พระธาตุเมล็ดข้าวเรื่องเล่าที่ยาวนาน
อนุสรณ์สถานเมืองน่านและเชียงราย
เจ้านครเชียงรายให้ช้างเผือกถวาย
เพื่อเป็นสายสัมพันธไมตรี
พุทธา ธรรมา สังฆา นุสสติ
ธาตุเจดีย์ สิริองค์ มงคลไข
อริยมรรค จักบำเพ็ญ มิเว้นวัย
เห็นโทษภัย ภพ-กาม ข้ามพ้นเทอญ ฯ
"พระธาตุเมล็ดข้าว"
อนุสรณ์สถานเมืองน่านกับเชียงราย
พระธาตุเมล็ดข้าว เป็นพระธาตุที่ดูแตกต่างกับพระธาตุทั่วไป
ตรงที่อยู่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ล้อมรอบ
แต่อยู่ข้างล่างกลับมองไม่เห็นแม้แต่น้อย เพราะซ่อนอยู่บนเขา
โดยมีต้นไม้ขึ้นล้อมรอบ จึงเป็นประธาตุที่มีคนรู้จักกันน้อย
และขึ้นไปกราบไหว้บางตา แม้จะอยู่ริมถนนเส้นหลัก
อ.บ้านหลวง-อ.เชียงม่วน ก็ตาม"
มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า ในสมัยก่อนเจ้าผู้ครองนครเชียงราย
ต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรีกับนครน่าน
ดังนั้น เจ้าผู้ครองนครเชียงราย จึงได้ถวายช้างเผือกแก่เจ้าผู้ครองนครน่าน
โดยให้เจ้าครองนครน่านเสด็จไปรับช้างเผือกที่นครเชียงราย
หลังจากเสด็จถึงนครเชียงงราย และได้รับถวายช้างเผือกแล้ว
เสด็จกลับนครน่าน การเดินทางกลับนครน่าน เจ้าผู้ครองน่าน
และคณะข้าราชบริพาร ได้เดินทางเข้าเขตตำบลสวด
และได้พักแรมในบริเวณที่แห่งหนึ่ง พร้อมได้ปรึกษาหารือ
กับคณะข้าราชบริพาร เพื่อทำพิธีสมโภชช้างเผือกที่ได้รับ
มอบจากเจ้าผู้ครองนครเชียงราย ในพิธีสมโภช ได้มีการ
นิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาตและเจริญพระพุทธมนต์ราษฎร
ที่มาร่วมพิธีสมโภชช้างเผือกครั้งนี้ ได้นำข้าวปลาอาหาร
เครื่องไทยทาน ต่าง ๆ มาถวายแด่พระสงฆ์เป็นจำนวนมาก
จนพอกพูนล้นบาตรของพระสงฆ์ ซึ่งภาษาพื้นเมืองเหนือ
เรียกว่า “สวด” ปัจจุบัน คือ สถานที่ตั้งอำเภอบ้านหลวง
จังหวัดน่าน ข้าวที่พูนล้นบาตรออกมา ได้นำมาปั้นเป็นรูปเจดีย์
ต่อมาชาวบ้าน ที่ศรัทธาได้ช่วยกันเอาอิฐก่อหุ้มโดยรอบ
จนกลายเป็นองค์เจดีย์ขึ้นมา ได้เคยมีผู้เห็นแสงสว่างไสว
ออกมาจากพระธาตุในเวลากลางคืนกาลเวลาต่อมาพระธาตุ
ได้ชำรุดทรุดโทรมลงคณะศรัทธาจึงร่วมแรงร่วมใจกันบูรณปฏิสังขรณ์