การกักโรคจําเป็นไหม?
^^ ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองเสมอในการซื้อปลาใหม่เข้าบ้านว่า.....มีความเสี่ยงที่จะทําให้ปลาเก่าในบ่อมีโอกาสป่วยหรือเปล่าแล้วถ้ามี!!!....จะเสี่ยงดีไหม??? หรือจะลดความเสี่ยงอย่างไร และถ้าปลาเก่าและปลาใหม่ เกิด ป่วยกันหลายๆตัว หรือทั้งบ่อ เอกจะมีเวลา มีวิธีที่จะดูแล รักษาหรือเปล่าแต่.....ถ้าเอกจะลดความเสี่ยงเหล่านั้นจะทำอย่างไร??? หลายๆปีที่แล้วตอนเริ่มเลี้ยงใหม่ ปลาที่บ้านตายยกบ่อเหมือนกันกับนักเลี้ยงมือใหม่ทั่วไป....เพราะซื้อปลาใหม่ตลอด ไม่เคยกักโรค ครั้งแรกไม่ตายก็ดีใจ ชะล่าใจเรื่อยมา จนครั้งต่อมาปลาใหม่มาลง ปลาเริ่มซืมแล้วก็ทยอยตายหมด เกือบยกบ่อ T_T! หลังจากนั่งร้องไห้ น้ำตาซึม ก็เริ่มคิดถึงการกักโรค...การกักโรค คืออะไรหละ?
?? ทำอย่างไร??? ปลาทุกตัวมีเชื้อโรคมีภูมิคุ้มกันเหมือนกับคน เมื่ออยู่บ่อเดิมกับเชื้อโรคเดิมก็ไม่ป่วย แต่พอ . . เจอปลาใหม่ เชื้อใหม่ ก็อ่อนแอ โดยเฉพาะปลาขนาดเล็ก เจอของใหม่เสร็จทุกราย ดังนั้นการกักโรคสําหรับ คือการกักบริเวณ และให้เวลากับการปรับตัวของปลาใหม่ คลายความเครียด เพื่อให้เข้ากับสภาวะที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากที่เดิมที่เคยอยู่ เราจะเริ่มทำการกักโรคทําเมื่อไหร่ เราจะทำทุกครั้งที่มีปลาใหม่เข้าบ้าน ไม่ว่าจะมาจากไหน ไว้ใจแค่ไหน..ทุกครั้งที่ปลาเก่าของผมออกไปที่อื่น และไปปนกับตัวอื่น ผมไม่เคยไว้ใจเหมือนกัน โดยจะกักโรคในบ่อยางหรืออ่างไว้กักโรคครับ โดยมีลักษณะดังนี้
1.ขนาดใหญ่โต พอให้ปลาอยู่อย่างมีความสุขตามสมควร ไม่เล็กจนปลาเครียด ที่ไม่เป็นไร พาลจะป่วยไปเสียเปล่าๆ 2.มีฝาปิดหรือตาข่ายขึงกันโดด 3.อยู่ในที่ไม่อึกทึก เดี๋ยวจะประสาทกินกันไปก่อน ไม่ตากแดดตากฝน
4.มีออกซิเจน เพียงพอ เหลือพอ เดี๋ยวจะลอยคอ 5.มีระบบกรองที่สมบูรณ์, ไม่งั้นน้ำเสีย ถ้าไม่พร้อมกักไปเหมือนขังไว้ เครียดทั้งปลา เครียดทั้งคน
การกักโรค เริ่มโดย
1. เริ่มต้นด้วยการเตรียมนํ้ํา เตรียมอุปกรณ์ล่วงหน้าไว้สักวันสองวัน ให้นํ้ําปลอดคลอรีน หาทําเลที่เปลี่ยนถ่ายน้ําสะดวก มีอ่างเตรียมนํ้ําสํารองไว้ก็จะดี อ่างกักโรคควรมีการระบายอากาศที่ดีและมีแสงแดด ส่องบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ควรตากแดดเปรี้ยงๆ ป้องกันการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างวัน
2 .ปลาใหม่มา ผมใช้วิธีน็อคด้วยด่างทับทิม(PP) แต่ถ้าไม่เคยก็ไม่ต้องนะครับ เด่วคนเครียดแทน หรือแค่ตรวจร่างกายแล้วปล่อยปลาลงบ่อกักเลยครับ แค่ปลานะครับ น้ำมะต้อง
3. แช่ยาปฏิชีวนะ เตตร้าพลัส 20 กรัมต่อน้ำ 1 ตันและให้ by passระบบกรอง, ต้องแช่ 5-7 วันเป็นอย่างน้อย เปลี่ยนนํ้า50% เมื่อครบ24ชั่วโมง หยุดยา 2-3วันเพื่อสังเกตุอาการปลา ก่อนใช้ยากำจัดปรสิต
4.กําจัดปรสิตขนาดเล็กภายนอกโดยใช้ กลูตาร์แม็กซ์ 2ซีซี ต่อน้ำ 1ตัน ทุก3วัน 3 ครั้ง ตามฉลาก นับวันที่ 1...4....7 รวมไปอีก 7วัน และ หยุด 2-3วัน ให้ปลาได้พัก อย่าลืมเปลี่ยนถ่ายนํ้า10-20% หลังครบ 36-48 ชั่วโมง
5.กรณีปลายังมีอาการแฉลบอันเนื่องมาจาก ปรสิตขนาดใหญ่เช่น เห็บ ปลิงใส หรือหนอนสมอ เราอาจเลือกใช้ ดิพเทอร์เร็กซ์ โดยอัตราการใช้ 0.25กรัมต่อนํ้า 1 ตัน กรณีเป็นปลาขนาดเล็ก และใช้ที่ 0.5กรัมต่อนํ้า 1 ตัน กรณีปลาขนาดใหญ่ หรือ ดิมีลีน โดยอัตราการใช้ 0.5-1กรัมต่อนํ้า 1 ตัน เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ ปล.ดิมีลีนไม่สามารถกำจัดปลิงใสนะครับ^^
6.ทดสอบปลาใหม่ด้วยนํ้าในบ่อเลี้ยง ผมเริ่มใช้นํ้าในบ่อปลาเติมในอ่างกักโรค ครั้งละ10-20% ตามสะดวก ทุก 3-4วัน เพื่อให้ปลาใหม่เริ่มคุ้นเคยกับนํ้าในบ่อและให้ปลาใหม่สร้างภูมิกับเชื้อโรคต่างๆในระบบของเรา ขั้นตอนนี้ 7-10วัน หมั่นสังเกตุปลาหน่อย ถ้าไม่มีปัญหา
7. คราวนี้ ทดสอบปลาเก่า กับเชื้อที่มากับปลาใหม่ หาหน่วยกล้าตายมา ... จับปลาเก่าใน บ่อมาสัก1-2ตัว เป็นตัวแทน เอามาเลี้ยงร่วมกับปลาใหม่ เพื่อทดสอบว่าปลาเก่ารับมือกับเชื้อพันธุ์ใหม่ได้หรือเปล่า ว่ากันประมาณ 7วัน
8. เมื่อนำปลาใหม่ลงบ่อเลี้ยง ให้ใส่ กลูตาร์แม็กซ์ 2-3ซีซี ต่อน้ำ1 ตันในบ่อเลี้ยงเพื่อฆ่าเชื้อโรคในบ่อเลี้ยงอีกครั้ง เพื่อลดโอกาศสูญเสียครับ^^
ปล.ขั้นตอนการกักโรคจะเปลี่ยนแปลงตามแหล่งที่มาและอาการของปลาเป็นสำคัญครับ
ถูกใจ · · แชร์
ก้อง จิ๊กโก๋มีกรรม และ อีก 12 คน ถูกใจสิ่งนี้