เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 21 กรกฎาคม 2025, 06:52:37
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ป้ายยักษ์นี้..จะตั้งอยู่ถาวร หรือชั่วคราว ???
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] พิมพ์
ผู้เขียน ป้ายยักษ์นี้..จะตั้งอยู่ถาวร หรือชั่วคราว ???  (อ่าน 4419 ครั้ง)
jamiga
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 150


« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 03 ธันวาคม 2015, 19:41:14 »

imaciiz1988เขียนได้ดีมาก
บ่งบอกถึงการมีความรู้
มีวิจารณญาน

ชมเชยครับ

และขอเสนอให้เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ
มันเป็นสมบัติของเจ้าของที่เขา
เราๆอย่าไปอยากยุ่งเลย
หาเรื่องใหม่ๆมาคุยกันดีกว่าครับ
ให้ปลงเสียว่า
สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงสถานะไปตามวันเวลา
เกิดขึ้น
ตั้งอยู่
ดับไป
แม้แต่ป้ายยักษ์..ก็ต้องมีวันรื้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 ธันวาคม 2015, 19:44:31 โดย jamiga » IP : บันทึกการเข้า
jesa
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 08:41:43 »

..............หากว่าอยากจะอนุรักษ์ไว้ ผมแนะนำให้ถ่ายรูป แล้วอนุรักษ์ และเก็บไว้ในความทรงจำของทุกคน....


** เพิ่มข้อมูลครับนิดหนึ่ง
1..... เมื่อหลายสิบปีก่อน ผู้เกิดก่อนยุคนั้นๆ คงจำรายการดัง "ตามไปดู โดยหมอซ้ง" กันได้นะครับ  หมอซ้งเคยมาถ่ายทำรายการ น้ำบวยหลวงนี้ออกอากาศไปทั่วประเทศ ได้ดูแต่ไม่มีเก็บ ใครหาได้ขอCopy คลิปนั้นไว้หน่อยนะครับ     

2...  ผมมีบ้านที่บ้านถวาย หางดงจ.เชียงใหม่  เวลากลับไปที่ 4 แยกบายพาส จะเห็นคนโทยักษ์ตั้งอยู่ที่บ้านเหมืองกุงเป็นสัญญาลักษณ์เด่นชัด  เค้าเล่ากันติดตลก..ว่า คนโทใช้คู่กับน้ำบวย  ดูคนโทยักษ์ก็มาที่นี่แต่ดูน้ำบวยให้ไปเชียงรายถึงจะคู่กัน ดูเค้าภูมิใจมากขนาดเพิ่งจะสร้างไม่กี่ปี

3.   เชียงรายมีกลุ่ม บ้านถ้ำผาตอง ม.6 ต.ท่าสุด  ที่ทำน้ำบวยจากกะลามะพร้าว ด้ามแกะสลักเป็นรูปต่างๆตามวิถีล้านนาเป็นเอกลักษณ์ เคยมีชื่อเสียงโด่งดังได้รับการบันทึกและกล่าวถึงว่าเป็นของดีของจังหวัด อาจเป็นที่มาของน้ำบวยนี้ก็ได้ ไม่รู้ทุกวันยังมีอยู่มั๊ย?

4.   น้ำบวยคู่กับคนโทหน้าบ้าน เดิมมีกันทุกบ้าน มันไม่ได้มีประโยชน์มากมายอะไรเลยในวันนี้ ก็คงเหลือแต่ภาพไว้ชมเหมือนกัน  และบอกเรื่องเล่าขานว่ามันแสดงถึงอะไรในวิถีล้านนา

บ้านผมไม่ได้อยู่แถวกระบวยนี้ /ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับป้ายหรือเจ้าของ/ได้เห็นความไม่เหมาะสมก็ถาม/เห็นความคิดดีๆเช่นสร้างป้ายเป็นฉากหลังกระบวย ก็ทึ่งนะ(คุณต๋อยหอย,คุณ colorado4,คุณ ling jak jak)   ดังนั้นท่านที่เตือนว่า  อย่าไปยุ่งกับเขา เราไม่เกี่ยว ก็จะเห็นว่า บางครั้งการระดมความคิด มันจะได้สิ่งที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน  ถ้าผมเป็นเจ้าของผมก็จะรับฟัง

ท่านที่อวยพรให้ผมซื้อที่เองเลยและเอาป้ายออก... ผมขอขอบคุณมากและขอให้ความคิดของท่านเป็นจริงและสำฤทธิ์ผลในเร็ววันนี้เทอญ...สาธุ

 



       



* A10490488-0.jpg (193 KB, 485x660 - ดู 464 ครั้ง.)

* 8673baed.jpg (33.62 KB, 284x574 - ดู 454 ครั้ง.)

* 8673c095.jpg (121.48 KB, 568x398 - ดู 460 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Chilla_king
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 09:34:52 »

นานาจิตตังครับ ถนนบายพาสก็ช่างประจวบเหมาะออกตรงนั้นพอดี
น่ามาออกแถว ๆ คอนโดเน๊อะ แม๊! นิดเดียวเอง.
IP : บันทึกการเข้า
Seatachai
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 94


« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 10:28:03 »

ถ้าตรงนั้นเป็นของเอกชน คงยากที่จะห้ามเขาย้ายหรือนำป้ายโฆษณาออก
แต่ถ้าย้ายกระบวย หรือสร้างใหม่มุมฝั่งลานถนนกว้างๆ (ตรงข้าม) น่าจะได้นะครับ
ซึ่งคงเป็นหน้าที่ของเทศบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นสมควรดำเนินการต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 10:34:58 โดย Seatachai » IP : บันทึกการเข้า

ID Line : Seatachai
Facebook : Seatachai
Telephone : 086-2770780, 089-7555257
*ติดต่อผ่านโทรศัพท์จะเร็วที่สุด
Sing ha
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,345



« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 11:35:22 »

คิดว่าเขาจบกระทุ้แล้ว....  ยิ้มกว้างๆ
แต่เมื่อท่าน jesa มานำเสนออีกแง่มุมต่อก็นำภาพที่สงขลามาให้ดูครับ
ที่เอกชนเหมือนกันแต่ไม่ขอออกความเห็นในประเด็นต่างๆ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
เพียงแต่ให้ดูว่าทางราชการเขาอนุรักษ์ไว้


* DSCN8035_C.JPG (373.66 KB, 700x597 - ดู 436 ครั้ง.)

* DSCN8036_C.JPG (506.14 KB, 800x800 - ดู 440 ครั้ง.)

* DSCN8031_C.JPG (343.92 KB, 600x800 - ดู 439 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 11:41:51 โดย Sing ha » IP : บันทึกการเข้า
Sing ha
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,345



« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 11:51:01 »

     ตึกที่เห็นน่าจะอายุ ไม่ต่ำกว่า 70 ปี..สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
นายสิงหายังไม่เกิด  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม เข้าใจว่าเจ้าของยังใช้ประโยชน์อยู่
เพราะเห็นมีคนเดินเข้าเดินออก

     ถ้าจำไม่ผิดก่อนหน้าที่จะมีการอนุรักษ์แบบนี้ ก็มีการตั้งกระทู้
ในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค...แบบที่ท่าน  jesa ตั้งนี่ละ
IP : บันทึกการเข้า
jesa
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2015, 23:47:05 »

ที่ 3 แยก ทางไปแม่สรวย ไปเชียงใหม่

เดิมมี Landmark จุดหนึ่ง   ใครมาถึง...ก็รู้ว่าอยู่ตรงไหนแล้ว?

 ตอนนี้ สามแยกไปแม่สรวย มีความเจริญ ถนนหนทางกว้างใหญ่ มีสามแยก

ขับรถมาถึง ก็ผ่านเลยไป  ความรู้สึก ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกับ สามแยกวัดร่องขุ่น


แต่เสน่ห์ที่เคยมีในอดีต...หายไป..เสน่ห์ที่เป็นจุดสังเกตุ อะไร?หาย   
จะมีใครกี่คนที่เล่าให้ฟังได้  ...มันถูกลืมไปตามกาลเวลา..
ถ้าตอนนี้ ยังรักษา.. มันก็จะเป็นสิ่งเก่าๆที่อนุรักษ์ไว้

ลองชมดูด้านล่าง
(ยืม CRD..ภาพจาก คุณ js 23 nunuy)


* 111.jpg (162.08 KB, 700x933 - ดู 398 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
jungle28
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 399


« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 27 ธันวาคม 2015, 23:04:38 »

จบได้แล้วมั้งครับ มีแลนด์มาร์คหลายจุดในเชียงรายที่หายตามกาลเวลา เช่นแยกสุริวงค์ แยกบาจา แยกขัวดำ แยกนกน้อย ฯลฯ เขาก็ยังเรียกจุดสำคัญที่จดจำได้ง่ายๆ ในอดีตไว้อยู่ แล้วทุกคนก็เข้าใจทั้งๆ หายไปจากจุดนั้นๆ นานแล้ว
IP : บันทึกการเข้า
totoonline
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 28 ธันวาคม 2015, 12:03:23 »

ศูนย์หัตกรรม และร้านอาหารน้ำบวยหลวง ในบริเวณเดียวกัน ได้ปิดตัวลงแล้ว และรู้สึกว่าจะมีการขายที่ไปแล้ว ปัจจุบันเจ้าของที่เป็นคนใหม่ คงยังไม่น่าจะมีโครงการพัฒนาอะไร

หากวันข้างหน้าจะมีการพัฒนาอะไรในบริเวณนี้ เข้าใจว่าในที่สุดก็คงจะมีการโยกย้าย น้ำบวยหลวงอันนี้ไปไว้ที่ใหม่ต่อไป

เดี๋ยวรอให้ถึงฤดูเลือกตั้งเทศบาลก่อน จะสอบถามนโยบายผู้สมัครแต่ละท่าน ว่ามีแนวความคิดที่จะซื้อหรือขอรับบริจาค จากเจ้าของ แล้วนำไปตั้งโชว์ที่ใหม่หรือไม่อย่างไร

จะได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ ของการรักษา วิถีชีวิตของชาวล้านนา ให้คงอยู่ไว้ต่อไปแก่ชนรุ่นหลัง 
IP : บันทึกการเข้า
soodnang
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47


« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 29 ธันวาคม 2015, 10:33:23 »

(หากวันข้างหน้าจะมีการพัฒนาอะไรในบริเวณนี้ เข้าใจว่าในที่สุดก็คงจะมีการโยกย้าย น้ำบวยหลวงอันนี้ไปไว้ที่ใหม่ต่อไป
เดี๋ยวรอให้ถึงฤดูเลือกตั้งเทศบาลก่อน จะสอบถามนโยบายผู้สมัครแต่ละท่าน ว่ามีแนวความคิดที่จะซื้อหรือขอรับบริจาค จากเจ้าของ แล้วนำไปตั้งโชว์ที่ใหม่หรือไม่อย่างไร จะได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ ของการรักษา วิถีชีวิตของชาวล้านนา ให้คงอยู่ไว้ต่อไปแก่ชนรุ่นหลัง)
ขออนุญาตอ้างอิงถึงนะครับ การอนุรักษ์รักษาวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องตระหนัก ผมเห็นด้วยกับความคิดของทุกท่านที่เสียดายสิ่งที่มันสูญหายไปกับกาลเวลาการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตความเป็นอยู่และถือว่าไม่ผิดครับ แต่ถ้าขอรับบริจาคน้ำบวยหลวงเพื่อไปอนุรักษ์ หรือขอซื้อจากเจ้าของ มันมีค่าใช้จ่ายนะครับ แล้วค่าใช้จ่ายนั้นมันคือเงินของประชาชน ที่จะต้องเอาไปสร้างประโยชน์ต่อสาธาณะอย่างอื่นด้วยนะครับ อันนี้ก็ต้องคิด และเปรียบเทียบว่าลำดับความสำคัญกับสิ่งที่ควรจะพัฒนาด้านอื่นๆด้วย แต่ถ้า มีใครที่รักและผูกผันมีกระบวยหลวงอยากจะสละทุนทรัพย์ส่วนตัว อันนี้ก็เป็นไปตามจิตศรัทธาและสามารถทำได้ แต่สำหรับความคิดของผมโดยส่วนตัวผมไม่ค่อยจะอะไรกับกระบวยอันนี้ เพราะมันไม่มีstoryที่จะกล่าวหรือเล่าขานที่มาที่ไปให้ลูกหลานได้ภาคภูมิใจอะไรได้  ผมเห็นด้วยนะว่ากระบวยมันคือสัญลักษณ์เป็นวัฒนธรรมของคนเหนือและผมก็คนเหนือ คนเชียงรายมาแต่เกิดตอนเด็กๆเวลานั่งรถ เมล์ขาว รถเมล์เขียวก็ชอบและตั้งตาที่จะดูมัน แต่เวลาผ่านไปก็ได้รู็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงผลัดเปลี่ยนอะไรๆหลายอย่าง ก็ได้รับรู้และยอมรับกับการเปลียนแปลงนั้น และก็รู้ว่าที่มาของการสร้างกระบวยมันก็คือเพื่อการดึงลูกค้าให้สนใจ ร้านของเขา ถ้าจำไม่ผิดผมจำได้ว่าตอนแรกๆที่เขาสร้างเขาเก็บค่าเข้าชมด้วย อันนี้ขอย้ำว่าถ้าจำไม่ผิด แล้วลองมาคิดเปรียบเทียบที่มาที่ไประหว่างกระบวย กับ ป้ายยักษ์ที่มาตั้งแทน มันต่างกันไหม ฮืม?
 
IP : บันทึกการเข้า
totoonline
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 29 ธันวาคม 2015, 18:32:57 »

ขอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ ค.ห. ข้างบนครับ

ครับมันไม่ได้มี story หรือมีประวัติอะไรเลย เพิ่งสร้างมาได้ ประมาณ 30 ปี แล้วผมก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไรมากมายกับกระบวยนี้เช่นกัน ในฐานะคนเชียงราย............แต่ในมุมมองของคนที่มีโอกาสได้เดินทางบ่อย ผมเข้าใจคำว่าแลนด์มาร์ค (landmark)

สิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ หรือสิ่งที่ถูกก่อสร้างโดยธรรมชาติหรืออะไรก็ตาม ที่มันสะดุดสายตายามเราได้ไปท่องเที่ยวหรือทำธุระต่างบ้านต่างเมือง  แล้วได้ไปสัมผัสหรือได้ไปเห็น เราก็จะรู้สึกดีกับมัน
 
แลนด์มาร์คทุกแห่งไม่ได้ดีหมด หลายแห่งดีมีความงาม หลายแห่งมีประวัติศาสตร์ ให้ชื่นชนให้ได้เรียนรู้ให้ได้รักษา แต่ก็มีสถานที่หรือสิ่งก่อสร้างอีกหลายแห่ง ที่ไม่เข้าท่าถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างไร้จินตนาการ  สุดท้ายสิ่งเหล่านั้นก็จะค่อยๆถูกลืมเลือนไปกับกาลเวลา

กระบวยยักษ์ ตรงนี้ไม่ได้มีประวัติอะไร ถูกสร้างขึ้นเพื่อการตลาดของเจ้าของที่ทำธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา เครื่องปั้นเซรามิกโดยใช้ฝีมือคน (หัตกรรม) วันเวลาผ่านไป จุดบริเวณนี้ได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงรายไปในสายตานักท่องเที่ยวโดยที่เจ้าของอาจจะไม่รู้ตัว

เมื่ออดีตสัก 20 ปีที่ แล้ว มันคือสถานที่ที่ถูกแนะนำในหนังสือและนิตยสาร ท่องเที่ยวหลายๆฉบับ ว่าควรจะหาโอกาสมาเยี่ยมชมและถ่ายภาพ กระบวย ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เอาตามที่เขาอ้าง) ยุคนั้นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเชียงรายของที่ระลึกอันหนึ่งที่ผมจำได้แม่นยำที่ผู้คนมักจะซื้อหาเอาไปเป็นของฝากจากเชียงรายก็คือกระบวยน้ำอันจิ๋ว มันกลายเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ช่างฝีมือท้องถิ่นล้านนา หลายราย มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิตและขายกระบวยน้ำจิ๋ว ลักษณะตามต้นแบบตัวกระบวยน้ำยักษ์นี้  นี่คือผลพลอยได้ที่ตามมาจากแลนด์มาร์คตัวนี้

แต่ในปัจจุบัน เมื่อจังหวัดเชียงรายมีแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นนักท่องเที่ยวมีสถานที่ๆสามารถไปเที่ยวไปเยี่ยมชมได้มากขึ้น ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจเจริญเติบโต การจับจ่ายใช้สอยสินค้ามีความสะดวกมากขึ้นผู้คนก็จะมุ่งแสวงเข้าถึงความทันสมัยมากขึ้น วัตถุสิ่งของเครื่องใช้ที่มีความผูกพันกับวัฒนธรรม หลายๆอย่างก็ย่อมจะค่อยเสื่อมความนิยมลงไป

ศูนย์หัตกรรมแห่งนี้ก็เช่นกัน มาปีหลังๆ นี้ก่อนที่จะปิดตัวไป  แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเที่ยวไปซื้อของเลย มีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเล็กๆ นั่งรถตู้เข้าไปเยี่ยมชม นิดหน่อย ต่างจากที่ตอนเปิดตัวเมื่อปีแรกๆ ที่แม้กระทั่งหลักสูตร ศิลปะ หลักสูตรวัฒนธรรม ในโรงเรียนยังจะต้องจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มาเรียนรู้มาเยี่ยมชม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต่อสู้กับความทันสมัยได้   ศูนย์แห่งนี้จึงต้องปิดตัวลงไป ตัวกระบวยยักษ์แห่งนี้ก็ถูกปล่อยปะละเลย ไม่มีใครดูแลมาจนถึงปัจจุบัน

ผมไม่ได้มองว่าการจะไปขอซื้อหรือขอรับบริจาค มันจะไปเบียดเบียนงบประมาณจังหวัดอะไรมากมายขนาดนั้น ถ้าหากทำแล้วมันกระทบถึงงบที่จะต้องเอาไปพัฒนาส่วนอื่นอีกมากมาย  ก็อย่าไปทำมัน  แต่คุณคิดว่ามันจะเปลืองงบมากขนาดนั้นมั้ย งบประมาณพัฒนาดูแลจังหวัดมีการจัดสรรใช้จ่ายอย่างก่อให้เกิดประโยชน์แก่จังหวัดมีมากมาย แต่งบที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลยแก่จังหวัดเชียงราย ก็มีอยู่อีกหลายอย่างเหมือนกัน  ถ้าจะดึงเอางบนั้นมาส่วนหนึ่งนำมา จัดการย้ายกระบวยหลวงอันนี้ ไม่ว่าจะโดยซื้อต่อหรือขอรับบริจาค หรืออะไรก็ตาม แล้วนำไปจัดแสดงในสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมาก อย่างที่สมาชิกข้างบนได้แนะนำเอาไว้ว่าหากนำไปตั้งไว้ที่งานแสดงดอกไม้ก็น่าจะดี  มันก็จะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดของเรา  อย่างน้อยๆ นักท่องเที่ยวก็จะต้องเสียเวลาอยู่ในสวนอยู่ในงานเพิ่มขึ้นอีก 5นาที -10 นาที จากการที่ต้องยืนคอยถ่านรูปคู่กับกระบวยยักษ์อันนี้ (ปัจจุบันมันก็คงยังจะเป็นกระบวยที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่)

ส่วนที่มาที่ไปของกระบวยยักษ์กับป้ายโฆษณามันต่างกันมั้ย มันคงไม่ได้ต่างกันในแง่เจตนามากนัก ตอนสร้างกระบวยยักษ์เจ้าของสร้างเพื่อดึงดูดลูกค้าเพื่อการตลาด  ตัวป้ายโฆษณาสร้างขึ้นเพื่อการโฆษณาสินค้า ซึ่งมันเริ่มต้นไม่ต่างกันเลย
 
ที่มันต่างกันก็เรื่องที่ผู้คนพูดถึงมากกว่า นักท่องเที่ยว ที่ได้มาเที่ยวเชียงราย หรือที่จะได้มีโอกาสมาเที่ยวเชียงราย (ในสมัย20กว่าปีที่แล้วนะ) ส่วนหนึ่งก็ตั้งใจจะมาเที่ยวตามการแนะนำในหนังสือท่องเที่ยว  อีกส่วนหนึ่งเมื่อได้มาเยี่ยมชมได้ถ่ายภาพกลับไปได้ไปพูดถึงว่า มาดู มาเห็น แล้ว มันสร้างความอยากรู้อยากเห็นไม่มากก็น้อยให้กับคนที่ไม่ได้มาเที่ยว

ที่นี้ผลประโยชน์มันก็ตกแก่จังหวัดเชียงรายไม่ทางตรงก็ทางอ้อม  อย่างน้อยๆก็เป็นแลนด์มาร์คอันหนึ่งที่ผู้คนมักจะพูดถึง  เช่นการบอกทาง เช่นว่ามีนักท่องเที่ยวต่างถิ่นมาอยากจะถามเส้นทางไปสายเหนือ คนท้องถิ่นหลายคน(สมัยนั้นนะ) มักจะกล่าวถึงกระบวยแห่งนี้ตลอด โดยแนะนำประมาณนี้ว่า ข้ามสะพานแม่น้ำกกแล้วขับตรงไป ให้สังเกตกระบวยยักษ์ ฝั่งขวามือ ถ้าเห็นก็แสดงว่ามุ่งขึ้นเหนือได้ถูกทางแล้ว ก็ขับรถตรงไป ...ว่าไปจะไปแม่สายเชียงแสนอะไรก็ว่าไป
เทียบกับป้ายยักษ์ (ยักษ์เหมือนกัน) มันไม่มีอะไรจรรโลงใจเลย นอกเสียจากบดบังทัศนียภาพ (เช่นป้ายทั้งหลายที่5แยกฯ)ไม่เห็นมีใครพูดถึงหรืออยากจะมาเยี่ยมชมอยากจะถ่ายภาพ มันเป็นได้แค่ความเพลิดเพลินทางสายตาระดับหนึ่งยามเมื่อติดไฟแดงแค่นั้นเอง พอนานเข้าก็มีความเบื่อ ว่าเมื่อไรจะโฆษณาสินค้าตัวใหม่เสียที..  เขาถึงได้เปลี่ยนจอทีวียักษ์กันแล้ว

ผมขอโทษด้วยที่แลกเปลี่ยนข้อมูลเสียยาว  ผมไม่ได้เสียใจ ที่มีป้ายมาบังข้างหน้าหรือมันจะเบียดเบียนงบประมาณ ถ้ามีผู้ใหญ่ของจังหวัดจะนำแลนด์มาร์คตัวนี้ไปจัดตั้งโชว์ให้แก่นักท่องเที่ยว แต่ผมเพียงเสียดาย ว่าจุดเล็กๆจุกหนึ่งบนแผนที่โลกบนแผนที่ประเทศไทยและบนแผนที่จังหวัดเชียงราย ที่ในอดีตผู้คนมากหน้าหลายตาได้มาเยี่ยมชมมาถ่ายภาพได้มาพูดถึง มาในปัจจุบันถูกปล่อยร้างทิ้งเอาไว้ เสียดายครับ มันมีความผูกพันกับวัฒนธรรมล้านนาของเราอยู่บ้างตรงที่ผู้คนภาคอื่นได้เรียนรู้เครื่องใช้ไม้สอยของคนลานนาในอดีต ว่าเป็นอย่างไร มีความปราณีตมากแค่ไหน(ตรงปลายด้ามจับจะมีการแกะสลักเอาไว้อย่างสวย)    จากของที่ระลึกที่ซื้อไปเป็นของฝาก

มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันครับ

สุดท้ายครับ ไม่นานมานี้ผู้คนยังเรียกว่าแยกน้ำบวยหลวงหรือไฟแดงน้ำบวยหลวงอยู่เลย ตอนนี้มีป้ายมาบัง ทำไมไม่มีใครเรียกแยกป้ายยักษ์หรือไฟแดงยักษ์เลย  กลับไปเรียกเป็นแยกคอนโดใหม่แทน
***ขออภัยในคำผิด****
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 ธันวาคม 2015, 19:05:40 โดย totoonline » IP : บันทึกการเข้า
goodjobb
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 381


« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 29 ธันวาคม 2015, 21:20:50 »

totoonlineพูดได้ดี
และเห็นด้วยในความเห็นนี้

แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจกับคำว่า
สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

เข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่อยากให้มัน"ดับไป"ในวันนี้
แต่ไม่เป็นวันนี้ก็เป็นวันหน้าอยู่ดี
และสิ่งอื่นๆ
สิ่งใหม่ๆก็มาทดแทน
และเป็นแลนด์มาร์คใหม่ได้

ปลงซะ
IP : บันทึกการเข้า
obob
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 380


« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 30 ธันวาคม 2015, 11:40:18 »

อำนาจของคำว่า เงิน สามารถทำให้ทุกสิ่งตั้งอยู่ดับไปได้
IP : บันทึกการเข้า
soodnang
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47


« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2016, 10:46:13 »

ผมยินดีที่ได้รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเคารพทุกความคิดเห็นที่แตกต่าง เพราะถือเป็นได้เปิดองศาความคิดของตัวเอง และเข้าใจทุกความเห็นที่ มีเหตุและมีผล แต่บางประเด็นบางความคิดเห็นบางคนก็ ยังคงทำใจยากที่จะยอมรับความคิดเห็นนั้นได้แต่ในเมื่ออยู่ในสังคม มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราต้องมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่เราก็ถกกันด้วยเหตุและผลของกันและกัน แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ถกเถียงแต่ไม่ืถือโกรธ ติเพื่อก่อไม่ได้ติเพื่อเหยีบย่ำ  เข้าประเด็น ในเรื่อง ป้ายยักษ์กับกระบวย จะถามว่ามันเป็นเรื่องที่ ผมมีผลประโยชน์อะไรกับเขาไหม ตอบได้เลยว่าไม่มี และก็ไม่เสียอะไรยังไงกับเขา  ถ้าถามว่าให้เลือกระหว่างให้มีป้ายยักษ์ตัวนี้มาตั้ง กับ เลือกกระบวยที่ตั้ง ผมเลือกอะไร ผมขอเลือกกระบวย ถ้าถามว่าระหว่างกระบวยกับ ป้ายยักษ์อันไหนมันน่ากล่าวถึง ผมตอบว่ากระบวย แต่เท่าที่กล่าวมาผมก็เลือกกระบวยหมดแต่ทำไมผมถึงไม่มีความคิดไปในแนวทางที่ต่อต้านการสร้างป้ายยักษ์อันนี้ ท้ังๆที่จากหลายความคิดเห็นก็ได้กล่าวถึงคุณลักษณะของกระบวย ซึ่งผมก็ไม่ได้เห็นคัดค้านและเห็นด้วยบางข้อบางเรื่องก็เห็นมาก บางเรื่องก็เห็นด้วยน้อย ก็แตกต่างกันไป  ที่อยากจะสื่อ คือยอมรับในการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่สามารถจะไปบังคับหรือกำหนดอะไรได้เพราะด้วยเหตุผลของ สิทธิส่วนบุคคลของเขาที่เราคิดว่าไม่อาจจะไปก้าวล่วงได้และไม่ใช่เป็นความคิดในข้างเดียว แต่ถ้าหากว่าเราจะสามารถสร้างจุดเปลี่ยนหรือริเริ่มการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหลายๆความคิดเห็นก็ได้แสดงให้เห็นเป็นเชิงประจักษ์  แต่เท่าๆที่ดูจากสถานการณ์ของป้ายนี้ ผมก็คิดว่ามันคงต้องอยู่กับเราอิกนาน สิ่งที่จะทำได้ตอนนี้ก็คือทำใจยอมรับกับมัน และก็อยู่กับมันอย่างมีความสุข เข้าใจเจ้าของที่ เข้าใจเจ้าของป้าย เข้าใจคนที่เสียดายกระบวย เข้าใจตัวเอง เข้าใจโลก คิดว่าโลกก็คงเข้าใจเรา

IP : บันทึกการเข้า
totoonline
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2016, 12:48:11 »

ในข้อความแสดงความคิดเห็นที่ผมให้ไว้  ผมก็ไม่ได้พูดเรื่องการย้ายป้ายหรือโทษว่าการเอาป้ายมาตั้งตรงจุดนี้มันผิดหรือไม่ถูกต้องอะไรอย่างไร

ผมเข้าใจถึงสิทธิอันพึงมีของเจ้าของพื้นที่ที่จะดำเนินการอะไรแบบไหนในพื้นที่ครอบครองของตน   เรา(คนนอก) ไม่สามารถจะไปดำเนินการโต้แย้งยับยั้งให้เขาหยุดหรือย้าย(นำมาซึ่งรายได้)สิ่งปลูกสร้าง(การติดตั้งป้าย)ออกไป เพียงเพื่อผลประโยชน์ที่จะตกแก่ส่วนรวม เช่น จังหวัดได้ชื่อเสียงและหน้าตา(ทางอ้อม),ความสวยงามของพื้นที่,มีการพูดถึงศิลปวัฒนธรรม ล้านนา นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมมาถ่ายรูป ประมาณนั้น

ถึงเจ้าเขาจะทุบกระบวยอันนี้ทิ้ง เราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามอะไรเขาได้ มันเป็นสิทธิของเขา ทรัพย์สินของเขา หากว่าจากนี้ไปกระบวยยักษ์(ที่ใหญ่ที่สุดในโลก) จะค่อยถูกลืมเลือนไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเชียงราย หรือว่าเชียงรายจะไม่มีแลนด์มาร์คอันใหม่ให้พูดถึง หรือว่าการแสดงออกถึงวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมล้านนาจะหมดสิ้นไป เชียงรายก็ยังจะมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่อีกมากมาย แลนด์มาร์คใหม่ๆก็ยังมีอีกเยอะแยะ วิถีชีวิตและศิลปะล้านนา ก็ยังมีอยู่อีกเหลือเฟือให้พูดให้ศึกษา

ในความเห็นแรกๆของสมาชิกข้างบน  หลายท่านก็เปรยๆเอาไว้ว่าอยากจะให้ย้ายป้ายออกไป แต่เมื่อมีการอธิบายว่าที่ตั้งมันเป็นของเอกชนทรัพย์สินเป็นของเอกชน จะไปดำเนินการอะไรมากมายไม่ได้  ความเห็นต่อๆมาก็ไม่มีใครเรียกร้องให้ย้ายป้ายออกอีกเลย ทุกคนก็เข้าใจอยู่ ไม่มีใครเสียใจกับการที่ป้ายตัวนี้ถูกติดตั้งตรงนี้ แต่แค่เสียดายกับกระบวยยักษ์นี้ต่างหาก

ผมก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าหากเจ้าของที่ต้องการจะพัฒนาพื้นที่ในวันข้างหน้า เขาก็อาจจะย้ายกระบวยนี้ออกไป ติดตั้งที่อื่น อาจจะประสานงานกับหน่วยงานรัฐ(เทศบาล หรือ จังหวัด) ย้ายไปติดตั้งไว้ที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่อีกมากมายในตัวจังหวัดต่อไปตามที่ท่านสมาชิกหลายๆท่านแนะนำเอาไว้   แต่หากผู้ใหญ่ในจังหวัดไม่เห็นด้วยหรือไม่สนใจ หรืองบประมาณในการจัดย้าย มันมากมายไปเบียดเบียนงบประมาณพัฒนาส่วนอื่น ก็คงจะไปเรียกร้องหรือทำอะไรไม่ได้  ก็คงแค่เสียดาย
ก็แค่นั้นจริงๆ หากทุกอย่างมันคงต้องเป็นไปอย่างที่เป็นอยู่ และคงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะทำเลในการติดตั้งป้ายโฆษณามันเป็นจุดที่สามารถเข้าถึงสายตาของผู้บริโภคได้มากมายมหาศาล
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!