เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 20:55:06
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  กว่าจะเป็นเชียงราย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 [4] 5 พิมพ์
ผู้เขียน กว่าจะเป็นเชียงราย  (อ่าน 60125 ครั้ง)
Chaiyaboon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


« ตอบ #60 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2012, 00:42:38 »

ขอแย้งเนื้อหาที่นำมาลงให้อ่านน่ะครับ............ช่วงสมัยที่กวาดต้อนและเผาเมืองเชียงแสน....และแบ่งผู้คนออกเป็น5สายในการให้อพยพไปอยุ่ตามเมืองต่างๆที่ได้ตกลงกันไว้...อยากให้ช่วยไปค้นคว้าข้อมูลให้มันถูกต้องชัดเจนกว่านี้.....จากตำราทางการเดินทัพของกรุงเทพในสมัยรัชกาลที่1ครับ..........ตรงที่บอกว่าคนเชียงแสนบางส่วนให้ไปอยุ่ เสาไห้นั้นก็คือ สระบุรีถูกต้อง...แต่ส่วนที่ให้ไปอยุ่ราชบุรีที่บอกว่าถูกเรียกว่า" ลาวโซ้ง "อันนี้ขอแย้งว่าผิดอย่างมหันต์ครับ
เพราะว่าที่แย้ง "ลาวโซ้ง"คำนี้ใช้เรียกกับกลุ่มคน ไตด
IP : บันทึกการเข้า
Chaiyaboon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


« ตอบ #61 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2012, 00:46:15 »

เพราะว่าที่แย้ง "ลาวโซ้ง"คำนี้ใช้เรียกกับกลุ่มคน ไตด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 กันยายน 2012, 00:49:23 โดย Chaiyaboon » IP : บันทึกการเข้า
Chaiyaboon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


« ตอบ #62 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2012, 00:52:21 »

เพราะว่าที่แย้ง "ลาวโซ้ง"คำนี้ใช้เรียกกับกลุ่มคน ไตด
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #63 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2012, 17:58:48 »

แล้วคน "ไต"เหล่านี้ มีถิ่นกำเนิดจากที่ใดครับ แล้วทำไมถึงเรียกว่า "ไต" แต่คำว่า "ไตด"ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าจะกรุณาอธิบายก็จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
IP : บันทึกการเข้า
Jampolo
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


คิดดี ทำดี ไม่มีโกง ซื่อตรง โปร่งใส


« ตอบ #64 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 09:10:07 »

ว่ากันไป...
IP : บันทึกการเข้า

เกษม สิงห์แก้ว (Face เกษม สิงห์แก้ว)
 ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา 56000
โทร. 086-1979660
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,537


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #65 เมื่อ: วันที่ 30 พฤศจิกายน 2012, 00:35:53 »

ว่าไงว่าตามกัน
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #66 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2012, 21:31:07 »

อยากฟังกำเมืองใจราชบุรีไปที่นี่เน่อ
  ที่หมู่ 6 ตำบลคูบัว บริเวณวัดโขลงสุวรรณคีรี เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของชุมชนบ้านคูบัว ด้วยความริเริ่มของชุมชนหลายองค์กรในพื้นที่  ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น จัดแบ่งออกเป็นห้อง ๆ ชั้นล่างจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณสมัยทวารวดี หุ่นขี้ผึ้งจำลองการริเริ่มโครงการพิพิธภัณฑ์ ห้องแสดงวิถีชีวิตของชุมชน ไท-ยวน ที่ได้เคลื่อนย้ายจากเมืองเชียงแสนเมื่อปี พ.ศ. 2347 มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองราชบุรี อาทิ เครื่องมืออุปกรณ์การประกอบอาชีพทำนา การเกษตร  ชั้นบนจัดแสดงภูมิปัญญาการทอผ้าจกไท-ยวนเชียงแสน ห้องแสดงผ้าจกไท-ยวน เชียงแสนดั้งเดิมที่มีอายุกว่า 200 ปี จนถึงปัจจุบันและผ้าจกของลูกหลานไท-ยวน  และห้องแสดงการแต่งกายของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี อาทิ ยวน โซ่ง ลาวเวียง มอญ กระเหรี่ยง จีน ไทยพื้นถิ่น เป็นต้น
IP : บันทึกการเข้า
ยินดีครับ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,814


ติดต่อได้ตลอดเวลาครับ


« ตอบ #67 เมื่อ: วันที่ 19 มิถุนายน 2013, 20:52:40 »

ยาวมากคับ เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ
IP : บันทึกการเข้า

คลิกลิ้งติดต่องาน https://www.facebook.com/profile.php?id=100054820356981
เวียงเก่า
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280



« ตอบ #68 เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2013, 13:01:59 »

"พบปั๊บสาบันทึกประวัติศาสตร์เมืองเชียงแสนตั้งแต่ พ.ศ.2282-2347 ที่จ.ลำปาง''
เป็นช่วงรอยต่อก่อนที่จะมีการพื้นม่านที่เชียงแสนจะสำเร็จจนถึงช่วงแรกๆที่ชาวเชียงแสนส่วนหนึ่งถูกอพยพไปอยู่ลำปาง ตาม link นะครับ พอดีผมไปพบมาในเวปเชียงแสนไลฟ์ว ที่น่าสนใจคือมีการกล่าวถึงชื่อวัดหลายๆชื่อ ที่ไม่พบในรายชื่อวัดร้างที่ปรากฏในปัจจุบัน อาจจะมีประโยชน์สำหรับบางท่านที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ล้านนานะครับ
http://www.chiangsaenlife.com/forum/thread-708-1-1.html
IP : บันทึกการเข้า

ผลมันไม่ออกมาตามที่คาดหวัง จะมานั่งเสียใจไปทำไม เมื่อได้พยายามทำเหตุให้ดีที่สุดแล้ว
VALUE
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114


« ตอบ #69 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 19:52:35 »

ยาวววววววววววว  เหยียดดดด  แน่น ปึก     เยี่ยมมมมมมมมมม    ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

Post By Sport Basketball OnlySBO
redarmy_cr
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 38


« ตอบ #70 เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2013, 20:10:36 »

ขอบคุณอ้าวบ่าวขนาดครับ ตี่หื้อคนรุ่นใหม่อย่างผม ได้หู้จักประวัติศาสตร์ บ้านเฮา
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #71 เมื่อ: วันที่ 31 กรกฎาคม 2013, 07:55:14 »

ขอบคุณทุกความเห็น ช่วย ๆกันหน่อยหาข้อมูลมาเสริมเติมแต่ง ขัดแย้งก็ได้ เพื่อจะได้ วิเคราะห์กันต่อไป
IP : บันทึกการเข้า
Chaiyaboon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


« ตอบ #72 เมื่อ: วันที่ 20 มกราคม 2014, 16:22:49 »


Chaiyaboon
เตรียมอนุบาล
*
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 28


    
Re: กว่าจะเป็นเชียงราย
« ตอบ #60 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2012, 00:42:38 »   ตอบโดยอ้างถึงข้อความ  แก้ไขข้อความ
ขอแย้งเนื้อหาที่นำมาลงให้อ่านน่ะครับ............ช่วงสมัยที่กวาดต้อนและเผาเมืองเชียงแสน....และแบ่งผู้คนออกเป็น5สายในการให้อพยพไปอยุ่ตามเมืองต่างๆที่ได้ตกลงกันไว้...อยากให้ช่วยไปค้นคว้าข้อมูลให้มันถูกต้องชัดเจนกว่านี้.....จากตำราทางการเดินทัพของกรุงเทพในสมัยรัชกาลที่1ครับ..........ตรงที่บอกว่าคนเชียงแสนบางส่วนให้ไปอยุ่ เสาไห้นั้นก็คือ สระบุรีถูกต้อง...แต่ส่วนที่ให้ไปอยุ่ราชบุรีที่บอกว่าถูกเรียกว่า" ลาวโซ้ง "อันนี้ขอแย้งว่าผิดอย่างมหันต์ครับ
เพราะว่าที่แย้ง "ลาวโซ้ง"คำนี้ใช้เรียกกับกลุ่มคน ไตด

IP : 182.52.141.199
ต้องขอประทานโทษ พิมพิ์ตัวอักษรตกหล่นไปพึ่งจะกลับมาอ่านเจอ คำว่า ไตด ขอแก้เป็น ไตดำ ครับ ไตดำหรือลาวโซ้งหรือไทยทรงด
IP : บันทึกการเข้า
Chaiyaboon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


« ตอบ #73 เมื่อ: วันที่ 20 มกราคม 2014, 16:36:39 »

ข้อความต่อเนื่องจาก ข้อความข้างบ
        ลาวโซ้ง [ไตดำหรือไทยทรงดำ] เป็นกลุ่มชาติพันธิ์ที่ถูกกวาดต้อนมาจากแคว้น สิบสองจุไท
ซึ่งแคว้นนี้ สยามเสียให้ฝรั่งเศษในสมัย ร.๕  นำไปผนวกรวมกับเวียดนาม ในปัจจุบันนี้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น เดียนเบียนฟู มีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตัวเองครับ ภาษาเขียนจะมีตัวอักษรคล้ายๆทั้งไทยและอักษรลาวครับ ภาษาพูดจะอยุ่คล้ายๆทางล้านนาเลยครับแต่จะมีบางคำที่แตกต่างกัน ลอง Search ใน Google ให้พิมพิ์คำว่า TAIDAM  จะมี List รายการเกี่ยวกับ กลุ่มชาติพันธิ์นี้ครับ ......ที่ผมแย้งข้อความเนื้อหาบางส่วนเพราะว่าผมเป็นคนเชื้อสายลาวโซ้งหรือไตดำนี้ครับ
บรรพบุรุษบอกเล่าต่อๆกันมาว่าเราคือใครก่อนถูกกวาดต้อนลงมาที่สยาม
IP : บันทึกการเข้า
RTC
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 127



« ตอบ #74 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2014, 14:23:34 »

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
IP : บันทึกการเข้า
Leelawadee
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #75 เมื่อ: วันที่ 11 พฤษภาคม 2014, 19:36:03 »

ข้าเจ้าชอบประวัติศาสตร์เจ้า เป็นคนเจียงฮาย ฮักเจียงฮาย ฮักความเป็นล้านนาของเฮาเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #76 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2014, 02:42:35 »

"พ.ศ. 1819 พญามังรายได้ยกกองทัพไปตีเมืองพะเยาฯลฯ.... ต่อมาได้ยกทัพไปตีเมืองหงสาวดี พระยาหงสาวดีสุทธโสม เจ้าเมือง จึงได้ยกนางปายโค พระธิดา ให้เป็นราชธิดา เพื่อขอเป็นพระราชไมตรี ในภายหลังได้ยกกองทัพไปตีเมืองพุกามอังวะ เจ้าเมืองอังวะได้นำเอาเครื่องราชบรรณาการมาถวายต้อนรับขอพระราชไมตรีด้วย ในครั้งนี้ได้นำเอาช่างต่าง ๆ เช่น ช่างฆ้อง ช่างเหล็ก ช่างเงิน ช่างคำ ช่างทอง กลับมาเผยแพร่อีกด้วย พร้อมทั้งได้บำรุงพระพุทธศาสนาโดยได้รับอิทธิพลตามแบบอย่างของอังวะ"

ตรงนี้ปี พ.ศ.มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงไหมครับ เพราะถ้าเตรียมกับประวัติศาสตร์ของพม่า จะตรงกับ

สมัยพระเจ้านรสีหบดี( พ.ศ.1799-1830--ครองราช) ซึ่งเป็นยุคที่มองโกลกำลังยกทัพเข้ามารุกราน

พม่า โดยเข้ามาทางเมืองตะโก้งทางเหนือ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่ทางพญามังรายจะยกทัพไปช่วง

นั้น อีกประเด็น ที่บอกว่ายกทัพไปตีเมืองหงสา เมืองพุกาม เมืองอังวะ

เมืองอังวะ เพิ่งก่อตั้งในสมัยพระเจ้าสโดมินพยา  พ.ศ 1907 คือ ก่อตั้งหลังพญามังรายสวรรคต 47 ปี

หลังปี 1819 ตั้ง 88 ปี ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนอย่างมาก

 


**ข้อมูลอ้างอิง "ประวัติสาสตร์พม่า แผ่นดินแห่งความแตกแยก" อาณัติ อนันตภาค

IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #77 เมื่อ: วันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2015, 10:51:03 »

"พ.ศ. 1819 พญามังรายได้ยกกองทัพไปตีเมืองพะเยาฯลฯ.... ต่อมาได้ยกทัพไปตีเมืองหงสาวดี พระยาหงสาวดีสุทธโสม เจ้าเมือง จึงได้ยกนางปายโค พระธิดา ให้เป็นราชธิดา เพื่อขอเป็นพระราชไมตรี ในภายหลังได้ยกกองทัพไปตีเมืองพุกามอังวะ เจ้าเมืองอังวะได้นำเอาเครื่องราชบรรณาการมาถวายต้อนรับขอพระราชไมตรีด้วย ในครั้งนี้ได้นำเอาช่างต่าง ๆ เช่น ช่างฆ้อง ช่างเหล็ก ช่างเงิน ช่างคำ ช่างทอง กลับมาเผยแพร่อีกด้วย พร้อมทั้งได้บำรุงพระพุทธศาสนาโดยได้รับอิทธิพลตามแบบอย่างของอังวะ"

ตรงนี้ปี พ.ศ.มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงไหมครับ เพราะถ้าเตรียมกับประวัติศาสตร์ของพม่า จะตรงกับ

สมัยพระเจ้านรสีหบดี( พ.ศ.1799-1830--ครองราช) ซึ่งเป็นยุคที่มองโกลกำลังยกทัพเข้ามารุกราน

พม่า โดยเข้ามาทางเมืองตะโก้งทางเหนือ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่ทางพญามังรายจะยกทัพไปช่วง

นั้น อีกประเด็น ที่บอกว่ายกทัพไปตีเมืองหงสา เมืองพุกาม เมืองอังวะ

เมืองอังวะ เพิ่งก่อตั้งในสมัยพระเจ้าสโดมินพยา  พ.ศ 1907 คือ ก่อตั้งหลังพญามังรายสวรรคต 47 ปี

หลังปี 1819 ตั้ง 88 ปี ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนอย่างมาก

 


**ข้อมูลอ้างอิง "ประวัติสาสตร์พม่า แผ่นดินแห่งความแตกแยก" อาณัติ อนันตภาค


ขอบคุณที่เข้ามาช่วยกันดูแลและแก้ไขประวัติศาสตร์ล้านนาเพื่อคนรุ่นหลัง
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #78 เมื่อ: วันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2015, 11:08:36 »

อาณาจักรพุกาม
• ชาวพม่าเป็นชนเผ่าจากทางตอนเหนือที่ค่อยๆ อพยพแทรกซึมเข้ามาสั่งสมอิทธิพลในดินแดนประเทศพม่าทีละน้อย กระทั่งปีพุทธศักราช 1392 จึงมีหลักฐานถึงอาณาจักรอันทรงอำนาจซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมือง "พุกาม" (Bagan) โดยได้เข้ามาแทนที่ภาวะสุญญากาศทางอำนาจภายหลังจากการเสื่อมสลายไปของอาณาจักรชาวพยู อาณาจักรของชาวพุกามแต่แรกนั้นมิได้เติบโตขึ้นอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กระทั่งในรัชสมัยของพระเจ้าอโนรธา (พ.ศ. 1587–1620) พระองค์จึงสามารถรวบรวมแผ่นดินพม่าให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสำเร็จ และเมื่อพระองค์ทรงตีเมืองท่าตอนของชาวมอญได้ในปีพุทธศักราช 1600 อาณาจักรพุกามก็กลายเป็นอาณาจักรที่เข้มแข็งที่สุดในดินแดนพม่า อาณาจักรพุกามมีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ากยันสิทธา (พ.ศ. 1624–1655) และพระเจ้าอลองสิทธู (พ.ศ. 1655–1710) ทำให้ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ดินแดนในคาบสมุทรสุวรรณภูมิเกือบทั้งหมดถูกครอบครองโดยอาณาจักรเพียงสองแห่ง คือเขมร(เมืองพระนคร) และพุกาม
• อำนาจของอาณาจักรพุกามค่อยๆ เสื่อมลง ด้วยเหตุผลหลักสองประการ ส่วนหนึ่งจากการถูกเข้าครอบงำโดยของคณะสงฆ์ผู้มีอำนาจ และอีกส่วนหนึ่งจากการรุกรานของจักรวรรดิมองโกลที่เข้ามาทางตอนเหนือ พระเจ้านราธิหบดี (ครองราชย์ พ.ศ. 1779–1830) ได้ทรงนำทัพสู่ยูนนานเพื่อยับยั้งการขยายอำนาจของมองโกล แต่เมื่อพระองค์แพ้สงคราม ในปีพุทธศักราช 1820 ทัพของอาณาจักรพุกามก็ระส่ำระสายเกือบทั้งหมด พระเจ้านราธิหบดีถูกพระราชโอรสปลงพระชนม์ในปีพุทธศักราช 1830 กลายเป็นตัวเร่งที่ทำให้อาณาจักรมองโกลตัดสินใจรุกรานอาณาจักรพุกามในปีเดียวกันนั้น ภายหลังสงครามครั้งนี้ อาณาจักรมองโกลก็สามารถเข้าครอบครองดินแดนของอาณาจักรพุกามได้ทั้งหมด ราชวงศ์พุกามสิ้นสุดลงเมื่อมองโกลได้แต่งตั้งรัฐบาลหุ่นขึ้นบริหารดินแดนพม่าในปีพุทธศักราช 1832
อังวะและหงสาวดี
หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรพุกาม พม่าได้แตกแยกออกจากกันอีกครั้ง ราชวงศ์อังวะซึ่งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอาณาจักรพุกามได้ถูกสถาปนาขึ้นที่เมืองอังวะในปีพุทธศักราช 1907 ศิลปะและวรรณกรรมของพุกามได้ถูกฟื้นฟูจนยุคนี้กลายเป็นยุคทองแห่งวรรณกรรมของพม่า แต่เนื่องด้วยอาณาเขตที่ยากต่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู เมืองอังวะจึงถูกชาวไทใหญ่เข้าครอบครองได้ในปีพุทธศักราช 2070• สำหรับดินแดนทางใต้ ชาวมอญได้สถาปนาอาณาจักรของพวกตนขึ้นใหม่อีกครั้งที่หงสาวดี โดยกษัตริย์ธรรมเจดีย์ (ครองราชย์ พ.ศ. 1970 – 2035) เป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของมอญ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเถรวาทและศูนย์กลางทางการค้าขนาดใหญ่ในเวลาต่อมา
ตัวสีแดงให้พิจารณาจะเห็นว่า อังวะ มีมาก่อนแล้วแต่เป็นเพียงหัวเมืองของพุกามเฉกเช่นอยุธยา กับสุโขทัย
ตามความเข้าใจของผม พระองค์ท่านไม่ได้ตี พุกาม โดยตรง แต่เป็นหัวเมืองของพุกามซึ่งน่าจะเป็นได้ เพราะมองโกลยึดแต่เมืองหลวง เมืองลูกหลวงย่อมถูกโจมตีได้ง่ายกว่า
แล้วแต่จะมองครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2015, 11:19:35 โดย แมงคอลั่น » IP : บันทึกการเข้า
theheroman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #79 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2015, 14:05:16 »

ปาดกำลังเข้ามาดูยาวแต้ๆๆครับบบผม

อ่านไปเรื้อยๆๆครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!