|
|
|
|
|
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,024
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2012, 22:28:05 » |
|
ผมคั้ยฮู้ ป่าแดด คับ มันเป็นมาจะได ทำไมถึงฮ้องว่าป่าแดดคับ มันฮ้อนกะคับ
ป่าแดด [ป่า-แดด] น. กลางแดด
ที่มา พจนานุกรมภาษาล้านนา, พิมพ์ครั้งที่ 2, เชียงใหม่: สถาบันภาษา ศิลปะ และวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, 2550, หน้า 286.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ป่าแดด น1. กลางแดด
ที่มา อุดม รุ่งเรืองศรี, พจนานุกรมล้านนา-ไทย ฉบับแม่ฟ้าหลวง, เชียงใหม่: ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2547, หน้า 434.
|
|
|
|
|
|
|
|
Kontae_ki
อนาคต..เราสร้างเองได้
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 399
ลูกชาวนา 100%
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2012, 21:12:41 » |
|
เวียงป่าเป้าบ้านผมละคับ ขอฟังตวยจิ่มก่า ความเป็นมาของอำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอเวียงป่าเป้า ในสมัยโบราณกาลมีชื่อว่า “เวียงกาหลง” สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 5 (พ.ศ. 500 – 599) ซึ่งปรากฏตามหลักฐานในหนังสือพงศาวดารชาติไทย เล่ม 2 ของพระบริหารเทพธานี ได้กล่าวถึงแว่นแคว้นยวนเชียง (หน้า 4 บรรทัดที่ 2-6) ว่า “เมื่อภายหลัง พ.ศ. 590 ว่านแคว้นยวนเชียงนี้เป็นเมืองส่วยของประเทศอ้ายลาว ผู้ชายคิดเป็นเกลือกับเสื้อ คนละ 2 เสื้อ แล้วแว่นแคว้นยวนเชียงก็แยกตั้งบ้านเมืองออกไปทางทิศตะวันออกอีกหลายเมือง เช่น เวียงกาหลง (เวียงป่าเป้า) เวียงฮ่อ ดงเวียง เมืองวัง (วังเหนือ) แจ้ห่ม เป็นต้น และในหนังสือประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย ซึ่งจัดพิมพ์ในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ (หน้า 13) ก็ปรากฏความที่คล้ายกัน คือ ในรวมพุทธศตวรรษที่ 5 มีพวกไทยถอยร่นจากตอนใต้ประเทศจีนปัจจุบัน มาสมทบกับพวกไทยที่เมืองเชียงลาวเพิ่มขึ้นมากทุกที จึงขยายเมืองให้กว้างขวางออกไปอีก เรียกว่า แคว้นชุนยาง หรือ ยวนเชียง มีอาณาเขตแผ่ไปถึงหลายเมือง เช่น เวียงกาหลง (เวียงป่าเป้า) เวียงฮ่อ ดงเวียง เมืองวัง (วังเหนือ) และเชียงแสน ทั้งนี้ภายหลัง พ.ศ. 590 เป็นต้นมา” จากหลักฐานดังกว่าข้างต้นนี้ เวียงกาหลง หรือ อำเภอเวียงป่าเป้า ในปัจจุบัน ได้ก่อตั้งเป็นเมืองมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 5 แต่คงเนื่องด้วยเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย และไม่มีเหตุการณ์หรือบุคคลสำคัญที่เป็นจุดเด่น จึงมิได้ปรากฏในตำนานหรือพงศาวดาร ต่อมาระยะกาลเวลาประมาณหนึ่งร้อยปีมานี้เอง อำเภอเวียงป่าเป้ามีฐานเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ และเป็นที่พักสำหรับผู้เดินทางค้าขายระหว่างเชียงราย-เชียงใหม่-ลำพูน ต่อมาชุมชนหนาแน่นขึ้น เจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ จึงได้มอบหมายให้พระยาไชยวงศ์ควยคุมราษฎรชาวนครเชียงใหม่ ขึ้นมาหักล้างถางพงพื้นที่ ซึ่งเป็นที่รกร้องว่างเปล่า ณ บริเวณที่มีชื่อว่า “ป่าเฟยไฮ” (ป่าไทร) ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของที่ว่าการอำเภอปัจจุบัน (ระยะทางประมาณ 4 กม.) แล้วสร้างเป็นเมืองขึ้นใหม่ขนานนามเมืองนี้ว่า “เมืองเฟยไฮ” ตามลักษณะภูมิประเทศเดิมและได้แต่งตั้งให้ พระยาไชยวงศ์ดำรงตำแหน่งพ่อเมืองปกครองเมืองนี้ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2430 พระยาไชยวงศ์ พบว่าทางทิศเหนือมีสถานที่เหมาะที่จะสร้างเมือง จึงได้ให้ราษฎรขึ้นไปแผ้วถางป่าซึ่งเป็นป่า “ไม้เป้า” (ต้นเปล้า) และได้ก่อสร้างเป็นเมืองใหม่แล้วขนานนามตามชื่อป่าว่า “เมืองป่าเป้า” ในปีพ.ศ.2440 พระยาไชยวงศ์ถึงแก่อนิจกรรม พระยาเทพณรงค์ ผู้เป็นบุตรเขยได้รับแต่งตั้งให้เป็นพ่อเมืองทำการปกครองแทน และได้ปรับปรุงเมืองป่าเป้าให้มีสภาพมั่นคงถาวรยิ่งขึ้น โดยใช้อิฐก่อกำแพงเมืองและได้เปลี่ยนนามเมืองเสียใหม่เพื่อให้ถูกต้องตามลักษณะหรือที่มาของเมืองว่า “เวียงป่าเป้า” ต่อมาพระยาเทพณรงค์ถึงแก่อนิจกรรม พระยาขันธเสมา ซึ่งเป็นน้องเขยจึงได้รับแต่งตั้งให้ครอบครองเมืองสืบมา ประมาณปี พ.ศ. 2446 พวกเงี้ยว (ชาวไทยใหญ่) ได้ก่อจลาจลขึ้นที่จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดกองทัพจากจังหวัดลำปางและเชียงใหม่ ขึ้นไปปราบปรามผู้ก่อจลาจล เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ทางราชการได้จัดตั้งจุดที่ชุมนุมพลให้เป็นอำเภอขึ้น ณ บ้านแม่พริก (ปัจจุบันอยู่ในเขตปกครองอำเภอแม่สรวย) บนฝั่งน้ำลาวว่า “อำเภอแม่พริก” และตั้ง “เวียงป่าเป้า” เป็นกิ่งอำเภอ ที่มา http://thaitravelcr.blogspot.com/2012/04/1.html
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ละอ่อนน้อยเมืองเทิง
เอ่อนั้นเต๊อะ !!!! ฮานี่บ่าเฮ้ย
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 170
สุ้ต๋ายค้าาาบบบบ........
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 26 พฤษภาคม 2013, 11:17:31 » |
|
อ.เทิงละครับ มาจากคำว่าหยัง ผมอยากฮู้เหมือนกัน
อันนี้เป็นความเห็นของผมกึ๊ดคนเดียวเน่อ ไผฮู้แต้ก็บอกจิ่มกำว่า"เทิง" ตางล้านนาหมายถึง ที่เก็บของที่อยู่ตางบนของเติ๋น(ถามหาเติ๋นแหมละก้า) ใหญ่กว่าหิ้ง คล้ายเพดานแต่บ่เต็มพื้นที่ คนบะเก่าเปิ้นจ้างเอาเก็บ หม้อ ไห น้ำต้นหรือของอื่นๆที่เป็นสำรอง จะเอาลงมาไจ้ก็เมื่อมีปอย แล้วเมืองเทิงผมบ่าแน่ใจ๋ว่าเป็นที่ราบสูงก่อ ถ้าเป็นที่สูงก็น่าจะแม่น ถูกบ้าถูกบ่าฮู้เน่อ อำเภอเทิง ต้องไปถามคนตี้มีนามสกุล ใจเถิง บุญเถิง ฯลฯ ผ่อน่อครับ ต้นตระกูลเป็นไผ แล้วความหมายของ "เถิง" ตวยน่อ อำเภอเทิง ก็มาจาก "เถิง" บ่ใจ่ภาษาไทย แต่คนไทยเปิ้นมาเขียนเอาแหมใหม่ เหมือนกรณี "บ้านครึ่ง" ต.ครึ่ง อ.เชียงของ สมัยก่อนเรียกว่า "บ้านเคิ่ง" ลุกเมืองน่านมา ปอมาเขียนป้ายจื่อบ้านเป็น "ครึ่ง" (เหลือกึ่งเดียวเหียแล้ว) ฯลฯ "เถิง" น่าจะมาจากภาษาอิสานครับ แปลว่า...ถึง...ครับ อย่าลืมว่าอ.เทิงมีคนอิสานที่อพยพมาตั้งรกราก มิใช่น้อย "เถิง"เป๋นกำเมืองครับ กำบ่าเก่ายังว่า "มาจุ๊มาจอด มาฮอดมาเถิง" คนชื่อเถิงก็มีจ้าดนักเน่อ ไผมีฟ้อนต์ตัวเมือง ครับ คงเป็นไปตามที่ท่านอธิบายมา แต่ภาษาอิสานก็มีคำนี้อยู่นาครับผมกะคนเทิงหนาคับ
|
เพื่อเทอร์....ฉันฮิมต๋าย!!!!.....ฮู้ก่อ ? ? ?
|
|
|
|
|