เขมโก , หลวงปู่สุภา ,ฤาษีภุชงค์ , ฤาษีเทพสามตา  เป็นต้น ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอท่านเหล่านี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 กรกฎาคม 2023, 15:23:28 โดย supakorn kaewchan » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!