อย่าง ที่บอก กลัวรถไปติดบนสะพานที่สุด เพราะกลัวรถไหล
จากที่ทำงานพยายามหาเส้นทางที่จะไม่ข้ามสะพาน ก็ไม่มี จะเลี่ยงไปทางไหน ต้องเจอจนได้ เลยใช้วิธีหยุดตรงข้างล่าง ใครอยากแซง เชิญแซงไป
มีวันหนึ่งทำกล้าหาญ จะขึ้นไปจอดที่จอดรถชั้น ๒ หรือ ชั้น ๓ ทั้งๆที่กะแล้วว่า จะต้องไม่เจอรถคันหน้า หรือต้องห่างรถคันหน้าอย่างน้อย ๓-๕ เมตร
เอาละwah ชัวร์ป๊าด ไม่มีคันหน้าอยู่ รีบใส่เกียร์หนึ่งตีเกียร์ ๒ บึ่งขึ้นไป
ไม่ทันไร
จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตายยยยยยยยยยยยยยยยย แน่
มีรถจอดตายอยู่ทางขึ้น
นึกในใจ เรือหาย แล้ว (เรือ-ship) จะทำยังไง
แข้งขาสั่น มือไม้สั่น หน้าซีด เหงื่อไหลพลั่กๆ
รีบเบรค เอี๊ยดดดดดดดดด จะแซงก้ไม่กล้า กลัวรถสวนลง
แล้วก็เร่งรถก็ไม่ขึ้นซะแล้ว
ทันใดนั้น รถก็ค่อยๆถอยลง ไถลลง ถอยลง ไถลลง
เรางี้ตะโกนสุดเสียง
บัง บัง ช่วยด้วย บัง(บังคือยามตรงที่จอดรถ)
บังก็รีบวิ่งเข้ามาดู เป่านกหวีด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กันรถที่จะตามหลังมา ให้ถอยออกไปพ้นรัศมีความเสี่ยงต่อการถูกชน

จนกระทั่งลงมาที่พื้นราบได้้ บังกับคนแถวนั้น วิ่งเข้ามาดู
พร้อมกับถามว่าคุณยิ้ม เป็นไงบ้าง ไหวหรือเปล่า เพราะข้าเจ้าหน้าซีดเผือด ด้วยความตกใจ จะเป็นลม บังรีบวิ่งไปหายาดมมาให้
และตั้งแต่นั้นมา ท่านสารวัตรคะ
ข้าเจ้าก็ได้สิทธิพิเศษ สามารถจอดชั้นล่างได้เหมือนกับเป็นผู้จัดการคนหนึ่ง
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขียนเล่าแล้ว นึกถึงตอนนั้นได้จริงๆ ว่าใจสั่นขนาดไหน