เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 15:54:14
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  คู่ของเราเป็นคู่บุญหรือคู่กรรม
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน คู่ของเราเป็นคู่บุญหรือคู่กรรม  (อ่าน 24798 ครั้ง)
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:53:12 »

หลายคนอาจจะสงสัยหรือนึกคิดว่าคู่ของเราที่คบอยู่หรือครองคู่อยู่ด้วยกันเป็นคู่บุญหรือคู่กรรม คืนนี้ผมมีสาระดีๆมาฝาก
         ***************************************************
"คู่บุญ  บุญเป็นธรรมชาติด้านสว่าง บันดาลให้เกิดผลด้านดี ฉะนั้นคู่ที่เคยร่วมบุญกันมามากในชีวิตก่อน ย่อมได้ร่างกายและจิตใจในชีวิตนี้ที่ดึงดูดกันและกัน พอใจกันและกัน กับทั้งเป็นสุขเมื่อมีกันและกัน

อำนาจของบุญมีพลังยิ่งกว่าพลังใดๆในจักรวาล อะไรอื่นเช่นพลังจากอาหารอาจสร้างเลือดสร้างเนื้อ ตลอดจนช่วยให้เราขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ แต่บุญนั้นถึงขั้นบันดาลรูปชีวิตดีๆได้ หรือขับเคลื่อนรูปชีวิตให้พัฒนาขึ้นได้ จนกว่าจะหมดกำลัง

นั่นหมายความว่าบุญที่เคยทำมาร่วมกัน ย่อมบันดาลให้คู่บุญรู้สึกดีต่อกันตั้งแต่แรกคบ ตลอดจนบันดาลให้พบเจอแต่เรื่องดีๆร่วมกัน มีผลให้เป็นสุขและอยากอยู่ใกล้ชิด ไม่อยากจากไปไหน และไม่อยากมีอะไรอื่นมากกว่านั้น ชวนไปไหนไปกัน นึกครึ้มและคุ้นเคยกับบรรยากาศร่วมกันยิ่งกว่าเมื่ออยู่กับใครอื่นทั้งหมด

และเหนือสิ่งอื่นใด อำนาจของบุญเก่าจะบันดาลให้นึกอยากทำอะไรดีๆร่วมกันอีก ทั้งในแง่ของการช่วยคิด ช่วยพูด และช่วยแก้ปัญหาของอีกฝ่ายให้หมดไป ตลอดจนริเริ่มช่วยคนอื่น ช่วยสังคม ช่วยศาสนาร่วมกันด้วย

บุญที่ใหญ่ยิ่งย่อมก่อให้เกิดความรักที่ยิ่งใหญ่ ในทางพุทธแล้ว บุญอันยิ่งใหญ่ที่ประกันความผูกพันไร้ที่สิ้นสุด คือการมีโอกาสเกิดร่วมชาติกับพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันตสาวก แล้วมีจิตเลื่อมใส ถวายสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพแด่พวกท่าน กับทั้งอธิษฐานร่วมกัน สนับสนุนกันและกันให้ได้ไปถึงความสิ้นสุดกิเลส สิ้นสุดทุกข์ด้วยกันในอนาคตกาล

เหตุใดจึงตัดสินว่าเป็นบุญยิ่งใหญ่อันให้ผลผูกพันไร้ที่ สิ้นสุด? เพราะความผูกพันจะมาในรูปของปฏิกิริยาลูกโซ่ ไม่มีการขาดตอนบนเส้นทางสู่จุดหมายสุดท้าย

อันนี้ต้องเข้าใจด้วยนะครับ ว่าพระพุทธเจ้าและพระสาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ย่อมเป็นที่น่าเลื่อมใส กับทั้งสามารถช่วยให้ผู้คนเชื่อเรื่องกรรมวิบาก การเวียนว่ายตายเกิด ตลอดจนการเพียรเจริญสติเพื่อดับกิเลสดับกองทุกข์ เมื่อมีวาสนาพบ พวกท่าน กับทั้งเชื่อถือเลื่อมใส ก็ย่อมมีกำลังใจเปล่งวาจาอธิษฐานต่อหน้าพระผู้ทรงคุณ และเมื่ออธิษฐานมุ่งประโยชน์สูงสุด ก็ย่อมเดินทางไปในสังสารวัฏอย่างมีทิศทางชัดเจน ว่าเจอกันแต่ละครั้งจะโน้มเอียงไปในทางบุญแน่นอน

พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกเป็นผู้ถึงนิพพาน ผู้ถึงนิพพานแล้ว ย่อมเปรียบเสมือนประตูนิพพานแก่ผู้ยังไม่พบนิพพาน เพียงได้กราบพวกท่านย่อมเทียบเท่ากราบพระนิพพาน การทำบุญกับพวกท่านย่อมเป็นการสั่งสมกำลังเพื่อให้พอแก่การเดินทางสู่นิพพาน นี่เอง จึงเป็นที่มาของการกล่าวว่าถ้าทำบุญกับพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์แล้ว อธิษฐานถึงนิพพานร่วมกัน ย่อมให้ผลเป็นความผูกพันในทางเกื้อกูลตลอดไป จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อถึงนิพพานด้วยกันนั่นเอง

เปรียบเหมือนการวางรากฐานของตึกหลายร้อยชั้น เมื่อวางรากฐานเสร็จ คุณจะต่อยอดขึ้นไปเป็นหลายสิบชั้นก็ได้ หรือเป็นหลายร้อยชั้นก็ได้ตามปรารถนา หากในอดีตเคยมีวาสนาได้พบและ ทำบุญกับพระพุทธเจ้าหรือเหล่าพระอรหันต์ คุณย่อมได้รากฐานใหญ่ที่ต่อยอดบุญสูงขึ้นอย่างไร้ขอบเขตจำกัด จนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน

คู่ที่ทำบุญร่วมกันระดับนี้ ย่อมได้ชื่อว่ามีความเป็นที่สุดสำหรับกันและกัน เมื่อ พบกันในแต่ละชาติ จึงไม่เป็นที่สงสัยในความเป็นตัวจริงตั้งแต่ต้น กับทั้งไม่มีทางทอดทิ้งกันได้ลงไปจนตาย แม้ในชาติที่ไม่รู้เรื่องนิพพาน อย่างน้อยก็ต้องรู้สึกผูกพัน อยากช่วยให้อีกฝ่ายพ้นทุกข์พ้นภัยจนถึงที่สุด

ความดึงดูดที่เกิดขึ้นในช่วงแรกคบจะไม่ธรรมดา เหมือนมีความสดใสกระจ่าง เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ และบันดาลให้นึกออกทันทีว่าหน้าตาของรักแท้เป็นอย่างไร พบกันแล้วเกิดรัศมีบางชนิดคล้ายเกราะแก้วล้อมรอบ กั้นเขตให้รู้ว่านี่คือที่ที่สองคนเท่านั้น มีสิทธิ์ทราบว่าเป็นอย่างไร และถัดจากนั้นจะมีแต่เรื่องดีกับดีประดังเข้ามาช่วยให้แน่ใจ ว่าสมควรยินยอมเป็นสามีภรรยากันแต่โดยดี

ไม่กี่คู่หรอกครับที่ได้พบกับประสบการณ์ประมาณนั้น นั่น ก็เพราะโอกาสพบพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เป็นเรื่องยากยิ่ง และแม้พบแล้วก็ไม่แน่ว่าจะมีบุญพอให้เกิดความเลื่อมใสพวกท่าน หรือถึงแม้มีบุญพอให้เกิดความเลื่อมใสพวกท่านก็ไม่แน่ว่าจะมีคู่รักดีๆไปทำ บุญกับพวกท่านร่วมกันหรือเปล่า

บุญใหญ่ที่รองลงมา ได้แก่การเคยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันแบบคู่ผัวตัวเมีย มีรักเดียวใจเดียว ไม่แยกจากกันจนตาย เหตุการณ์ ทั้งหมดนับแต่ร่วมเตียง ร่วมโต๊ะกินข้าว ร่วมเสพความบันเทิง ตลอดจนร่วมเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน จะรวมกันถักทอเป็นสายใยผูกพันที่มองไม่เห็น

ที่ต้องบอกว่า ‘มองไม่เห็น’ เพราะคู่รักอาจไม่รู้สึกถึงสายใยผูกพันด้วยซ้ำในยามเฉยชิน เหมือนตื่นมาเจอหน้าและร่วมกิจวัตรประจำวันกันไปอย่างนั้นเอง ต่อเมื่อพบกันในอีกชีวิตหนึ่ง ทุกอย่างแปลกใหม่ไปหมดแล้ว สายใยอันเหนียวแน่นจึงปรากฏอย่างเด่นชัด ความรู้สึกว่าไม่อาจดิ้นหนีกันและกันพ้นนั่นแหละ การแสดงตัวของสายใยข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายจะยอมรับประมาณว่าใช่เลย เคยอยู่ด้วยกันมา

อย่างไรก็ตาม ‘คู่ที่ใช่ไปเรื่อยๆ’ ประเภทนี้อาจไม่ได้รู้สึกหวือหวาเท่า ‘คู่แท้ไปนิพพาน’ คือแค่ตะลึงๆหน่อย ไม่ได้มีรัศมีบุญเก่ามากั้นเขตหยุดโลก แล้วเหตุการณ์ระหว่างกันในช่วงแรกคบก็เรื่อยๆมาเรียงๆ ชุ่มชื่นใจบ้าง สบายใจบ้าง แห้งเหี่ยวบ้าง น่าหงุดหงิดบ้าง แสดงผลของกรรมขาวกรรมดำที่เคยทำร่วมกันมาแบบลุ่มๆดอนๆ ไม่ถึงกับอะไรๆก็ดีไปหมด สนับสนุนให้อยู่ร่วมกันไปหมด

ถ้าเคยปรองดองกันมาก เจอกันใหม่ก็เหมือนเข้ากันได้ง่าย คุยกันได้ทุกเรื่อง สนิทสนมเป็นกันเอง ไม่เป็นอื่นต่อกันเลย พูดไปในทางเดียวกันหมด แต่ถ้าเคยทะเลาะเบาะแว้งบ่อย เจอกันใหม่ก็จะออกแนวขิงก็ราข่าก็แรง จิกกัดทิ่มตำกันแบบพ่อแง่แม่งอน แต่ก็รู้สึกหวานและแสนคิดถึง โดยเฉพาะตอนกลางคืนก่อนหลับไปเดี่ยวๆ

บุญที่รองลงไปกว่านั้น ได้แก่การเคยเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่รักกัน เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตอบแทนกัน ไม่หวังผลประโยชน์จากกัน ในชาติใหม่สายสัมพันธ์ฉันญาตินั้นจะเตือนให้รู้สึกผูกพันและไว้ใจกัน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน จะขอความช่วยเหลือหรือไหว้วานอะไรก็เกรงใจน้อยกว่าคนอื่น

ความรู้สึกลึกๆจะเป็นไปตามศักดิ์ที่เคยนับญาติ หรือคุ้นศักดิ์คุ้นนิสัยกันมา เช่น ถ้าเคยเป็นพี่เป็นน้อง ก็จะรู้สึกเหมือนพี่เหมือนน้อง หัวเราะเล่นหัวได้โดยที่ฝ่ายน้องไม่ถือสา กับทั้งมีความนับถือยำเกรงฝ่ายพี่อยู่ในที ขณะที่ฝ่ายพี่ก็ให้ความเอ็นดู เป็นห่วงและอยากดูแลโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

แรกเริ่มที่คบหาจะมีความเอ็นดูนำมาก่อน จากนั้นเมื่อใกล้ชิดกันมากขึ้น ก็ค่อยๆแปรเป็นความรู้สึกทางเพศ อันเป็นไปตามความดึงดูดของกายที่กำเนิดมาจากคนละพ่อคนละแม่ แต่กรณีทำนองนี้ก็ไม่แน่นอน ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปักใจกับความรู้สึกแบบญาติ ก็อาจไม่อยากเล่นด้วย หรือกระทั่งพลอยเกลียดอีกฝ่ายไปเลยที่มามีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับตน

สรุปแล้วความดึงดูดกันด้วยอำนาจบุญ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อนเสมอไป แม้ความรู้สึกแรกจะอยากเข้าหากันเป็นพิเศษ ก็ต้องดูด้วยว่าพื้นฐานความรู้สึกที่มีต่อกันเป็นแบบไหน ถ้าขยับความสัมพันธ์ไปในเชิงชู้สาวแล้วจะมีฝ่ายใดเดือดร้อนไหม บางคู่มีอันต้องเลิกคบกันดื้อๆ เพียงเพราะฝ่ายหนึ่งเปิดเผยความในใจแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ก็นับว่าน่าเสียดายมิตรภาพไม่น้อย"

จากหนังสือ "รักแท้มีจริง ผู้เขียน:ดังตฤณ"
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:55:30 »

"คู่กรรม บาปเป็นธรรมชาติด้านมืด บันดาลให้เกิดผลด้านร้าย ฉะนั้นคู่ที่เคยร่วมกันทำบาปหรือผูกเวรกันมามากในชีวิตก่อน ย่อมได้ร่างกายและจิตใจในชีวิตนี้ที่ผลักดันกันออกห่าง ไม่พอใจกันและกัน กับทั้งเป็นทุกข์เมื่อต้องอยู่ใกล้กัน

แต่การจองเวรนั้นพิสดารนัก ถ้ารูปแบบของการจอง เวรกันเป็นไปในแบบผัวเมีย ชาติปัจจุบันจะเริ่มความสัมพันธ์ด้วยแรงดึงดูดทางเพศเกินห้ามใจก่อน แล้วจึงตามมาด้วยแรงผลักทางอารมณ์ที่น่ารุ่มร้อนในภายหลัง

มันเป็นวงจรเวรต่อเวรไม่รู้จบรู้สิ้นครับ เคยดี เคยร้าย ลงท้ายไม่ปรองดองกันอย่างถาวร แล้วจบลงด้วยความวิปโยคหรือโศกนาฏกรรมถึงเลือดถึงเนื้อ ผ่านภพผ่านชาตินึกว่าจะจบ กลับต้องมาเจอกันใหม่ คบกันใหม่เพราะจำกันไม่ได้ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเข้าทางวงจรอุบาทว์อีกแล้ว

เวลาฝ่ายหญิงเม้าท์ให้เพื่อนฟังก็มักบ่นว่าไม่รู้เป็น อะไร กับคนนี้ขนลุกแบบกล้าๆกลัวๆอย่างประหลาด ว่าจะไม่ๆ แต่ก็เหมือนเจอหลุมดำลึกลับที่สู้ไม่ไหว คล้ายเจอเสน่ห์ยาแฝดลากให้ถลาเข้าไปหาทุกที

หรือบางกรณีนะครับ กลกรรมบวกกลกามก็แนบเนียนกว่านั้น ไม่มีสังหรณ์ร้ายใดๆให้เฉลียวใจทั้งสิ้น หลงนึกว่ารักแท้คือแรงดึงดูด ภายหลังถึงค่อยรู้ว่าดึงดูดให้มาตบกัน!

หลักสังเกตคู่เวรง่ายๆ คือคุณจะเหมือนมีสองความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน อาจสลับๆหรือควบคู่กันไป เช่น เวลาอยู่ห่างจะคิดถึงกัน ถวิลหาอยากอยู่ใกล้คล้ายมีแรงดึงดูดเกินต้าน แต่พอมาอยู่ใกล้กันจริงๆกลับอึดอัดแปลกๆ มองหน้าไม่เต็มตา ไม่นึกอยากคุย หรือหนักกว่านั้นคือคุยกันมีแต่ทะเลาะ

อีกหลักสังเกตหนึ่งคือพวกคุณจะคิดบุญร่วมกันยาก คิดเมื่อไรเป็นต้องเจอเหตุหน่วงเหนี่ยวหรืออุปสรรคขัดขวางอย่างใดอย่างหนึ่ง เสมอ เรียกว่าเวรที่มีร่วมกันจะไม่ยอมให้รู้สึกดีต่อกันง่ายๆ จะแกล้งให้อยู่บนเส้นทางบาปเวรเรื่อยไปนั่นแหละ

เวลากรรมเก่าจะให้ผลแบบมืดๆนะครับ มันมาได้ทุกท่าเลย ต่อให้ไม่มีสถานการณ์เลวร้ายใดๆ แค่เรื่องขี้ปะติ๋วอย่างเช่นมาสายไปหน่อยเดียว ก็ทำเอาของขึ้นได้ คือพายุความโกรธที่กระโชกขึ้นมาจะไม่สมเหตุสมผล เหมือนแค้นอะไรนักหนา แรกๆแค่อาละวาดเกรี้ยวกราดแบบพอทำใจอภัย แต่หลายครั้งเข้าพอถึงขีดสุดความอดทน ก็จะวกกลับไปหาวงจรอุบาทว์ในชาติก่อนเต็มรูปแบบ คือลงมือลงไม้ ทุบ ถอง ตีเข่าเขย่าศอก หรือถึงขั้นตายเป็นตาย หยิบอาวุธขึ้นมาประหัตประหารกัน

สิ่งที่น่ากลัวจริงๆในการต้องมาอยู่ร่วมกับคู่เวรนั้น ไม่ได้อยู่ที่การทะเลาะเบาะแว้งหรือกระทั่งการฆ่าแกงกัน แต่เป็นรูปชีวิตใหม่ที่ถูกบันดาลขึ้นด้วยบาป หลังตายจากโลกนี้ไปแล้ว

หลักการดูคติอันเป็นที่เกิดใหม่นั้น ผู้รู้จักธรรมชาติดีที่สุดเช่นพระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้ฟังง่าย คือถ้าสั่งสมการคิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย อันเป็นเหตุให้จิตเศร้าหมองก่อนตาย อบายย่อมเป็นที่หวังได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ลองตรองดูเถิดว่าถ้าชีวิตคู่ของคุณคือความอึดอัดคัดแน่น ชวนให้คิดร้าย พูดร้าย และทำร้าย อะไรจะเกิดขึ้น?

ความจริงก็คือ ถ้าคุณดับไฟในครัวเรือนไม่ได้ทันก่อนตาย ก็จะต้องเจอไฟในอบายกันต่อไป

มีคนตายไปอบายให้ดูทุกวัน เสียดายคนดูไม่มีความสามารถจะเห็น เพราะเห็นได้ก็แค่ศพที่ไร้ลมเข้าลมออก อย่างอื่นที่นอกเหนือจากนั้นถูกปิดกั้นไว้ มิฉะนั้นพวกเราทุกคนคงตั้งหน้าตั้งตาสอบให้ผ่านด่านชีวิตคู่กันทั้งหมด

กันไว้ดีกว่าแก้ครับ ดูให้ดีว่าระหว่างคุณกับคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ เป็นพวกที่จับคู่กันเพื่อกุศลหรืออกุศล อย่าปล่อยให้สายเกินไป เพราะไม่มีใครกลับไปแก้ไขอดีตได้

ท่องไว้นะครับ วิธีดับไฟที่ง่ายที่สุด คือดับมันเสียก่อนจะเริ่มไหม้

สรุปแล้วความดึงดูดกันในเบื้องต้นไม่ได้เป็นประกันว่าคุณกับเขาเป็นคู่บุญ โดยที่แท้อาจเป็นคู่เวรก็ได้ ฉะนั้น ถ้ารู้ตัวว่าเจอคู่เวร และไม่อาจหนีพลังดึงดูดอันมหาศาลของหลุมดำได้ ก็ให้เลือกว่าเจอครั้งนี้เพื่อยุติศึก อย่าได้เจอกันเพื่อต่อเวรอีกเลย"
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 10 สิงหาคม 2011, 23:12:51 »

สรุปสั้นๆ คือเจอคู่เวร ก็อโหสิกรรม
อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย ขยิบตา
IP : บันทึกการเข้า
nanglaenai
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 06:57:09 »

ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์ ดังพระพุทธองค์ได้ตรัสสอนไว้ รักแบบความใคร่ๆ ไม่ยั่งยืน แต่รักแบบเมตตา เอื้ออาทร เห็นอกเห็นใจกันในปัจจุบัน ย่อมให้โลกมีแต่ความสันติ.
IP : บันทึกการเข้า
framezasabi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 07:09:29 »

สงสัยจะเป็นเวรคู๋กรรม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Number9
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,759



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 11:16:37 »



ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้เจ้า

IP : บันทึกการเข้า
khonmieng
เพื่อชีวืต โบราณคลาสสิค
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 532


ซื้อขายเขาควาย


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 20:10:06 »

กรรมทั้งนั้นแหละครับ....คู่บุญก็กรรม..... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ซื้อขายเขาควาย ปลอกเขาควาย โทรศัพย์มือถือรุ่นเก่า ธนบัตรเก่า ตะเกียงเก่า ของโบราณ ไอดีไลน์ khonmieng โทร 062-2862152
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 21:53:31 »

.........


* I10920431-32.gif (199.31 KB, 170x168 - ดู 271 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
nansom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 461



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2011, 01:03:35 »

คู่สร้างสมบุญกรรมได้ไหม เพราะจะได้สร้างไปเรื่อยๆ จนนิพพานไง
IP : บันทึกการเข้า
Alony
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 649


^_____^


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 21 สิงหาคม 2011, 18:02:29 »



คู่เราเป็นคู่ที่เหมาะสม(สมน้ำหน้า) ลังเล

เหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโล เหมือนกิ่งข่อยกับใบตำแย อิอิ

ฯลฯ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

" ฉันจะมองแต่ข้อดีของผู้คน เพราะตัวฉันเองก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ ฉันจึงไม่บังคับที่จะตรวจสอบข้อผิดพลาดของผู้อื่น " ( Mahatma Gandhi )
sweets
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 27 สิงหาคม 2011, 20:26:51 »

รู้สึกเหมือนเจอคู่กรรม ทำใจเลิกไม่ได้สักที  ทำไงดี ร้องไห้
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!