เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 17:29:03
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ในฐานะคนล้านนาท่านคิดอย่างไรกรณีการสู้รบระหว่าง THAILAND กับกัมพูชา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์
ผู้เขียน ในฐานะคนล้านนาท่านคิดอย่างไรกรณีการสู้รบระหว่าง THAILAND กับกัมพูชา  (อ่าน 5349 ครั้ง)
natta2533
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 199


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2011, 10:49:22 »

ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กำกึดไอ้นายสุดยอดคับ วิเศษแต๊แล้
IP : บันทึกการเข้า
ttyy
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,953


ซ่อม/ซื้อ/ขาย มือถือทุกรุ่น


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2011, 11:52:51 »

ในฐานะคนล้านนา....ไม่เข้าข้างใครนะ..ย้อนไปปีแม้ว..เรากับเขมรแทบจะจูบปากกันยืมเงินกันค้าขายกัน..(เขมรชื้อมากกว่าขาย)แต่มาสมัย...หล่อหลักลอยฯ...จะฆ่าจะแกงกันมันคืออะไร...เรื่องเขาพระวิหารฯเอาไปสิเราได้ทางขึ้นก็เปิด..โรงแรมตีนเขาเลย สนามบินเล็กตีนเขา..รถไฟตีนเขา..เที่ยวในวัดก็ให้เขมรไปอันใหน?เสียเงินมากกว่า.....ค่าเข้าชม !100 ฿ (เขมรรับต่อคน) ค่าเดินทาง2000฿ ค่ารร.1500฿ (ไทยรับต่อคน)คิดแบบพ่อค้านะ.....ยังรักชาติเหมือนเดิม

เห็นด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า

รับซื้อ-ขาย-ฝาก-ขายฝากคอมพิวเตอร์ PC Notebook โทรศัพท์มือถือ nokia iPhone samsung ทีวี LCD เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดราคาสูง รุ่นเก่า รุ่นใหม่ โทรมาคุยกันได้ครับ
wsan
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011, 15:38:34 »

.....คนฉลาดเขาไม่รบกันแล้ว....อเมริกาคือประเทศเล็ก 50 ประเทศรวมกัน ยุโรปรวมประเทศเป็นกลุ่ม มีอำนาจต่อรองสูง ประเทศเล็กก็ต้องแสวงหาจุดร่วม กรณีเขาพระวิหาร...บริหารจัดการคุณเป็นเจ้าของปราสาทผมบริหารโดยรอบ แบ่งผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว หากินได้ตลอด มัวแต่คิดของมึงของกู สุดท้ายทะเลาะกันเสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ใครชนะก็ไม่มีใครเอาใส่กระเป๋าได้...อยู่ไหนก็เห็น...รบไปทำไม โลกไร้พรมแดน หาเรื่องแท้ ๆ
IP : บันทึกการเข้า
คุณชายมากรัก
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 62



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2011, 12:38:00 »

กัมพูชามีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับเวียดนามเยอะกว่าไทยเสียอีก แต่ไม่ยักกะมีปัญหา คงมีปัญหาแต่กับไทยเท่านั้น คงเพราะไทยอ่อนแอ กัมพูชาเลยซ้ำเติมเหมือนที่เคยปฏิบัติต่อกันมานับร้อยๆปี

 ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
adul7
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 61


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 10:13:12 »

ยุกสมัยเปลี่ยนไป ผู้นำเปลี่ยน แต่ประชาชนคงเดิม และเป็นหนี้มากกว่าเดิมเพราะผู้นำ...............
IP : บันทึกการเข้า
framezasabi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 10:32:52 »

โลกมันหมุนเร็ว  เราทำอะไรไม่ได้หรอก
IP : บันทึกการเข้า
framezasabi
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 10:34:45 »

ในฐานะคนล้านนา....ไม่เข้าข้างใครนะ..ย้อนไปปีแม้ว..เรากับเขมรแทบจะจูบปากกันยืมเงินกันค้าขายกัน..(เขมรชื้อมากกว่าขาย)แต่มาสมัย...หล่อหลักลอยฯ...จะฆ่าจะแกงกันมันคืออะไร...เรื่องเขาพระวิหารฯเอาไปสิเราได้ทางขึ้นก็เปิด..โรงแรมตีนเขาเลย สนามบินเล็กตีนเขา..รถไฟตีนเขา..เที่ยวในวัดก็ให้เขมรไปอันใหน?เสียเงินมากกว่า.....ค่าเข้าชม !100 ฿ (เขมรรับต่อคน) ค่าเดินทาง2000฿ ค่ารร.1500฿ (ไทยรับต่อคน)คิดแบบพ่อค้านะ.....ยังรักชาติเหมือนเดิม

ใครเค้าจะเป็นเจ้าของเเต่เราก้อมีทางเข้า ใครจะทำไมเนอะ
IP : บันทึกการเข้า
Namdang
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2011, 10:47:10 »

ผมบ่าฮู้เรื่องเลยนะเนี่ย  อยู่แต่ในกะลา บ่าหันฮู้เรื่อง ไผฮบกับไผเลย เพราะผมเป็นคนลานนา ไปฮบตี้มัคคะวานก๋า  อิอิ  (จะโดนก่อหา)
IP : บันทึกการเข้า
nansom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 461



« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 10 พฤษภาคม 2011, 22:27:43 »

มันเหมือนพี่น้องลู่ขนมกาว่าของเล่น ผิดกั๋นในครอบครัว (อาเซียน) เฮาเป๋นอ้ายเก๊า ผ่อบ่าน้องใต้ดำ กับบ่าน้องขาเหม็น ผิดกันก็ดักๆ ไว้ สักกำมันดีกัน ก็จะวกมาบุบหัวอ้ายมัน สดไปตี๋บ่าเสี่ยวม่านปู๊น
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 04:38:56 »

ผมขอตอบในฐานะที่เป็นคนไทย

 หวังว่าคงไม่นอกเรื่องและถูกหาว่าไม่เกี่ยวข้องกับห้องนะครับ ขอใช้สิทธิในการตอบจากมีผู้ตั้งกระทู้ครับ

 ถ้าวันหนึ่งสปป.ลาว นำกำลังทหารขึ้นมายึดภูชี้ฟ้าแล้วบอกว่าเป็นดินแดนของลาว ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศและกองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่3 ต้องทำแบบที่เรากำลังทำกับเขมรตอนนี้แน่นอนครับ

 และจะไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องของล้านนากับลาวไม่เกี่ยวกับคนใต้เด็ดขาด และไม่มีวันที่จะคิดแบ่งผลประโยชน์ให้ลาวเก็บค่าเข้าชมแล้วเราได้ค่าโรงแรมที่พัก ค่าบริหารโดยรอบภูชี้ฟ้า แบบที่มีคนแนะนำให้ทำกับเขาพระวิหารโดยเด็ดขาดเช่นกันครับ


* เขาพระวิหาร.jpg (97.02 KB, 610x366 - ดู 530 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 04:51:09 »


 รบกวนท่านหาประวัติศาสตร์เขมรกับสยามตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมาลองอ่านดู  อ่านยุคเสียดินแดนให้นักล่าอาณานิคมฝรั่งเศสสมัยรัชกาลที่ 5 รวมถึงสงครามอินโดจีนที่ไทยรบชนะฝรั่งเศสในสมัยจอมพล ป.และสงครามโลกครั้งที่2 ที่เราต้องคืนดินแดนแห่งนี้กลับไปให้ฝรั่งเศสเป็นต้นเหตุที่มาของแผนที่เจ้าปัญหาฉบับนั้น

 วันนี้ท่านและผมอยู่ในยุคเขาพระวิหารที่เป็นผลมาจากแผนที่ในยุคที่ Google Earth ยังไม่มี แต่ผมยังไม่เห็นมีใครออกมาพูดเลยว่าเขมรมันเอาอะไรมาวัดว่าแผนที่นั้นมันวกเข้ามาได้อย่างไรถึง 4.6ตารางกิโลเมตร   

แล้วถ้ามันบอกอีกว่า เกาะกูดในจังหวัดตราดครึ่งเกาะเป็นของมันอีกล่ะ ท่านจะเอาอะไรไปวัดกับมัน

 วันนี้ เป็นที่ยืนยันแล้วว่า Block A ในเขตน่านน้ำเขมรมีน้ำมันแน่นอน ซึ่งสำรวจโดย บ.เชฟรอน ของอเมริกา

 เมื่อถึงวันนั้น (วันที่มันบอกว่าเกาะกูดครึ่งเกาะและน่านน้ำในอ่าวไทยบางส่วนก็เป็นของมัน) เราควรจะทำยังไงดีครับ ไปลงหุ้นทำน้ำมันแบ่ง 90%-10% อย่างที่มันเสนอดีมั๊ยครับ (มัน90 เรา10)


* เขตแดนทางทะเล อ่าวไทย.jpg (34.46 KB, 526x533 - ดู 1016 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 05:05:17 »


แนวเขตทางทะลที่เขมรอ้างจากแผนที่ 1 : 200000
บริเวณ เกาะกูด จังหวัดตราด


* เกาะกูด แนวเส้นเขตแดนทับซ้อน.jpg (93.37 KB, 719x537 - ดู 924 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 05:07:31 »

แสดงแนวเขตสัมปทานน้ำมันของเขมรในอ่าวไทย


* ทรัพยากรน้ำมันในอ่าวไทย.jpg (59.63 KB, 600x490 - ดู 682 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2011, 05:58:09 »


ผลประโยชน์ของชาติต้องแลกด้วยเลือดด้วยเนื้อและชีวิต ไม่มีใครให้เรามาฟรีๆหรอกครับ

 คนวงในอุตสาหกรรมการสำรวจขุดเจาะในกัมพูชากล่าวว่าความจริงแล้วแหล่งที่คาดว่าจะมีก๊าซและน้ำมันดิบมากที่สุดก็คือเขตเหลื่อมล้ำทางทะเลในอ่าวไทยที่กัมพูชายังมีข้อพิพาทกับไทย กระทั่งล่าสุด Dr Abdullah Al Madani นักวิจัยและอาจารย์สอนวิชาเอเชียศึกษาที่มีชื่อเสียงแห่งคูเวตได้กล่าวถึงประเด็นนี้ในบทความชิ้นหนึ่งที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กัลฟ์นิวส์ ได้ออกเตือนว่ากรณีพิพาทดินแดนระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดนี้อาจจะปะทุรุนแรงขึ้นได้เมื่อมีอุตสาหกรรมน้ำมันในกัมพูชาพัฒนาไปอย่างจริงจังและ กัมพูชา ควรจะพยายามให้มากขึ้นในการเจรจาแบ่งปันเขตแดนทางทะเลกับไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว


สำหรับท่านที่ชอบอ่านครับ
แหล่งน้ำมันและก๊าซในอ่าวไทย
http://thaipolitics4all.blogspot.com/2009/08/blog-post_06.html


* crazyborder.gif (14.08 KB, 233x401 - ดู 514 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
“TumFishing”
"ไม่หล่อ แต่ก็มองไม่เบื่อ"
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,574


I Luke MusiC


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2011, 14:19:31 »

เข้ามาอ่านคับ
IP : บันทึกการเข้า

Jeekuk
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 10 มิถุนายน 2011, 09:19:56 »

ข้องใจนิดเดียวว่า เมื่อการเจรจาทวิภาคีไม่สำเร็จ ทำไมพี่ไทยถึงไม่ยอมให้มีประเทศที่สามหรือ สี่ ห้า หก หรืออาเชียนเข้ามาร่วมด้วย ทำให้มองได้ว่า เรามีอะไรซ่อนเร้นหรือแอบแฝงอยู่ อันนี้แค่คิดนะครับ จะอย่างไรก็ดี ผมก็อยู่ข้างเดียวกันกับคนที่พูดกันรู้เรื่องครับ
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2011, 03:16:12 »

ท่านJeekukข้องใจนิดเดียว ทำให้ผมต้องยาวเลยครับ

 ท่านข้องใจกันมั๊ยครับว่า ทำไมกัมพูชาถึงต้องการให้ความขัดแย้งนี้ไปสู่ระดับสากลนัก มีอะไรซ่อนเร้นหรือแอบแฝงอยู่    

 โดยปกติการปักปันเขตแดนระหว่างประเทศ จะมีเจ้าหน้าที่จาก2ประเทศเท่านั้น ไม่ต้องมีประเทศที่ 3 4 5 มาช่วยปักหรอกครับ ซึ่งเราก็ได้ทำการปักปันเขตแดนกับประเทศฝรั่งเศสเสร็จสิ้นไปเมื่อปี ค.ศ. 1908 หรือเมื่อ 103 ปีมาแล้ว  
 โดยมีหลักเขตแดนทั้งหมด 73 หลัก หลักที่1 อยู่ที่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ หลักที่ 73 อยู่ที่บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
 ส่วนเขตแดนตั้งแต่ ช่องบกถึงช่องสะงำ ได้ยืนยันเขตแดนธรรมชาติโดยใช้สันปันน้ำตามที่ได้ตกลงกันในอนุสัญญา เมื่อปี ค.ศ. 1904 ตลอดแนวทิวเขาดงรักยาว 195 กิโลเมตร และได้มีการยืนยันโดยสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 จึงไม่ต้องมีหมุดหลักเขต
 ดังนั้นการตั้งคณะกรรมการ JBC และ GBC ที่ตั้งกันขึ้นมาจึงไม่มีอำนาจปักปันเขตแดน แต่เป็นเพียงคณะกรรมการ “ตรวจสอบ” หลักเขตแดนร่วมกันเท่านั้น  
ส่วน MOU43ผมก็ยัง งง งง อยู่ครับ


* เสาหลักเขตแดนไทย.jpg (47.76 KB, 403x524 - ดู 940 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 12 มิถุนายน 2011, 03:39:00 โดย khao e to » IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2011, 03:26:31 »


แล้วยังไงต่อล่ะครับ

 ก่อนที่คณะกรรมการปักปันชุดที่สองปักหลักเขตแดนแล้วเสร็จ  ในปี ค.ศ. 1907ฝรั่งเศสจัดทำแผนที่ระวางดงรัก 1 : 200,000 ขึ้นฝ่ายเดียว มีการรวมดินแดนในมลฑลบูรพา คือ พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ไว้ล่วงหน้าในแผนที่ดังกล่าว และจัดพิมพ์ขึ้นที่กรุงปารีสเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1908 โดยวิธีการลากเส้นเขตแดนตามใจชอบ
 
 เมื่อฝรั่งเศสซึ่งเป็นคู่สัญญากับสยามจากไป คนที่เข้ามาใช้สนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศสก็คือกัมพูชาเป็นผู้สืบสิทธิ์ หลังจากสงครามกลางเมืองในเขมรสงบลง รัฐบาลโดยเจ้าสีหนุได้ฟ้องร้องศาลโลกเรื่องปราสาทพระวิหาร
 ผลปรากฏว่าฝ่ายไทยแพ้คดี 9ต่อ3เสียง ด้วยกฏหมายปิดปาก คือการไม่ปฏิเสธ ทำให้เขมรได้ตัวปราสาทพระวิหารไป ส่วนเขตแดนศาลโลกไม่ได้ตัดสิน
โดยศาล ได้เขียนระบุชัดเจนว่าแผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 และเส้นเขตแดนตามแผนที่ดังกล่าวไม่ใช่บทปฏิบัติการของคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหาร จึงยังทำให้เขมรไม่สามารถใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 ในการอ้างอิงเขตแดนได้โดยชอบธรรม

คำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารฉบับย่อครับ 
http://www.oknation.net/blog/ja-oba/2010/11/27/entry-1


* หลักฐานภาพถ่ายแพ้คดีปราสาทพระวิหาร.png (232.99 KB, 400x258 - ดู 669 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2011, 03:45:32 »


แต่...ทำไมวันนี้เขมรก็ยังอ้างแผนที่นี้   
 ทำไมเขมรถึงต้องการยกระดับให้มีประเทศที่3 4 5  ทำไมมีการชักธงชาติ สร้างป้าย สร้างวัด สร้างถนน มีการตั้งชุมชนอยู่ได้อย่างไร ทั้งๆที่ทั้ง2ประเทศก็กำลังดำเนินการปักปันเขตแดนกันอยู่
การชนะด้วยกฏหมายปิดปากจากที่เคยทำได้มาแล้วกรณีเขาพระวิหาร วันนี้จึงไม่แปลกใจที่เขมรทำแบบนั้นอีกครั้งกับพื้นที่ 4.6ตารางกิโลเมตร
 การมีแค่ตัวปราสาทแต่ทางขึ้นไม่มีมันก็เปรียบเหมือนกับยอดภูชี้ฟ้าเป็นของลาว แต่ลาวจะขึ้นมาเที่ยวยังไงถ้าไม่มีถนน ดังนั้นแผนการยึดแผ่นดิน  4.6 ตารางกิโลเมตรจึงจำเป็นทั้งทางด้านยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการตัวปราสาทในกรณีมรดกโลก
 ทางด้านการทหาร การมีถนนขึ้นไปถึงตัวปราสาทได้ทำให้สามารถขนอาวุธยุทโธปกรณ์ การส่งกำลังบำรุงและการตรวจการณ์ซึ่งทำให้ลดข้อเสียเปรียบของทหารเขมรทางด้านนี้มาตลอด ดังนั้นท่านจึงเห็นได้ว่าทหารเขมรได้ขนอะไรมากับถนนสายนั้นบ้างในการยิงถล่มหมู่บ้านคนไทยตามแนวชายแดน
 ทางด้านการท่องเที่ยว การมีชุมชนอยู่บนนั้นและมีถนนวิ่งขึ้นไปถึงตัวปราสาท ก็เป็นการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

 แต่โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าเขมรจะหยุดอยู่แค่นี้ อย่างปราสาทตาเหมือน ปราสาทตาควาย ก็โดนคล้ายๆกัน ทางด้านจังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด ก็มีกรณีแบบนี้อยู่แทบจะเรียกได้ว่าตลอดแนวเขตแดนก็ว่าได้ พวกปักเขตแดนก็ปักกันไป ตรงไหนยังไม่ปักเขมรก็เข้ามาสร้างวัดสร้างหมู่บ้านรอแสดงตนว่าเป็นเขตของเขมร แต่ทางปราสาททั้ง3แห่งเป็นหน้าผาต่างจากชายแดนทางสระแก้ว จันทบุรี ตราดซึ่งเป็นที่ราบ
มีทางเดียวที่เขมรจะชนะไทยได้ นั้นก็คือการใช้กฏหมายปิดปาก ดังที่เคยใช้ชนะมาแล้วในอดีต

เขมรจึงไม่ต้องการมีการตกลงกันแค่2ฝ่าย แต่มีความต้องการขยายความขัดแย้ง ให้มากที่สุด เพื่อให้มีประเทศที่ 3 4 5 เข้ามาเกี่ยวข้องจนยกระดับความขัดแย้งสู่สากล และจบลงที่ศาลโลก


เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามนั้น ท่านคงพอหลับตานึกภาพออกนะครับว่าผลมันจะออก หัวหรือออกก้อย


* พื้นที่ทับซ้อน เขาพระวิหาร.jpg (79.8 KB, 520x411 - ดู 666 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2011, 04:11:02 »


  อยากให้ลองดูคดีเกาะ Pedra Branca ที่สิงคโปร์ชนะคดีนี้เหนือมาเลเซียในปี 2008 เมื่อ3ปีมานี้เองครับ เปรียบเทียบกับคดีเขาพระวิหารและการยื่นตีความใหม่

  ครั้งนั้นมาเลเซียโดนเหมือนประเทศไทยกรณีเขาพระวิหาร คือโดนกฏหมายปิดปาก เพราะศาลยอมรับเลยว่าเกาะนี้เคยเป็นของมาเลเซีย โดยมาเลเซียได้ทำแผนที่รวมเกาะนี้เข้าไปไว้ในอาณาเขต ทางสิงคโปร์ได้ทำหนังสือประท้วงมา แต่มาเลเซียก็เฉย ไม่ได้ตอบกลับ และยังปล่อยปละให้สิงคโปร์สร้างกระโจมไฟบนเกาะแห่งนี้อีกด้วย ศาลถือว่ามาเลเซียยอมรับอำนาจอธิปไตยของสิงคโปร์เหนือเกาะ Pedra Branca นี้ ดังนั้นให้เกาะนี้ตกเป็นของสิงคโปร์ แต่เกาะข้าง ๆ (Middle Rock) ที่สิงคโปร์ไม่เคยอ้างสิทธิ มาเลเซียก็ได้กลับไป ส่วนน่านน้ำที่เป็นปัญหา ศาลโลกให้เหตุผลว่าศาลไม่มีอำนาจลากเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศ ดังนั้นจึงตัดสินไม่ได้ว่าเป็นของใคร แต่ศาลบอกว่าพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน ถ้าตกลงกันได้แล้วว่าน่านน้ำบริเวณนั้นๆเป็นของใครก็ถือว่าตรงนั้นเป็นของประเทศนั้นครับ


แผนที่แสดงให้เห็นว่าเกาะนี้ไม่น่าจะเป็นของสิงคโปร์ได้เลยเพราะตัวเกาะห่างจากแผ่นดินประเทศมาเลเซียเพียง7.7ไมล์ทะเลแต่ห่างจากเกาะสิงคโปร์ถึง25.5ไมล์ทะเล

ดูเพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Pedra_Branca_dispute


* Pedra_Branca Singapore.png (92.5 KB, 800x487 - ดู 406 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!