Intel & AMD

[ViRuS_HDD]

ของผม AMD ไม่ร้อนครับ    
CPU ไม่ร้อนมากครับแค่ 32 องศา  (ตอนเล่น karma)
แต่อย่างอื่นร้อนครับถึง 76 องศา

[Temujin]

เรื่องอุปกรณ์ฮาร์แวร์ผมไม่ได้ตามมาจะ3ปี
ไม่กล้าเอาเงินหมื่นไปแลกกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่ถึง30%
เพราะดูแล้วทุกวันนี้คอมไปไปเร็วแบบก้าวกระโดดเกิน
มานั่งบ้าทำโค้ดดีกว่าเงินเยอะกว่าซ่อมอีก 

  ผมก็ว่างั้น ของเก่าผมยังเก็บใช้ไม่หมดเลย   

ว่างๆ เดียวต้องให้สอนเขียนโค้ดบ้างแล้ว ซ่อมมันชักจะตันและคุก ว่ามั้ย.?.55+

  สำหรับใครที่สนใจประวัติ CPU ของคู่สร้างคู่สม Intel & AMD เอาไว้ผมหาตำราก่อน  อยู่ไหน น้า...?

[Temujin]

 ได้มาแล้ว ยาวเลยแล้วกัน...

  ในปัจจุบันมีการพัฒนาของผลิตภัณฑ์ด้านไอทีอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในด้านคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์

ที่รวดเร็วที่สุดก็จะเป็น CPU ซึ่งแต่ก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปตามกฎของมัวส์ (Moor's Law) คือ ความเร็วจะเพิ่มเป็น 2 เท่า ทุกๆ 6 เดือน

แต่ตอนนี้ตั้งแต่มีอุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ตออกมากฎนี้ก็ค่อยๆ คลายความขลังลง ซึ่งแต่ก่อนมันค่อนข้างจะจริงถ้าใครติดตาม

และถ้ายังเป็นไปตามกฎนี้ รับรองเห็นความเร็ว CPU ทะลุ 5 Ghz และความร้อน รวมทั้งพลังงานคงพุ่งแน่ๆ เพราะมันมาคู่กัน

ในตลาด CPU ของ PC นั้นเห็นจะมีคู่แข่งอยู่ 2 บริษัท นั่นก็คือ Intel และ AMD ที่เป็นผู้คลองส่วนแบ่งการตลาดมากน้อยตามลำดับ

แต่มันเริ่มขึ้นตรงไหน..? ผมจะเริ่มตรงไหนดีล่ะ และมันเป็นสงครามของใคร ของอเมริกา หรือของเวียดนาม...? มั่วแล้วๆ  

[Temujin]

 ปี 1997-1998

Intel

 Pentium II  Code Name -Klamath
พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1997
   ถูกพัณนาขึ้นมาจาก Pentium Pro โดยใช้ CPU Interface แบบ Slot 1 โดย Pentium II Klamath

นี้มีความเร็วอยู่ที่ระหว่าง 233-300 Mhz และใช้เทคโนโลยีการผลิตแลบ 0.35 micron ความเร็วบัสอยู่ที่ 66 Mhz และ L2 แคชที่ 512 KB

และบรรจุทรานซิสเตอร์ภายใน 7.5 ล้านตัว ทำให้ชุดคำสั่งที่ได้ยังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับปัจจุบัน


ความเร็วสัญญาน  233-300 Mhz                  L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.35/0.25 micron          L2 แคช 512KB
ทรานซิสเตอร์       7.5 Million                     Die Size 203 mm กำลัง 2
CPU Interface      Slot 1                           Voltage  2.8 V


AMD

AMD K6/K6-II Code Name -
เมษายน ปี ค.ศ.1997
  CPU ของทาง AMD ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 0.35 micron  เริ่มต้นด้วยความเร็ว 166 - 233 Mhz

ซึ่งรุ่นหลังนี้ก็ได้ลดขนาดการผลิตลงเหลือเพียง 0.25 micron ด้วยเช่นกัน CPU Interface แบบ Socket 7

L1 แคช 64 KB ชุดคำสั่ง MMX ของทาง AMD เองเข้าไว้ด้วย และ K6-II ซึ่งโดยสถาปัตยกรรมหลักๆแล้ว

ก็จะยังคงคลายๆ กับทาง K6 เดิม เพียงแต่ได้มีการเพิ่มชุดคำสั่งที่ช่วยในการประมวลผลด้านกราฟิก 3 มิติที่เรียกว่า 3DNow! เข้าไว้ด้วย

โดย CPU รุ่นนี้ ยังคงใช้ความเร็วบัสที่ 66 Mhz  แต่ตั้งแต่รุ่น 300 Mhz จะใช้บัส 100Mhz

ความเร็วสัญญาน  166-550 Mhz                  L1 แคช 64KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.35/0.25 micron          L2 แคช 256/512KB
ทรานซิสเตอร์       9.5 Million                     Die Size 200 mm กำลัง 2
CPU Interface      Socket 7                       Voltage  2.5 V 

สรุป

     ยุคนี้การพัฒนาของ AMD ยังเพิ่งจะเริ่มต้นพัฒนา โดยเปิดตัว AMD K6 ออกมาประมาณ เมษายน 1997

หลังจากนั้นเดือนเดียว Intel ก็เปิดตัว Pentium II Klamath  ออกมา จะเห็นว่าตัว Klamath นี้ยังได้เปรียบรุ่น K6 อยู่

และพอรุ่น K6-II ออกมาทำให้ Intel ทำการเปิดตัว Deschutes ออกมาเช่นกัน  จะเห็นได้ว่า K6-II มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Pentium II มาก.

[uphigher]

ความรู้

[Temujin]

 Year 1998-1999

Intel

Pentium II Code Name - Deschutes

    พัฒนาต่อจากรุ่น Klamath และจุดเด่นของรุ่นนี้คือ ใช้แรงดันไฟต่ำกว่าเดิมคือ 2.0 V   CPU Interface แบบ  Slot 1 มีความเร็วอยู่ระหว่าง 333-240 Mhz

และข้อเด่นของ CPU Deschutes อีกอย่างคือ การพัฒนาเพิ่มความเร็วบัส จากเดิม 66 Mhz เป็น 100Mhz และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.25 micron


ความเร็วสัญญาน  333-450 Mhz                  L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.25 micron                  L2 แคช 512KB
ทรานซิสเตอร์       7.5 Million                     Die Size 131 mm กำลัง 2
CPU Interface      Slot 1                        Voltage  2.0 V

Celeron Code Name - Covington

เมษายน ปี 1998
   เป็นรุ่นแรกและเป็นรุ่น Original โดยคงใช้ CPU Interface      Slot 1 อยู่โดยมีความเร็วสัญญาณอยู่ระหว่าง 266-300 Mhz และ Intel กลับลดความเร็วบัสลงเป็น 66 Mhz

เพราะต้องการลดราคาลงมา แถมยังไม่ใส่หน่วยความจำ L2 แคช มาให้อีกทำให้ CPU รุ่นนี้มีประสิทธิภาพไม่ค่อยถูกใจใครๆ เท่าไรนัก ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร



ความเร็วสัญญาน  266-300 Mhz                  L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.25 micron                  L2 แคช   -
ทรานซิสเตอร์       7.5 Million                     Die Size 131 mm กำลัง 2
CPU Interface      Slot 1                        Voltage  2.0 V

Celeron Code Name - Mendocino

สิงหาคม ปี 1998
   เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Celeron รุ่นแรก แต่ใช้อักษร A ต่อท้าย ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเพราะ Intel ได้ทำการเพิ่ม L2   แคชเป็น 128 KB เข้าไป และยังใช้

ความเร็วบัสที่ 66 Mhz เช่นเดิม โดยความเร็วสัญญาณอยู่ระหว่าง 300-533 Mhz นอกจาก CPU Interface  Slot 1 แล้ว Intel ได้ออกแบบเปลี่ยน CPU Interface แบบ 370 ด้วย

สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นแรกของการเปลี่ยนมาใช้แบบ Socket เหตุที่ได้รับความนิยมอีกประการเนื่องมาจากมีราคาถูก



ความเร็วสัญญาน 300 - 533 Mhz                 L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.25 micron                  L2 แคช   -
ทรานซิสเตอร์       7.5 Million                    Die Size 140 mm กำลัง 2
CPU Interface Slot 1 , Socket 370      Voltage  2.0 V


AMD

AMD K6-III  Code Name -
กุมภาพันธ์ ปี 1999
   ถูกพัฒนามาจาก  K6-II โดยใช้ CPU  Interface แบบ Socket 7 โดยมีความเร็วอยู่ที่ระหว่าง 400 - 450 Mhz และใช้เทคโนโลยีการผลิต 0.25 micron

ความเร็วบัสที่ 100 Mhz DDR (200 Mhz) L2 แคช ที่ 256 KB และบรรจุทรานซิสเตอร์  21.1 Million นอกจากนี้ยังมีชุดคำสั่ง MMX ทำหน้าที่จัดการด้าน

Multimedia และยังเพิ่มความสามารถ เพิ่มความเร็วด้าน 3D เช่น เกมส์สามมิติและต่อมาพัฒนา K6-III+ โดยรวมแล้วแทบไม่ต่างกับ K6-III เพียงแต่ใช้เทคโนโลยี

การผลิต 0.18 micron เข้ามาแทน



ความเร็วสัญญาน 400 - 450 Mhz                 L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.25,0.18 micron           L2 แคช  256KB
ทรานซิสเตอร์       21.3 Million                    Die Size 118 mm กำลัง 2
CPU Interface Socket 7                        Voltage  2.1-2.5 V

Althlon Classic Code Name -
สิงหาคม ปี 1999
    เป็นการพัฒนาและเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อแสดงให้เป็นว่า AMD สามารถพัฒนาได้ทัดเทียมหรือเหนือกว่า Intel โดยใช้ชื่อว่า Althlon Classic โดยมีความเร็วระหว่า 500-850Mhz

และจุดเด่นของรุ่นนี้คือใช้แรงดันต่ำกว่ารุ่น Klamath ของ Intel คือใช้เพียง  1.5-1.65 V CPU Interface Slot A และข้อเด่นของ CPU Althlon อีกอย่างคือการพัฒนาเน้นไปทาง

ด้าน 3D เป็นพิเศษทำให้ได้รับรับความสนใจอย่างมาก และยังคงใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.25 micron L1 แคช มากถึง 128KB และ L2 แคช 512KB



ความเร็วสัญญาน 500 - 850 Mhz                 L1 แคช 128KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.25 micron                  L2 แคช  512KB
ทรานซิสเตอร์       22   Million                    Die Size 102 mm กำลัง 2
CPU Interface    Slot  A                        Voltage  1.5-1.65 V


สรุป

   ยุคนี้การพัฒนาของ AMD เริ่มมีผู้สนใจมากขึ้นเพราะว่าประสิทธิภาพใช้งานถือว่าสูสีหรือบางอย่างอาจเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Pentium II ด้วยซ้ำทำให้ AMD เริ่มนำเทคโนโลยี

การผลิต แบบ 0.18 micron เข้ามาใช้บ้างแล้วรวมทั้งบัสแบบ DDR ส่วน Intel ก็ได้ส่ง Celeron และลดประสิทธิภาพลงไปบางส่วนเพื่อทำให้ราคาต่ำพอที่จะสู้กับ AMD ได้

และในปี 1999 นี้ ทาง AMD ก็ได้ปล่อย Althlon ตัวแรกออกมาด้วย.  

[Temujin]

ความรู้

  มีเยอะเลยหนา...หลายช่วงหลายตอน  เอาไว้จะพยายามจิ้มเรื่อยๆ ถ้าขยัน บังเอิญถนัดจิ้มไม่ถนัดพิมพ์หนะทั่น...

[Zyrem]

เคยใช้ Cel Covington 266 อยู่ ช้าบัดซบใช้ได้เลย
ส่วนMendocino มันมีช่วงนึงที่เอา Cel 350 มาคล็อคเป็น500 ซิ้งเดิมๆ

[Temujin]

เคยใช้ Cel Covington 266 อยู่ ช้าบัดซบใช้ได้เลย
ส่วนMendocino มันมีช่วงนึงที่เอา Cel 350 มาคล็อคเป็น500 ซิ้งเดิมๆ

  มีคนทันวุ้ย...  ก็ L2 มันหายท่าน ขนาดพี่เพนฯ ลองปิด L2 ใน Bios  ดูยังช้าเลยครับ

เครื่องแรกผมใช้ น้าแอดฯ 1800+ คอมพิวเตอร์สุดคุ้มของ ATEC ตอนแรกเสียใจที่จองคอมพ์ที่รัฐบาลจัด แต่ก็ดีแล้วที่พลาดไป  

ปล.เครื่องตอนเรียนก็มีนะ อาจารย์เต่า พวกนี้...55 แต่ผมไม่ได้ใช้นะ จะรื้อแทน...

[พะเยา!!!Caraudio-club]

เก็บๆๆๆ ความรู้ทั้งนั้น

[JAMESCOM]

อ่อเหลอ ทุกท่าน สรุป ส้มตำไทย กับส้มตำลาว แล้วแต่ชอบ อิอิ

[Temujin]

  เพื่อเป็นประโยชน์

[Majito]

ขอเพิ่มเติมจ้า หลายคนอาจจะรู้ และอีกหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเคยมีซีพียูอีก2ยี่ห้อ คือ
Cyrix กับ ฮาโหลโมโตโลล่า

Cyrix  เป็นซีพียูที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษแต่ท้ายที่สุดก็ถูกนำมาใช้กับเครื่อง PC โดยมีจุดเด่น
ในเรื่องราคาถูก เช่นเดียวกับ Celeron  ซึ่งได้แก่รุ่น MediaGX , MII , MIII กลุ่มsocket7และ370
ปัจจุบันถ้าจำไม่ผิดโดนอดีตแฟนแพนเค้ก(VIA)ควบไปแล้ว  
 
    ซีพียู Cyrix 6x86 นั้นมีความเร็วอยู่ 3 ระดับ เริ่มตั้งแต่ PR-150, PR-166 และ PR-200 โดยทั้ง 3 ความเร็ว นั้นมีรูปแบบของชิพเหมือนกันหมด การตรวจสอบความเร็วของซพียู Cyrix 6x86 นั้นไม่ซับซ้อนเช่นเดียวกับซีพียูของ AMD เพราะที่ด้านหน้าของชิพนั้น จะปรากฎตัวเลข และตัวอักษรแสดงระดับความเร็วอยู่อย่างชัดเจนตามรุ่นของซีพียู เช่น PR-150, PR166 และ PR-200 ส่วนด้านหลังของซีพียูนั้น จะไม่ปรากฎสัญลักษณ์หรือตัวเลขตัวอักษรใดๆ ที่จะแสดงว่าซีพียูนั้นๆ  มีความเร็วเท่าใด แต่ก็เช่นเดียวกับซีพียูของ AMD คือผู้ซื้อไม่ต้องกังวลว่า เมื่อซื้อจากร้านค้าแล้วจะพบว่า มีพัดลมมาบังที่ด้านหน้าหมดจนทำให้ไม่สามารถระบุความเร็วของซีพียูได้ เนื่องจากพัดลมของ Cyrix นั้นจะเป็นแบบถอดออกเป็นอิสระออกจากตัวซีพียู โดยจะใช้การยึดที่ซ็อกเก็ตซีพียูที่บริเวณเมนบอร์ดแทน

     ซีพียู Cyrix 6x86MX นั้นเป็นซีพียูตระกูลใหม่ล่าสุดจาก Cyrix ซึ่งที่จริงแล้วก็คือ Cyrix 6x86 ที่ได้เพิ่มเทคโนโลยี MMX เข้าไปนั่นเอง รูปร่างของซีพียูนี้จะคล้ายกับ Cyrix 6x86 แต่จุดที่จะช่วยบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็น 6X86MX ไม่ใช่ 6x86ก็คือตัวอักษร 6x86MX ที่โดดเด่นอยู่ที่ด้านบนนั่นเอง การตรวจสอบซีพียู Cyrix 6x86MX ก็คือให้ดูที่ด้านหน้า ของตัวซีพียูซึ่งจะปรากฎตัวอักษร Cyrix 6x86MX ตัวใหญ่อยู่ที่ด้านบนของซีพียูแสดงว่าเป็นซีพียูที่ได้บรรจุเทคโนโลยี MMX เข้าไป ซึ่งตรงนี้ต้องมีระบุอยู่ไม่เช่นนั้นแล้วคุณอาจจะถูกหลอกให้ซื้อซีพียู 6x86 ธรรมดาซึ่งราคาถูกกว่า ต่อมาที่ด้านล่างของตัวอักษรแถวบนที่ว่านี้ จะเป็นการแสดงรายละเอียดต่างๆ เริ่มกันตั้งแต่แถวแรกที่แสดงความเร็วของซีพียูเป็น PR-Rate โดยจะระบุไว้เรียบร้อยว่าเทียบเป็น Pentium เรทอะไร (AMDและCyrixไม่ได้ใช้ความเร็ว MHz ของซีพียูเป็นตัวบ่งประสิทธิภาพ เพราะอ้างว่าที่ MHz ต่ำๆ นั้นซีพียูของตนก็สามารถมีประสิทธิภาพเทียบเท่าซีพียูที่มี MHz ที่สูงกว่าของอินเทลได้) บรรทัดต่อมา เป็นตัวเลขแสดงการเซ็ตความเร็วบัสพร้อมตัวคูณสัญญาณให้เสร็จสรรพ ดังนั้น ผู้ใช้ที่ไม่แน่ใจว่าจะต้องเซ็ตอย่างไร ก็จะสามารถเซ็ตได้อย่างถูกต้อง


ซีพียูของโมโตโลล่าเป็นซีพียูที่ผลิตสำหรับใช้งานร่วมกับเครื่องแมคอินทอชของแอปเปิ้ลด้านโครงสร้างของชิพซีพียูจะแตกต่างกับ CPU ที่ใช้กับเครื่อง PC ทั่วไป มีการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน เนื่องจากเครื่อง Macintosh  เป็นเครื่องที่เน้นงานด้านกราฟิก ตัว Chip CPU ที่ผลิตก็ต้องทรงพลังและทำงานกับด้านกราฟิกได้ดี ใช้กับเครื่อง PowerPC คือรุ่น G3 และ G4 สำหรับด้านราคานั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh มักจะขายเป็นชุด ปัจจุบันนี้แอปเปิ้ลใช้ซีพียูของอินเทลแทน

[Majito]

จะว่าไปแล้วเมื่อก่อนผมเองก็สาวกเอเอ็มดีจ๋าเลยละ
เนื่องจากมันถูกแถมไม่มีความรู้สึกโดนทอดทิ้งเพราะซ็อตเก็ตของเจ้านี้มันนานมาก
กว่าจะเปลี่ยนทีไม่เหมือนของอินเทล3ปีเปลี่ยนละ ยิ่งใครทันช่วง amd K6-2 , นกไฟแล้วละก็ลากกัน
ซะซีพียูไหม้กันเลย จะว่าไปที่บ้านก็ยังมี 386 อยู่ขาดแต่แรม

[Zyrem]

จะว่าไปแล้วเมื่อก่อนผมเองก็สาวกเอเอ็มดีจ๋าเลยละ
เนื่องจากมันถูกแถมไม่มีความรู้สึกโดนทอดทิ้งเพราะซ็อตเก็ตของเจ้านี้มันนานมาก
กว่าจะเปลี่ยนทีไม่เหมือนของอินเทล3ปีเปลี่ยนละ ยิ่งใครทันช่วง amd K6-2 , นกไฟแล้วละก็ลากกัน
ซะซีพียูไหม้กันเลย จะว่าไปที่บ้านก็ยังมี 386 อยู่ขาดแต่แรม

นกย่างผมก็ย่างมาแล้ว ศพยังอยู่ที่บ้านเลย

แปะcpuนอกกระแสเพิ่มอีกตัว (รุ่นปู่ของ Intel Atom)



Crusoe
      เป็นชื่อกระกูล CPU ของค่าย Transmeta ตัว CPU Crusoe มีความพิเศษหลายอย่าง ด้วยสถาปัตยกรรม CPU แบบ VLIW processor มีคุณสมบัติพิเศษ คือไม่มีความเร็วคงที่ แต่ความถี่สัญญาณนาฬิกา(MHz) แปลผันตรงกับแรงดันไฟฟ้าที่เลี้ยง CPU… พูดง่ายๆ เทคนิคนี้จึงสามารถลดความถี่ MHz ลงได้เมื่อใช้งานน้อย และเพิ่มความถี่ขึ้นเมือเวลาใช้งานหนัก พลังงานทั้งหมดจากแบตเตอร์รี่ถูกใช้งานอย่างมีคุณค่า มีความสิ่นเปลืองพลังน้อย ผู้ใช้สามารถใช้งานได้นานขึ้น

      CPU รุ่นนี้มีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ต่ำ Crusoe มีประสิทธิภาพสู้ Pentium 4-M และ AthlonXP-M ไม่ได้ในทุกกรณี แต่ที่สู้ได้คือ มีความเสถียรสูง และประหยัดพลังดีมากๆ ตรงจุดนี้ Transmeta มองว่าทั้ง Intel และ AMD ต่างมุ่งการตลาดเอาแต่สร้างประสิทธิภาพสู้กัน มีประสิทธิภาพมากมายจนเกินความจำเป็นกับงานทั่วๆไป เช่น งานสำนักงาน ก็ไม่ต้องการความสามารถมหัศจรรย์อะไรเลย ขอแค่ทำประมวลเร็วไม่ต้องรอนาน และเสถียรไม่แฮงง่ายก็เพียงพอแล้ว (กำลังบอกว่า Notebook ไม่ได้ต้องการประสิทธิภาพขนาดนั้น) แต่ผู้ใช้อย่างเช่น นักธุรกิจที่ต้องเดินทางพกพา Notebook ไปที่ไหนๆ กลับมีความต้องการแค่ เครื่องตัวเล็กพกพาง่าย และใช้งานได้นานๆ ไม่ต้องชาร์จบ่อย ส่วนเรื่องมัลติมีเดียไม่จำเป็น แค่ดูหนังฟังเพลง MP3 แก้เบื่อได้ก็พอ... พูดมาแค่นี้ก็ตรงใจใครหลายคน (โดยเฉพาะคนที่หิ้ว Notebook เครื่องล่ะเกือบ 3 กิโล)

http://www.cs.uiuc.edu/homes/luddy/PROCESSORS/TransmetaCrusoe.pdf

[Temujin]

 ไม่ว่าจะเป็น IBM,National (Panasonic),Samsung, Qualcomm, Nvidia ฯลฯ ถ้าโดดเข้ามาในตลาด PC ละพี่น้องเอ้ย มีมันส์กว่านี้แน่ ๆ จะได้รู้ไปเลยว่าไผ เป็นไผ  

[Temujin]

  Year 1999-2000

Intel


Pentium III Code Name - Katmai
เมษายน ปี 1999  

ชิพ Katmai นี้พัฒนาความเร็วสัญญาณสูงสุดอยู่ระหว่าง 400-600 Mhz ทำงานที่ความเร็วบัสลงเป็น 100 Mhz แต่ยังคงใช้ CPU Interface แบบ Slot 1 อยู่และเพิ่ม

จำนวนทรานซิสเตอร์จากเดิมที่ 7.5 ล้านตัวมาเป็น 9.5 ล้านตัวทำให้สามารถเพิ่มชุดคำสั่งในการทำงานอีกถึง 70 คำสั่งและมีชุดคำสั่งที่เรียกว่า SSE (Streaming Single-Instruction Multiple Data  Extension)

ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลภายใน CPU ทำให้เพิ่มความสามารถในการคำนวน และช่วยเพิ่มความสามารถด้าน Multi Media ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และใช้ L2 แคช 512KB เช่นเดียวกับ Pentium II


ความเร็วสัญญาน  400-600 Mhz                  L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.25 micron                  L2 แคช 512KB
ทรานซิสเตอร์       9.5 Million                     Die Size 140 mm กำลัง 2
CPU Interface      Slot 1                        Voltage  1.65-2.05 V



Pentium III Code Name - Coppermine
ตุลาคม ปี 1999

   แม่จะจะมีการพัฒนามาจาก Pentium III  Katmai โดยมีความเร็วสัญญาณสูงสุดอยู่ระหว่าง 500-1000 Mhz แต่ Intel ได้ทำการลด L2 ลงเหลือ 256KB แต่หน่วยความจำแคชนี้จะเป็นแบบ On Die คือจะฝังตัว

ลงไปในตัว CPU เลยซึ่งจะแตกต่างจากโมเดลก่อนที่อยู่ภายนอก CPU และที่สำคัญ Intel ได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเป็นแบบ 0.18 micron  ทำให้มีขนาด Die Size เพียง 106 mm กำลัง 2 แต่มีจำนวนทรานซิสเตอร์

บรรจุอยู่ภายในถึง 28 ล้านตัว กินแรงดันไฟฟ้าเพียง 1.6-1.8 V เท่านั้นและยังเพิมความเร็วบัสเป็น 133 Mhz ซึ่งถือได้ว่าเป็นความเร็วบัสสูงสุดของ Pentium III เลยทีเดียว


ความเร็วสัญญาน  500-1000 Mhz                L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.18 micron                  L2 แคช 256KB
ทรานซิสเตอร์       28 Million                     Die Size 106 mm กำลัง 2
CPU Interface  Slot 1 ,Socket 370      Voltage  1.65-2.05 V


 
Celerol II Code Name - Coppermine
เมษายน ปี 2000

   หลังจากที่ Intel ประสบความสำเร็จในการนำ Pentium III Coppermine ลงแข่งขันในการแข่งขันในตลาดบนจึงทำการส่ง Celeron II ลงแข่งขันสู่ตลาดล่างโดยใช้แกนหลักแบบเดิมคือ Coppermine แต่ทำการ

ลด L2 แคชลงมาเหลือ 128KB และมีการเพิ่มชุดคำสั่ง SSE แต่ใช้ความเร็วบัสที่ 100Mhz


ความเร็วสัญญาน  533-1,000 Mhz               L1 แคช 32KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.18 micron                  L2 แคช 128KB
ทรานซิสเตอร์       18.7 Million                   Die Size 90-102 mm กำลัง 2
CPU Interface  Socket 370                  Voltage  1.50-1.75 V


AMD

Duron Code Name - Spitfire
มิถุนายน ปี 2000

     เป็นรุ่นแรกที่ใช้ชื่อว่า Duron โดยเปลี่ยน CPU Interface เป็นแบบ Socket A โดยมีความเร็ว อยู่ระหว่าง 600-850 Mhz และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.18 micron แต่มีข้อเสียคือ มีหน่วยความจำ L2 แคช เพียง

64KB บัสที่ 200 Mhz เท่านั้นทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพโดย AMD ตัว Duron นี้ลงมาแข่งในตลาดล่างกับ Celeron II ของ Intel และยังสามารถ Overclock ได้ทั้งความเร็วสัญญาณรวมทั้งแรงดันไฟเลี้ยง


ความเร็วสัญญาน  600-950 Mhz                  L1 แคช 128KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.18 micron                  L2 แคช  64 KB
ทรานซิสเตอร์       23 Million                     Die Size 100 mm กำลัง 2
CPU Interface  Socket A                     Voltage  1.75 V




Althlon Code Name - thunderbird
มิถุนายน ปี 2000

     เป็นรุ่นที่พัฒนาและเปิดตัวออกมาพร้อมๆ กับ Duron ใช้สถาปัตยกรรม 0.18 micron มาพร้อมกับความเร็วบัส 200 และ 266 Mhz โดยความเร็วสัญญาณอยู่ระหว่าง 750-1400 Mhz มี L2 แคช 256KB

CPU Interface แบบ Socket A และที่สำคัญยังสนับสนุนหน่วยความจำแบบ DDR Ram ทำให้ประสิทธิภาพสูงพอที่จะนำมาแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Pentium III  ได้อย่างสบาย เหตุที่ได้รับความนิยมอีกประการ

คือราคาต่อประสิทธิภาพนั้นถือว่าคุ้มมาก



ความเร็วสัญญาน  750-1400 Mhz                L1 แคช 128KB
เทคโนโลยีการผลิต 0.18 micron                  L2 แคช 256 KB
ทรานซิสเตอร์       37 Million                     Die Size 120 mm กำลัง 2
CPU Interface Slot A, Socket A          Voltage  1.75 V


สรุป

  ยุคนี้การพัฒนาของ Intel ได้ทำการเปิดตัว CPU Pentium รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตเหลือเพียง  0.18 micron ใช้ไฟเลี้ยง 1.65 V และได้นำเอา แคชระดับ 2 เข้าไว้ใน Chip ของ CPU ขนาด 256KB

เรียกว่า On-Chip Cache เพื่อนำมาสู้กับ Althlon  Thunderbird  ของ AMD เทคโนโลยีการผลิต 0.18 micron เหมือนกันและก็ไปด้วยดีเนื่องจากมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก จึงถือได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีดู๋ดี๋เลยทีเดียว

ส่วนในตลาดล่าง AMD ก็ได้เปิดตัว AMD Spitfire(Duron) ออกมาและมีข้อได้เปรียบด้านราคา แต่ประสิทธิภาพยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ Celeron II Coppermine ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ทำให้ตัว

Spitfire (Duron) ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร

[Temujin]

   พอ Intel ขยับมา Socket 370 และนำแคช L2 มาฝังอยู่ที่ตัว CPU แต่ AMD นั้นได้สนับสนุน Ram แบบ DDR ก่อนแล้ว

ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดแข็งของทาง AMD เลยทีเดียวถ้าใครทันได้ใช้ Socket A แรม DDR I + HDD แบบ SATA ตอนนี้ผมยังเหลือ

และหลังๆ AMD ได้นำ Memory control ฝังในตัวชิพอีกทำให้การทำงานร่วมกับแรมเร็วมากขึ้น รวมทั้งสิ้นอายุไขเร็วด้วย  

เพราะมันสิ้นอนาคตไปกับแรม อย่าง Socket AM2 รองรับ DDR II , AM3 รองรับ DDR II และ DDR III , AM3+ รองรับ DDR III

ตอนนี้ผมเลยไปเล่น Intel Socket LGA 775 แทนที่เป็นมือ 2 เลือกเอาตัวที่ FSB 800 และ 65 นาโน

ตอนนี้ยังมีบอร์ดรองรับอยู่ รวมทั้งแรมแบบ DDR III เพราะมันไม่มี Memory control ในตัว CPU อนาคตมันเลยไกลหน่อย...^_^

[ปวดตับ]

  พอ Intel ขยับมา Socket 370 และนำแคช L2 มาฝังอยู่ที่ตัว CPU แต่ AMD นั้นได้สนับสนุน Ram แบบ DDR ก่อนแล้ว

ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดแข็งของทาง AMD เลยทีเดียวถ้าใครทันได้ใช้ Socket A แรม DDR I + HDD แบบ SATA ตอนนี้ผมยังเหลือ

และหลังๆ AMD ได้นำ Memory control ฝังในตัวชิพอีกทำให้การทำงานร่วมกับแรมเร็วมากขึ้น รวมทั้งสิ้นอายุไขเร็วด้วย  

เพราะมันสิ้นอนาคตไปกับแรม อย่าง Socket AM2 รองรับ DDR II , AM3 รองรับ DDR II และ DDR III , AM3+ รองรับ DDR III

ตอนนี้ผมเลยไปเล่น Intel Socket LGA 775 แทนที่เป็นมือ 2 เลือกเอาตัวที่ FSB 800 และ 65 นาโน

ตอนนี้ยังมีบอร์ดรองรับอยู่ รวมทั้งแรมแบบ DDR III เพราะมันไม่มี Memory control ในตัว CPU อนาคตมันเลยไกลหน่อย...^_^

อืม ข้อนี้เห็นด้วยครับ

[Temujin]

อืม ข้อนี้เห็นด้วยครับ

  แล้วที่ผ่านๆ มาฝ่ายแค้นอย่างเดียวเลยใช่มั้ยครับ...