สำหรับ
แมวแล้ว ก็ไม่มีทางอ่านหนังสือออกได้สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีเท่าไหร่ แมวตัวหนึ่งมองโลกทั้งโลกเหมือนกับคนที่ทำแว่นตาหายแมวก็ยังแยกสีไม่ได้อีกด้วย แนวต้องเสนอรายละเอียดและสีสันทิ้งไป และมองเห็นภาพที่ชัดเจนในยามค่ำคืนแห่งสีสัน ของแบบนั้นเจอทางแยกได้แต่สีเหลืองเขียวและฟ้าเท่านั้น บางทีเช่นสีแดงก็เห็นเป็นสีเทาหรือว่าสีดำ
นอกเสียจากว่าจะเกิดการต่อสู้ขึ้น แมวไม่ค่อยทำเสียงอะไรมากนะ สิ่งที่พวกมันไม่ทำก็คือการร้อง เหมียว เหมียว น่าจะเป็นเพราะว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะร้อง เหมียว เหมียว พวกมันเรียนรู้ว่ามนุษย์จะตอบสนองต่อเสียงเรา เป็นพวกที่ชอบอาหารแมวจะพบว่า ภาพที่ดีที่สุดที่จะเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ ก็คือการส่งเสียงร้อง แล้วแมวก็จะใช้ภาษากาย แสดงถึงสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะอยากกินอาหาร หรือว่าจะออกไปข้างนอก ที่ว่าเจ้าของพูดแล้วแมวก็พูดสลับกัน เข้าใจสิ่งที่คุณพูดหรือไม่หรือแค่อยากจะบอกว่าหิวแล้ว เราก็ไม่อาจแน่ใจว่า แบบจะพูดมากขึ้น ถามว่าอยู่กับคนเดียว พอพูดภาษาแมวได้คล่องแคล่ว
แมวนั้นเป็นสัตว์ไม่สุภาพมากนัก มันบอกว่าอยากออกไปข้างนอก อยากได้อาหาร แต่อย่ามายุ่งกับฉัน ก็บอกว่าไหนลูบตัวให้ฉันหน่อยซิ คุณจะเรียนรู้เสียงที่มันทำ แล้วก็เรียนแบบต่อไป แมววิวัฒนาการก่อนและโดดเด่นเพื่อช่วยในการล่า แมวบ้านที่ใช้ชีวิตง่ายๆอย่างเช่นเจ้าแมงโก้ ก็ยังมีทักษะการล่าสุดเฉียบขาด และดวงตาด้านหน้าที่ยอดเยี่ยม น่าจะแยกออกจากตรงกลางเพื่อหาจุดกึ่งกลางภาพสมอง ที่ควบคุมส่วนนี้จะผลิตภาพ 3 มิติ ออกมาก็จะรู้ว่าวัตถุนั้นใหญ่แค่ไหน และอยู่ไกลแค่ไหน แล้วตาใหญ่กว่าเราซะอีก ทำให้พวกมันรวบรวมแสงได้มากขึ้น
แมวต้องการช่องตาดำ มาเป็นแสงจ้าแบบเดียวกับที่ช่องตาดำกลมของเรา ไม่สามารถทำได้มันสามารถเปลี่ยนเป็นทางยาวและคลื่นแสงเบาลงไป มันจะเปิดออกใหญ่กว่าที่ช่องตาดำของมนุษย์ ทำได้แม่ก็มองไม่เห็น กลางความมืดมิด จะมันมองเห็นได้มากกว่ามนุษย์ ในแสงสลัว แมวนั้นมีกระจกที่ปลายตาแสงที่ผ่านเข้ามา โดยไม่รู้ตัวผ่านทาง retina แสงจะถูกสะท้อนกลับ ทำให้ประสิทธิภาพของดวงตาของแมงโก้เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ มากกว่านั้น ยังมีเซลล์ที่ไวต่อแสงซึ่งสามารถทำงานได้ดีที่สุด ในสภาพแสงน้อยอีกด้วย รวมแล้วสามารถมองเห็นได้ระดับแสงที่น้อยกว่า เพื่อนมนุษย์ถึง 6 เท่า แมวจะดีกว่ามนุษย์ในทุกด้านแปลว่าจะสอนแค่ไหน
เครื่องมือการสื่อสารที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของแมว ก็คือการฟังเสียง ซึ่งช่วยให้มันหาตำแหน่งของเสียงได้ สามารถฟังเสียงที่หูมนุษย์ไม่ได้ยินและเสียงสูง เช่นเสียงร้องของหนูได้ยินเสียงร้องของหนู มันก็จะต้องรู้ให้แน่ชัดว่ามาจากไหน ความรุนแรงของเสียงในหูแต่ละด้านทำให้หัวของแมวหันไปยังทิศทางที่ถูกต้องได้โดยอัตโนมัติ แมวยังเก่งในการสังเกตุการเคลื่อนไหวอีกด้วยยิ่งเข้าใกล้เยอะมากเท่าไร ภาษาที่ต้องการคือการสำคัญที่ทำให้การดำเนินการตามขั้นตอนปกติ
แต่มันจะใช้หนวดเพื่อสัมผัสขนยาวกว่าเส้นขนแมวธรรมดาถึง 3 เท่า และฝังลึกในผิวหนังลึกกว่าคนธรรมดา 3 เท่า มีเซลล์ประสาทที่ปลายทางร้านทำให้สมองได้รับรู้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับสิ่งที่ตรวจสภาพอยู่ เช่นเดียวกันและคุ้นเคยกับการสำรวจสิ่งใหม่ๆ และการทดสอบอาหารแมวเช้าสามารถรับรู้ถึงความเร็วของสิ่งที่ผ่านมาตรงหน้าจากเท้า ส่งไปยังสมองทันทีราวกับไฟฟ้าหายาก เพียงแค่สัมผัสหรือการลูบไล้อาการของแมวถูกปรับอากาศล่าแต่ก็เหมาะสำหรับการหาคู่ได้เช่นเดียวกัน
และเพศเมียพร้อมจะตอบสนองจะประกาศ โดยการปล่อยกลิ่นอวัยวะ ในจมูกของแมวเพศผู้ สามารถรับรู้ได้อยู่อย่างอิสระให้พูดหลายตัวจะรวมตัวกันได้ทุกตัว ดังนั้นด้วยการครองคู่อย่างอิสระจึงสามารถแน่ใจได้ว่าอย่างน้อย เนื่องจากพ่อแม่ไม่รู้ว่าลูกของมันคือตัวไหนมันถึงไม่มาทำร้าย หรือสังหารเลยสักตัวเดียว ขึ้นมาพวกมันอ่อนแอที่สุด ต่ว่าจะมีคนปกคลุมแต่ก็ควบคุมอุณหภูมิตัวเองไม่ได้ตาบอดหูหนวก และเดินไม่ได้อีกด้วย
เพราะฉะนั้น อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้และความอบอุ่นจากอกแน่นอนซบและดูดนมถึงวันละ 8 ชั่วโมง แมวดูดนมก็หันไปทำอีกอย่างนึงก็คือการนอนหลับ การเดินทางจากตอนเกิดถึงเติบใหญ่นั้น ค่อนข้างเร็วตามมาตรฐานของมนุษย์กับแมวแล้ว มันอาจจะช้าจะมีอายุแค่ 10 วันถึง 6 โมงเย็น แล้วแต่ตายังมัวและคงไม่หายหมดอีกกว่า 3 สัปดาห์ ขณะนี้ลูกแมวยังไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายๆมันใช้การก้าวย่างจะช้าติดพื้นเพื่อส่งตัวให้มั่นคง 3 สัปดาห์
แมวน้อยก็สามารถลุกขึ้นเดินได้แต่ว่าจะสักเล็กน้อยก็ตาม แต่มันยังไม่สามารถเดินคนเดียวเช้าได้เหมือนรุ่นใหญ่ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อให้เหมาะสมแต่ความเชื่อมั่นเริ่มมีมากขึ้น สำรวจและเล่นอากาศเล่นเริ่มดีขึ้นมันหายหมดแล้วทำให้มองเห็นได้ดีขึ้น