|
|
flashi
ระดับ :ป.โท
   
ออฟไลน์
กระทู้: 3,796

on the internet nobody knows you’re a dog
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 11:29:26 » |
|
จ.ข.ก.ท. เก็๋บกดจากไหนมาครับท่าน เล่นซะแรงเลย ระวังจะเข้าตัวนะคร๊าบ.  เลยวัยมาแล้วล่ะ แต่ถึงย้อนอดีต บอกได้เต็มปากว่าไม่มี เพราะ ๑. กินบะหมี่ไม่ได้ เพราะทานผงชูรสไม่ได้ ชาลิ้น ๒. โทรศัพท์มือถือ พึ่งมาใช้ตอนเรียนมหาลัย ๓. เสื้อผ้าประเภทฮับกี๋ ไม่มีเลย ใส่แต่กางเกงหูรูดเลยเข่าตลอด อันนี้แล่ะไม่สุภาพสุดแล้ว เพราะอยู่บ้าน แม่ให้ใส่กางเกงขายาวอยู่บ้าน ๔. อันที่ว่ากินไม่เก็บ ไม่อยากจะบอกว่าแค่น้ำอัดลมกระป๋อง ยังต้องเก็บใส่ถุงพลาสติกก่อนทิ้ง ไม่ลดโลกร้อน แต่มันดูดีกว่า "คิดได้ช้า หรือว่าคิดได้เร็ว หรือว่าไม่ได้คิด" จุดประสงค์ แค่อยากเตือนสติเด็กบางกลุ่ม ว่ามุมมองของผู้ใหญ่บางส่วน เป็นไง ถึงเวลาหรือยัง ที่เด็กๆ ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียที เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้เจาะจงไปหาผู้ใดผู้หนึ่งหรอก แต่ประสบการณ์ที่เห็นเด็กหลายรูปแบบ มันรวมเป็นกระทู้นี้ เท่านั้นเอง..จริงๆ แบบนี้เพราะที่บ้านอบรมมาดีค่ะ แต่ที่บ่นๆมานั่น เหมือนว่าเด็กขาดการอบรม พ่อแม่ตามใจ เอาจานมาทิ้งก็ล้างให้ ห้องรกก็เก็บให้ พอนานๆไปเด็กมันก็ชิน มันก็คิดว่าไม่ต้องทำก็ได้เด๋วพ่อแม่ทำให้เอง พอจะมาอบรมทีหลังก็ไม่ได้แล้วเพราะเด็กมันชินซะแล้ว เข้าทำนองลูกเทวดานั่นแหล่ะ
|
|
|
|
|
|
|
sawate
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 13:40:03 » |
|
คงต้องถามผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อ..งแม่..งทั้งหลายแหละว่าอบรมลูกอย่างไร ทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้ สมัยป้าๆ น้า ๆ ไม่เคยมีแบบนี้สักหน่อย พูดมากไปก้อคัด..เอ้อ กั้ดเนาะ
|
|
|
|
|
|
Pongpangkung
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 19:34:34 » |
|
เด็กวัยรุ่นสมัยนิยมหลายคน ได้ชื่อว่าเป็นคนปกติ ไม่พิการ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่หรอก เด็กวัยรุ่นหลายคนพิการที่สมองไปเยอะแล้ว โตแต่ตัวตามวัยเจริญพันธุ์ พัฒนาตัวเองเฉพาะการแต่งตัวแต่งกายให้รู้ว่า "โตแล้ว" จะออกจากบ้าน ต้องแต่งให้น้อยชิ้นเข้าไว้ สวย สง่าก็ไม่ปาน ตัวก็เล็ก เตี้ย จะสูงก็ต่อเมื่อ ใ่ส่รองเท้านักร้องคาเฟ่ กับกางเกง "ฮับกี๋" เสื้อก็ต้องเน้นสัดส่วน (หรือว่า ส่วนของสัตว์) ที่ตัวผู้ชอบกัน รอให้ตัวผู้ตัวอื่นๆ มาถามว่า "น้องสาว อยากเป็นผัวน้องสักคืน วันไหนเบื่อผัว มานัวกับพี่ได้นะน้อง"
ก็อย่างว่าละครับ สมัยนี้การแต่งตัวมันเปลี่ยนไปเยอะ จะให้มาใส่เสื้อคอกระเช้าคุณยายและนุ่งผ้าซิ่นมันไม่ได้ครับ การแต่งตัวมันเป็นไปตามสมัย ตามกาลเวลา คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรทำความเข้าใจในจุดนี้ด้วย ถ้าเค้าไม่ทำอะไรเสียหายหรือว่าไม่ถูกกาละเทศะควรเตือนๆเขาบ้าง แต่ไม่ควรด่าควรกล่าวแค่ตักเตือนก็พอก็อย่างที่กล่าวมาการแต่งตัวมันเป็นไปตามยุคสมัย เด็กวัยรุ่นสมัยนิยม ชอบกินเสียก็แต่ "บะหมี่" ที่กินง่ายๆ กับน้ำร้อน (จากกระติกน้ำร้อนที่ไม่เคยล้างทำความสะอาดมาเป็นชาติ..จนกระติกดำเป็นตะไคร่น้ำ) ก็ยังต้มแดกอยู่ได้ ส่วนถ้วยโถโอชาม 45 วัน ล้างที หลังๆ เปลี่ยนมาเป็นบะหมี่ถ้วยเคลือบแวกซ์ในกระเพาะอาหาร อย่าว่าแต่เด็กเลยครับ ผมอยู่ในวัยทำงานก็ยังกินเลย ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนนี่ขอให้ท้องอิ่มไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าจนหรือว่าประหยัดอะไรหรอกนะครับ เงินเดือนผมก็เยอะนะครับ แต่เวลามันไม่อำนวย อะไรที่พอประทังได้ก็เอาไว้ก่อน ดีกว่าไม่มีแรงทำงานหรือว่าเรียน แถมกินก็ไม่รู้จักเก็บกวาดให้เรียบร้อย ต้องคอยให้เจ้าที่ในบ้านคอยเก็บขยะให้ เด็กวัยรุ่นเก็บขยะเป็นอย่างเดียว คือ "ผ้าอนามัย" ที่ใช้แล้ว (ก็ไม่เชิงว่าเป็น) (ขนาด "ผ้าอนามัย" ยังไม่ห่อกระดาษให้เรียบร้อย ส่งกลิ่นคละคลุ้งเรียกแมลงไปทั่ว) นิสัย "แจ๊ะ" ขนาด ส่วนการกินนี่ก็ถ้าไม่กินที่ห้องหรือบ้านของตัวเองหรือกินที่บ้านของเพื่อนก็ไม่เก็บเพราะส่วนมากกินที่ร้านขายอาหารตามสั่งหรือว่าร้านอาหาร พอดีโตมาด้วยอาหารตามสั่งครับ นอนลืมวันลืมคืน ไม่สนใจพระอาทิตย์ - พระจันทร์ ว่ามันบอกเวลาที่ควรเป็นไปของมนุษย์ กลางวัน ไม่สนใจจะตื่นไปทำมาหากิน ตื่นมาได้กับเสียงโทรศัพท์ที่เพศตัวผู้โทรมา (แต่บุพการีพี่น้องโทรไปเหอะ..ไ้ม่เคยเปลี่ยนสันดานรับสาย..ช่วยไม่ได้ เผอิญคนโทรไ่ม่มี ค..-..ย..) ส่วนการนอนก็มีบางครั้งในวันที่พักผ่อน มันก็ดีกว่าออกไปเที่ยวลืมวันลืมคืน หรือว่าออกไปเที่ยวมีเรื่องกับคนอื่น ส่วนโทรศัพท์อันนี้เป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละคนแต่ละครอบครัว มีตังค์เติมก็โทรไปไม่เดือดร้อนใครคนอื่นก็ดีแล้ว กลางคืน เปิดเพลงส่งเสียงโหยหวนไปทั่วบ้าน คุยโทรกับตัวผู้ ให้รู้ว่ากูรักมึงมากมาย (ถ้ามึงตาย กูก็จะเอาผัวใหม่ให้ดู) โกหกผู้ชายไปวันๆ ว่าเป็นของตาย กลัวโดนทิ้ง แต่จริงๆ มึงก็ให้เค้าไปทั่ว "ไม่ได้ว่ามั่วนะ แต่ทั่วถึงเลยแล่ะ" อันนี้มันก็เรื่องของเค้าอีกแหละ ของของเค้า เค้าจะให้ใครแหย่รูมันก็เรื่องของเค้า เค้าไม่ได้เอารูของเราไปให้คนอื่นแหย่สักหน่อย เดือดร้อนไปทำไม เดี๋ยวเราก็โดนเด็กพวกนั้นพูดสวนมาว่า "กรูเอารูของมึงมาให้คนอื่นเอารึไง" เนี่ยเหรอ เด็กในสังคมพัฒนาแล้ว
พ่อแม่สั่งสอนด้วยเหตุผลก็แล้ว ด่าทอก็แล้ว ไ่ม่เคยจะคิดตาม หลอกตัวเองไปวันๆ ว่า "กูทันคน ฉลาด เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว" ไม่ใช่หรอก เด็กๆ มันคิดผิดแล้ว โลกของเราไม่ได้มีแต่ "กิน ขี้ ปี้ นอน" เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความอ่อนต่อโลก มาก มาย พ่อแม่ควรสอนสั่งและก็สั่งสอน และก็ควรให้คำปรึกษาและเป็นแบบอย่างแก่การประพฤติปฏิบัติตัวควรทำตัวเป็นเพื่อนๆของลูกๆบ้าง อย่าเลี้ยงลูกด้วยตังค์หรือว่าเลี้ยงลูกด้วยคำด่าหรือขู่และคำห้าม หรือว่ามัวแต่ทำงานจนลืมว่าตนเองนั้นมีลูกรออยู่ที่บ้านควรมีเวลาให้ครอบครัวบ้าง ควรเลี้ยงแบบมีเหตุมีผล และเลี้ยงด้วยความอบอุ่น
สมควรนำไปเข้าเรียน โรงเรียนหูหนวกตาบอดมากที่สุด
สมองพิการ เพราะสั่งสอนแล้วไม่คิดตาม
หูหนวก เพราะพูดสั่งสอนอะไรไป ไม่เคย "ฟัง" รั้นตะแบง
ตาบอด เพราะไม่เคย "มอง" ความผิดพลาดของคนอื่นให้เป็นบทเรียน แต่รอให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นกับตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพราะยังไงเสีย..พ่อแม่..ก็ยังให้โอกาสกูตั้งแต่เกิดจนตาย.. กูเลยไม่หลาบจำ ทำผิดซ้ำผิดซาก จนเป็นนิสัยสันดานไปแ้ล้ว
แล้วพ่อแม่จะนอนตายตาหลับได้ยังไง เพราะลูกไม่มีภูมิคุ้มกันทางสังคมเลย
คุณเห็นด้วยไหม
คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรจะมองดูตัวเองก่อนว่าเราเลี้ยงลูกแบบใหน สมบูรณ์แบบรึยัง ให้ความอบอุ่นให้ความเป็นครอบครัวหรือป่าว ถ้าพ่อแม่เล้ยงและดูแลดีแล้วควรมองไปที่ตัวของลูกบ้างว่าเขาอยู่ในช่วงวัยใหน และเขาต้องการอะไรเป็นพิเศษในวัยนี้ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ควรนำมาวิเคราะห์และอย่านำไปเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมาของเราตอนเป็นวัยรุ่น อย่าเลี้ยงเขาด้วยประสบการณ์และเหมือนของเราที่ผ่านมาในอดีต เช่นอันนั้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ มันก็จะทำให้มีแต่จะแตกหักกันเฉยๆเพราะว่าไม่เข้าใจกันและความคิดแนวคิดเข้ากันไม่ได้ เพราะว่ามันผ่านมานานแล้วเวลาและยุคสมัยมันไม่เหมือนกัน สมัยนี้ควรให้อิสระแก่ความคิดและการแสดงออกของเขาบ้าง ส่วนอันใหนไม่ดีไม่เหมาะ ควรแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้แก่เขา คำพูดแบบว่า "ทำแบบนั้นมันไม่เหมาะนะ ทำแบบนี้จะดีกว่ามั้ยลูก" มันจะดีกว่ามั้ย มันจะทำให้พวกเขาได้คิดได้เปรียบเทียบด้วยตนเอง อีกหน่อยเค้าจะได้คิดเป็นทำเป็น ก้าวเดินด้วยตนเองอย่างมีคุณภาพ เราไม่ต้องคอยขีดกรอบหรือว่าเส้นทางให้แก่เขาเดินไปข้างหน้า เหมือนในอดีตที่เราเคยผ่านมา หรือว่าเคยได้ยินเสียงเล่ามา
ส่วน จขกท. ผมว่าควรปล่อยวางบ้างนะครับบางทีคุณอาจจะกลายเป็นบุคคลโบราณสำหรับเด็กวัยรุ่นในวัยนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไปควรทำตัวให้ใหลตามกระแสบ้าง บางทีการที่เค้าทำตัวแบบนั้นแต่เค้าก็ไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมหรือเสียหายอะไรให้คนอื่น และไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน คุณอาจจะมองพวกเขาผิดไปก็ได้ ขนาดพวกที่นิ่งๆเงียบๆในปัจจุบันนี้เรายังมองพวกเค้าไม่ออกเลยถ้าไม่เข้าไปคลุกคลีกับพวกเค้าจริงๆจังๆ เราก็ไม่สามารถรู้เลยว่าเขาเป็นคนยังไง เป็นคนดีหรือว่าเป็นคนชั่ว เอาง่ายๆเพื่อนที่คบกันตั้งแต่เรียนมาเรายังไม่รู้เลยว่านิสัยจริงๆแต่ละคนเป็นยังไง การแสดงออกทางร่างกายและนิสัยใต้จิตสามัญสำนึกมันคนละเรื่องกันนะครับ บางคนก็รู้หน้าไม่รู้หลัง น้ำใสใหลลึก ก็มีนะครับ "อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะว่ารู้เขารู้เรา" อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินผู้อื่น การเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กจนโตแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เราควรทำตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดีแก่แก่เด็กรุ่นหลัง และอย่าพึ่งรีบไปตัดสินผู้อื่น ตราบใดที่เราไม่ได้รู้จักเขาดีพอ "คำว่าดีพอของคุณเป็นแบบใหน"
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 20:17:04 โดย X-RAY »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pongpangkung
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 20:42:35 » |
|
สุดบรรยาย
ถ้าถามว่าอารมณ์ส่วนตัวมั้ย...บอกเลยว่าไม่ใช่
เป็นสไตล์การนำเสนอกระทู้มากกว่า
แต่ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมเองล่ะมั้ง 5555
ผมว่าสไตล์การนำเสนอกระทู้ของคุณนี้ เหมือนกับเอาเหตุการณ์ใกล้ตัวมาตั้งนะครับ ไม่รู้ว่าไปโกรธแค้นใครมา ส่วนผู้อ่านนี่ทุกคนเขาก็คิดว่าความคิดเห็นของคุณนั้นแรงมากมายเหลือเกิน มันอาจจะมีส่วนถูกบ้างสำหรับบางหัวข้อสำหรับเด็กบางคนแต่ก็ไม่หมดเสมอไป คุณควรจะลดความคิดที่รุนแรงต่อเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ลงบ้าง บางทีคุณอาจจะเจอสิ่งดีๆในตัวเขาก็ได้ คนเรามันไม่ดีเต็ม 100% ทุกคนหรอกครับ แต่ละคนย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
|
|
|
|
Pongpangkung
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 21:18:54 » |
|
จ.ข.ก.ท. เก็๋บกดจากไหนมาครับท่าน เล่นซะแรงเลย ระวังจะเข้าตัวนะคร๊าบ.  เลยวัยมาแล้วล่ะ แต่ถึงย้อนอดีต บอกได้เต็มปากว่าไม่มี เพราะ ๑. กินบะหมี่ไม่ได้ เพราะทานผงชูรสไม่ได้ ชาลิ้น ๒. โทรศัพท์มือถือ พึ่งมาใช้ตอนเรียนมหาลัย ๓. เสื้อผ้าประเภทฮับกี๋ ไม่มีเลย ใส่แต่กางเกงหูรูดเลยเข่าตลอด อันนี้แล่ะไม่สุภาพสุดแล้ว เพราะอยู่บ้าน แม่ให้ใส่กางเกงขายาวอยู่บ้าน ๔. อันที่ว่ากินไม่เก็บ ไม่อยากจะบอกว่าแค่น้ำอัดลมกระป๋อง ยังต้องเก็บใส่ถุงพลาสติกก่อนทิ้ง ไม่ลดโลกร้อน แต่มันดูดีกว่า "คิดได้ช้า หรือว่าคิดได้เร็ว หรือว่าไม่ได้คิด" จุดประสงค์ แค่อยากเตือนสติเด็กบางกลุ่ม ว่ามุมมองของผู้ใหญ่บางส่วน เป็นไง ถึงเวลาหรือยัง ที่เด็กๆ ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียที เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้เจาะจงไปหาผู้ใดผู้หนึ่งหรอก แต่ประสบการณ์ที่เห็นเด็กหลายรูปแบบ มันรวมเป็นกระทู้นี้ เท่านั้นเอง..จริงๆ จากที่ จขกท.กล่าวมา " ประสบการณ์ที่เห็นเด็กหลายรูปแบบ มันรวมเป็นกระทู้นี้" แค่ที่คุณเห็นนี่ตัดสินคนหรือว่าเด็กวัยรุ่นพวกนั้นได้เลยหรอครับ คุณเคยลองลงไปคลุกคลีเด็กพวกนี้บ้างหรือป่าว แต่คุณคงไม่กล้าลงไปอยู่กับกลุ่มเด็กพวกนี้หรอกแค่เห็นคุณก็คิดไปถึงขนาดนี้แล้ว และก็ผมอยากถาม จขกท.ว่า ถ้าวันนึงคุณเดินไปเจอคนๆนึงสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งกำลังคุ้ยเขี่ยขยะเพื่อนำเศษอาหารมากิน คุณเจอแบบนี้ทุกๆวัน คุณจะตัดสินว่าคนๆนี้เป็นอย่างไร เขาดีหรือว่าไม่ดี เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร และทำไปทำไม ก็อย่างที่ผมบอกนะครับ มองคนต้องมองลึกไปข้างในต้องรู้จักเขาอย่างดีพอ แค่เห็นภายนอกนั้นไม่สามารถตัดสินคนเราได้หรอกครับ ต่างคนต่างครอบครัว การเลี้ยงดูแตกต่างกัน มีจนมีรวย แนวทางแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลายคนหลากหลายมุมมอง แต่ละมุมมองไม่เหมือนกัน
|
|
|
|
framezasabi
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2011, 21:27:37 » |
|
เด็กต่างพ่อต่างเเม่เนอะ อบรมมาไม่เหมือนกัน อย่างเราเด็กข้างบ้านนิสัยเหมือนที่เจ้าของกระทู้ว่ามาทุกอย่าง บางครั้งพาลอารมณ์เสียเวลาที่เหงอ่าค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|