อย่าพึ่งตีความหมายของผมผิดละครับ ผมไม่ได้ชวนมาตายกันนะครับ ผมกำลังหมายถึงการระลึกนึกถึงความตายหรือมรณานุสติ เป็นหนึ่งในสิบอนุสติที่เราควรระลึกนึกถึง คนเรามักจะกลัวในหลายสิ่งทีี่ีี่ยังมาไม่ถึง เรียกรวมๆว่าอนาคตนั้นละครับ มันตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน ควบคุมไม่ได้ เพราะอย่างนั้นเราถึงกลัวว่ามันจะนำความทุกข์มาให้ และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในอนาคตคือ ความตาย คนทั่วไปไม่มีใครชอบที่จะพูด หรือได้ยินได้ฟัง การพูดถึงความตายถูกแปรความหมายผิดจากความเป็นจริงว่าไม่เป็นมงคล พยายามคิดค้นหลากหลายวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงหรือยืดเวลาที่จะต้องตายออกไป ทำให้การเข้าใจในเรื่องของความตายยิ่งน่ากลัวขึ้นหากเราเข้าใจว่าการเกิดเป็นเรื่องธรรมดา ย่อมจะเข้าใจในสิ่งเดียวกันว่าความตายก็เช่นกัน เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งตัวเราและคนอื่นๆ ทั้งคนที่รักและเกลียด คนที่รู้จัก ไม่รู้จัก รวยและจน เป็นความยุติธรรมกับทุกชีวิต และยำ้เตือนว่าทุกชีวิตมีความเสมอภาคกัน การระลึกนึกถึงความตายเสมือนเตรียมตัว เตรียมพร้อมในสิ่งที่ต้องเกิด ซึ่งเราไม่รู้ว่าเมื่อใด แต่การเตรียมตัวไว้ก่อนย่อมได้เปรียบเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวเลย การระลึกนึกถึงความตายบ่อยๆ จะทำให้เราเข้าใจว่า มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เหมือนเรารอคอยเพื่อนคนหนึ่งที่เขาจะแวะมาแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใด และรูปแบบใดเท่านั้น การระลึกนึกถึงความตายเสมอๆจะทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงว่า สิ่งต่างๆที่เราเพียรหา เพียรสร้าง ไขว่คว้ามา ทั้งคนรักคนห่วงใย สุดท้ายก็ต้องปล่อยทิ้งไว้เป็นสมบัติของผู้อื่นต่อไป สิ่งที่จะติดตัวไปคือกรรมอันเรากระทำไว้ การเข้าใจแบบนี้จะทำให้ความทะยานอยากของเราตั้งอยู่บนความพอดี เท่าที่จำเป็น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เกรงกลัวต่อบาปกรรม ดำรงตนตามคำสอนของพระพุทธองค์ เช่นนี้แล้วอยู่ก็มีความสบายใจ ทุกข์ก็น้อย และเมื่อความตายมาเยือนย่อมมีสติอยู่ไม่ตระหนกตกใจ ตายไปก็พบความสุขอันประณีตสวยงามกว่า เป็นสหายในภพภูมิเทวดา แต่กลับผู้ที่ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปกรรม กระทำทุกอย่างไม่เลือกทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสียง การงาน ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป อย่าว่าแต่นึกเลยครับ เพราะเขาเหล่านั้นลืมไปแล้วว่าจะต้องตาย ปล่อยเขาไว้เถอะครับ ช่วยตัวเองก่อนดีกว่า
ร่วมพูดคุย อ่านบทความหรือปรึกษาปัญหาชีวิตได้ครับ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100006650192350&ref=tn_tnmn