จะพูดยังไงดีที่ไม่ทำให้คนกินโกรธเคือง
คนสมัยก่อนแต่ดึกดำบรรพ์ ฟาดหมด ไม่เถียงครับ จับได้ฆ่าถลกหนังปิ้งกินหรือกินสดๆ
นั้นคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เฉกเช่นเดียวกับสัตว์ด้วยกัน
จนผ่านมามนุษย์เริ่มมีความคิดมีสติขยับฐานะจากสัตวด้วยกันมาเป็นสิ่งที่เรียกว่าคน
รู้ชอบ รู้จักเลือกเป็น มีความเอื้ออาทร เมตตา ความรักต่อสิ่งรอบตัวที่สัมผัสได้
แต่สัญชาตญาณดิบยังมีอยู่ข้างในทุกคนครับ
บางครั้งเหตุการณ์ก็พาไปถึงจุดดิบในตัวเรา คือการเอาตัวรอด
ในสงครามหรือภัยพิบัติเรากินไม่เลือกทั้งม้า แมว หมา งู สารพัดสัตว์ที่เจอ
เชื่อได้ว่าวันนึงถึงวันที่ไม่มีอาหารเหลือบนโลก
เหลือเรากับหมาคู่ใจ1ตัว ไม่ใครก็ใครครับที่คงต้องถูกกินเป็นอาหาร
แต่ถ้ายังไม่ถึงวัั้นนั้น เรายังเป็นมนุษย์ที่น่าจะคิดได้ เลือกได้ รู้ชอบ
ว่าบางสิ่งบางอย่างน่าจะมีคุณค่าพอที่ยังไม่ต้องอยู่ในห่วงโซ่อาหารในเวลานี้
เพราะเรามักเรียกตัวเราว่า สัตว์ประเสริฐ เราก็ควรยกฐานะให้สมกับคำนั้น
โดยใช้ความรู้สึกนึกคิดของสิ่งที่เรียกว่า คนที่พัฒนาแล้ว มาไตร่ตรองก่อน
แล้ววัวควายไก่หมู หล่ะ ถูกต้องครับ สัตว์ชนิดดังกล่าว
เราตั้งพวกเค้าขึ้นมาเป็นระดับ อาหาร อยู่แล้ว
เรา"รู้สึก"กับพวกเค้าที่กลายมาเป็นอาหารน้อยกว่าสัตว์ที่เราไม่ได้จัด
อยู่ในหมวดของอาหารสามัญ
(แต่ผมก็คงไม่กล้าไปยืนดูพวกเค้าในโรงเชือดหรอกน่ะครับ ทำใจไม่ได้เหมือนกัน)
ยิ่งตอนนี้ อาหารที่เรากินกันทุกวันนี้ กลายเป็นอุตสาหกรรมเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร
ก็ยิ่งทำให้เรา "รู้สึก"น้อยลงไปอีก (ไม่งั้นตักหมูกะทะเข้าปากคำคงต้องร้องไห้ที)
สัตว์บางชนิดที่เราไม่ได้จัดว่าเป็น อาหารของมนุษย์
เรา"รู้สึก"มากกว่าว่าไม่สมควรไปกิน
ก็คงไม่มีอะไรครับแค่ว่า ถ้าลดละเลิกได้บ้าง
สัตว์บางชนิดที่เราตั้งไว้เป็นเพื่อน เป็นยาม เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของเด็กๆ
ก็คงอยู่อย่างมีความสุข และเทิดทูน สิ่งที่มันมองเห็น ว่านั้นคือ คน
(สัตว์อย่างนึงในสายตาพวกเค้า)ที่ประเสริฐแล้ว
ที่พวกเค้าจะอยู่ใกล้ๆเราได้อย่างไว้ใจและเชื่อใจ
อย่างพึ่งเอาสัญชาตญาณดิบมาใช้ก่อนถึงเวลาเลยครับ
ไหนๆเราก็ได้สิทธิแห่งการเป็นมนุษย์ที่สูงส่งกว่าพวกเค้าทั้งหลายแล้ว
-----------------
ด้วยความเคารพ
-----------------
เข้าท่าครับเห็นด้วยกะความคิดนี้เลยครับเพราะเอากระทู้มาบอกเล่าให้รับรู้เรื่องราวอีกมุมหนึ่งในเชียงรายเฉยๆนะครับไม่ได้มีเจตนาให้คนกินหมากะคนไม่กินหมามาทะเลาะกันเน่อ