เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 15:31:15
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  "กว่าจะเป็นเชียงราย"
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน "กว่าจะเป็นเชียงราย"  (อ่าน 3711 ครั้ง)
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,256

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 16:25:06 »

อ่านไปอ่านมาต๋าลาย ไว้ก่อยๆอ่านเอา ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 21:14:58 »

ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้เพิ่มเติมข้อมูลครับ
พอดีว่าผมเคยเขียนบทความเรื่องประวัติเมืองเชียงรายลงในวารสารฉบับหนึ่ง
คิดว่าข้อมูลที่ผมมีน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้สนใจประวัติศาสตร์เมืองเชียงรายบ้าง

ครั้นจะเอาบทความลงทั้งหมดก็เกรงจะยาวไป ขอลงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นก็แล้วกันครับ
สนใจประวัติเจ้าเมืองคนไหนก็ถามเข้ามาได้ครับ


* 07.jpg (227 KB, 728x739 - ดู 180 ครั้ง.)

* 08.jpg (201.11 KB, 1049x618 - ดู 166 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2011, 22:03:43 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2011, 13:28:17 »

ขอบคุณท่านเชียงรายพันธุ์แท้ ที่ช่วยทำให้กระทู้นี้มีสาระมากขึ้น
IP : บันทึกการเข้า
ⒷⒼ*
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,369

นิพพานคือนิรันดร์


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2011, 22:27:26 »

ขอบคุณข้อมูลดีๆนะครับ เข้ามาอ่านวันละน้อย อ่านนักตาลาย   ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
yem
ปรึกษา การเงินทุก อย่าง
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 602


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2011, 22:39:01 »

ให้ 10 เต็ม  ขอบคุณมากที่ลงให้อ่าน 
IP : บันทึกการเข้า
คนแม่จัน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,404

ทำเดี๋ยวนี้ให้ดีที่สุด....จบ


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 08:45:00 »

เยี่ยม ผมหื้อ 101 สุดยอดครับแต่จะอ่านวันละนิดวันละหน่อยเน้อ(ต๋าลาย)
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 09:45:54 »

ให้ 10 เต็ม  ขอบคุณมากที่ลงให้อ่าน 

จากรูป งานไหน กี่นิ้ว ตะใด
IP : บันทึกการเข้า
WH_Y
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,222



« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 18:40:57 »

..ขอบคุณทั้งสองท่านสำหรับความฮู้เกี่ยวกับความเป็นไปเป็นมาของเมืองเจียงฮายบ้านเฮาเจ้า..สรียินดีนักๆเลยเจ้า.. ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ล้อล้านนา
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 444


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 16:57:11 »

ตามประวัติกล่าวว่าพระเจ้าไชยสงคราม ราชโอรสพระเจ้าเม็งรายเมื่อได้มอบราชสมบัติให้พระเจ้าแสนภูราชโอรสขึ้นครองนครเชียงใหม่แล้ว พระองค์ได้นำอัฐิพระราชบิดามาประทับอยู่ที่เมืองเชียงราย และได้โปรดเกล้าฯ สร้างกู่บรรจุอัฐิของพระราชบิดาไว้ ณ ดอยงำเมือง
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
       เมื่อพญามังรายสวรรคต พระยาไชยสงคราม (ขุนคราม) ราชโอรส จึงครองเมืองเชียงรายต่อมา และสถาปนาให้พระยาแสนภู โอรสองค์ใหญ่ไปครองเมืองเชียงใหม่ ใน พ.ศ. 1861 ใน พ.ศ. 1870 พระยาไชยสงครามถึงแก่ทิวงคต พระยาแสนภูได้ให้เจ้าคำฟูราชโอรสไปครองเมืองเชียงใหม่ แล้วพระองค์ได้กลับมาครองเมืองเชียงราย
       รุ่งขึ้นปี พ.ศ. 1871 พระยาแสนภูมีพระราชประสงค์จะสร้างพระนครอยู่ใหม่ต้องการชัยภูมิที่ดี ขุนนางได้สำรวจหาได้ที่เมืองเก่าริมแม่น้ำโขง อันเป็นเมืองโบราณของเวียงไชยบุรีจึงโปรดให้สร้างนครใหม่ขึ้นที่นั้น เอาแม่น้ำโขงเป็นคูปราการเมืองด้านตะวันออกอีก 3 ด้าน ให้ขุดโอบล้อมพระนครไว้ ตั้งพิธีฝังหลักเมืองวันศุกร์ เดือน 5 (เดือน 7 เหนือ) ขึ้น 2 ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. 1871 ขนานนามว่า หิรัญนครชัยบุรีศรีเชียงแสน (ตามพระนามของพระองค์) แต่คนต่อมาภายหลังเรียกว่า เชียงแสน คืออำเภอเชียงแสนในปัจจุบัน ซึ่งยังมีซากกำแพงเมืองปรากฏอยู่
        พระยาแสนภู ครองอยู่เมืองเชียงแสนได้ 7 ปี ก็ได้ถึงแก่ทิวงคต พระยาคำฟู ราชโอรสจึงได้ครองเมืองเชียงแสนต่อมา พระยาคำฟูจึงได้ให้ท้ายผายูราชโอรสไปครองเมืองเชียงใหม่ เมื่อพระยาคำฟูถึงแก่ทิวงคต ท้ายผายู ราชโอรส ซึ่งครองเมืองเชียงใหม่อยู่ ก็ได้ครองเมืองเชียงใหม่ต่อมา แล้วให้ท้าวกือนา (ตื้อนา) ราชโอรส มาครองเมืองเชียงรายแทน นับแต่นั้นมาเมืองเชียงราย (รวมทั้งเชียงแสนด้วย) ได้เริ่มมีฐานะคล้ายเมืองลูกหลวง โดยมีเชียงใหม่เป็นเมืองหลวง แต่ก็ยังคงมีเชื้อพระวงศ์ปกครองสืบต่อกันมาอีกหลายพระองค์ สุดท้ายในสมัยพระยากลม เป็นเจ้าเมืองเชียงแสน โดยมีพระเจ้าเมกุฏครองเมืองเชียงใหม่ ใน พ.ศ. 2101 เมืองเชียงใหม่และเชียงแสนก็เสียให้แก่บุเรงนอง เจ้ากรุงหงสาวดี อาณาจักรล้านนา (รวมทั้งเชียงรายและเชียงแสนด้วย) จึงได้ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าตั้งแต่นั้นมา แต่มีบางครั้งก็เป็นอิสระและบางครั้ง ก็ตกอยู่ในอำนาจของกรุงศรีอยุธยา รวมเป็นระยะเวลาอันยาวนานนับ 200 ปี จนถึงสมัยธนบุรี แม้ว่าบางสมัยจะมีการจับอาวุธขึ้นต่อสู้เพื่อ เป็นอิสระจากพม่าแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ในระยะหนึ่งพม่าได้ฟื้นฟูเมืองเชียงแสนให้เป็นเมืองเอกในการปกครอง เนื่องจากต้องการให้เป็นหัวเมืองเพื่อป้องกัน การรุกรานจากรุงศรีอยุธยา และยังสามารถใช้เป็นแหล่งสะสมเสบียงในยามศึกสงครามกับกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย


ลำดับเจ้าผู้ครองเมืองเชียงราย
๑. พญามังราย
๒. ขุนเครื่อง
๓. พญามังราย(ครั้งที่ ๒)
๔. พญาไชยสงคราม
๕. พญาแสนภู
๖. ท้าวมหาพรหม
๗. ท้าวยี่กุมกาม
๘. หมื่นค้อม
๙. ท้าวบุญเรือง
๑๐. พระยอดเชียงราย
            นับตั้งแต่ปีพ.ศ. ๑๘๑๗ พญาแสนภูได้เสด็จไปสร้างเมืองเชียงแสนแล้วปล่อยให้มุขอำมาตย์อยู่รักษาเมือง จึงทำให้เมืองเชียงรายขาดความสำคัญลง แต่ทางเมืองฝาง เชียงใหม่ พะเยาและเชียงแสนมีความรุ่งเรือง     ต่อมาเชียงรายก็ถูกยึดครองจากมอญ และต่อมา ล้านนา รวมทั้งเผ่าไท ต่าง ๆก็ตกอยู่ในการปกครองของพม่า(มอญ)โดยเด็ดขาดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๑๐๑ เป็นต้นมา  เมืองเชียงรายได้กลายเป็นเมืองร้างไปนานไม่อาจนับได้ว่าเป็นเวลานานเท่าใดจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๓๘๖ เจ้ามโหตรประเทศเจ้าเมืองเชียงใหม่ได้ให้เจ้าธรรมลังกา กะเกณฑ์ผู้คน ที่เคยเอามาจากเชียงตุง พะยาก เมืองเลน เมืองสาด ที่ไปอยู่เชียงใหม่และลำพูน กลับมายังเชียงราย โดยมีเจ้าปกครองดังนี้
           ๑. เจ้าธรรมลังกา              พ.ศ. ๒๓๘๖-๒๔๐๗
           ๒. เจ้าอุ่นเรือน                 พ.ศ. ๒๔๐๘-๒๔๑๙
           ๓. เจ้าราชวงศ์สุริยะ           พ.ศ. ๒๔๒๑-๒๔๓๔
           หลังจากที่เจ้าราชวงศ์สุริยะถึงแก่อนิจกรรมทำให้เมืองเชียงรายว่างเจ้าเมืองลง และเป็นช่วงที่หัวเมืองฝ่ายเหนือหรือล้านนากำลังจะถูกผนวกเข้าเป็นแผ่นดินเดียวกันกับกรุงเทพ ซึ่งเชียงรายก็เป็นหัวเมืองส่วนหนึ่งที่จะต้องถูกรวมเข้าไปด้วยโดยมีข้าหลวงจากส่วนกลางมาปกครองตามลำดับดังนี้
๑.   พันตรีหลวงภูวนาทนฤบาล
๒.   นายอรรถสุริวงศ์(หลวงอมรศักดิ์)
๓.   ขุนรักษ์นรา
จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๕๓ ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเมืองเชียงรายขึ้นเป็นจังหวัดเชียงรายรวมอยู่ในมณทลพายัพชั้นใน
   และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเชียงรายก็กลายเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยจนทุกวันนี้


เจ้าหลวงองค์สุดท้าย (องค์ที่ ๔) เจ้าหลวงเมืองไชย หรือ พระยารัตนาณาเขต (รัตนอณาเขต) เพิ่มเติมให้ด้วยครับ

บ.ก.ล้อล้านนา
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2011, 09:38:27 »

ขอบคุณท่าน"ล้อล้านนา"ที่ช่วยเสริมเติมแต่งให้กระทู้นี้มีคุณค่ายิ่งขึ้น
IP : บันทึกการเข้า
ล้อล้านนา
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 444


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2011, 08:57:10 »

ขอบคุณท่าน"ล้อล้านนา"ที่ช่วยเสริมเติมแต่งให้กระทู้นี้มีคุณค่ายิ่งขึ้น

สรียินดีชาดนักครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!