เห็นด้วยครับลุงหนาน
ผมก็ไม่ได้เป็นศิษย์วัดธรรมกาย
เพียงแต่มีประสบการณ์ได้ปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อท่านหนึ่งที่สำนักสงฆ์ในป่า
ซึ่งมารู้ที่หลังว่าท่านเ็ป็นศิษย์หลวงพ่อสด วัดธรรมกาย ท่านมีเมตตาและสอน
นั่งปฏิบัติธรรมได้ดีมาก
ใช่ครับโครงการบวชหนึ่งแสนรูป ไม่มีวัดใดทำมาก่อน
แต่วัดธรรมกายทำได้และทำมาอย่างต่อเนื่อง นั่นเพราะความศรัทธา
บวกกับความสามัคคีของเหล่าพุทธศาสนิกชน
อีกทั้งเปิดรับให้ผู้หญิงก็บวชปฏิบัติธรรมได้ (อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน)
ซึ่งจัดขึ้นทุกปีทั่วประเทศ ซึ่งจะปฏิบัติธรรมตามวัดต่างๆ ในชนบท
ชาวบ้านให้ความสนใจมากขึ้น และที่สำคัญไม่มีการเรี่ยไรเงินใดใด
จากผู้ปฏิบัติธรรม หากยังแจกจ่ายเสื้อผ้าปฏิบัติธรรม อาหารให้ฟรี
ซึ่งรู้มาว่า มีผู้ต้องการทำบุญช่วยสนับสนุนการปฏิบัติธรรมอยู่มาก
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่วัดธรรมกายสร้างและทำในเรื่องดีดี
แต่ผู้คนมักไม่ค่อยนำมาเล่าขาน ส่วนใหญ่ก็รับข้อมูลที่คิดว่าไม่ดี
และมาต่อยอดกัน แต่หลายคนที่มีความคิดดีดีกับวัด แต่เขาเหล่านั้น
ไม่อยากออกมาพูดกัน เพราะเขาเชื่อมั่นด้วยศรัทธาของเขา และไม่ได้
ทำให้ใครเดือดร้อน เขามีสุขใจที่ได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม
อย่าลืมว่ามุมมี 360 องศา มีทั้งมุมสว่าง (มุมบวก) มุมมึด (มุมลบ)
หลายคนอาจมองมุมเดียวกัน
หลายคนอาจมองอีกคนละมุม
แล้วแ่ต่ว่าใครจะเลือกมองในมุมลบ หรือมุมบวก ที่สำคัญ คนที่มองมุมบวก
ย่อมมีความสุขใจ
ผมมีเพื่อนเกลอคนหนึ่งตอนนี้รับราชการครูสมัยตอนเด็กเขาบวชเรียนหลายพรรษา
เพิ่งมารู้ว่าเขาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ผมแปลกใจมาก เจอกันเลยสอบถามความเป็นมา เขามีเหตุมีผลในการตัดสินใจของเขา เขามีมุมมองที่ดีของเขา คิดว่าคนเรามีบุญกรรมไม่เหมือนกัน ศาสนาอื่นส่งผู้คนเข้ามาเผยแพร่ให้กับชาวพุทธตลอดเวลา
และเขาได้สร้างได้ช่วยเหลือชาวพุทธมากมายด้วย ที่เห็นๆ ก็คือชาวพื้นที่สูงหลายพื้นที่
ไม่ได้ถือพุทธเหมือนเรานะครับ
แต่ผมไม่เคยเห็นชาวพุทธเราไปเผยแพร่ศาสนาให้กับคนนับถือศาสนาอื่นนะครับ
การที่จะสร้างอะไรใหญ่โตให้กับพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ดีงาม โดยเฉพาะทางด้าน
จิตใจ ความเชื่อมั่น ซึ่งชาวพุทธก็ทำกันมาแต่โบราณแล้ว เช่นการสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์
มีมากมาย ที่สร้างใหญ่โต เพราะอะไร
หากเราได้ไปสักการะองค์เจดีย์ใหญ่ต่างๆ เราจะมีความรู้สึกทางใจที่ดี เมื่อเห็นและได้สัมผัส
หากเจดีย์ที่สำคัญนั้นเป็นเจดีย์องค์เล็กๆ สูงแค่มือเอื้อม ความรู้สึกภาคภูมิใจ ปิติ ยินดี
เลื่อมใส ศรัทธา จะเกิดขึ้นมากไหม
แม่ชีคำปุ๋ย ท่านมาจากสายวัดธรรมกาย เป็นตัวอย่างใกล้ๆ บ้านเรานี่เอง
จริงแล้วมีศิษย์สายธรรมกายที่ทำงานให้กับสังคมมากมายครับ หลายคน
ทำงานปิดทองหลังพระ สิ่งที่ทุกคนคิดคือบุญ ทำบุญ สะสมบุญเท่านั้น
แต่เราไม่ค่อยรู้จักท่านหรอกทั้งๆ ที่ท่านสร้างสิ่งดีดีให้กับชาวพุทธมากมายครับ
แม่ชีคำปุ๋ย ไชยวงศ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2480 ณ บ้านศรีชุม ตำบลศรีชุม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา บิดาชื่อ นายเสาร์ ไชยวงศ์ มารดาชื่อ นางฟ้า ไชยวงศ์ มีพี่น้องรวมกันทั้งหมด 7 คน เป็นชาย 6 คน เป็นหญิง 1 คน ประกอบด้วย
1. นายอ้วน ไชยวงศ์ (เสียชีวิต)
2. นายอ้น ไชยวงศ์ (เสียชีวิต)
3. นายอั๋น ไชยวงศ์ (เสียชีวิต)
4. นายบุญมา ไชยวงศ์ (เสียชีวิต)
5. นายอุดม ไชยวงศ์ (เสียชีวิต)
6. แม่ชีคำปุ๋ย ไชยวงศ์ (อายุ 70 ปี)
7. นายอิ่น ไชยวงศ์ (อายุ 61 ปั)
ในวันที่แม่ชีคำปุ๋ยถือกำเนิดขึ้นมาในโลกนี้ตอนใกล้รุ่ง ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและฝนตกลงมาอย่างหนัก ท่านเกิดมาในครอบครัวของเกษตรกร มีชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างแร้นแค้น แต่เป็นเด็กที่ขยันช่วยบิดามารดาทำงานอย่างขยันขันแข็ง มีอยู่วันหนึ่งแม่ชีได้มาคำนึงว่าชีวิตคนนี้ช่างสั้นนัก มีแต่ทุกข์ จึงเกิดความเบื่อหน่ายก็เลยมีความคิดที่อยากจะบวช ครั้นพออายุได้ 12 ปี ก็ได้รบเร้าบิดามารดาขอออกบวชเป็นชี แต่บิดามารดาเห็นว่ายังอยู่ในวัยเยาว์จึงไม่ยอมให้บวช ต่อมาพออายุได้ 16 ปี ก็ขอบวชอีก บิดามารดาทนไม่ไหวจึงยอมให้บวช โดยมีท่านพระครูธรรมรัตนจารีเป็นผู้บวชให้และมีแม่ชีหม่อม หนักตื้อ เป็นผู้สอนสมาธิ และวิปัสนาให้ พอบวชก็ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์ ไม่นานนักก็ได้เห็นดวงปฐมมรรค หลังจากนั้นแม่ชีหม่อม (ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพระเทพมุนี วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ)ก็พาไปเรียนวิชาธรรมกายเพิ่มเติมกับหลวงพ่อสด (พระมงคลเทพมุนี) ในขั้นสูงต่อไปจนแตกฉาน
อุปนิสัยส่วนตัวแม่ชีคำปุ๋ย ไชยวงศ์ เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบการให้ทานและรักษาศีล เจริญเมตตาภาวนามาก ท่านมักจะกล่าวว่า "ความสุขใด ๆ ในโลกเทียบเท่ากับความสงบไม่มี รูปกายของเราเป็นเพียงภาพมายา ไม่ควรแก่การยึดติด ความดีเท่านั้นที่ติดตัวเราไป และจำทำให้โลกเกิดสันติสุขได้" ท่านมักจะส่งเสริมและคอยสอนให้ศรัทธาญาติโยมได้รักษาศีลและเจริญเมตตาภาวนา นอกจากนั้นท่านยังได้ก่อสร้างศาสนสถานและสาธารณะที่เป็นประโยชน์อีกเป็นอันมาก ดังนี้
1. สร้างพระอุโบสถ (พระวิหาร) วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
2. สร้างศาลาสงฆ์ 7 ชั้น วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
3. สร้างศาลาพร้อมพระนอน วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
4. สร้างโรงธรรมศาลาปฏิบัติธรรม วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
5. สร้างพระเจดีย์ ณ วัดสบรู้ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
6. สร้างพระเจดีย์ ณ วัดต้นผึ้ง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
7. สร้างพระนอน ณ วัดบ้านปาง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
8. สร้างพระเจดีย์ ณ วัดเข้าเจ้า อ.ลี้ จ.ลำพูน
9. สร้างพระอุโบสถ ณ วัดใหม่ต้นฝาง อ.ปง จ.พะเยา
10. สร้างพระธาตุวัดสันไม้ฮาม ณ วัดสันไม้ฮาม อ.พาน จ.เชียงราย
11. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดผาสิงห์ ณ วัดผาสิงห์ อ.แสงดาว จ.น่าน
12. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดทุ่งหนอง ณ วัดทุ่งหนอง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา
13. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดแม่จั๋ว ณ วัดแม่จั๋ว อ.ปง จ.พะเยา
14. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดผาแดง ณ วัดผาแดง อ.งาว จ.พะเยา
15. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดบุญชุม ณ วัดบุญชุม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
16. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดสุขเกษม ณ วัดสุขเกษม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
17. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดจอมศีล ณ พระธาตุจอมศีล อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
18. สร้างแท่นพระพุทธรูปสันต้นแหน ณ วัดสันต้นแหน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา
19. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดศรีปันต้น ณ วัดศรีปันต้น อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
20. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดท่าหล่ม ณ วัดท่าหล่ม อ.พาน จ.เชียงราย
21. สร้างแท่นพระพุทธรูปถวายพระพุทธรูปวัดสวนดอก ณ วัดสวนดอก อำเภอเทิง จ.เชียงราย
22. สร้างถวายพระพุทธรูปปางนาคปรกหน้าตัก 50 นิ้ว ณ วัดร่องห้า อ.เมือง จ.พะเยา
23. สร้างพระพุทธรูปปางลีลาวัดหัวทุ่ง ณ วัดหัวทุ่ง อ.เชียงคำ จ.พะเยา
24. สร้างพระอุโบสถวัดสันติสุข ณ วัดสันติสุข อ.เชียงคำ จ.พะเยา
25. สร้างตึกสงฆ์โรงพยาบาลดอกคำใต้ ณ โรงพยาบาลดอกคำใต้ จ.พะเยา
26. สร้างหอฉันสันกลาง ณ วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
27. สร้างศาลาการเปรียญวัดบุปผาราม ณ วัดบุปผาราม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
28. สร้างสำนักงานทะเบียนอำเภอดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
29. สร้างห้องสมุดโรงเรียนดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
30. สร้างโรงทานสถานีตำรวจดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
31. สร้างพระเจดีย์จอมมงคลคีรีจำปา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
32. สร้างพระเจดีย์จอมมงคลคีรีจำปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
33. สร้างพระเจดีย์จอมมงคลคีรีสารภี ณ บ้านน้ำแพร่ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย
สร้างศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 19 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย
สร้างองค์เจ้าแม่กวนอิม ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย
งานเสร็จเรียบร้อย เมษายน 2551 (เฉลิมฉลองยกยอดฉัตร 28 เมษายน 2551) และยังสร้างอื่น ๆ อีกมากมาย ตลอดทั้งส่งเสริมการศึกษา ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกมากมาย จนได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา เสมาทองคำ
ด้านคำสอนนั้น ท่านมักจะสอนให้คนเป็นคนดี รู้จักให้ทาน เพื่อลดความตระหนี่ ท่านมักพูดว่า "ยิ่งตระหนี่ก็ยิ่งจน ยิ่งให้ทานยิ่งมีทรัพย์ ยิ่งยึดติดวิ่งวุ่น จิตสงบจบเรื่องทั้งมวล"
จาก
http://namphrae.khuntan.org/2010/index.php?option=com_content&task=view&id=78&Itemid=0