เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2025, 20:29:12
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  อยู่อย่างไรในออสเตรเลีย ตอน1
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน อยู่อย่างไรในออสเตรเลีย ตอน1  (อ่าน 5324 ครั้ง)
inAus
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 08:18:04 »

ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศ ที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม แห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ทางซีกโลกใต้ระหว่าง มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยพื้นที่ขนาดกว่า 7 ล้านตารางกิโลเมตร จึงทำให้ออสเตรเลียได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย

Australian Capital Territory มณฑลนครหลวงของออสเตรเลีย แคนเบอร์ร่า
(Canberra) คือเมืองหลวงของประเทศ เป็นศูนย์กลางการปกครอง ลักษณะตัวเมือง
ทันสมัย เพราะมีการวางผังเมืองอย่างดีเยี่ยม เป็นที่ตั้งขององค์กรระดับชาติ และหน่วย
งานสถานทูตของประเทศต่างๆ รวมทั้งสถานทูตไทย

New South Wales นิวเซาท์เวลส์ เมืองหลวงชื่อซิดนีย์ (Sydney) รัฐนี้มี
ประชากรหนาแน่นมากที่สุด มีชาวไทยและนักศึกษาไทยมากที่สุดด้วย เป็นรัฐ
ที่พัฒนาทางอุตสาหกรรมมากที่สุดในออสเตรเลีย ซิดนีย์เป็นเมืองที่คึกคัก มีสีสัน
มีชีวิตชีวา สัญลักษณ์ของเมืองคือโอเปร่าเฮาส์ (Opera House) และสะพานข้าม
อ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour Bridge)

Northern Territory มณฑลตอนเหนือ มีเมืองดาร์วิน (Darwin) เป็น
เมืองหลวง เนื้อที่ส่วนใหญ่จะแห้งแล้ง มีพื้นที่เกษตรกรรมเพียง 10% ภูมิอากาศ
ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่เป็นแหล่งผลิตเหล้าไวน์ชั้นเยี่ยม
Queensland ควีนส์แลนด์ เป็นรัฐใหญ่อันดับสอง มีเมืองหลวงคือบริสเบน
(Brisbane) รัฐนี้ได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่มีแสงแดด (Sunshine State) มีแนวประการัง
ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกชื่อ Great Barrier Reefs
มีป่าดงดิบและป่าชื้นเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์

South Australia เซาท์ออสเตรเลีย เมืองหลวงชื่อ อะดิเลด (Adelaide)
ครั้งหนึ่งเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งเทศกาล" เนื้อที่ส่วนใหญ่แห้งแล้งมีพื้นที่
เกษตรกรรมเพียง 10% ภูมิอากาศไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่เป็นแหล่ง
ผลิตเหล้าไวน์ชั้นเยี่ยม

Tasmania ทัสมาเนีย เมืองหลวงคือโฮบาร์ต (Hobart) ทัสมาเนียเป็นรัฐ
ที่เล็กที่สุด ลักษณะเป็นเกาะ ตั้งอยู่ห่างจากรัฐวิคตอเรียแผ่นดินใหญ่ประมาณ
240 กิโลเมตร มีอากาศหนาวที่สุด สภาพภูมิประเทศเป็นหุบเขาและที่ราบสูง
 ทิวทัศน์สวยงามยิ่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของ
ออสเตรเลีย เป็นเมืองสงบ ค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนถูก เป็นที่ตั้งของ
มหาวิทยาลัยทัสมาเนีย (University of Tasmania)

Western Australia เวสเทอร์นออสเตรเลีย เมืองหลวงคือเพิร์ธ (Perth)
เป็นรัฐที่มีพื้นที่มากที่สุด อุดมสมบูรณ์ด้วยเหมืองแร่ และแร่ทองคำ มีชายฝั่ง
ทะเลยาวถึง 12,500 กิโลเมตร อาชีพสำคัญของประชากรคือการทำประมง
และทำเหมืองแร่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเพชรได้มากเป็นอันดับสามของโลก
เพิร์ธเป็นเมืองที่สะอาด สวยงามและอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ใช้เวลา
เดินทางแค่ 6 ชั่วโมงครึ่ง มีเวลาต่างกับประเทศไทยเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

Victoria วิคตอเรีย รัฐนี้ได้ชื่อว่า Garden State เนื่องจากมีสวนสาธารณะ
มากกว่ารัฐอื่น เมืองหลวงคือเมลเบิร์น เป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองและ
เป็นเมืองที่นักศึกษาไทยไปศึกษามากเป็นอันดับสองไทย







IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 08:35:52 »

ผมจะเกริ่นถึงเรื่องทั่วไปในออสเตรเลีย ต่อจากนั้นจะอารัมบทไปถึีงการใช้ชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยวและการทำงานในออสเตรเลีย ที่ผมเดินทางมากกกว่า 10000 กิโลเมตรต่อปี

การศึกษาของคนไทยในออสเตรเลีย

นักเรียนนักศึกษาในออสเตรเลีย  จะได้รับมาตรฐานการครองชีพที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  โดยทั่วไปแล้วนักศึกษาต่างชาติจะมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าเล่าเรียนประมาณ 300  ถึง  400  ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อสัปดาห์ (ค่าเงินไทยประมาณ 30 บาทต่อ $1) ซึ่งรวมค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายปลีกย่อยอื่นๆ  ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล  ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของเมือง ประเภทและลักษณะของที่พัก  และลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล

นักศึกษาต่างชาติในออสเตรเลียที่ถือวีซ่านักเรียนสามารถยื่นใบอนุญาตทำงานได้ โดยอนุญาตให้นักศึกษาทำงานได้สูงสุดถึง 20 ชั่งโมงต่อสัปดาห์ ในระหว่างภาคการศึกษา  และสามารถทำเต็มเวลาได้ในระหว่างภาคศึกษา

ค่าใช้จ่ายแต่ละหลักสูตร
ค่าใช้จ่ายของแต่ละหลักสูตรแตกต่างกันไป ซึ่งมีหลายๆปัจจัย เช่น เมือง สถาบัน หลักสูตร ระยะเวลา เป็นต้น

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายของแต่ละหลักสูตร:
          หลักสูตรเรียนภาษา (general English)   $150 - $350 ต่อสัปดาห์
          หลักสูตรวิทยาลัย/วิชาชีพ  $3000 - $12000 ต่อปี
          หลักสูตรปริญญาตรี        $8000 - $16000 ต่อปี
          หลักสูตรปริญญาโทและเอก   $12000 - $18000 ต่อปี
 
การเรียนภาษาอังกฤษ
ที่ประเทศออสเตรเลีย มีสถาบันสอนภาษาอังกฤษคุณภาพดีและราคาไม่แพงทั้งของรัฐบาลและเอกชนกว่า 100 แห่ง ซึ่งสถาบันเหล่านี้ใช้สื่อการเรียนการสอนคุณภาพดี มีทั้งห้องสมุดและเอกสารประกอบการสอนอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อน้องๆ อีกมากมาย การเรียนภาษา น้องไม่จำเป็นต้องมีผลคะแนนภาษามาก่อน ซึ่งน้องๆ เพียงแค่ทำข้อสอบวัดระดับและสามารถเข้าเรียนตามระดับภาษาของน้องๆได้ทันที ระยะเวลาการเรียนก็ค่อนข้างยืดหยุ่นทำให้น้องๆสามารถลงทะเบียนเรียนภาษาควบคู่กับหลักสูตรต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

หลักสูตรพัฒนาภาษาอังกฤษมีมากมาย เช่น
-หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษทั่วไป (General English) ซึ่งเน้นด้านการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
-หลักสูตรภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (English for Academic Purposes:EAP) ซึ่งเน้นการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อหลักสูตรประกาศนียบัตร มหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยของรัฐบาล (TAFE)
-หลักสูตรเตรียมสอบ เช่น Cambridge, TOEFL หรือ IELTS
-หลักสูตร Study Tour ซึ่งเป็นการเรียนภาษาอังกฤษและท่องเที่ยวไปด้วย

-หลักสูตรอื่นๆ
น้องๆที่ไม่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษมาก่อน จำเป็นต้องสอบวัดระดับไม่ว่าน้องๆ จะเลือกเรียนต่อด้านใดก็ตาม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อสอบจะวัดความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ผลคะแนนที่สามารถใช้สมัครเรียนต่อใช้ได้ทั้ง TOEFL และ IELTS แต่สำหรับประเทศออสเตรเลียแล้ว ผลสอบ IELTS จะได้รับการยอมรับมากกว่า TOEFL 
ระดับผลคะแนนภาษาอังกฤษคร่าวๆ ที่น้องๆสามารถยื่นสมัครได้:
ระดับมัธยมปลาย (High School)       TOEFL (paper-based) 500-550 คะแนน หรือ IELTS 5.0-6.0
ระดับประกาศนียบัตร (Certificate)    TOEFL (paper-based) 500-550 คะแนน หรือ IELTS 5.0-6.0
ระดับอนุปริญญา (Diploma)            TOEFL (paper-based) 500-550 คะแนน หรือ IELTS 5.0-6.0
ระดับปริญญาตรี (Undergraduate    TOEFL (paper-based) 550-600 คะแนน หรือ IELTS 6.0-7.0
ระดับปริญญาโทและเอก (Postgraduate)  TOEFL (paper-based) 550-600 คะแนน หรือ IELTS 6.0-7.0
 


IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 08:51:09 »

หลักฐานประกอบการยื่นขอวีซ่านักเรียน

กรอกใบสมัครหมายเลข 157A ให้ครบถ้วน
หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
รูปถ่ายขนาด 1 – 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป สวยๆ หล่อๆ เลย
เอกสารการศึกษาต้นฉบับพร้อมสำเนา ซึ่งรวมถึงประกาศนียบัตรการเข้าอบรม วิชาต่างๆ และ Transcript ในระดับอุดมศึกษา เจ้าหน้าที่จะคืนเอกสารต้นฉบับให้กับน้องๆ หลังจากที่ทำการ รับรองสำเนาเรียบร้อยแล้วครับ
Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และในกรณีน้องๆ ให้ญาติเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน จะต้องแสดงเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ด้วยนะครับ
สำเนาทะเบียนบ้าน + ต้นฉบับ
จดหมายรับรองการทำงาน ถ้ามีประวัติการทำงานนะจ๊ะ
ใบ COE (Confirmation of Enrolment) ซึ่งก็คือใบตอบรับจากสถาบันที่น้องไปสมัครเรียนไว้นั่นแหละ
ใบตรวจสุขภาพ ซึ่งจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่สถานฑูตระบุไว้เท่านั้นนะ ไม่งั้นเสียตังหลายต่อแน่ ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างคลิกเลย
ค่าธรรมเนียมการสมัครจำนวน 17,150.00 บาทครับ

ชนิดของวีซ่า (เรียนรู้ความหมายตัวเลขใน Visa)
   
ตอนที่เราได้ Visa นักเรียนจากสถานฑูตมา ก็จะเห็นว่ามีตัวเลขแปลกๆ ไว้ ซึ่งความหมายที่แท้จริง พี่ว่าน้องๆ ส่วนใหญ่จะไม่รู้ความหมายของมันแน่นอน เพราะว่าครั้งแรกที่พี่เห็นพี่ก็งงครับ อิอิ ยังคิดเลยว่า เออ เลขสวยดีน่าเอาไปแทงหวย แต่จริงๆ แล้วมันมีความหมายนะครับ ซึ่งตัวเลขที่ระบุไว้เหล่านี้ ก็คือการกำหนดสิทธิของคนที่ถือ Visa นั้นเอง ว่าพอไปถึงประเทศเค้าแล้ว เราจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งถ้าหากเราทำเกินข้อที่เขากำหนดไว้ มันก็ผิดกฏหมายทันที เมื่อเป็นแแบบนี้แล้วเรามาดูและทำความเข้าใจ ความหมายของรหัสเหล่านี้กันดีกว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรหัสตามที่พี่นำมาให้น้องๆ ดูดังนี้ครับ

• Code 8101
• Code 8202
• Code 8206
• Code 8501
• Code 8533
• Code 8534
• Code 8517
• Code 8503
 

8101 : NO WORK

Visa นักเรียนใบแรกที่ได้จากทางสถานฑูตจะห้ามทำงานไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Part-time หรือ Full-time แต่เมื่อมาถึงออสเตรเลียและเริ่มเปิดเทอมแล้ว น้องๆ ก็มีสิทธิยื่นเรื่องขอสิทธิในการทำงาน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้ โดยกรอกแบบฟอร์ม 157P และจ่ายเงินค่าธรรมเนียม $55 ให้ทางสำนักงาน Immigration

8202 : MEET COURSE REQUIREMENTS

คือน้องๆ ต้องรักษาระดับคะแนน Attendance หรือ % การเข้าห้องเรียนไม่ต่ำกว่า 80 % ส่วนในกรณีที่เรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่มีใบ Attendance ให้ ทาง Immigration เขาจะดูจากผลการเรียนแทน ว่าสอบได้สอบตกเป็นไง ถ้าสอบตกมากกว่าได้ก็อดต่อ Visa จ๊ะ ถือว่าไม่ทำตามข้อกำหนดที่ Visa ระบุไว้ตามข้อนี้ และอาจจะมีโบนัสแถมให้ โดยการยกเลิก Visa ของน้องทันทีเลยครับ โดยทาง Immigration จะมีจดหมายให้ไปรายงานตัว ซึ่งหากเหตุผลของเราเรื่องการขาดเรียนฟังไม่ขึ้น แล้วยกเลิกหรือไม่ต่อ Visa ให้ น้องๆ จะต้องออกจากประเทศออสเตรเลีย ภายใน 28 วัน มิฉะนั้นจะถูกจับกุม ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาข้อนี้ (8202) ขึ้นมาจริงๆ ก็รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Visa ซะนะ (เพราะงั้นเวลาไปเรียนก็เลือกบริษัทแนะแนวที่เค้ารู้เรื่องวีซ่าด้วยจะเป็นการดี ที่พี่บอกแบบนี้เพราะว่า มันมีหลายบริษัทที่ไม่รู้เรื่อง Visa แล้วก็ส่งต่อไปให้ บริษัทอื่นทำ มันจะทำให้น้องๆ ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเวลาเกิดปัญหาครับ) แต่ทางที่ดีที่สุดคือ ไปแล้วก็ขยันเรียนซะปัญหาไม่มีเกิดแน่นอน
 

8206 : NO CHANGE-PROVIDER

Visa นักเรียนใบแรกจะได้ตัวเลขนี้มา เพื่อเป็นการกำหนดให้นักเรียนที่ลงทะเบียนไว้กับโรงเรียนไหน ก็ต้องเรียนที่โรงเรียนนั้นจนกว่าจะจบหลักสูตรที่น้องๆ ลงไว้ และห้ามเปลี่ยนโรงเรียนโดยพลการภายใน 12 เดือน เช่น หากน้องลงทะเบียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ 20 สัปดาห์ Visa แรกที่ได้คือ 6 เดือน ก็ต้องเรียนที่ลงไว้ให้จบก่อน ก่อนที่จะไปเรียนอย่างอื่นต่อ แต่ถ้าน้องมาเรียนแบบ Package ภาษา 20 สัปดาห์ + โท 2 ปี ก็จะนับเป็น 20 สัปดาห์ + 12 เดือนของปริญญาโท ที่น้องๆ จะต้องเรียนที่เดิมห้าม เปลี่ยนโดยเด็ดขาด ไม่งั้นโดยยกเลิก Visa ยกเว้นมีเหตุผลเพียงพอ ซึ่งแบบนี้เราก็ต้องให้บริษัทแนะแนวช่วยเราอยู่แล้วถ้าอยากเปลี่ยน เพราะฉะนั้นเลือก บริษัทให้ดีก่อนไป ไม่งั้นไปนั่งขี้มูกโป่งที่โน่นไม่รู้ด้วยนะ
 

8501 : ADEQUATE HEALTH INSURANCE DURING YOUR STAY IN AUSTRALIA

หมายถึง น้องๆ ทุกคนต้องทำการประกันสุขภาพ ตลอดเวลาที่อยู่ในออสเตรเลีย ซึ่งตอนจ่ายค่าเล่าเรียน ทางสถาบันจะเรียกเก็บมาด้วยกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ 6 เดือนหรือ 1 ปีล่วงหน้า ถ้าใครไปเรียนเกินกว่านี้ จะจ่ายให้ครบกับ Medibank Private ก็ได้เลยครับ คลิกตรงนี้ดูรายละเอียดค่าประกันได้ครับ

 

8533 : NOTIFY YOUR EDUCATION PROVIDER OF YOUR ADDRESS IN AUSTRALIA
WITHIN 7 DAYS OF ARRIVAL AND NOTIFY OF ANY CHANGE IN YOUR ADDRESS
WITHIN 7 DAYS

หมายถึง น้องๆ จะต้องแจ้งที่อยู่ในออสเตรเลียให้กับทางสถาบันรู้ภายใน 7 วันที่มาถึง และถ้าหากย้ายที่อยู่ก็ต้องแจ้งให้สถาบันเขารู้ภายใน 7 วันด้วยนะ อันนี้สำคัญนะห้ามละเลยกันนะครับ

 

8534 : YOU CAN NOT BE GRANTED ANOTHER VISA OTHER THAN A PROTECTION VISA
STUDENT PERMISSION TO WORK VISA OR A GRADUATE SKILLED VISA

อันนี้สำคัญ ซึ่งหมายถึง น้องๆ จะไม่สามารถต่อวีซ่านักเรียน และวีซ่าอื่นในออสเตรเลียได้อีก ยกเว้น Protection และ Work Part time 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์และ Graduate Skilled Visa สำหรับผู้ที่จะยื่นเรื่อง PR
ตัวอย่างเช่น น้องลงเรียนภาษามาในตอนแรก 6 เดือน แล้วได้ Visa ติดเงื่อนไข 8534 มาด้วย พอเรียนครบ 6 เดือนก็ต้องกลับมาขอ Visa ที่เมืองไทยใหม่หากต้องการจะเรียนต่อหลักสูตรอื่นอีก แต่ถ้าหากกลับมาทำไม่ได้จริงๆ น้องๆ ก็ควรขอเอาเงื่อนไขนี้ออกแต่เนิ่นๆ นะครับ
เพราะฉะนั้นดูดีๆ ว่า Visa มีเลขนี้ติดมาหรือป่าว จะได้ปรึกษาวางแผนกับบริษัทแนะแนวได้ถูกว่า ไปถึงออสเตรเลียแล้วจะต้องทำยังไงบ้างจะได้ไม่มี ปัญหาภายหลังนะครับ ไม่งั้นปวดหัวตายเลย
 

8517 : MAINTAIN ADEQUATE ARRANGEMENTS FOR THE EDUCATION OF
SCHOOL AGE DEPENDANTS

ข้อนี้ไม่ค่อยเจอนะ ยกเว้นคนที่มีลูกแล้ว เพราะหมายถึง หากมีลูกในวัยเรียนตามติดไปด้วย จะต้องจัดหาโรงเรียนให้ลูกเรียนตามเกณฑ์กำหนด

Top

8503 : NO FURTHER STAY

อันนี้ง่ายๆ เลยคือ ห้ามอยู่ต่อ ข้อนี้ Visa ของนักเรียนไม่ค่อยมี จะพบจริงๆ ก็คือ Visa ท่องเที่ยว


IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 09:10:13 »

 วีซ่าท่องเที่ยว

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อการท่องเที่ยวหรืออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือเพื่อความบันเทิง อาจเป็นการพักผ่อนเพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อเยี่ยมเยือนเพื่อน หรือญาติพี่น้อง หรือเข้าร่วมกิจกรรมฝึกภาษา/ การศึกษาในระหว่างปิดภาคเรียนระยะสั้นๆซึ่งไม่มากกว่า 4 สัปดาห์  หรือในกรณีอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพการงาน วีซ่าท่องเที่ยวนี้สามารถให้ท่านอยู่ในประเทศออสเตรเลียได้นานที่สุดถึง 12 เดือน

 
สำหรับเอกสารที่จำเป็นในการยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ คือ
 
1.   แบบฟอร์ม 48/48R สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว - กรอกเป็นภาษาอังกฤษ และลงนามโดยผู้สมัคร
2.   
ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า(VAC)ต้องชำระโดยแคชเชียร์เช็ค(หากซื้อในเขตกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดนนทบุรีและสมุทรปราการ) หรือโดย ‘แบงก์ดราฟท์’ (เฉพาะเมื่อซื้อนอกเขตปริมณฑล) โดยสั่งจ่าย ‘สถานทูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ’ เป็นเงินสกุลบาทเท่านั้น ค่าธรรมเนียมวีซ่านี้ไม่สามารถ ขอรับคืนในภายหลังไม่ว่าวีซ่าจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ก็ตาม
3.   หนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) ที่มีอายุครอบคลุมตลอดระยะเวลาทั้งหมดของการพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลีย หรืออย่างน้อยต้องมีอายุใช้การได้อีก 6 เดือน
4.   รูปถ่ายขนาดทำหนังสือเดินทาง 1 รูป
5.   บัตรประชาชนไทย(สำหรับบุคคลสัญชาติไทย)
6.   หลักฐานยืนยันเกี่ยวกับสถานภาพของครอบครัว การทำงาน และความผูกพันอื่นๆต่อประเทศที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่
7.   
ผู้สมัครที่จะเดินทางพร้อมญาติพี่น้อง ควรแสดงหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ดังกล่าว เช่น ทะเบียนสมรส สูติบัตร ทะเบียนบ้าน พร้อมข้อมูลหรือ เอกสารที่แสดงรายละเอียดของความสัมพันธ์นั้น เป็นต้น
8.   
ในกรณีที่มีผู้สนับสนุน/รับรองใบสมัครของท่าน โปรดแสดงหลักฐานของความสัมพันธ์นั้น เช่น การติดต่อ ระหว่างกัน เช่นจดหมาย อีเมล์ ค่าใช้จ่ายจากการติดต่อทางโทรศัพท์ รูปถ่าย และหลักฐานการโอนเงินในกรณี ที่ได้ให้การดูแลด้านการเงิน
9.   
หลักฐานซึ่งแสดงว่าท่านมีทุนทรัพย์ส่วนตัวที่เพียงพอ หรือสามารถหาทุนทรัพย์เพียงพอที่จะครอบคลุมค่า ใช้จ่ายของตัวท่านเอง (และสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางพร้อมกับท่าน) ที่ครอบคลุมระยะเวลาที่แจ้งความ จำนงว่าจะพำนักอยู่ หลักฐานดังกล่าวอาจได้แก่สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารฉบับปัจจุบันใบรับรอง เงินฝากธนาคารซึ่งแสดงสถานภาพการเงินในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อย (เงินสด /บัตรเครดิตไม่ถือว่าเป็นหลักฐานการเงินที่เพียงพอ) ในกรณีที่ผู้สมัครยื่นสมุดเงินฝากธนาคารเป็นหลักฐาน จะได้รับ สมุดคืนภายหลังพร้อมกับหนังสือเดินทางของท่าน
10.   
ในกรณีที่ผู้สมัครประกอบอาชีพ ท่านควรจะแสดงหลักฐานการทำงานในปัจจุบันในรูปแบบของจดหมาย ต้นฉบับจากนายจ้างที่ระบุถึงตำแหน่งหน้าที่การงาน ระยะเวลาทำงาน เงินเดือนรายได้ และระยะเวลาที่อนุญาตให้ลาพัก หากท่านมีกิจการของตนเองโปรดแสดงหลักฐานของการเป็นเจ้าของกิจการ เช่น ทะเบียน การค้า ทะเบียนหุ้น และเอกสารที่แสดงให้เห็นว่ากิจการของท่านยังคงดำเนินอยู่
11.   ผู้สมัครที่มีสถานภาพเป็นนักเรียนนักศึกษา ควรจะแสดงหลักฐานรับรองสถานภาพการศึกษาจากทางสถาบัน
    
    
ผู้สมัครที่อายุมากกว่า 70 ปี และน้อยกว่า 18 ปี จะมีเอกสารที่ต้องส่งเพิ่มเติม
 
โดยทั่วไปผู้สมัครจะทราบผลการพิจารณาภายในระยะเวลา 3-5 วันทำการ นับจากวันยื่นใบสมัคร

ในตอนที่ 1 นี้ผมขออธิบายสังเขปของประเทศออสเตรเลีย และ เรื่องวีซ่าชนิดต่างๆ ไว้แต่เพียงเท่านี้ ใครมีอะไรสอบถามเพิ่มเติมก็เชิญครับ    ตอนหน้าผมจะเริ่มเรื่องประสบการณ์ชีวิตนักเรียนไทยในซิดนี่ย์ครับ 
IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 10:18:39 »

โดดวีซ่าอเมริกา ต้องรอกี่ปีถึงจะเข้าออสเตรเลียได้คับ หรือขอวีซ่าได้เลย อยากไปหากินทางนู้นดูเพราะค่าเงินเท่ากันนิ

ออสเตรเลียกับอเมริกา ค่อนข้างจะ connection  กันดีครับ ดังนั้นเรื่องวีซ่าที่เคยเป็นโรบินฮู้ดคงจะลำบากครับ อย่างน้อยต้องเว้นวรรค 3 ปีขึ้นไป แต่ก่อนอาจจะลองเปลี่ยนชื่อ  สกุล แล้วขอยื่นได้ แต่ปัจจุบันสถานทูตออสเตรเลียเข้มงวดมากกับการขอวีซ่าคนไทย ยกเว้นการของวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับบุคคลที่มีใบรับรองการทำงานที่มั่นคงในราชอาณาจักรไทยครับ ส่วนการหนีวีซ่าจากประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี ใต้หวัน  ไม่มีผลกับการขอวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลียครับ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับสถานะภาพบุคคลนั้นๆ เช่น วุฒิการศึกษา วัยวุฒิ คุณสมบัตรการเงินหมุนเวียน ฯลฯ

ปัจจุบันค่าเงินออสเตรเลียแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยได้มากกว่า หรือบางช่วงอาจจะเท่ากันครับ แต่ที่แน่ๆ จะไม่น้อยกว่า จึงทำให้นานาประเทศเบนเข็มมาหากินในออสเตรเลียมากขึ้นครับ เช่นต้นปีที่ผ่านมา แรงงานจากอังกฤษ 25000 คน และแรงงานจากไอซ์แลนด์ 25000 คน ได้วีซ่าทำงานในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นงานสำหรับออฟฟิต หรืองานบริการที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก จึงทำให้ตลาดแรงงานหลักในออสเตรเลียสำหรับคนเอเชียที่ด้อยภาษามากกว่า ค่อนข้างผันผวนพอสมควร แต่ถ้าใครสามารถมาได้ช่วงนี้ก็ยังพอมีงานรองรับ เช่นร้านอาหารไทย ร้านนวดสปา งานทำความสะอาดออฟฟิต หรือ งานฟาร์ม เพราะมีนักเรียนไทยถูก Cancel visa ไปเยอะพอสมควรในรอบปีที่ผ่านมา เนื่องจากเวลาเรียนไม่เพียงพอกับ 80% ที่ Immigration department ขีดเส้นไว้ครับ
IP : บันทึกการเข้า
chelsea_cr
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 166


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 11:14:54 »

วีซ่าแบบไปทำงานมีไหมครับ อยากไป งานอะไรทำได้หมด ทั้งร้านอาหาร งานสวน งานฟาร์ม ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ครับ
IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 11:52:53 »

วีซ่าแบบไปทำงานมีไหมครับ อยากไป งานอะไรทำได้หมด ทั้งร้านอาหาร งานสวน งานฟาร์ม ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ครับ

ถ้าจะทำงานอย่างเดียว มีหลายกรณีครับ

1. working & holiday visa เงื่อนไข จบ ป.ตรี และผลสอบ IELTS ผ่านระดับ 4.5 ขึ้นไปครับ ตอนนี้ปีหนึ่ง ออสซี่ให้โควต้าคนไทย 1000 คนครับ ส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กๆ จบใหม่หรืออายุน้อยๆ ได้วีซ่าตัวนี้กัน

2.เรื่องนายจ้างสปอนเซอร์ เป็นเสียงส่วนใหญ่ที่สอบถามกัน ต้องขอบอกว่าการที่จะสปอนเซอร์ใครด้วยวีซ่า 457 ในปัจจุบันเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ก็อย่างที่บอก นโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ต้องการเก็บงานไว้ให้คนออสซี่ก่อน จึงต้องยกระดับความยากในการให้วีซ่าแรงงานจากต่างชาติให้ทำยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเข้มงวดกับข้อกำหนดของนายจ้าง และคุณสมบัติของลูกจ้าง โดยเฉพาะคุณสมบัติ เรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นกุ๊ก หรือเชฟก็ต้องสอบ IELTS ให้ได้ ไม่ต่ำกว่า 5.0 ค่ะ

ด้วยเหตุผลที่อ้างว่าหากภาษาอังกฤษต่ำกว่านี้ เชฟต่างชาติจะมาสอนงานหรือสื่อสารกับคนออสซี่ให้รู้เรื่องการทำอาหารได้ยังไง และหากความรู้เรื่องภาษาอังกฤษอ่อนแอต่ำกว่า 5.0 ก็อาจมีโอกาสโดนนายจ้างเอาเปรียบได้ง่ายในเรื่องกฎเกณฑ์การจ้างงาน และสวัสดิการของพนักงานที่ควรจะได้ และนี้คือเหตุผลหลักๆของการต้องมีผล IELTS  ค่ะ ส่วนเหตุผลหลักอีกข้อคือ ควรจะพิจารณาจ้างงานคนออสซี่ด้วย และถ้าจะจ้างคนต่างชาติ ก็ต้องจ่ายเงินในอัตราเดียวกันกับคนออสซี่ เช่น เชฟออสซี่ ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่ ก็ต้องเสนอเชฟไทยในเงินเดือนเท่านั้น ที่เรียกว่า Market Rates นั้นแหละครับ เพื่อป้องกันการตัดราคาจ้างแรงงานราคาถูกจากต่างชาติ แทนแรงงานราคา Market Rates ของคนออสซี่ การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 September 2009

วีซ่า 457 ที่รู้จักกันภาษาทางการเขาเรียกว่า Temporary Long Stay Business Visa ที่มีความยาววีซ่าสูงสุด 4 ปีครับ 
IP : บันทึกการเข้า
โดเรม่อน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 317


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 11:56:44 »

น้องสาวก้อไปอยู่ออสเตรเลีย เมืองบริสเบรน น้องอยู่เมืองไหนคะ
IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 12:05:29 »

น้องสาวก้อไปอยู่ออสเตรเลีย เมืองบริสเบรน น้องอยู่เมืองไหนคะ

ผมอยู่ Sydney ครับ  บางช่วงก็ไปทำงานที่ Canberra  ยินดีได้เสวนาคนบ้านเดียวกั๋นครับ
IP : บันทึกการเข้า
chelsea_cr
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 166


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 14:25:40 »

วีซ่าแบบไปทำงานมีไหมครับ อยากไป งานอะไรทำได้หมด ทั้งร้านอาหาร งานสวน งานฟาร์ม ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ครับ

ถ้าจะทำงานอย่างเดียว มีหลายกรณีครับ

1. working & holiday visa เงื่อนไข จบ ป.ตรี และผลสอบ IELTS ผ่านระดับ 4.5 ขึ้นไปครับ ตอนนี้ปีหนึ่ง ออสซี่ให้โควต้าคนไทย 1000 คนครับ ส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กๆ จบใหม่หรืออายุน้อยๆ ได้วีซ่าตัวนี้กัน

2.เรื่องนายจ้างสปอนเซอร์ เป็นเสียงส่วนใหญ่ที่สอบถามกัน ต้องขอบอกว่าการที่จะสปอนเซอร์ใครด้วยวีซ่า 457 ในปัจจุบันเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ก็อย่างที่บอก นโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ต้องการเก็บงานไว้ให้คนออสซี่ก่อน จึงต้องยกระดับความยากในการให้วีซ่าแรงงานจากต่างชาติให้ทำยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเข้มงวดกับข้อกำหนดของนายจ้าง และคุณสมบัติของลูกจ้าง โดยเฉพาะคุณสมบัติ เรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นกุ๊ก หรือเชฟก็ต้องสอบ IELTS ให้ได้ ไม่ต่ำกว่า 5.0 ค่ะ

ด้วยเหตุผลที่อ้างว่าหากภาษาอังกฤษต่ำกว่านี้ เชฟต่างชาติจะมาสอนงานหรือสื่อสารกับคนออสซี่ให้รู้เรื่องการทำอาหารได้ยังไง และหากความรู้เรื่องภาษาอังกฤษอ่อนแอต่ำกว่า 5.0 ก็อาจมีโอกาสโดนนายจ้างเอาเปรียบได้ง่ายในเรื่องกฎเกณฑ์การจ้างงาน และสวัสดิการของพนักงานที่ควรจะได้ และนี้คือเหตุผลหลักๆของการต้องมีผล IELTS  ค่ะ ส่วนเหตุผลหลักอีกข้อคือ ควรจะพิจารณาจ้างงานคนออสซี่ด้วย และถ้าจะจ้างคนต่างชาติ ก็ต้องจ่ายเงินในอัตราเดียวกันกับคนออสซี่ เช่น เชฟออสซี่ ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่ ก็ต้องเสนอเชฟไทยในเงินเดือนเท่านั้น ที่เรียกว่า Market Rates นั้นแหละครับ เพื่อป้องกันการตัดราคาจ้างแรงงานราคาถูกจากต่างชาติ แทนแรงงานราคา Market Rates ของคนออสซี่ การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 September 2009

วีซ่า 457 ที่รู้จักกันภาษาทางการเขาเรียกว่า Temporary Long Stay Business Visa ที่มีความยาววีซ่าสูงสุด 4 ปีครับ  

แล้วต้องมีเงินในบัญชี แต่ละกรณีเท่าไหร่ครับ
IP : บันทึกการเข้า
TWITTY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 17:11:58 »

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไรครับที่จะได้ไปออสเตรเลียได้
IP : บันทึกการเข้า
โดเรม่อน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 317


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 21:32:55 »

ไปทำรายที่นั่น คนเชียงวรายเหรอ
IP : บันทึกการเข้า
ขม นรก
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,631



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 21:35:47 »

ตึงหม๊ด นี่พิมเอากะหนิคับ ...ไข่ฮู้  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 21:58:05 »

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไรครับที่จะได้ไปออสเตรเลียได้
ไปทำรายที่นั่น คนเชียงวรายเหรอ
ตึงหม๊ด นี่พิมเอากะหนิคับ ...ไข่ฮู้  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ผมคนเจียงฮายโดยกำเนิดครับ ลืมต๋าดูโลกตี่ ร.พ.เชียงรายประชานุเคราะห์  เหมือนใค๋หลายคนในบอร์ดนี่หล่ะมั้ง   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ค่าใช้จ่ายในการยื่นขอวีซ่า เริ่มจากเงินเดินบัญชีก่อนครับ ให้ปลอดภัยจริงๆ ตอนนี้อยู่ที่ล้านสอง ครับ ต้องเดินย้อนหลังเกินกว่าหกเดือน อย่าดองบัญชีนะครับ มีการเดินสะพัดจริงๆ เพราะตอนนี้เขาเข้มงวดมากในการตรวจเอกสาร  และหากจะมาเรียน ต้องจ่ายค่าเรียนอย่างน้อยสัปดาห์ละ $130 - $180 แล้วแต่สถานที่เรียนครับ + ค่าที่พัก ค่าอาหาร รวมกันแล้วไม่เกิน $ 400 ต่อสัปดาห์ครับ แต่ถ้าโชคดีได้งานทำเร็ว ก็จะมีรายได้อยู่ที่ $400 -$600 ต่อสัปดาห์ นี่คือช่วงแรกที่เรียนภาษาครับ  เพราะต้องเรียน 4 วันต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย  แล้วก็จะมาสู่หลักสูตรฮิตของเด็กไทย เรียนต่อ Diploma  จะเรียนแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ ที่เหลือหาเงินครับ  ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานหล่ะครับ  บางคนก็ $500 - $700 บ้างก็สูงกว่าครับ   

ถ้าอยากจะมาจริงๆ ติดต่อผมได้ครับ ผมยินดีช่วยเหลือเป็นธุระจัดการหาที่พัก และงาน (สำหรับจังหวะดีดีนะครับ เพราะถ้ามาจังหวะไม่มีงานก็ช่วยกันไม่ได้จริงๆ )  และตอนนี้กำลังจะจัดตั้งสมาคมชาวเหนือ สำหรับช่วยเหลือและร่วมกิจกรรมสังคมแบบชาวเหนือ โดยวันนี้ผมได้รับการติดต่อจาก ดี.เจ.นิ่ม(คนแถวค่ายเม็งรายนี่หล่ะครับ ท่านเป็นผู้จัดรายการวิทยุไทย คนเดียวในออสเตรเลีย)  ขอความร่วมมือในการจัดตั้งสมาคม เท่ากับหลักๆ คนเชียงรายเป็นหัวโต๊ะ  มีพี่จอน(คนเจียงฮาย) ประธานชมรม ดี.เจ.นิ่ม และ แม่เช็ง(เจียงฮายโดยกำเนิดอีกหละ) เป็นผู้สนับสนุน และอีกหลายท่าน มีทั้ง พะเยา เจียงใหม่ น่าน  ร่วมเป็นหัวโต๊ะด้วยกันครับผม.....

อ่อ เรื่องวีซ่า ผมไม่ได้เขียนเองหมดครับ แต่มีความรู้ด้านกฎหมายวีซ่านิดหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอขอบพระคุณ เพื่อนของผมซึ่งทำงานเป็นเอเจนท์นักเรียนไทยครับ.....เป็นผู้ให้ผมยืมคอมพ์มาก๊อป เพื่อการเผยแพร่    ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
upon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 23:03:43 »

เรียนด้วยทำงานไปด้วย เป็นร้านคนไทยหรือฝรั่งคับ
แล้วรายได้ที่ได้จะพอหมัยคับคือสามารถส่งมาทางบ้านได้หมัยคับ(ศึกษาไว้เผื่อมีโอกาศได้ไป
IP : บันทึกการเข้า
โดเรม่อน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 317


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 01:03:16 »

น้องทำงานอารายเหรอ
IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 02:53:03 »

เรียนด้วยทำงานไปด้วย เป็นร้านคนไทยหรือฝรั่งคับ
แล้วรายได้ที่ได้จะพอหมัยคับคือสามารถส่งมาทางบ้านได้หมัยคับ(ศึกษาไว้เผื่อมีโอกาศได้ไป

น้องทำงานอารายเหรอ

ผมทำคาเฟ่ ร้านฝรั่งครับ รายได้ที่นี่ถือว่าดีครับเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก เลือกทำร้านอาหารเพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านนี้ครับ สามารถทานได้ฟรีอย่างน้อย 2 มื้อ การจะมีเหลือเก็บหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพงานที่ทำด้วยครับ เพราะโอกาสแต่ละคนไม่เท่ากันอยู่ที่จังหวะงานดีดีว่าง หรือรู้จักคนข้างใน พองานว่างก็ฝากฝังกันก่อน ระบบอุปภัมป์ยังต้องการเสมอครับที่นี่ เพราะนายจ้างก็อยากหาคนที่เข้ามาแล้วเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดี มีคนดูแล ส่วนใหญ่ได้งานกันก็ระบบฝากฝังครับ   จะทำร้านอาหารไทยหรือร้านฝรั่งก็ได้ครับ แต่ร้านฝรั่งจ้างเป็นชั่วโมงซึ่งดีกว่าแน่นอนครับ  อย่างน้อยๆ ถ้าได้ทำงานเต็มที่เหลือเก็บเดือนละ 3 - 5 หมื่นบาทหรือมากกว่าครับ 
IP : บันทึกการเข้า
Namwhan_LDH
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 23 สิงหาคม 2011, 21:08:58 »

ขอบคุณมาก เมืองในฝันเลยจ้าว
IP : บันทึกการเข้า
QingGE
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 751



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 26 สิงหาคม 2011, 05:08:15 »

อยากทราบจุดประสงค์การ Post อยู่อย่างไรในออสเตรเลีย ตอน1

ท่านจะช่วย หรือชักชวนคนเจียงฮายไปทำงานที่โน่นเหรอ? รึชวน นักเรียนนักศึกษาไปเรียนต่อที่โน่น?

เห็นหลายคนไปทำงานต่างประเทศบ้างก็ได้เงินกลับ บ้างก็เสียเงิน บ้างก็เสมอตัว บ้างก็กลับไม่ได้ บ้างก็อยากกลับแต่กลับไม่ได้ ฯลฯ




ปล.ข้อมูลประเภทนี้ท่านที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน pintip.com ห้องไกลบ้าน
IP : บันทึกการเข้า
inAus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 26 สิงหาคม 2011, 05:41:21 »

อยากทราบจุดประสงค์การ Post อยู่อย่างไรในออสเตรเลีย ตอน1

ท่านจะช่วย หรือชักชวนคนเจียงฮายไปทำงานที่โน่นเหรอ? รึชวน นักเรียนนักศึกษาไปเรียนต่อที่โน่น?

เห็นหลายคนไปทำงานต่างประเทศบ้างก็ได้เงินกลับ บ้างก็เสียเงิน บ้างก็เสมอตัว บ้างก็กลับไม่ได้ บ้างก็อยากกลับแต่กลับไม่ได้ ฯลฯ



ปล.ข้อมูลประเภทนี้ท่านที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน pintip.com ห้องไกลบ้าน


เพื่อเป็นการเผยแพร่ประสบการณ์ ตอนนี้คนเชียงรายมาอยู่ที่นี่เยอะครับ และคาดว่าจะมีเชียงรายอยากจะมาอีก จึงนำมาเสนอเป็นเรื่องเล่าประสบการณ์ไม่เจตนาจะชักชวน หรือล่อลวงใดๆ หากมีอันใดล่วงเกินท่านผู้ใด ต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ

จริงอยู่ที่ข้อมูลเหล่านีี้สามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ต แต่ท่านก็ไม่ได้รู้จักตัวตนของผู้เขียน และท่านอ่านก็ไม่สามารถนึกภาพเหล่านั้นได้จริง เขาเขียนอย่างไรท่านก็รับทราบเช่นนั้น แต่แบบของผมถ้าสงสัยอันใด ตั้งคำถามตรงมาได้ จะนำเสนอไขข้อข้องใจท่านในภายหลัง ซึ่งมีหลายท่านที่สนใจเข้ามาไถ่ถาม ซึ่งผมได้ตอบตามความเป็นจริง มิได้เข้าข้างเอเจนท์ใดๆ ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ต่อสิ่งนี้ครับ

ขอแสดงความนับถือ
   safari007
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!