Mitsubishi Mirage 2016 ราคาเริ่ม 383,000 บาท พร้อมรับส่วนลดและของแต่งอีกมากมาย
โดยมิตซูพันล้าน จังหวัดเชียงราย ติดต่อสอบถาม Sales หลัง Inbox ได้นะค่ะ
มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III*3 CVT พร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) ที่ช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก และระบบ G-SENSOR ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน
[/b]
- ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID และไฟหรี่แบบสเปคตรัม LED (Spectrum LED Position Lamps) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- ไฟตัดหมอกหน้า (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- สปอยเลอร์หลังออกแบบใหม่ที่ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์และช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ปรับพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)
- ล้ออัลลอยด์ลายใหม่แบบทูโทนขนาด 15 นิ้ว (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก ซึ่งจะทำงาน เมื่อผู้ใช้กดปุ่มปลดล็อคที่รีโมทและสวิตช์ชุดไฟหน้าอยู่ในตำแหน่ง OFF โดยไฟหรี่และไฟท้ายจะสว่างขึ้นเป็นเวลา 30 วินาที ช่วยให้การหารถในที่มืดได้ง่ายยิ่งขึ้น
- ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ เมื่อหมุนสวิตช์ชุดไฟหน้าไปที่ตำแหน่ง OFF ดึงก้านไฟเลี้ยวเข้าหาตัว ไฟหน้าใหญ่จะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที
- ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุดเมื่อรถถึงความเร็วเกิน 60 กิโลเมตร/ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดเป็นจังหวะเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชม.
- ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า หลังจากดับเครื่องยนต์กระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไป อีก 30 วินาที
- ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบจะตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู ช่วยประหยัดไฟในแบตเตอรี่
- ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน เพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกระพริบ 3 ครั้ง
- สัญญาณเสียงเตือนเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
- ระบบล็อคประตูซ้ำอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยระบบจะสั่งล็อคประตูทุกบานโดยอัตโนมัติหากไม่มีการ เปิดประตูภายใน 30 วินาที หลังจากกดปุ่มปลดล็อคประตู
การออกแบบภายใน - ตกแต่งวัสดุภายในโทนสีดำแบบ Piano Black บริเวณแผงคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ และแผงประตู (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)
- เบาะผ้าสีดำออกแบบใหม่พร้อมวัสดุหุ้มเบาะลายใหม่และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการเย็บด้ายสีเงิน (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- เบาะหลังปรับพับแบบ 60:40 (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)
- พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ออกแบบใหม่เพื่อความกระชับมือขึ้นพร้อมการตกแต่งด้วยโครเมี่ยมผสมผสานกับวัสดุสีดำแบบ Piano Black (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS) ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงพร้อมระบบควบคุมการสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับสาย-วางสายที่พวงมาลัย(เฉพาะรุ่น GLS และ GLX)
- มาตรวัดการขับขี่แบบ Semi-High Contrast แบบเรืองแสงตลอดเวลา (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX) พร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่าง ๆ โดยในรุ่น GLS-LTD สามารถแสดงอุณหภูมิภายนอกรถ
ระบบ Smart Safety ให้มากกว่าความมั่นใจ- ในรุ่น GLS-LTD และ GLS มีการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ถือเป็นครั้งแรกในอีโคคาร์
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (FCM-LS : Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range) โดยระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 30 กม.ต่อชั่วโมง
- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) (RMS-FORWARD : Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-Forward) โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้าหากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่เบรกรถได้ทันซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชน ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 10 กม.ต่อชั่วโมง โดยมีระยะห่างด้านหน้าโดยประมาณไม่เกิน 4 เมตร
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในสภาวะที่รถเสียสมดุล
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) ป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist)
- ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (ESS-Emergency Stop Signal System)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ซึ่งเข็ม ขัดนิรภัยด้านคนขับ เป็นแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution) ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ “High Tensile Steel” ช่วยลดการยุบของห้องโดยสารจากการชน
- เหล็กกันโคลงหน้าช่วยเพิ่มประสิทธภาพการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.4 เมตร (เฉพาะรุ่น GLXและ GL) และ4.6 เมตร (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
ระบบเอนเตอร์เทนเม้นท์ - ระบบเครื่องเสียง 2 DIN พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 บลูทูธ และระบบนำทางในรถยนต์ พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
- ระบบเครื่องเสียง 2 DIN พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 ช่องต่ออุปกรณ์ USB บลูทูธ สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง รวมทั้งปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์ที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น GLS และ GLX)
- ลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)