เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 00:36:59
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  เชิญ ทำบุญ สร้างห้องปลดทุกข์ วัดโป่งแดง ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เชิญ ทำบุญ สร้างห้องปลดทุกข์ วัดโป่งแดง ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย  (อ่าน 1822 ครั้ง)
soteko
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 11:35:15 »

กำลังจะแล้วละนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 ตุลาคม 2011, 22:13:08 โดย soteko » IP : บันทึกการเข้า
soteko
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 11:44:12 »

รูปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 ตุลาคม 2011, 22:12:18 โดย soteko » IP : บันทึกการเข้า
soteko
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 11:45:53 »

รูปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 ตุลาคม 2011, 22:13:21 โดย soteko » IP : บันทึกการเข้า
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 16:59:07 »

โห...ใหญ่มาก
ใครอยากสร้างบารมี
ร่วมสร้างห้องน้ำก็ขอเชิญนะครับ
สาธุ ครับ
IP : บันทึกการเข้า

search2531
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 301


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 03:21:03 »

ขอให้จงสำเร็จสำเร็จๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
soteko
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 07:59:51 »

อานิสงส์สร้างเวจกุฏี (ห้องน้ำ)

.....ใจความว่า พระศาสดาได้เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร แห่งกรุงสาวัตถี
มีมาณพคนหนึ่งเป็นช่างทองทำการขายทองรูปพรรณอยู่ในกรุงสาวัตถีนั้น จนมั่งมีโภค
ทรัพย์สมบัติมากอยู่มาวันหนึ่งมาณพนั้นมาคิดว่า เราค้าขายทองก็มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ
ทรัพย์ที่หามาได้โดยยาก ก็ไม่อยากจะให้สูญหายไปโดยเร็ว ตริตรองหาวิธีที่จะเก็บทรัพย์ให้ได้อยู่นาน
ก็ไม่พบวิธีที่จะป้องกันความเสื่อมเสียของทรัพย์ได้ เพราะว่าทรัพย์เป็นของกลางเป็นเครื่องอาศัยของคน
ทุกคน สุดแล้วแต่ใครจะขยันหมั่นเพียรหามาได้เท่านั้น ถึงแม้จะหามาได้มากก็ดี ถ้าขาดปัญญาเป็น
เครื่องรักษาทรัพย์แล้วทรัพย์นั้นก็ไม่คงทนอยู่ได้ แม้จะอยู่ได้ตลอดไปตนเองก็มีชีวิตยืนนานที่จะบริโภค
ต่อไปไม่ได้เพราะความตายย่อมมาพรากตนให้หนีไปเสียจากทรัพย์เมื่อสิ้นชีพแล้วทรัพย์เหล่านั้น ก็ไม่
ติดตามตนไปปล่อยไว้ให้คนอื่นเขาใช้สอยอย่างสบาย เห็นมีอยู่แต่อย่างเดียวเท่านั้น ที่จะติดตามตัวไป
ในอนาคต คือฝังทรัพย์ไว้ในพุทธศาสนาเมื่อคิดเช่นนี้แล้วก็คิดดูว่าจะทำอะไร สิ่งอื่น ๆ ก็มีผู้ทำไว้หมด
แล้ว ก็เห็นแต่เวจกุฎีเท่านั้นที่ยังไม่มีใครทำเลย

เมื่อคิดเช่นนี้แล้วจึงได้สร้างขึ้นเมื่อสำเร็จแล้วยังได้สร้างโรงไฟ แลที่สำหรับอาบน้ำอีกด้วย
เมื่อเสร็จสรรพดีแล้ว ก็ทำการฉลองอย่างมโหฬารและมอบถวายแก่ ภิกษุสงฆ์
มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นประธานแล้วตั้งปฏิธานความปรารถนาว่าข้าแต่ท่านผู้
เจริญ เมื่อข้าพเจ้ายังไม่ถึงพระนิพพานตราบใด ขึ้นชื่อว่าความทุกข์อันเกิดแต่โรคต่าง ๆ อย่าได้มาแผ้ว
พานต่อข้าพเจ้าเลย อิมินาทาเนน ด้วยอำนาจผลทานนี้พระสารีบุตรก็อนุโมทนาว่า ขอให้ความ
ปรารถนาจงเป็นผลสำเร็จเถิดมาณพนั้นเป็นผู้ไม่ประมาทผลทาน ให้สมาทานศีลครั้นทำกาลกิริยาตาย
ไปแล้วไปเกิดบนสวรรค์เทวโลก มีสมบัติวิมานทอง มีเทพอัปสรเป็นยศบริวาร อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้ง
หลายนั่งสนทนา ถึงมาณพผู้นั้นอยู่พระศาสดาเสด็จมาถึงในที่นั้นแล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเธอ
นั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบ

พระองค์ทรงแสดงธรรมเทศนา แก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย
นรชนทั้งหลายเกิดมาได้พบพระพุทธเจ้าและในขณะที่พุทธศาสนายังประดิษฐานอยู่
จะเป็นผู้เศร้าโศกในอบายภูมิ เป็นจำนวนมากมาณพที่เป็นช่างทองนี้ได้พบทั้ง
สองประการแล้วไม่เป็นผู้ประมาท ได้สร้างเวจกุฎีถวายบูชาพระรัตนตรัยด้วยศรัทธาเลื่อมใส ได้เสวย
สุขในสุคติโกลสวรรค์ และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าทรงพระ
นามว่าตัณหังกร เราตถาคตก็เคยสร้างเวจกุฎี และที่สำหรับอาบแก่พระภิกษุสามเณรได้ตั้ง
สัตยธิษฐานว่า ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล ด้วยผลแห่งอานิงส์
ที่ข้าพระองค์ได้สร้างเวจกุฎีให้เป็นสาธารณะทานนี้ ตถาคตครั้นทำลายขันธ์แล้วก็ไปบังเกิดสวรรค์เสวย
ทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดุสิตครั้นจุติจากชาตินั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยงอยู่สังสารวัฎฎ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงตรัส
เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือตถาคตนี้เอง ก็สมดังคำปรารถนาในครากาลครั้งโน้นทุกประการ เมื่อจบ
พระธรรมเทศนาจบลงแล้วชนทั้งหลายเป็นอันมากได้ดวงตาเห็นธรรม ต่างก็รื่นเริงบันเทิงใจในเวจกุฎี
เป็นยิ่งนัก
IP : บันทึกการเข้า
soteko
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 08:01:03 »

ในสมัยหนึ่งพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในนครสาวัตถีได้ทรงปรารภการถวายสร้าง ห้องน้ำ-สุขาของมาณพคนหนึ่งโดยเป็นใจความว่า


พระพุทธองค์เสด็จประทับในเชตวันมหาวิหาร แห่งกรุงสาวัตถี มีมาณพคนหนึ่งเป็นช่างทอง ทำกิจการค้าขายทองอยู่ในกรุงสาวัตถีนั้นจนร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติมาก


อยู่มาวันหนึ่งมาณพคิดว่าเราค้าขายทองก็มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับทรัพย์สมบัติที่ได้มาด้วยความอยากลำบากก็ไม่อยากให้สูญหายไปโดยเร็วมีวิธไหนบ้างหนอที่จะรักษาเก็บทรัพย์สมบัตินี้ไว้ได้ เขาตริตรองหาวิธที่จะเก็บทรัพญ์สมบัติให้อยู่ได้นาน ก็ไม่พบวิธีที่จะป้องกันความเสื่อมเสียของทรัพย์สมบัติไว้ได้ ก็เห็นมีอยู่แต่วิธีเดียวเท่านั้นที่จะรักษาและให้ทรัพย์สมบัติติดตามตัวไปในอนาคตได้ก็คือฝังทรัพย์ไว้ในบวรพระพุทธศาสนา


จากนั้นก็ใคร่ครวญต่อๆไปว่าจะทำอะไรดีสิ่งอื่นๆก็มีผู้ทำไว้หมดแล้ว ก็เห็นแต่จะมีห้องน้ำเท่านั้นที่ยังไม่มีใครทำเลย เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงได้สร้างห้องน้ำขึ้น เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการฉลองอย่างยิ่งใหญ่มโหฬารพร้อมมอบถวายแก่สงฆ์ แล้วจึงตั้งความปรารถนาว่าด้วยอำนาจแห่งทานนี้ เมื่อข้าพเจ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขึ้นชื่อว่าความทุกข์อันเกิดจากโรคภัยต่างๆอย่าได้บังเกิดมีกับข้าพเจ้าเลย พระสงฆ์ก็โมทนาว่า ขอให้ความปรารถนาของท่านจงสำเร็จเถิด ครั้นเมื่อมาณพได้ตายไปแล้วก็ไปเกิดที่สวรรค์ มีวิมานทอง มีเทพธิดา 1000 องค์ เป็นบริวาล


อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้งหลายนั่งสนทนาถึงภิกษุรูปนั้นอยู่ พระพุธเจ้าเสด็จมาถึงที่นั้นจึงตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายพวกท่านนั่งสนทากันด้วยเรื่องอะไร เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูให้ทรงทราบแล้ว พระองค์ก็ทรงตรัสต่อภิกษุทั้งหลายว่า มาณพผู้เป็นช่างทองผู้นี้เป็นผู้ไม่ประมาทได้สร้างห้องน้ำด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใสบูชาพระรัตนตรัย ได้เสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตกาล


ในครั้งอดีตที่พระพุธเจ้าทรงพระนามว่าตัณหังกรเราตถาคตก็เคยสร้างห้องน้ำเช่นกัน และได้ตั้งความปรารถนาว่า ด้วยผลของอานิสงส์ที่ได้สร้างห้องน้ำเป็นสาธารณะทานนี้ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลด้วยเถิด เราตถาคตครั้นทำลายขันธ์แล้วก็ได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตครั้นจุติจากภพนั้นแล้วก็ได้ท่องเที่ยวในสังสารวัฏฏ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจุบันกาลนี้แล
[/color]
IP : บันทึกการเข้า
search2531
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 301


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2011, 05:47:42 »

งามมาก
ขอหือแล้วเร็วเร็วเน้อ
IP : บันทึกการเข้า
soteko
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 18:29:58 »

รุปยังไม่ได้เอาลงนะ
เสร็จละ
จะปอยในวันที่1ม.ค 55 นี้หน่า
IP : บันทึกการเข้า
soteko
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 18:30:50 »

เจินมาแอ๋วตวย
IP : บันทึกการเข้า
^เด็ก_วัด^
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,001



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 11 ธันวาคม 2011, 06:57:37 »

เห็นว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ จะมีงานทำบุญฉลองแล้วล่ะครับ เห็นว่า ห้องน้ำ สิ้นทุนทรัพย์ ล้านกว่าบาท
IP : บันทึกการเข้า
^เด็ก_วัด^
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,001



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2012, 03:59:24 »

ทำบุญ ฉลองสมโภชไปเมื่อวันที่ 1มกรา 2555 เรียบร้อยแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!