เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 03 สิงหาคม 2025, 03:44:48
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  โรงเรียนอนุบาลในญี่ปุ่น ดูแล้วไม่สงสัยเลยว่าทำไมเค้ามีระเบียบวินัยกัน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 พิมพ์
ผู้เขียน โรงเรียนอนุบาลในญี่ปุ่น ดูแล้วไม่สงสัยเลยว่าทำไมเค้ามีระเบียบวินัยกัน  (อ่าน 6217 ครั้ง)
napapon
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:34:44 »

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ เว็บบอร์ดในพันทิปก่อนคะ พอดีดิฉันได้เข้าไปอ่านในกระทู้หนึ่งในพันทิป แล้วเกิดประทับใจในการฝึกเด็กให้มีระเบียบ และปลูกฝังสิ่งดีๆให้กับเด็กตั้งแต่เล็ก จึงได้เอาข้อมูลมาเผยแพร่ให้ชาวเชียงรายโฟกัสได้รู้กันและนำไปประยุกต์ใช้ กับลูกหลานของท่านได้ไม่มากก็น้อย  ยิ้ม
ฮาร์ดแวร์?
เราคงคิดว่า ญี่ปุ่นซึ่งให้ความสำคัญแก่การศึกษา โรงเรียนอนุบาลของเขาคงเป็นฮาร์ดแวร์สุดยอด ล้ำหน้ากว่าจีนซึ่งพยายามสร้างโรงเรียนอนุบาลแบบหรูหรา เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ทันสมัย

แต่เปล่าเลย โรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่นแสนจะเรียบง่าย

โรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่นไม่ว่าของรัฐหรือของราษฎร์ ล้วนมีห้องเรียนแบบเรียบง่าย นอกจากเปียโน 1 หลัง โทรทัศน์ 1 เครื่อง เครื่องบันทึกแบบกระเป๋าหิ้ว 1 เครื่อง ซึ่งดูไฮเทคหน่อยแล้ว ฮาร์ดแวร์อย่างอื่นเทียบไม่ได้กับในจีนซึ่งต้องครบ “5 เครื่อง 1 จอ” สำหรับของเล่นเด็กก็มีเพียงกระดาษแข็ง กล่องบรรจุขนาดต่างๆ หนังสือพิมพ์ เชือกไนล่อน ตะเกียบไม้ และหนังสือเล่มจำนวนมาก ให้เด็กขีดเขียน ก่ายกอง ตัดแปะ ตามใจชอบ
ซอฟท์แวร์สุดยอด

โรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่นไม่เน้นอุปกรณ์ทันสมัยและของเล่นแพงหรู ดูออกจะขัดกับเทคโนโลยีทันสมัยของญี่ปุ่น แท้ที่จริงแล้ว นี่คือความฉลาดของนักการศึกษาญี่ปุ่น ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของเด็ก ไม่ปล่อยเด็กเป็นทาสของ “ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป” สร้างสิ่งแวดล้อมให้เกิดพลังการแข่งขันโดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่รอบข้าง อันจะทำให้เด็กรับประโยชน์ตลอดชีวิต

จากคุณ   : Lily of the Valley
เขียนเมื่อ   : 17 มี.ค. 54 13:40:48 


* 1.jpg (43.22 KB, 502x377 - ดู 1459 ครั้ง.)

* 2.jpg (41.2 KB, 494x371 - ดู 1457 ครั้ง.)

* 3.jpg (30.43 KB, 550x367 - ดู 1472 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:36:35 »

กระเป๋ามากมายขนาดหลากหลาย
วันแรกที่ไปรายงานตัว โรงเรียนอนุบาลก็มอบหมายให้คุณแม่เตรียมกระเป๋าใหญ่น้อยหลายใบ มีทั้งกระเป๋าหนังสือ กระเป๋าใส่ไหมพรม กระเป๋าเครื่องครัว กระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าเสื้อผ้าสำรอง กระเป๋าเสื้อผ้าใช้แล้ว กระเป๋ารองเท้า พร้อมทั้งกำหนดขนาดเพื่อให้กระเป๋าใส่ซ้อนกันได้
ปวดกระบาลจริงๆ ไม่ทราบว่าทำไมต้องสลับซับซ้อนขนาดนี้ อนุบาลบางแห่งยังเรียกร้องให้คุณแม่เย็บกระเป๋าเอง ในภาพเป็นกระเป๋าผ้านวมคะ)


* 4.jpg (33.41 KB, 357x475 - ดู 1460 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:37:38 »

และนี่
กระเป๋าใส่หนังสือ (ซ้าย)    กระเป๋าใส่รองเท้า (ขวา) 


* 5.jpg (30.47 KB, 495x290 - ดู 1432 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:38:34 »

กระเป๋าใส่เสื้อผ้า (สังเกตจะไม่ใช้ถุงพลาสติกเลยคะ) ยังมีต่อนะคะโปรดติดตามต่อไปคะ ยิ้มเท่ห์


* 6.jpg (15.72 KB, 253x253 - ดู 1422 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:40:32 »

เค้าเน้นให้เด็ก ๆ เรียบง่ายและประหยัด เพราะโตขึ้นก็ต้องเจอการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในภายหลังแหละครับ
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:42:09 »

สองปีผ่านไป เราก็คุ้นเคยกับงานสลับซับซ้อน เด็กก็รู้จักการแยกแยะตามประเภท ชาวญี่ปุ่นขยันแยกขยะตามประเภทโดยไม่รู้สึกรำคาญ น่าจะเกี่ยวกับการอบรมตั้งแต่เด็ก

ผู้ใหญ่เดินมือเปล่า ให้เด็กแบกถือกระเป๋าเอง
เป็นภาพที่น่าตื่นใจ ขณะส่งรับเด็กตอนเช้าเย็น เห็นผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือปู่ย่าตายาย ล้วนเดินมือเปล่า ปล่อยให้เด็กแบกถือกระเป๋าหลายใบด้วยตนเอง แม้จะมีสัมภาระหนักอึ้ง บุปผาเหล่านี้ก็ยังวิ่งฉิวเพราะพลังเต็มร้อย
ความรักแสดงจากใจ ไม่ใช่จากมือ แม้แต่กุฏราชกุมารญี่ปุ่นพร้อมพระชายาส่งพระธิดาเข้าอนุบาล ฝนตกหรือแดดออกก็ให้เด็กถือกระเป๋าเอง ภาพที่ 2 คะ


* 7.jpg (12.47 KB, 201x259 - ดู 1430 ครั้ง.)

* 8.jpg (23.02 KB, 284x213 - ดู 1406 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:45:40 »

เสื้อผ้าใน 1 วันของการไปโรงเรียนถอดเปลี่ยนไม่รู้เบื่อ
โรงเรียนอนุบาลมีเครื่องแบบเปลี่ยนตามฤดูกาล คลอดทั้งปีต้องใส่เสื้อสวมหัว สวมหมวก เมื่อไปถึงโรงเรียน ก็ถอดเสื้อสวมหัว เปลี่ยนเป็นเสื้อเล่น รองเท้าเปลี่ยนเป็นรองเท้าบาเลต์สีขาว ถ้าเล่นกีฬาก็เปลี่ยนรองเท้าอีกแบบ หลังจากนอนพักกลางวัน ตื่นขึ้นมาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่
แต่ละวันเด็ๆต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายครั้ง โดยคุณแม่ยืนดูห่างๆไม่เคยยื่นมือช่วย ขั้นตอนเหล่านี้ เป็นการฝึกให้เด็กรู้จักดำเนินชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ ให้ฝึกทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บคู่มือ ติดสติกเก้อร์ แขวนผ้าเช็ดหน้าเป็นต้น บ่มนิสัยการทำงานเป็นระเบียบ


* 9.jpg (13.9 KB, 264x375 - ดู 1401 ครั้ง.)

* N10351655-14.jpg (14.68 KB, 302x383 - ดู 1402 ครั้ง.)

* 10.jpg (29.57 KB, 573x382 - ดู 1424 ครั้ง.)

* 11.jpg (27.13 KB, 493x296 - ดู 1411 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:47:58 »

หน้าหนาวให้ใส่กางเกงขาสั้น
เด็กอนุบาลญี่ปุ่นต้องใส่กางเกงขาสั้นในช่วงฤดูหนาว (แน่นอนต้องล้มป่วยภายใน 2-3 วันแรก) เมื่อคุยกับคุณแม่ชาวญี่ปุ่นกลับได้คำตอบที่น่าทึ่ง “ใช่แล้ว ส่งเด็กเข้าอนุบาลก็เพื่อให้ล้มป่วย” เมื่อเห็นเด็กๆ แข็งแรงยังกะนักกีฬากรูเข้ามา “สวัสดี” กับฉัน ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ควรโอ๋เด็กมากนัก
ก่อนนอนตอนเที่ยงทำความสะอาดร่างกาย กินข้าวเที่ยงและเข้าห้องเรียนให้เปลือยท่อนบน(รูปที่ 2 คะ) มีต่อคะกำลังโพสแบบเมามัน


* 13.jpg (31.82 KB, 492x277 - ดู 1490 ครั้ง.)

* 14.jpg (26.74 KB, 492x277 - ดู 1402 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
framezasabi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:49:45 »

เหงเเล้วหนาวววว
IP : บันทึกการเข้า
op
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 15:54:03 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:02:54 »

เด็กๆในอนุบาลญี่ปุ่นฝึกร่างกายให้ทนกับความหนาวแบบนี้ทุกวันในฤดูหนาว
พ่อแม่ไม่ให้เด็กใส่เสื้ออบอุ่น จุดประสงค์เพื่อให้เด็กมีร่างกายแข็งแรง จิตใจทรหด


* 15.jpg (26.58 KB, 491x276 - ดู 1366 ครั้ง.)

* 15.jpg (26.58 KB, 491x276 - ดู 1361 ครั้ง.)

* 16.jpg (35.12 KB, 502x388 - ดู 1536 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
framezasabi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:04:43 »

เป็นละอ่อนบ้านเฮาฟั่งเอาเสื้อยาวหื้อใส่ ละอ่อนบ้านเฮากะเลยขี้เเคะ
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:06:02 »

เล่นกีฬาเมื่ออายุ 0 ขวบ
อนุบาลใช้ชื่อดอกไม้ตั้งชื่อชั้นเรียน ลูกฉันเคยอยู่ชั้นดอกเก๊กฮวย เดี๋ยวนี้อยู่ชั้นดอกไวโอเลต สำหรับเด็กอายุ 0 ขวบ จะอยู่ชั้นดอกท้อ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า“もも” ซึ่งคล้ายกับภาษาจีน “毛毛” ที่ใช้เรียกเด็กทารก จะเห็นว่า “คันจิ” ในญึ่ปุ่นก็มาจาก “ฮันจึ” ในจีนนั่นเอง
“เหมาเหมา” เหล่านี้แม้จะอายุไม่ถึงขวบ ก็ต้องร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น แข่งกีฬา งานแสดงเป็นต้น เห็น“เหมาเหมา”เหล่านี้แข่งกันคลานคืบหน้าทั้งน้ำตา ออกจะน่าสงสาร
(มีต่อคะอาจโพสช้าต้องขออภัยด้วย)


* 21.jpg (45.4 KB, 552x414 - ดู 1330 ครั้ง.)

* 21.jpg (45.4 KB, 552x414 - ดู 1391 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
punya
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174

ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:06:53 »

รออ่านต่ออยู่จ้า มีอีกมั้ย
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:08:58 »

เด็กอนุบาลต้องเปลือยท่อนบนวิ่งมาราธอน เด็กเหล่านี้อายุยังไม่ครบ 4 ปีเต็ม แต่ให้วิ่งมาราธอนจนถึงเส้นชัย


* 19.jpg (36.37 KB, 502x283 - ดู 1333 ครั้ง.)

* 20.jpg (25.31 KB, 502x283 - ดู 1328 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:10:14 »

อนุบาลชั้นเด็กกลาง เริ่มมีชั่วโมง jumping  สัปดาห์ละครั้ง พอถึงชั้นเด็กโต ก็จะมีการแข่งขันฟุตบอล ฝึกซ้อมจนลำตัวฟกช้ำดำเขียว
เด็กญึ่ปุ่นโดยทั่วไปจะเริ่มโตชูร่างเมื่ออายุ 13-14 ปี ก่อนหน้านั้นจะเตี้ยกว่าเด็กจีนมาก ตอนพาลูกมาญี่ปุ่นใหม่ๆ ลูกทำขายหน้าเขามาก เพราะตัวโย่งเสียเปล่า แต่วิ่งสู้เด็กญี่ปุ่นไม่ได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง จัดกลุ่มไปไต่เขากัน ลูกเรารั้งท้ายไม่ว่า ขาลงยังต้องให้เด็กญี่ปุ่นตัวเตี้ย 2 คนช่วยหิ้วปีกลงมา อันที่จริงก็โทษเด็กไม่ได้ เพราะเด็กจีนไม่เคยฝึกให้ไต่เขาตอนอายุ 3 ขวบเป็นเวลา 1 ชั่วโมง


* 21.jpg (28.77 KB, 460x306 - ดู 1320 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Yim sri
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,753



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:10:58 »

ได้เคยอ่านเมล์นี้แล้ว เลยไม่แปลกใจว่าทำไมคนญี่ปุ่น ถึงได้มีระเบียบวินัยขนาดนี้เพราะเขาสอนมาตั้งแต่เล็ก และพ่อแม่ก็ร่วมมือด้วยอย่างดีเยี่ยม
IP : บันทึกการเข้า

ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์กาล
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:12:56 »

การศึกษาเพื่อสอนให้เด็กรู้จัก “ยิ้ม” และ “ขอบคุณ”
อนุบาลดูเหมือนไม่เน้นการสอนความรู้ เด็ๆไม่มีตำรา มีแต่สมุดวาดเขียนเดือนละเล่ม ตารางเรียนไม่มีวิชาคณิตศาสตร์ พยัญชนะ ภาษาอังกฤษหรือวิชาดนตรี ถามว่าสอนอะไร ได้คำตอบที่คาดไม่ถึงคือ “สอนเด็กให้รู้จักยิ้มหยีๆ” ในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน “ยิ้ม”ถือว่าสำคัญยิ่ง เด็กผู้หญิงที่ยิ้มเป็นถือว่าสวยที่สุด
นอกจากนี้ยังสอนอะไร – “สอนให้รู้จักขอบคุณ”
สรุปคือ การศึกษาในญี่ปุ่นเน้นแตกต่างกับจีนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม 3 ปีในอนุบาล พบว่าเด็กมีความ ก้าวหน้าในด้านดนตรี วิจิตรศิลป์ การอ่านเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากรูปแบบการศึกษาองค์รวม

กิจกรรมและเทศกาลมีตลอดปีนับครั้งไม่ถ้วน
คุณแม่ต้องกาเครื่องหมายบนปฏิทินมากมาย เพื่อเตือนให้ทำปิ่นโต เพราะตลอดปีมีรายการปิกนิก ไต่เขา เที่ยวทะเลสาบ ชมสวนสัตว์และสวนพฤกษชาตินับครั้งไม่ถ้วน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมากมายก่ายกอง เช่น ทำขนมโก๋ในเทศกาล แข่งกีฬา งานแสดงเพื่อชุมชน ออกค่ายพักแรม จัดนิทรรศการ นมัสการที่วัดวาอารามต่างๆ
(มีต่อคะ ยิ้ม )


* 22.jpg (43.85 KB, 444x397 - ดู 1306 ครั้ง.)

* 23.jpg (39.29 KB, 500x356 - ดู 1348 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:16:58 »

ประเพณีดั้งเดิมที่จีนสะบัดทิ้ง แต่ญี่ปุ่นยังคงรักษาไว้
อนุบาลญี่ปุ่นมีการฉลองเทศกาลทั้งของตนเองและของจีน เช่น เทศกาลเด็กผู้หญิง เทศกาลเด็กผู้ชาย ตามประเพณีญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังฉลองเทศกาลกินผัก 7 อย่างในวันที่ 7 หลังตรุษจีน (เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ให้กินผักหลายอย่างหลังเปิบเนื้อหมูเป็ดไก่มาหลายวัน) และเทศกาลวันที่ 7 เดือน 7 ซึ่งเป็นวันหนุ่มเลี้ยงควายนัดพบสาวทอผ้า (วันวาเลนไทน์จีน)
ลูกกลับบ้านถามฉันว่า วันนี้ครูถามว่าในจีนฉลองเทศกาลเหล่านี้อย่างไร ฉันตอบไม่ได้ ขายหน้าเขาจัง แม้แต่แม่ก็ไม่รู้เรื่อง
( ถ้าบางท่านที่เคยอ่านแล้ว ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้น่าเบื่อ ยิ้ม มีต่อคะ)


* 25.jpg (26.85 KB, 250x354 - ดู 1293 ครั้ง.)

* 26.jpg (38.49 KB, 490x391 - ดู 1365 ครั้ง.)

* 27.jpg (34.82 KB, 502x335 - ดู 1295 ครั้ง.)

* 28.jpg (29.89 KB, 490x327 - ดู 1302 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
napapon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 16:20:22 »

อิทธิพลของศาสนาพุทธ
อนุบาลญี่ปุ่นจะตั้งอยู่รอบวัด นอกจากนั้น เจ้าอาวาสยังควบตำแหน่งผู้อำนวยการอนุบาลด้วย ลักษณะนี้มีอยู่ทั่วไปทั้งในชนบทและเมืองใหญ่เช่นโตเกียว เด็กๆ ก็ชอบไปเล่นซ่อนหาในสุสานบริเวณวัด กล่าวได้ว่าวิ่งไปมาระหว่างเส้นตายและเส้นเป็น
ทุกเดือนเด็กต้องไปฟังเทศน์ในวัด 1 ครั้ง และไหว้พระในวันสำคัญ ก่อนจบการศึกษา เด็กต้องไปถวายดอกไม้และบนบานในวัดผ(ลองมองกลับกันคุณพอลูกคุณไปวัดล่าสุดเมื่อไหร่คะ) มีต่อคะ ยิ้ม


* 29.jpg (28.48 KB, 496x371 - ดู 1285 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!