เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 02 พฤษภาคม 2024, 04:02:29
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  กระทู้รายงานข่าวเกียวกับ โรงไฟฟ้า Nuclear ในญี่ปุ่น
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน กระทู้รายงานข่าวเกียวกับ โรงไฟฟ้า Nuclear ในญี่ปุ่น  (อ่าน 1197 ครั้ง)
DeSci
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 16 มีนาคม 2011, 09:17:06 »

ยังไม่เห็นมีใครเปิดกระทู้เลย เอามาช่วยกันอัพเดทข่าวนี้กันหน่อยดีมั้ยค่ะ ใครมีข่าวใหม่ๆมาเขียนต่อลงมาเลยก็ได้นะคะ จะตามอ่านคะ

Update 16 Mar 2011 - "ปัญหาใหม่ของโรงงานไฟฟ้าฟุกุชิมา: ระดับน้ำหล่อเย็นแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว เริ่มมีปัญหา" ดูวีดีโอประกอบได้จากลิ้งที่มาของข่าวคะ
 
 
หลังจากเมื่อเช้าเกิดไฟไหม้ขึ้นในบริเวณเตาปฎิกรณ์หมายเลข 4 ของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมาก่อให้เกิดคำถามว่าเกิดอะไรกันขึ้น โดยตอนนี้ยังไม่มีทางรู้ที่แน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่ของโรงงานไฟฟ้าระบุว่าปัญหาอาจจะเกิดจากบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วนั้นเดือดขึ้นมา
 
แท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว (spent nuclear fuel) เป็นแท่งสารกัมมันตภาพรังสีที่มีระดับกัมมันตภาพรังสีในระดับต่ำจนไม่อาจจะก่อปฎิกิริยาลูกโซ่ได้อีกต่อไป จึงต้องถอดจากเตาปฎิกรณ์แล้วไปเก็บรักษาไว้ในบ่อน้ำ เพื่อลดความร้อนที่เกิดจากการสลายตัวอย่างต่อเนื่อง
 
โดยปรกติแล้วแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วเหล่านี้ก่อความร้อนไม่มากนัก โดยหลังการปิดเตาปฏิกรณ์ความร้อนจะอยู่ที่ 1.5% เมื่อผ่านไปหนึ่งวันจะอยู่ที่ 0.4% และผ่านไปหนึ่งสัปดาห์จะอยู่ที่ 0.2% ความร้อนระดับนี้ไม่ต้องการการหล่อเย็นอย่างหนักเหมือนตัวเตาปฎิกรณ์ แต่ก็ยังต้องการการหมุนเวียนของน้ำเพื่อระบายความร้อนอย่างต่อเนื่อง
ทาง TEPCO ผู้ดำเนินงานของโรงงานไฟฟ้าฟุกุชิมาระบุว่าตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันระดับน้ำของบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วเหล่านี้ได้ โดยระดับน้ำอาจจะลดต่ำลงจนทำให้ตัวแท่งเชื้อเพลิงโผล่พ้นระดับน้ำขึ้นมาแล้ว (ซึ่งจะทำให้มีการแผ่ความร้อนไปทั่ว)
 
TEPCO ยังยืนยันไม่ได้ว่าการระเบิดบริเวณเตาปฎิกรณ์หมายเลข 4 นั้นเกิดจากแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วเหล่านี้โผล่พ้นระดับน้ำ และไอน้ำในห้องเก็บแท่งเชื้อเพลิงหรือไม่
 
อุณภูมิของแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ววัดเมื่วันจันทร์ที่ผ่านมาพบว่าน้ำมีอุณภูมิ 84 องศาเซลเซียส เหนือกว่าอุณภูมิปรกติที่จะอยู่ในระดับ 40-50 องศา ส่วนอุณภูมิของบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงในเตาปฎิกรณ์หมายเลข 5 และ 6 นั้นก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกเช่นกัน โดยเตาปฎิกรณ์หมายเลขสี่นั้นเก็บแท่งเชื้อเพลิงทั้งหมดเอาไว้ในบ่อเนืองจากการหยุดการทำงานเพื่อเปลี่ยนตัวถังเตาปฎิกรณ์ ขณะที่เตาปฎิกรณ์หมายเลข 5 และ 6 นั้นเก็บแท่งเชื้อเพลิงไว้ในบ่ออยู่หนึ่งในสามของแท่งเชื้อเพลิงทั้งหมด
 
หลังจากการปั๊มน้ำทะเลเข้าไปยังเตาปฎิกรณ์หมายเลข 1, 2, และ 3 แล้วก็ยังพบว่าแท่งเชื้อเพลิงในบ่อเก็บยังคงโผล่พ้นน้ำ

(ภาพตัวอย่างบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วจากโรงงานไฟฟ้า PG&E's Diablo Canyon)

ที่มาของข่าว : http://community.akanek.com/node/1578
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 มีนาคม 2011, 09:31:30 โดย DeSci » IP : บันทึกการเข้า
DeSci
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2011, 11:48:52 »

Update 18 Mar 2011 - รายงาน สาถานะการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่าดีขึ้นแล้ว(?)
 
หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิขนาดยักษ์ถล่มชายฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น (Sendai Earthquake) ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมาก็อยู่ในสภาพวิกฤติตึงเครียดมาตลอด แต่เมื่อตอนเช้าของวันที่ 17 มีนาคมผ่านพ้นไปด้วยดี สถานการณ์ต่างๆ ก็ดูเหมือนกำลังจะคลี่คลาย
 
วิกฤติเริ่มต้นจากการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนที่เตาปฏิกรณ์ที่ 1 ของโรงไฟฟ้า Fukushima Daiichi ในวันที่ 12 มีนาคม ตามด้วยการระเบิดอย่างเดียวกันที่เตาที่ 3 และ 2 ตามลำดับในวันต่อๆ มา และสถานการณ์ก็ย่ำแย่อย่างหนักหลังจากการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดที่อาคารเตาที่ 4 ในวันที่ 15 ด้วยสาเหตุจากความร้อนสะสมที่แท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว (ปํญหานี้ต่อมาก็เกิดกับเตาปฏิกรณ์ที่ 3 ด้วย) หลังจากนั้นข่าวเหตุการณ์ก็ดูเหมือนอลเวงไปหมด เดี๋ยวมีรายงานเตานั้นระเบิด เดี๋ยวเตานี้ไฟไหม้ (ผมขอโทษด้วยที่ไม่สามารถลำดับเหตุการณ์แน่ชัดได้ แต่ผ่านไปสักพักคงมีข่าวสรุปออกมาให้อ่านกันจนเบื่อเลยแหละ) แต่หนักสุดๆ ก็คงเป็นเตาที่ 2, 3 และ 4 ซึ่งมีการรั่วไหลของกัมมันตรังสีในระดับที่เป็นอันตราย (ค่าที่วัดได้เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2011 อยู่ประมาณ 3-4 millisieverts ต่อชั่วโมง)
 
เมื่อตอนเช้า 9:48 น. ของวันที่ 17 มีนาคม (ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น) เฮลิคอปเตอร์ CH-47 Chinook ของกองกำลังปกป้องประเทศได้เข้าไปโปรยน้ำทะเลเป็นตันๆ ลงมาหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ที่ 3 และ 4 หลังจากที่เมื่อวานต้องยกเลิกภารกิจเนื่องจากมีการแผ่รังสีสูงเกินไป
 
แม้ว่าผู้ที่เข้าไปสังเกตการณ์จะเชื่อว่าน้ำจากเฮลิคอปเตอร์ไม่ช่วยอะไรมากนัก เพราะน้ำไปตกนอกเป้าเสียเกือบหมด แต่ก็เป็นนิมิตหมายอันดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ TEPCO, ตำรวจ, และทหารก็สามารถลำเลียงรถดับเพลิงเอาปืนฉีดน้ำเข้ามารดน้ำหล่อเลี้ยงเตาปฏิกรณ์ที่มีปัญหาทั้งหมดได้ แม้ในตอนแรกจะยุ่งยากไปสักหน่อย เพราะติดอุปสรรคดินโคลนและสิ่งกีดขวางที่คลื่นสึนามิซัดเข้ามาทิ้งไว้ (รถดับเพลิงนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติการได้โดยไม่ต้องออกมาจากตัวถังรถ)
 
TEPCO รายงานสถานการณ์ในตอนนี้ว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปกู้ระบบควบคุมไฟฟ้าและระบบหล่อเย็นหลักในสถานีได้แล้ว หวังว่าอีกไม่นานระบบต่างๆ ก็จะกลับมาทำงานได้ตามปกติ
 
เท่าที่ทราบล่าสุด แท่งเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์ที่ 1, 2 และ 3 ถูกน้ำทะเลฉีดเข้าท่วมหมดและเริ่มเย็นลงแล้ว ไม่น่าจะเกิดระเบิดขึ้นมาได้อีก เพราะฉะนั้นตอนนี้ความกังวลก็เหลือเพียงแค่ว่า suppression pool หรือ torus ในเตาที่ 2 และ 3 มีการรั่วมากน้อยแค่ไหน?
 
ศาสตราจารย์ Barry Brook แห่ง University of Adelaide ให้ความเห็นว่า "จุดเลวร้ายสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว"
To be honest, and I don't want to sound too optimistic, but I think the worst is probably over.
แน่นอน คนที่ควรจะได้รับคำชมเชยมากที่สุดในวิกฤติครั้งนี้คือ เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปควบคุมสถานการณ์ทุกท่าน เพราะครั้งนี้ถือเป็นงานที่เสี่ยงพอๆ กับการเดินเข้าสมรภูมิเลยทีเดียว กัมมันตภาพรังสีที่พวกเขาได้รับอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว เช่น เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง เป็นต้น

ที่มา : http://community.akanek.com/node/1578
IP : บันทึกการเข้า
maximumfast
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


เด็กแนววว


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2011, 12:31:48 »

ค่าเงิน เยน ก็เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา โลหเราหนอ
IP : บันทึกการเข้า

DeSci
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2011, 12:54:32 »

ใช่แล้วค่ะเศรษฐกิจปั่นป่วนแน่ๆในอนาคต
IP : บันทึกการเข้า
DeSci
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 09:31:39 »

Update 18 Mar 2011: 10:21 p.m. รัฐบาลญี่ปุนได้ปรับเพิ่มการประเมินผลของความรุนแรงของภัยพิบัติของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จากเดิมอยู่ที่ระดับ 4 ขึ้นไปเป็นระดับที่ 5 แล้ว
IP : บันทึกการเข้า
flashi
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,797


on the internet nobody knows you’re a dog


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 11:33:34 »

เอาเรื่องราวของวีรบุรุษแห่งฟุคุชิมา มาให้อ่านกันค่ะ ซาบซึ้งและขอคารวะจากใจเลย เลือดบูชิโดช่างน่าทึ่ง

   
วีรบุรุษนิรนามที่ "ฟุคุชิมา" แนวป้องกันสุดท้ายของญี่ปุ่น


ในขณะที่คนครึ่งโลกตื่นกลัวกับสารกัมมันตภาพรังสี ที่อาจแพร่ออกมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุคุชิมา ไดอิจิ คนกลุ่มหนึ่งกลับไม่คำนึงถึงอันตรายจากมัน และก้มหน้าก้มตาทำตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมาอย่างถึงที่สุด

คนเหล่านี้คือวีรบุรุษนิรนาม ไม่มีการเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม ไม่เคยมีใครพบเห็นหน้าตา แต่พวกเขากำลังแลกชีวิตทั้งชีวิต ทำงานแข่งกับเวลา พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตนิวเคลียร์ลุกลามและรุนแรงจน กลายเป็นหายนภัยครั้งใหญ่

คนเหล่านี้คืบคลานไปตามช่องทางแคบๆ ลดเลี้ยวไปตามกองอุปกรณ์ที่เหมือนเขาวงกตในท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงไฟฉายเล็กๆ ส่องนำทาง สองหูยังต้องเงี่ยฟังเสียงระเบิดเป็นระยะจากแก๊สไฮโดรเจนที่เล็ดลอดออกมาและ เกิดระเบิดขึ้นเมื่อเจอเข้ากับอากาศภายนอก

พวกเขาหายใจอย่างยากลำบาก ผ่านทางเครื่องช่วยหายใจ ด้านหลังต้องสะพายถังออกซิเจน จัมพ์สูทสีขาว กับหน้ากากคลุมหัวที่ปิดล็อคแน่นหนา ช่วยได้ก็เพียงแค่สร้างความรู้สึกเหมือนได้รับการป้องกันแล้วเท่านั้น

คน เหล่านี้คืออาสาสมัครจำนวน 50 คน ที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อซึ่งถูกทิ้งเอาไว้ เพื่อทำหน้าที่ปั๊มน้ำทะเลฉีดเข้าสู่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ระเบิดเปิด กว้างออกมาอย่างน่ากลัว

เชื่อกันว่าแกนภายในหลอมละลายไปส่วนหนึ่ง แล้วและกำลังแพร่สารกัมมันต ภาพรังสีจำนวนออกมาเรื่อยๆ เป้าหมายของพวกเขาคือป้องกันไม่ให้เกิดการหลอมละลายขึ้นกับแท่งเชื้อเพลิง ทั้งหมดในแกนปฏิกรณ์ ที่อาจส่งผลให้ฝุ่นของสารกัมมันตภาพรังสีนับพันๆ ตันฟุ้งกระจายขึ้นสู่อากาศเบื้องสูงและทำให้เพื่อนร่วมชาตินับล้านตกอยู่ใน อันตรายถึงชีวิต

คนทั้งหมดถูกร้องขอให้ขยายเวลาการทำหน้าที่อยู่ภาย ในบริเวณโรงไฟฟ้าเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ในเวลาเดียวกันกับที่ โยโกะ โคมิยามะ รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น ยอมรับว่าได้มีการเพิ่มระดับสูงสุดของสารกัมมันตภาพรังสีภายในโรงงานที่ กฎหมายอนุญาตให้คนงานได้รับ ขึ้นจากเดิมที่ระดับ 100 มิลลิ ซีเวิร์ตสู่ระดับ 250 มิลลิซีเวิร์ต

ระดับของกัมมันตภาพรังสีดังกล่าวมีค่าสูงกว่าระดับสูงสุดที่ทางการอเมริกันอนุญาตให้คนงานในโรงงานนิวเคลียร์ของตนได้รับถึง 5 เท่าตัว

ทาง เทปโก้ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ไม่เคยแถลงประการหนึ่งประการใดออกมาเกี่ยวกับกลุ่มคนงานดังกล่าว มีเพียงรายละเอียดเล็กน้อยที่เผยแพร่ออกมา แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้ทุกคนจินตนาการถึงสภาพภายในได้อย่างชัดเจน

นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวเรื่อยมา มีคนงานเสียชีวิตไปแล้ว 5 ราย อีก 22 รายได้รับบาดเจ็บด้วยสาเหตุแตกต่างกันออกไป สูญหายไปอีก 2 คน

คนงานรายหนึ่งต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากเกิดอาการเจ็บหน้าอกขึ้นมาเฉียบพลัน และไม่สามารถทรงตัวยืนได้

อีกรายต้องเข้ารับการรักษา เพราะเจอเข้ากับปริมาณรังสีมหาศาลที่ระเบิดเข้าใส่ตัวขณะทำหน้าที่อยู่ใกล้กับเตาปฏิกรณ์ที่เสียหายบางส่วน

ในการระเบิดของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา มีคนงานอีก 11 คนได้รับบาดเจ็บ

แต่ พวกเขาก็ยังอาสา เต็มใจที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ หลังจาก 50 คนแรกเข้าไปต่อสู้กับหายนะภายในแล้ว อีก 20 รายสมัครใจขอตามเข้าไปปฏิบัติงานสุดเสี่ยงด้วยในวันต่อมา


เจ้า หน้าที่เทคนิคประจำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างเช่นที่ฟุคุชิมา มีสำนึกของการรวมกลุ่ม ความรักในพวกพ้องเพื่อนร่วมงานสูง ในท่วงทำนองเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือหน่วยทหารแต่ละหน่วยในกองทัพมี

พวกเขาไม่เพียงผ่านการฝึกอบรมที่ แตกต่างจากการทำหน้าที่ทั่วๆ ไปมาด้วยกันเท่านั้น ยังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำหน้าที่เสี่ยงอยู่กับอันตรายมหาศาลมาเนิ่นนาน นับปี

นอกเหนือจากพันธะโดยธรรมชาติที่ผูกมัดพวกเขาเข้าด้วยกันแล้ว ยังความผูกพัน ภักดี และพันธะผูกพันในแง่ของเพื่อนร่วมวิชาชีพเดียวกัน พร้อมที่จะทุ่มเทและอุทิศตนอีกด้วย

ในภาวะปกติ เตาปฏิกรณ์แต่ละเตา จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าเทคนิคเพื่อดูแล และควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ 2-3 คนเท่านั้น ฟุคุชิม่า ไดอิจิ มี 3 เตา จึงใช้เจ้าหน้าที่รวมทั้งซุปเปอร์ไวเซอร์ ระหว่าง 10-12 คนเท่านั้น

การ ทิ้งคนไว้ถึง 50 คน ด้านหนึ่งแสดงให้เห็นถึงภารกิจมหาศาลที่พวกเขาต้องรับมือ ในอีกด้านหนึ่งแสดงให้เห็นถึงความกล้า และความเสียสละถึงขีดสุดของคนในส่วนที่เหลือที่ไม่ได้มีหน้าที่ หรือจำเป็นต้องอยู่ในขณะนี้

อันตรายที่คนงานทั้งหมดจะพานพบในกรณีที่ เกิดเหตุเลวร้ายถึงขีดสุดขึ้น อาจเทียบเคียงได้กับชะตากรรมของบรรดาคนงานในโรงงานไฟฟ้าเชอร์โนบิล ที่เกิดระเบิดขึ้นเมื่อปี 1986

ในบรรดาคนงานของโรงงานไฟฟ้า นิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่ยูเครน ซึ่งอาสาพยายามแก้ไขวิกฤตและสุดท้ายก็อาสาเป็นผู้เทซีเมนต์ปิดทับทั้งเตา นั้น มี 28 คนที่เสียชีวิตลงภายในระยะเวลา 3 เดือนหลังเหตุการณ์สิ้นสุดลง

มี อย่างน้อย 19 คนในจำนวนนั้น ตายเพราะอาการติดเชื้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผิวหนังของพวกเขาถูกกัมมันต ภาพรังสีเผาลวกและเปิดออกเป็นบริเวณกว้าง

คณะกรรมาธิการการวิทยา ศาสตร์แห่งสหประชาชาติ รายงานเอาไว้ด้วยว่า อีก 106 คน ล้มป่วยเพราะได้รับรังสีมากเกินไป นานเกินไป ซึ่งมีทั้งอาการอาเจียนต่อเนื่อง วิงเวียน ท้องร่วงอย่างรุนแรง และปริมาณเม็ดเลือดขาวลดฮวบเพราะเซลล์ไขกระดูกถูกทำลาย ซึ่งส่งผลให้คนเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันลดลงจนต่ำมาก ติดเชื้อได้ง่ายดาย และรับเชื้อได้มากกว่าคนปกติทั่วไปมาก

อาการป่วยของคนทั้ง 106 คน พัฒนาขึ้นไปได้อีกหลากหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่าง "ต้อ" ไปจนถึงอาการหลุดร่อน ลวกไหม้ของผิวหนัง ไม่นานส่วนใหญ่ก็เริ่มทยอยกันเสียชีวิตจากลิวคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือด) และโรคมะเร็งในเลือดชนิดอื่นๆ

ภายในโรงไฟฟ้าฟุคุชิม่า ไดอิจิ ในเวลานี้ ปนเปื้อนเต็มไปด้วยสารกัมมันตภาพ รังสี มากเสียจนผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ยากที่จะทำให้พนักงานรายหนึ่งรายใดทำงานอยู่ใกล้บริเวณเตาปฏิกรณ์เป็นเวลา นานๆ ได้

ภายใต้สภาพปนเปื้อนสูงอย่างนี้ คนงานจำเป็นต้องทำงานวนกันเป็นระยะๆ ช่วงหนึ่งๆ กินเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ต้องกลับออกมา ให้คนต่อไปเข้าไปทำต่อ

ทำต่อเนื่องอย่างนี้จนกว่างานแต่ละอย่างในบริเวณเตาปฏิกรณ์จะแล้วเสร็จ

เมื่อ วันที่ 16 มีนาคม เมื่อ มิชิโกะ โอซึกิ หนึ่งในพนักงานที่ทำหน้าที่อยู่ใน โรงไฟฟ้าฟุคุชิมา ไดนิ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากฟุคุชิมา ไดอิจิ เพียง 16 กิโลเมตรและจำเป็นต้องอพยพออกมา บันทึกความในใจเอาไว้ในเว็บล็อกส่วนตัวว่า

"คนที่ทำงานอยู่ในโรงไฟฟ้าเหล่านี้ กำลังต่อสู้อย่างถึงที่สุด ไม่ยอมล่าถอย ท้อแท้"

"นับแต่นี้ไป ฉันคงทำได้เพียงแค่สวดภาวนาให้ทุกรอดปลอดภัยเท่านั้น"

"ได้โปรด อย่าลืมเลือนเด็ดขาดว่า นี่คือบรรดาคนที่กำลังทำหน้าที่เพื่อปกป้องชีวิตของทุกๆ คน โดยใช้ชีวิตของตนเองเข้าแลก" !

นี่แหละ คือวีรบุรุษที่แท้จริง!

ที่มา : หน้า 30 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 18 มี.ค. 2554
http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1300421894&grpid=01&catid=&subcatid=
IP : บันทึกการเข้า

ทุกอาชีพไม่มีไส้แห้ง ไม่ว่าอาชีพใดทั้งสิ้น ที่เมิงไส้แห้ง เพราะเมิงกระจอกไง มันอยู่ที่ใจเมิง ใจเมิงสูงเมิงก็รอด ใจเมิงกระจอกเมิงก็จน!
--- (เชิญชมคลิปเต็ม)
http://www.youtube.com/watch?v=s-g89WcO6DQ
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 17:18:23 »

รอติดตามเรื่อยๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!